ตอนที่ 142 พาถังโจวโจวกลับบ้าน

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนนี้ถังโจวโจวไม่มีเวลาอธิบายให้หลินเหยาฟัง เธอแค่รู้สึกว่าวันนี้เธอกับหลินเหยาอาจจะมีเทพเจ้าแห่งความซวยติดตามมาด้วย “เหยาเหยา อย่ามัวแต่ถามอยู่เลย รีบวิ่งก่อน พวกนั้นจะตามมาทันแล้ว” 

 

 

           ถังโจวโจวและหลินเหยาพากันวิ่งหนีไปข้างหน้า แต่แรงของผู้หญิงหรือจะสู้แรงของผู้ชายได้ ในไม่ช้าอันธพาลสองคนด้านหลังก็ตามมาทัน พวกเขาหอบหายใจอย่างหนักพลางยืนล้อมหลินเหยาและถังโจวโจวเอาไว้ “ดูสิว่าพวกเธอสองคนจะหนีไปไหนได้อีก!” 

 

 

           พวกเขาสองคนไล่ตามพวกเธอมานาน ลำคอก็แห้งผากไปหมด ความคิดลามกอนาจารที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็ต้องพับเก็บไปก่อน ตอนนี้พวกเขาแค่อยากจะสั่งสอนถังโจวโจวและหลินเหยา จากนั้นพวกเขาอยากจะทำอะไรต่อก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพวกเขาพาไป 

 

 

           ชายทั้งสองคนถูมือพลางเดินเข้ามาใกล้พวกเธอ ถังโจวโจวและหลินเหยากุมมือกันแน่น “เหยาเหยา เราจะทำยังไงต่อดี” ทำไมเซ่าเชินยังไม่มาอีก? 

 

 

           “โจวโจว ทำไงดีล่ะ” แม้แต่หลินเหยาที่ในเวลาปกติมักจะเข้มแข็ง ตอนนี้เธอก็หมดหนทาง ในแง่ของการต่อสู้ พวกเธอไม่มีอะไรได้เปรียบคนพวกนี้เลย 

 

 

           ถังโจวโจวเองก็มืดแปดด้าน เธอได้แต่ภาวนาให้ลั่วเซ่าเชินรีบมาเร็วๆ เมื่อเธอเห็นชายคนหนึ่งยกมือขึ้น จิตใต้สำนึกของเธอก็สั่งให้เธอหลับตาลง แต่เธอไม่เห็นว่าฝ่ามือของเขาจะกระทบบนใบหน้าของเธอเลย ทันทีที่ลืมตาเธอก็พบว่ามือของชายคนนั้นถูกจับไว้แล้ว 

 

 

           “เซ่าเชิน!” ถังโจวโจวมองลั่วเซ่าเชินที่ยืนอยู่ตรงหน้าราวกับเห็นพระเจ้า เธอดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา 

 

 

           หลินเหยาถอนหายใจยาว ในที่สุดเจ้าชายขี่ม้าขาวก็มาถึง เธอรู้สึกได้ว่าสมองของเธอบวมเป่งไปหมด เธออยากจะหาที่นั่งพักสักหน่อยแล้ว 

 

 

           ลั่วเซ่าเชินเอาชนะอันธพาลสองคนนั้นได้ด้วยมือเปล่าและใช้เวลาเพียงไม่นาน ลั่วเซ่าเชินจัดการคนพวกนั้นอย่างไรถังโจวโจวและหลินเหยาก็ไม่ทันได้เห็น หลังจากกำจัดคนพวกนั้นไปได้แล้ว ลั่วเซ่าเชินก็รีบกลับมาหาถังโจวโจว 

 

 

           หลินเหยาผ่อนคลายลงมาก แล้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ตีกลับขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ส่วนทางด้านของถังโจวโจว ยาเริ่มออกฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็เริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเองแล้ว 

 

 

           เป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย สมาธิของถังโจวโจวจึงจดจ่ออยู่กับการเอาตัวรอด ทำให้เธอลืมเรื่องที่เธอถูกวางยาไปชั่วขณะ ตอนนี้เมื่อเธอผ่านสถานการณ์นั้นมาแล้ว และมีลั่วเซ่าเชินอยู่ด้วย จิตใจของถังโจวโจวจึงเริ่มอ่อนแรงจนเกือบจะถูกฤทธิ์ยาครอบงำ 

 

 

