บทที่ 324 ฉันต้องการให้เขาตาย

The king of War

เมืองเจียงโจว โรงพยาบาลประชาชน

ภายในห้องผู้ป่วยฉินต้าหย่ง

“พี่อ้าย วันนี้ทำการรักษามาเข้าวันที่สี่แล้ว พ่อฉันใกล้ฟื้นแล้วใช่มั้ยคะ?”

อ้ายหลินเพิ่งทำการรักษาให้ฉินต้าหย่งเสร็จ ฉินซีก็ถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

หลายวันนี้มานี้สำหรับเธอ ผ่านวันเหมือนผ่านปี

ดัชนีตัวเลขการตรวจร่างกายทุกด้านของฉินต้าหย่งดีขึ้นหมด ยิ่งใกล้วันที่เขาจะฟื้น ฉินซียิ่งร้อนใจ

เธอถามคำถามเดิมๆกับอ้ายหลิน แทบจะทุกครั้งที่ทำการรักษาเสร็จ

อ้ายหลินยิ้มบางๆ “วางใจเถอะ ดัชนีชีวิตทุกอย่างของคุณลุงมั่นคงหมดแล้ว ภายในสามวันนี้ฟื้นแน่นอน”

“ต้องอีกสามวันหรือ?”

ฉินซีผิดหวังเล็กน้อย

หยางเฉินกล่าวยิ้มๆ “พ่อสลบมานานแล้ว อีกแค่สามวันเองคุณก็รอไม่ไหวแล้วหรือ อีกอย่าง พี่อ้ายก็บอกแล้วว่าภายในสามวันนี้ พ่อตื่นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่สามวันให้หลัง”

“สองสามวันนี้เขาฟื้นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ไม่เกินสามวันแน่นอน” อ้ายหลินเสริม

ช่วงนี้ต้องมาทำการรักษาให้ฉินต้าหย่งทุกวัน เธอมีโอกาสเจอหน้าฉินซีมากขึ้น เธอเองก็ชอบผู้หญิงที่สวยเกินมนุษย์มนาคนนี้มากเหมือนกัน

“ฉันร้อนใจไปเอง” ฉินซีพูดเขินๆ

โจวยู่ชุ่ยอีกด้านย่อมได้ยินคำพูดของอ้ายหลินเหมือนกัน สีหน้าย่ำแย่สุดๆ

หลายวันมานี้เธอไม่มีโอกาสลงมือกับฉินต้าหย่งเลย ต่อให้มี เธอก็ไม่กล้า

วันนั้นโชคดีที่มีคนอยากลอบฆ่าฉินต้าหย่งเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น เธอคงโดนหยางเฉินจับได้คาหนังคาเขา

“ฉันจะไปดูลู่เหวินจิ้นหน่อย”

อ้ายหลินพูดขึ้นอีกครั้ง และเดินออกไป

ลู่เหวินจิ้นคือแม่ของเซี่ยเหอ ผ่าตัดเสร็จมาสี่วันแล้ว นอกจากต้องทำการรักษาให้ฉินต้าหย่งทุกวัน อ้ายหลินต้องไปดูอาการลู่เหวินจิ้นด้วย เธอเหนื่อยมากจริงๆ

“คุณดูแลพ่ออยู่ที่นี่นะ ผมจะไปเยี่ยมน้าเซี่ยด้วยเหมือนกัน” หยางเฉินกล่าว

ช่วงก่อนเซี่ยเหอช่วยเลี้ยงเสี้ยวเสี้ยวให้ตลอด เขานึกซาบซึ้งอยู่ในใจ

ตอนนี้ลู่เหวินจิ้นผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ เขาควรจะช่วยดูแล

“เสี่ยวซี กินแอปเปิล”

โจวยู่ชุ่ยปลอกแอปเปิล ยื่นให้ฉินซี

ฉินซีกลับไม่มองเธอ เฝ้าอยู่ข้างกายฉินต้าหย่งเงียบๆ

“เสี่ยวซี แกยังโกรธแม่อยู่ใช่มั้ย?”

ทันใดนั้นโจวยู่ชุ่ยก็ตาแดงและพูดขึ้น “แม่รู้ ว่าเมื่อก่อนแม่ทำผิดต่อแก แต่แม่ไม่เคยทำร้ายพ่อแกเลยนะ”

“ก่อนหน้านี้แม่พูดจาไม่น่าฟังก็จริง แต่แม่ก็แค่ร้อนใจเรื่องพ่อแก อยากให้เขารีบฟื้นขึ้นมา จะได้คืนความบริสุทธิ์ให้แม่”

“เสี่ยวซี แกอย่าไม่คุยกับแม่ได้มั้ย?”

