ตอนที่ 1484 ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงตื่นขึ้นอีกครั้ง!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1484 ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงตื่นขึ้นอีกครั้ง! โดย Ink Stone_Fantasy

ท่าทีของไคซินดูทมิฬเข้มสุดขีดเจียนกลั้นเป็นหยดน้ำ

ส่วนคนอื่นๆที่เหลือต่างเงียบสงัดดั่งจักจั่นกลางฤดูหนาว มองข้างเรื่องที่เย่หยวนฆ่าสุริยันดาราไปได้เลย เพียงสามรุมหนึ่งและเย่หยวนก็สามารถเอาชนะได้ แค่เพียงเท่านี้ก็เป็นการตบหน้าไคซินต่อหน้าฝูงชนพอแล้ว จากภาพฉากปัจจุบันที่ปรากฏต่างก็ทำให้ฝูงชนหวาดกลัวจนกระวนกระวายใจยิ่งแล้ว

“รับไป เจ้าสมควรได้รับมัน!”

วาจาไม่กี่คำที่ไคซินรีดเร้นออกมาจากช่องฟัน กรนเสียงขรึมเข้มออกมา

เย่หยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อยและรับสมบัติทั้งแปดไว้ในครอบครอง

“หากคราวหน้ามีเรื่องดีๆเช่นนี้มาแบ่งปันกันอีก หวังว่าท่านไคซินจะไม่ลืมบรรพกาลราตรีคนนี้”

เย่หยวนคลี่ยิ้มกว้างเอ่ยกล่าวอย่างร่าเริงแจ่มใส

ดวงตาของไคซินหรี่แคบลงเล็กน้อย แสงสีเย็นสว่างวาบผ่านนัยน์ตา พลางกัดฟันด้วยความเกลียดชัง กล่าวว่า

“ผ่อนคลายเถิด ข้าไม่ลืมเจ้าแน่นอน!”

หลี่จีเห็นว่าบรรยากาศเริ่มมืดทมิฬลงเรื่อยๆ นางจึงลุกพรวดขึ้นและกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันแสนอึดอัดใจไม่น้อย

“ขอบพระคุณมากสำหรับน้ำใจครั้งนี้ท่านไคซิน เช่นนั้นพวกเราขอลา”

จากนั้นพวกเขาก็ลาจากไปพร้อมกับบรรยากาศแปลกๆ

แต่เย่หยวนหาได้สนใจไม่ พร้อมเก็บรวบของรางวัลไว้เต็มมือ

สมบัติทั้งแปดนี้ช่างแต่เป็นของดีทั้งสิ้น

หลังจากที่ทุกคนจากไป เหลียนฮวาพลันยิ้มให้ไคซินและกล่าวว่า

“ภายในเมืองหลวงคาโปนแห่งนี้ นานมากแล้วที่ไม่มีใครเคยทำให้ท่านเสียหน้าครั้งใหญ่ ฮิฮิ…บรรพกาลราตรีคนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ”

ไคซินเอ่ยเสียงเคร่งขรึมว่า

“โทษสำหรับที่ยั่วโมโหข้า มันต้องตายเท่านั้น! เร่งไปยังโถงโลหิตปรโลกและสั่งการลงไป ถ่ายทอดภารกิจพร้อมรางวัลสามสิบล้านผลึกปราณปีศาจระดับต่ำ ข้าต้องการศีรษะของมัน!”

เหลียนฮวายิ้มและกล่าวว่า

“เจ้าคิดจะฆ่าเขาจริงๆ สังหารเพียงแม่ทัพปีศาจสองดาวชั้นกลางทั่วไปใช้เพียงสามล้านก้อนเท่านั้น แต่นี่เพิ่มราคากว่าสิบเท่า แพงเสียยิ่งกว่าราคาของแม่ทัพปีศาจสองดาวขั้นสุดมหาศาลนัก!”

“หึ! แล้วเจ้านั่นมันใช่แม่ทัพปีศาจสองดาวชั้นกลางธรรมดาทั่วไปหรือไม่?”