           ลั่วเซ่าเชินกอดถังโจวโจวไว้ เขาพบว่าเธอผิดปกติไปจริงๆ ตัวของเธอร้อนดั่งไฟ “โจวโจว คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” 

 

 

           “เซ่าเชิน ฉันถูกวางยา” เมื่อถังโจวโจวเอ่ยจบ เธอก็รีบงับริมฝีปาก เธออยากจะโถมตัวใส่ลั่วเซ่าเชินเป็นอย่างมาก เธอต้องการให้เขากอดเธอ จูบเธอ แต่ตอนนี้มีหลินเหยาอยู่ด้วย เธอจึงไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ถังโจวโจวกัดปากไว้แน่น 

 

 

           ลั่วเซ่าเชินมองดูหลินเหยาที่ยืนอยู่ข้างๆ จากนั้นก็มองไปที่ถังโจวโจวที่ถูกวางยา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังหวา เขาสั่งให้หวังหวาไปรอที่บ้านเพื่อพาหลินเหยาไปส่ง ส่วนเขาก็ช้อนตัวอุ้มถังโจวโจวขึ้น เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าเขาจะทิ้งหลินเหยาไว้ เธอก็รีบพูดว่า “เหยาเหยาล่ะคะ” 

 

 

           “ผมรู้ ผมจะอุ้มคุณไปส่งที่รถก่อน จากนั้นก็ค่อยไปประคองเธอมา คุณทนอีกหน่อยนะ เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว” ลั่วเซ่าเชินวางถังโจวโจวไว้ที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะกลับไปประคองหลินเหยามาขึ้นรถ 

 

 

           ลั่วเซ่าเชินขับรถอย่างรีบเร่ง เมื่อมองดูถังโจวโจวที่นั่งอยู่บนรถด้วยความทรมาน เขาก็ยิ่งขับรถเร็วขึ้นอีก พวกเขามาถึงบ้านในไม่ช้า หวังหวารออยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้ว ลั่วเซ่าเชินโยนกุญแจรถให้เขา ก่อนที่เขาจะตรงเข้าไปอุ้มถังโจวโจวและเดินเข้าไปในบ้าน 

 

 

           ถังโจวโจววาดแขนโอบคอลั่วเซ่าเชิน แต่ขณะเดียวกันเธอก็พยายามยับยั้งความปรารถนาของตัวเอง ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าตอนนี้เธออาการไม่ค่อยดี ดังนั้นเขาจึงรีบก้าวขึ้นไปชั้นบน เมื่อเขาอุ้มเธอมาถึงห้องนอน เขาก็วางถังโจวโจวลงบนเตียง ในขณะที่ลั่วเซ่าเชินกำลังจะยืดตัวขึ้น ถังโจวโจวก็คว้ามือเขาเอาไว้ “เซ่าเชิน อย่าไปค่ะ!” 

 

 

“โอเคๆ ผมไม่ไป” ลั่วเซ่าเชินลูบมือเธอเบาๆ เพื่อยืนยันคำพูด เมื่อเขาเห็นว่าถังโจวโจวเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เขาก็รู้เลยว่าเธอใกล้จะหมดความอดทนแล้ว เขาพรมจูบลงไปบนใบหน้าของเธอ 

 

 

ถังโจวโจวรีบหันหน้ามาหาเขาในทันที ลั่วเซ่าเชินมองดูเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข ดูเหมือนว่าเรื่องที่ถังโจวโจวถูกวางยาแบบนี้ก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน อย่างน้อยเธอก็ให้ความร่วมมือมากกว่าเดิม 

 

 

ลั่วเซ่าเชินชอบท่าทางที่ถังโจวโจวเป็นอยู่ในตอนนี้ ส่วนสติของถังโจวโจวนั้นก็เริ่มเลือนรางแล้ว เธอรู้แค่เพียงว่าลั่วเซ่าเชินสามารถทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้ ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะลดระยะห่างระหว่างเขากับเธอ เธออยากจะแนบลำตัวทั้งหมดลงไปบนตัวของเขา 

 

 

แขนทั้งสองข้างของลั่วเซ่าเชินค้ำยันกับเตียงเพื่อรับน้ำหนักทั้งหมดของตัวเขาเองเอาไว้ เขาใจไม่แข็งพอที่จะทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงไปที่ถังโจวโจว เขาถอยออกมาเล็กน้อย เพื่อจะดูว่าถังโจวโจวสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง เดาว่านี่น่าจะเป็นความคิดที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของชายคนหนึ่งมานาน 

 

 

ถังโจวโจวขัดใจเล็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่จะทำให้เธอรู้สึกดีมันหายไป เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็เห็นลั่วเซ่าเชินคร่อมตัวเธออยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไร เธอเริ่มกระวนกระวาย “เซ่าเชินคะ ฉันร้อน มันอึดอัด!” 