“แกเป็นแบบนี้ ฉันทุกข์ใจมากจริงๆ ฉันรู้สึกว่าตัวเองจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”

โจวยู่ชุ่ยพูดไป น้ำตาก็ร่วง

“พอแล้ว แม่เลิกร้องไห้เถอะ”

ถึงยังไงฉินซีก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่ใจอ่อน เธอรู้สึกแย่มากเหมือนกันที่เห็นโจวยู่ชุ่ยร้องห่มร้องไห้ ตาของเธอแดงก่ำขณะที่พูด “หนูก็แต่เป็นห่วงพ่อ บางครั้งถึงอารมณ์ร้อนไป”

“แต่ไม่ว่ายังไง หนูก็หวังว่าเรื่องของพ่อ จะไม่เกี่ยวกับแม่”

“ไม่อย่างนั้น ต่อให้หนูจะเสียใจแค่ไหน ก็ต้องเลือกผดุงความยุติธรรมโดยการส่งแม่ไปหาทางการอยู่ดี”

แม้เธอจะยอมคุยกับโจวยู่ชุ่ยแล้ว แต่ท่าทียังแข็งกร้าวอยู่มาก

ช่วงนี้เธอคิดอะไรมาเยอะ แทบจะจินตนาการในหัวอยู่ทุกวันว่า ถ้าเรื่องของฉินต้าหย่งเป็นฝีมือของโจวยู่ชุ่ยจริงๆ เธอจะทำยังไง?

ทุกครั้ง ก็จะได้คำตอบเดียวกัน เธอรู้ว่าตัวเองต้องเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีวันให้อภัยโจวยู่ชุ่ยเด็ดขาด

“แกวางใจเถอะ เรื่องที่พ่อแกเกิดเรื่อง ไม่เกี่ยวกับแม่เลยสักนิด”

โจวยู่ชุ่ยไม่โกรธ กลับพูดขึ้นอย่างดีใจ “พ่อแกใกล้จะฟื้นแล้วใช่มั้ย? ขอแค่เขาฟื้นขึ้นมา ฉันเชื่อว่าความจริงทุกอย่างต้องกระจ่างอย่างแน่นอน”

“ถึงตอนนั้น เราก็จะได้เป็นเหมือนก่อน ไม่สิ ฉันจะเปลี่ยนตัวเอง หลังจากนี้ ฉันจะเป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่ที่ดี เป็นยายที่ดี ไม่ทำให้พวกแกผิดหวังอีกอย่างแน่นอน!”

โจวยู่ชุ่ยพูดด้วยหน้าตาจริงจัง

ฉินซีมึนนิดหน่อย จู่ๆก็รู้สึกผิดขึ้นมา หรือตัวเองจะทำเกินไป?

อย่างไรซะโจวยู่ชุ่ยก็เป็นแม่ของตัวเอง ตัวเองแสดงความสงสัยออกไปอย่างชัดเจนว่าเรื่องของฉินต้าหย่งเกี่ยวข้องกับเธอ

คิดมาถึงตรงนี้ ฉินซียิ่งใจอ่อน เธอตาแดงพร้อมพูด “หนูก็หวังว่าจะมีวันนั้น”

“หนูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”

ฉินซีพูดพลางลุกไปเข้าห้องน้ำ

โจวยู่ชุ่ยมองฉินต้าหย่งที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ดิ้นรนกับตัวเองในใจ

เมื่อกี้เธอตีสนิทฉินซีและพูดอะไรไปตั้งมากมาย ก็เพื่อให้ฉินซีคลายความระแวงลง

บัดนี้ ในห้องผู้ป่วยมีเพียงเธอและฉินต้าหย่ง ดูเหมือนจะเป็นโอกาสลงมือที่ดีมาก

แต่ถ้าลงมือแล้วโดนจับได้ จะทำยังไง?

บัดนี้ เธอทั้งลังเลทั้งดิ้นรนอยู่ในใจ

สุดท้าย เธอก็ไม่กล้าลงมือ และในตอนนั้น ฉินซีออกมาจากห้องน้ำ

โจวยู่ชุ่ยพลันรู้สึกโชคดีขึ้นมา ถ้าเมื่อกี้เธอลงมือจริงๆ ต้องโดนฉินซีจับได้แน่นอน

“เสี่ยวซี เที่ยงนี้แกอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อตอนนี้” โจวยู่ชุ่ยรีบบอก

แม้จะยังไม่ทันลงมือ แต่เธอเชื่อว่าตัวเองยังมีโอกาส ฉวยโอกาสที่ฉินซีใจอ่อน ตัวเองต้องคว้าโอกาสนั้นไว้ให้ได้ เพื่อให้ฉินซีเลิกระแวงตัวเองโดยสมบูรณ์

“หนูอยากกินผัดก๋วยเตี๋ยวติงติง แม่แวะซื้อให้หนูกล่องหนึ่งจากโรงอาหารของโรงพยาบาลก็พอ” ฉินซีไม่ได้สงสัยอะไร