ไคซินกล่าวเสียงเย็นเอ่ยตอบ

เมื่อกลับไปถึงตระกูลฟาง เย่หยวนก็ปลีกวิเวกแยกออกมาเก็บตัวอย่างเงียบงันอีกครั้ง และเริ่มใช้ผงวิญญาณทมิฬเลิศทันที

กายทองคำเก้าอรหันต์ของเย่หยวนติดอยู่ที่ระดับแรกมานานแล้ว และก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้เสียที

เพื่อที่จะพัฒนาไปอีกระดับจำเป็นต้องมีทรัพยากรที่มากขึ้นเพื่อเลี้ยงบำรุง โอสถธรรมดาทั่วไปแทบไม่มีผลเลย

กว่าที่กายทองคำเก้าอรหันต์จะเลื่อนระดับชั้นได้แต่ละครั้งนับว่ายากเย็นแสนเข็ญเป็นอย่างยิ่ง

การจะวิวัฒนาการจากระดับหนึ่งสู่ระดับสอง มันยากเย็นเสียยิ่งกว่าการเลื่อนระดับชั้นจากอาณาจักรปฐมพระเจ้าสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าหลายเท่านัก

คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถรองรับการบริโภคทรัพยากรครั้งละมหาศาลขนาดนั้นได้เลย

หากมิใช่เพราะเย่หยวนพึ่งพาโอสถในครั้งนั้น แม้แต่จะวิวัฒนาการสู่ขั้นสุดก็แทบเป็นไปได้ยากมากเช่นกัน

ผงวิญญาณทมิฬเลิศนี้เป็นโอสถวิเศษที่ใช้สำหรับขัดเกลาร่างกายโดยเฉพาะ ภายในนั้นประกอบไปด้วยสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขัดเกลาร่างกายที่หายากยิ่งมากมาย นับเป็นสมบัติล้ำค่าชนิดหนึ่งได้เลย

เพื่อต้องการฆ่าเย่หยวน ไคซินนับว่าต้องกรีดเลือดลงทุนมิใช่น้อย

แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดไม่ฝันว่า เย่หยวนจะสามารถเอาชนะและฝ่าฟันความยากลำบากทั้งหมดมาได้ และสุดท้ายนี้ผู้ได้ครอบครองสมบัติเหล่านั้นก็เป็นเย่หยวนเสียเอง

เย่หยวนใช้ผงวิญญาณทมิฬเลิศทาลงบนร่างกายให้เสมอกัน และเริ่มโคจรพลังเพื่อดูดซับฤทธิ์สมุนไพร

ในไม่ช้า เย่หยวนพยักรู้สึกปวดแสบปวดร้อนขึ้นบนร่างในทันใด

เมื่อเวลาผ่านไป ระหว่างขั้นตอนวิวัฒนาการกายเนื้อของเย่หยวนเป็นไปอย่างเชื่องช้าและทรมานอย่างยิ่งยวด

พลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว เย่หยวนอาจตกสู่วงเวียนแห่งความทรมานชั่วนิรันดร์

หากย้อนกลับไป เย่หยวนที่กลืนโอสถจอมมังกรจ้าวพยัคฆ์ลงไป ความรู้สึกทรมานเจียนตายยังคงใหม่สดอยู่ตลอดเวลาจดจำสลักใจ

ความเจ็บปวดที่โฉบแล่นอยู่ในขณะนี้ก็มิได้ต่างกันเลย

ครึ่งเดือนต่อมา หลังจากที่เย่หยวนอดทนอดกลั้นต่อความทรมานมาได้ คลื่นกำลังใจแห่งความปีติดีใจพลันถาโถมเข้ามาใส่ ในที่สุดเขาก็วิวัฒนาการสู่กายทองคำเก้าอรหันต์ระดับสองได้!

ร่างของเย่หยวนปรากฏแผ่นขี้ไคล ก้อนตะกอนสีดำหลุดลุ่ยราวกับกำลังลอกคราบ สกัดนำสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกาย คล้อยหลังเสร็จสิ้นเป็นอันจบการวิวัฒนาการสู่ระดับสองโดยสมบูรณ์

ในเวลานี้ ร่างกายของเย่หยวนเปล่งสีทองอร่ามออกมา ยามเปรียบเทียบกับการวิวัฒนาการครั้งแรก รัศมีกลิ่นอายในตอนนี้สว่างเจิดจรัสกว่ามาก

“ในที่สุดก็เลื่อนระดับชั้น! นับตั้งแต่ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าการบ่มเพาะกายเนื้อก็มีแต่จะช้าลง สุดท้ายก็ยกระดับขึ้นเสียที!”