 

 

เธอนึกว่าถ้าเธอบอกแบบนี้แล้วลั่วเซ่าเชินจะเข้าใจเธอ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ขยับตัวสักนิด ถังโจวโจวรู้สึกอัดอั้นและทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ถังโจวโจวพลิกตัวขึ้นมาพร้อมกับกดลั่วเซ่าเชินลงบนเตียงและนั่งทับอยู่บนตัวเขา 

 

 

ในใจของลั่วเซ่าเชินยิ้มกริ่มอย่างมีความสุข แต่เขากลับตีหน้าซื่อถามด้วยความสงสัย “โจวโจว นี่คุณจะทำอะไร” 

 

 

เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าเขาแกล้งทำเป็นโง่ เธอก็บ่นพึมพำว่า “คนนิสัยไม่ดี!” 

 

 

เธอก้มลงไปจูบปากเขา ถังโจวโจวไม่เคยเป็นฝ่ายจู่โจมแบบนี้มาก่อน แม้ว่าภายในใจของเธอจะร้อนรุ่ม แต่ปากของเธอก็แค่แตะอยู่บนริมฝีปากของเขาเท่านั้น ราวกับว่าเธอไม่เคยจูบเขามาก่อนเลย 

 

 

ลั่วเซ่าเชินจำเป็นต้องกลับมาเป็นฝ่ายรุกแทน เขาพูดออกมาเบาๆ ว่า “ยายบื้อ” ด้วยการชักจูงของลั่วเซ่าเชิน ในที่สุดถังโจวโจวก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีไปไว้ที่เขาคนเดียว 

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน ถังโจวโจวก็อิ่มเอมเปรมใจ ส่วนลั่วเซ่าเชินที่ช่วงนี้ไม่ได้ใกล้ชิดกับถังโจวโจวเลย ไหนๆ วันนี้ก็สบโอกาสดี เขานึกอยากจะทำสงครามรักกับเธออีกสักหลายๆ รอบ แต่ก็ต้องหงุดหงิดอยู่บ้างเมื่อเห็นว่าถังโจวโจวดูเหมือนจะไม่ได้สติแล้ว ลั่วเซ่าเชินจึงทำได้แค่หยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ชั่วคราว เขาเดินเข้าไปเปิดน้ำร้อนในห้องน้ำ จากนั้นก็อุ้มถังโจวโจวเข้าไปข้างในอ่างอาบน้ำ เขานั่งลงข้างๆ ถังโจวโจวและช่วยเธอทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็ให้เธอแช่น้ำร้อนสักพัก 

 

 

“อือ…” 

 

 

เมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวขยับตัว ความคิดที่เขาหยุดพักเอาไว้ก็ค่อยๆ ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง มือไม้ของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข 

 

 

“โจวโจว คุณชอบไหม” ลั่วเซ่าเชินจงใจถามถังโจวโจวว่ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ เขารู้ว่าถังโจวโจวมักจะเขินอายกับเรื่องแบบนี้ แต่เขาก็อยากให้ถังโจวโจวพูดถึงมัน 

 

 

ถังโจวโจวปิดปากแน่น ไม่ยอมพูด ลั่วเซ่าเชินก็จัดการกับเธอต่อไป “โจวโจว คุณจะยอมกลับมาอยู่บ้านได้หรือยัง” 

 

 

เมื่อถังโจวโจวได้ยินลั่วเซ่าเชินถามถึงเรื่องนี้ เธอก็ถลึงตามองเขา ก่อนจะหยุดคุยกับเขาไปเสียดื้อๆ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินไม่กลัว ตอนนี้คนที่ถูกวางยาคือหญิงสาวร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา เขามีความอดทนมากพอที่จะเสียเวลากับเธอ วันนี้ลั่วเซ่าเชินจะต้องทำให้ถังโจวโจวเปิดปากพูดออกมาให้ได้ 

 

 

แม้ว่าถังโจวโจวอยากจะฝืนทนเอาไว้ แต่ทำไมร่างกายของเธอถึงไม่เชื่อฟังเลย? ในที่สุดเธอก็เอ่ยขอความเมตตาจากลั่วเซ่าเชิน “เซ่าเชิน ฉันยอมแล้วค่ะ เอาละ คุณอย่าทรมานฉันอีกเลย” 