หลังจากโจวยู่ชุ่ยออกไปแล้ว ก็ตรงดิ่งไปนอกโรงพยาบาล

เธอวางแผนไว้หมดแล้ว คราวก่อนที่วางยานอนหลับในน้ำของฉินซีไม่มีใครสงสัย ครั้งนี้ เธอต้องหาทางหายานอนหลับมาอีก

รอตอนกลางคืนหาวิธีให้ฉินซีกินเข้าไป

วันนี้ เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอ

ถึงจะยังกลัวว่าจะโดนจับได้ แต่เธอไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้ายังไม่ลงมืออีก ฉินต้าหย่งได้ฟื้นขึ้นมาจริงๆแน่

“สวัสดี คุณผู้หญิงโจว”

โจวยู่ชุ่ยเพิ่งเดินออกมาจากโรงพยาบาล ร่างของชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ขวางทางไปของเธอ

“คุณเป็นใคร?”

โจวยู่ชุ่ยระแวงขึ้นมาในบัดดล

“ผมอยากร่วมมือกับคุณผู้หญิงโจว ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงโจวจะตกลงมั้ย” ชายวัยกลางคนเอ่ยยิ้มๆ

“ฉันไม่รู้จักคุณ!”

โจวยู่ชุ่ยรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงคิดจะไปจากที่นี่

“ในเมื่อคุณผู้หญิงโจวไม่อยากร่วมมือก็ไม่เป็นไร แต่ หลักฐานในมือผมคงเพียงพอให้คุณติดคุกไปตลอดชีวิต”

โจวยู่ชุ่ยเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“คุณพูดเหลวไหลอะไร?”

โจวยู่ชุ่ยพูดอย่างโมโห แต่ในใจกลับกระสับกระส่ายสุดๆ

“ในมือผมมีเสียงคุยโทรศัพท์ที่อัดไว้ ผมคิดว่าคุณผู้หญิงโจวน่าจะสนใจ”

ชายวัยกลางคนพูดจบก็หยิบมือถือออกมา เปิดเสียงที่อัดไว้

“หูฉาว คุณคิดให้ดีๆนะ ตอนนี้ลูกสาวคุณป่วยเป็นลูคีเมีย ถ้าไม่รีบรักษาเกรงว่าต่อให้วันหน้าคุณหาเงินมาได้ ก็อาจจะพลาดโอกาสรักษาที่ดีที่สุดของเธอไป!”

“คุณเป็นมะเร็งอยู่แล้ว อยู่ได้ไม่นานแล้ว ต่อให้ตอนนี้คุณพยายามหาเงินสุดชีวิต ก็หาไม่ได้ห้าแสนก่อนคุณตายหรอก”

“อย่างไรซะคุณก็ใกล้ตายแล้วยังจะกลัวอะไรอีก? ตอนนี้ ขอแค่คุณยอมขับรถชนคนคนหนึ่งตายก็จะได้รับเงินห้าแสนนี้ไป”

“คุณนึกถึงลูกสาวคุณสิ ยังเด็กขนาดนั้น ถึงเวลาต้องตายไปกับคุณเพราะไม่มีเงินรักษา คุณจะไม่เจ็บปวดบ้างเลยหรือไง?”

“เลิกพูดเถอะ ผมขอร้องคุณเลิกพูดได้มั้ย คุณอยากให้ผมทำอะไรผมทำหมด แต่ คุณต้องเอาเงินห้าแสนให้ผมตอนนี้เลย”

“ได้ ตกลง”

แม้เสียงคุยโทรศัพท์ที่อัดไว้จะสั้นมาก แต่เนื้อความชัดเจนสุดๆ เป็นบทสนทนาระหว่างโจวยู่ชุ่ยและคนขับรถที่ขับชนฉินต้าหย่ง

โจวยู่ชุ่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “คุณมีไฟล์อัดเสียงนี่ได้ยังไง?”

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่เธอคุยกับลู่จุนในโทรศัพท์จะถูกอัดเสียง แล้วยังตกไปอยู่ในมือของชายวัยกลางคนคนนี้

ชายวัยกลางคนยิ้มบางๆ “หูฉาวต้องการหาค่ารักษาให้ลูกสาวตัวเอง ก่อนตายจึงขายมือถือของเขาให้เพื่อน ทุกคนคิดว่ามือถือของหูฉาวถูกทำลายในอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่จริงๆแล้ว เปล่าเลย!”

พอได้ฟัง โจวยู่ชุ่ยรู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่ม

เสียงที่ถูกอัดไว้นี้เป็นหลักฐานที่เธอจ้างวานฆ่าฉินต้าหย่ง ต่อให้แถก็ไร้ประโยชน์

“คุณต้องการร่วมมือกับฉันเรื่องอะไร?” โจวยู่ชุ่ยมองอีกฝ่ายอย่างเจ็บใจ

“ผมต้องการชีวิตของหยางเฉิน!”

ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “เพราะ เขาทำให้ลูกชายเพียงคนเดียวของผมต้องตาย”