เย่หยวนกล่าวขึ้น

“เคล็ดสมบัติศักดิ์สิทธิ์กายาเต่าดำที่เจ้าฝึกปรือมา นับวันยิ่งค่อยๆขัดแย้งกันพลังสายเลือดในกายเจ้า หากฝึกปรือวรยุทธป้องกันชนิดนี้มากเกินไป มันอาจฝืนกฎแห่งสายเลือดมังกรในกายเจ้าจนเกิดเรื่องเลวร้าย ยามนี้เคล็ดวิชาดังกล่าวกลับกลายเป็นสิ่งโง่เขลาไปเสียแล้ว!”

หวูเฉินเอ่ยกล่าวขึ้นอย่างไม่มีความสุขนัก

“ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว!”

ณ ดินแดนพฤกษานิรันดร์ กวนควานเทียนจามอย่างแรงถึงสามครั้งติด พลันเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยความสงสัยว่า

“เอ๊ะ? สงสัยว่ามีคนกำลังกล่าวไม่ดีเกี่ยวกับข้ากระมัง? ไฉนถึงจามแรงเพียงนี้?”

เย่หยวนยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า

“แต่นอกเหนือจากเคล็ดวิชานี้แล้ว ข้าก็ไม่รู้เรื่องวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้อชนิดอื่นเลยเช่นกัน”

มิอาจปฏิเสธได้เช่นกันว่า ในอดีต เคล็ดสมบัติกายาเต่าดำได้ช่วยเหลือเย่หยวนไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า

หากมิใช่เพราะเคล็ดสมบัติกายาเต่าดิน เย่หยวนคงไม่สามารถผ่านห้วงอวกาศสุดปั่นป่วนมาได้

แต่เคล็ดวิชานี้เริ่มเข้าใกล้ขีดจำกัดเรื่อยๆแล้ว และเขาเองก็ไม่มีวรยุทธอื่นเช่นกัน

วรยุทธบ่มเพาะพลังหาได้ทรงพลังแข็งแกร่งพอ แต่กลับสามารถเข้ากันได้

นี่เป็นสาเหตุที่หนึ่งที่เย่หยวนยืนยันที่จะสร้างวรยุทธบ่มเพาะพลังเป็นของตัวเองขึ้นมา

หวูเฉินยิ้มและกล่าวว่า

“เผ่ามังกรเองก็มีวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้อเช่นกัน เจ้าที่วิวัฒนาการกายทองคำเก้าอรหันต์ถึงระดับสองได้แล้ว คิดว่าเจ้าน่าจะหาเรียนรู้เองได้!”

เย่หยวนตัวแข็งค้างไปในบัดดล ทันใดนั้นภายในหัวของเขาก็พลันส่งเสียงคำรามลั่น ก่อนจะถูกกระชากสติสัมปชัญญะลงสู่ห้วงมิติแห่งหนึ่ง

“กรรรร!!”

เสียงมังกรคำรามลั่นดังสะท้านโลกันตร์ เงาร่างมังกรฟ้าโคจรหมุนรอบตัวเย่หยวนไม่หยุดหย่อน

ในที่สุดมันก็จมลงสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของเย่หยวน

เมื่อเย่หยวนลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็พลันตระหนักได้ถึงองค์ความรู้ใหม่ๆที่เพิ่มพูนขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาผุดรอยยิ้มออกมาทันทีด้วยความดีใจ

“รอมาเนิ่นนาน! ในที่สุดมันก็ตื่นขึ้นอีกครั้งเป็นคราที่สอง! วรยุทธมังกรทรราชจุติระดับสอง เสียงแห่งจอมเทพมังกรระดับสอง กรงเล็บมังกรจักรวาล และกายพุทธะมังกรสวรรค์! การตื่นขึ้นในครั้งนี้ ข้าได้รับของดีไม่น้อยเลยจริงๆ!”