 

 

ถังโจวโจวคิดในใจว่าเธอก็แค่พูดไปอย่างนั้น เดี๋ยวค่อยกลับคำเอาทีหลัง แค่นี้ลั่วเซ่าเชินก็ทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว 

 

 

เห็นได้ชัดว่าถังโจวโจวไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ลั่วเซ่าเชินเหนือชั้นกว่าเธอมาก ลั่วเซ่าเชินเอื้อมมือไปกดโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างพลางลอบยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กลับไปที่ ‘การปราบปราม’ ถังโจวโจวอีกครั้ง ในตอนนี้ถังโจวโจวไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่น แค่จะรับมือกับลั่วเซ่าเชินเธอยังทำไม่ได้เลย 

 

 

ลั่วเซ่าเชินระบายความอัดอั้นตันใจทั้งหมดที่มีตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาจัดการกับถังโจวโจวเสียจนเธอเหนื่อยอ่อนอย่างมาก เช้าวันรุ่งขึ้น ลั่วเซ่าเชินตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส ส่วนถังโจวโจวยังคงนอนอุตุอยู่บนเตียง ใบหน้าสีแดงระเรื่อของเธอกำลังพริ้มหลับอย่างสบายใจ เธอดูน่ารักเอามากๆ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินห่มผ้าห่มให้เธอ เมื่อลงมาที่ชั้นล่าง ป้าหลิวก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลั่วอิงกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่มีความสุขของลั่วเซ่าเชิน เธอก็ถามอย่างประหลาดใจ “คุณพ่อขา วันนี้คุณพ่ออารมณ์ดีเหรอคะ” 

 

 

“ใช่น่ะสิครับ!” ชายหนุ่มที่กินอิ่มนอนหลับก็จะพูดดีแบบนี้แหละ 

 

 

ลั่วอิงไม่รู้หรอกว่าทำไมวันนี้ลั่วเซ่าเชินถึงแตกต่างไปจากทุกวัน ป้าหลิวเองก็ประหลาดใจอยู่เหมือนกัน เมื่อวานตอนที่ลั่วเซ่าเชินกลับมา เธอเข้านอนไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นถังโจวโจว เธอก็เลยไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ลั่วเซ่าเชินถึงได้อารมณ์ดีมากขนาดนี้ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินยังไม่ได้คิดจะบอกใครว่าถังโจวโจวอยู่ที่บ้านแล้ว ถ้าลั่วอิงรู้เข้า เธอจะต้องเข้าไปรบกวนถังโจวโจวอย่างแน่นอน แต่เขาอยากให้ถังโจวโจวนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ ก่อน 

 

 

ลั่วเซ่าเชินตัดสินใจไม่เอาเรื่องคนที่วางยาถังโจวโจว คนผู้นั้นโชคดีจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเซ่าเชินกำลังอารมณ์ดี เรื่องนี้ก็คงจะไม่จบง่ายๆ อย่างนี้แน่ 

 

 

เมื่อลั่วอิงทานข้าวเสร็จ เธอก็เห็นว่าลั่วเซ่าเชินยังไม่มีทีท่าว่าจะไปบ้านคุณพ่อคุณแม่ถัง เธอจึงถามว่า “คุณพ่อคะ วันนี้เราไม่ไปบ้านคุณยายกันเหรอคะ” 

 

 

“ไม่ไปครับ วันนี้เราจะอยู่บ้าน” ถังโจวโจวนอนอยู่ข้างบนแล้ว เขาจะเสียเวลาไปที่บ้านตระกูลถังอีกทำไม! 

 

 

… 

 

 

ฉินอวิ๋นไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางอะไรมากนักเมื่อได้ยินว่าเรื่องนั้นล้มเหลว เธอแค่สั่งให้คนคนนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยก่อน เพราะกลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะตามหาจนเจอแล้วมาเอาเรื่องถึงบ้าน เมื่อเทียบกับเมิ่งชิงซีแล้ว ฉินอวิ๋นก็ยังคงเหนือชั้นกว่าลูกสาวมาก 

 

 

แต่ฉินอวิ๋นก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วโอกาสดีๆ แบบนี้ก็หลุดลอยไป ครั้งหน้ากว่าเธอจะมีโอกาสแบบนี้อีกก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร แล้วในครั้งนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือเปล่า?