เย่หยวนเอ่ยกล่าวขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น

การตื่นขึ้นในครั้งที่สอง เย่หยวนได้รับสุดยอดวรยุทธของเผ่ามังกรมาถึงสี่ชนิดติดต่อกัน

มิต้องกล่าวถึงวรยุทธมังกรทรราชจุติ หลังจากที่กายเนื้อของเย่หยวนวิวัฒนาการสู่ระดับสองได้ เพียงเท่านี้ความเร็วในการฟื้นฟูก็เพิ่มเป็นทวีแล้ว

เสียงแห่งจอมเทพมังกรเป็นวรยุทธต่อสู้ด้วยคลื่นเสียง และเป็นวรยุทธโจมตีที่ไม่ค่อยได้เห็นเย่หยวนใช้นานแล้ว เพราะสำหรับเขาในปัจจุบัน สิ่งนี้กลับไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่

ในระดับสองนี้ ตราบเท่าที่เย่หยวนผสานใช้กับกายเนื้อสุดแกร่งกร้าว มันจะกลายมาเป็นไพ่ตายอีกใบหนึ่งที่สำคัญยิ่ง

สุดท้ายนี้ กรงเล็บมังกรจักรวาล เป็นถึงหนึ่งในสามวรยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งเผ่ามังกร!

ขุมพลังอานุภาพการทำลายล้างของมันมิได้ด้อยไปกว่า เสียงแห่งจอมเทพมังกรเลย

แต่สิ่งที่ทำให้เย่หยวนตื่นเต้นที่สุดมิใช่ใดอื่นนอกเสียจากกายพุทธะมังกรสวรรค์!

ก่อนหน้านี้ เพิ่งสนทนากับหวูเฉินไปหมาดๆว่า เขาไม่มีวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้ออื่นให้ฝึกอีกแล้ว แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ตอนนี้กลับมาประเคนถึงที่!

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอยู่ในการคำนวณของหวูเฉินหมดแล้ว เขาจึงเลือกกล่าวขึ้นมาในเวลานี้

เย่หยวนใช้เสียงแห่งจอมเทพมังกรและกรงเล็บมังกรจักรวาล ควบคู่ไปกับกายพุทธะมังกรสวรรค์ ลองคิดดูสิว่าอนุภาพการทำลายล้างจะมหาศาลขนาดไหน!

“เหอะ เผ่ามังกรยังคงเป็นการดำรงอยู่สูงสุดบนมหาพิภพถงเทียนเช่นกัน! ตราบใดที่ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงยังคงตื่นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าเองก็จะได้รับประโยชน์มากขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด!”

ดวงตาเย่หยวนพลันสว่างวาบและกล่าวขึ้นว่า

“ท่านอาวุโส จะว่าไปแล้ว บรรพชนของเผ่ามังกรมีต้นกำเนิดมาจากอะไรกันแน่? แล้วพวกเขาทรงพลังเทียบเท่าอาณาจักรพลังใด?”

อาณาจักรต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มังกรในดินแดนพฤกษานิรันดร์ ประเมินฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงของเย่หยวนไว้สูงมาก การจะเข้าถึงมันในระดับต่อๆไปทำให้เย่หยวนเป็นกังวลอย่างยิ่

หวูเฉินกล่าวว่า

“อ้าวฉินมีพลังอยู่ที่อาณาจักรเทพถ่องแท้! ตราบใดที่ฤทัยแห่งฟ่าจู้หลงของเจ้ายังสามารถตื่นขึ้นได้อยู่ การจะวิวัฒนาการไปให้ถึงระดับหกก็หาใช่ปัญหาไม่!”

ม่านตาดำของเย่หยวนถึงกับตีบตันในทันใด ยามนี้เขาเพิ่งทราบว่าบรรพชนของเผ่ามังกรจะมีขุมพลังอำนาจเกินจินตนาการได้ขนาดนี้ เขาไม่คิดเลยว่าบรรพชนต้นกำเนิดจะทรงพลังอย่างยิ่ง!

อาณาจักรเทพถ่องแท้ยังคงเป็นการดำรงอยู่ที่เป็นปริศนาที่ผู้คนโดยส่วนใหญ่บนมหาพิภพถงเทียนตามหาอยู่เช่นกัน

“ผู้อาวุโส แล้วบรรพชนต้นกำเนิดของสี่ตระกูลหายไปไหนกัน?”

เย่หยวนเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

………………………………………………………