ตอนที่ 308 อย่าคิดจะเข้าบ้านฉัน / ตอนที่ 309 คุณคิดจะทำอะไรกันแน่

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 308 อย่าคิดจะเข้าบ้านฉัน

 

 

           ที่ชั้นบน ซูซานซานยืนอยู่หน้าประตู มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยปากอ่อนโยน “งั้นเจียเสวียน เธอก็รีบนอนเถอะ อย่านอนดึก นอนดึกบ่อยๆ ไม่ดีนะ”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า บอกราตรีสวัสดิ์กับเธอแล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป

 

 

           วันรุ่งขึ้นเก้าโมงเช้า ฉู่อีอีปรากฏตัวที่ร้านกาแฟอวิ๋นซั่งตรงเวลา เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคุณแม่เผยจะไปถึงเร็วกว่าเธอ ในตอนนั้นหัวใจเต้นแรง จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหา

 

 

           เดิมทีนึกว่าเธอจะต้องมาสายสักครึ่งชั่วโมง ครั้งนี้ดูแล้วต้องโดนเธอเอ็ดอีกแน่ๆ

 

 

           “คุณป้า” ฉู่อีอีเดินไปหาคุณแม่เผย มองเธอพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ใบหน้าของคุณแม่เผยไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

 

 

           “เธอไม่รู้หรือไงว่านัดเจอคนต้องมาถึงก่อนเวลาสิบนาที นี่คือมารยาทน่ะเธอรู้หรือเปล่า เธอกล้าดียังไงให้ผู้ใหญ่อย่างฉันรอเธอ” คุณแม่เผยเห็นฉู่อีอีแล้วเอ่ยปากไม่พอใจ แววตายิ่งเผยความเกลียดชัง

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจของคุณแม่เผยได้แต่อดกลั้นไว้ การที่เธอมาถึงเร็วนั้น ที่จริงไม่ได้อยู่ในความคาดหมายของเธอ

 

 

           “ค่ะ คุณป้า ฉันผิดเอง” ก้มหน้านอบน้อม สายตาที่ก้มต่ำมีประกายแห่งความเกลียดชัง มือของฉู่อีอีที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น

 

 

           เห็นฉู่อีอีท่าทางสำนึกผิดอ่อนน้อม คุณแม่เผยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ขืนพูดต่อไปจะทำให้เธอดูเหมือนคนเจ้าอารมณ์

 

 

           ทำสีหน้าให้เป็นปกติ เธอจึงพูดว่า “ที่เธอเรียกฉันออกมามีอะไรกันแน่ ฉันไม่มีเวลาขนาดนั้นที่จะดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนเธอที่นี่หรอกนะ!”

 

 

           สีหน้าของฉู่อีอีแข็งทื่อ มือที่อยู่ใต้โต๊ะยิ่งบีบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย “คุณป้า ลองดูรายงานนี่สิคะ?”

 

 

ฉู่อีอีก็ไม่ได้พูดจาอ้อมค้อมเช่นกัน ในเมื่อเธอไม่อยากเห็นหน้าเธอ เธอก็จะไม่พูดพร่ำทำเพลง เช่นนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีก

 

 

           “นี่คืออะไร” มองดูรายงานที่ฉู่อีอีหยิบออกมา คุณแม่เผยขมวดคิ้ว ยื่นมือเปิดรายงาน เมื่อเห็นเนื้อหาด้านในสีหน้าก็เปลี่ยนไป

 

 

           ฉู่อีอีสำรวจสีหน้าของเธออย่างละเอียด เดาความคิดของเธออยู่ในใจ

 

 

           เธอคงจะโกรธมากสินะ? ตั้งแต่ไหนแต่ไรเธอมักจะเปรียบเทียบเธอกับฉู่เจียเสวียนคนเลวนั่นบ่อยๆ ตอนนี้เห็นรายงานนี้แล้ว คงจะไม่มัวหาเรื่องเธออีกแล้วล่ะมั้ง?

 

 

           คุณแม่เผยอ่านรายงานในมือจบ เอื้อมมือยกกาแฟขึ้นมาจิบ จากนั้นก็เงยหน้ามองฉู่อีอี “เธออยากจะบอกอะไร”

 

 

           “คุณป้า ที่ฉันให้คุณป้าดูรายงานฉบับนี้เพราะฉันรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนหนานเจวี๋ย คุณป้าก็เห็นว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนกลับมา แถมยังทำธุรกิจกับหนานเจวี๋ย ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงอย่างเขาไม่ควรร่วมงานกับบ้านเผย”

 

 

           “หึ ฉู่อีอี ฉู่อีอี เธอกำลังหลอกใครอยู่? รายงานนี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของปลอม เธอนึกว่าฉันไม่รู้เหรอ เธอคงจะใช้เงินไม่น้อยเพื่อทำรายงานนี้สินะ” วิธีใส่ร้ายแบบนี้เธอมองออกตั้งแต่แรกแล้ว ฉู่อีอีก็แค่กลัวว่าฉู่เจียเสวียนกับลูกชายของเธอถ่านไฟเห่าจะคุไม่ใช่เหรอ?

 

 

           ไม่เช่นนั้นเรื่องที่ผ่านไปนานแล้วเธอจะเอามาพูดตอนนี้ทำไม ไม่เอาหลักฐานพวกนี้มาตอนที่

 

 

ฉู่เจียเสวียนยังท้องล่ะ

 

 

           คิดไม่ถึงว่าคุณแม่เผยจะพูดเช่นนี้ ฉู่อีอีตื่นตกใจ เหงื่อซึมออกจากมือไม่หยุด

 

 

           “คุณป้า ทำไมฉันต้องทำแบบนี้เหรอคะ เพราะหนานเจวี๋ยเป็นผู้ชายที่ฉันรัก ฉันก็แค่ไม่อยากให้เขาถูกฉู่เจียเสวียนผู้หญิงเลวคนนั้นหลอกก็เท่านั้นเอง” ฉู่อีอีเอ่ยปากเบาๆ สายตามองคุณแม่เผยอย่างโอบอ้อม

 

 

           “ฉู่อีอี เรื่องของฉู่เจียเสวียนกับหนานเจวี๋ยมันเป็นอดีตไปแล้ว และตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับธุรกิจเลย ด้วยสถานะของฉู่เจียเสวียนในตอนนี้ การร่วมมือกับเขามีแต่จะเอาผลประโยชน์มาให้พวกเราบ้านเผย”

 

 

           “ฉันก็ไม่รู้ว่าเธออยากทำอะไรกันแน่ แต่ว่าฉันจะบอกเธอให้ ไม่ว่าเธอจะทำยังไง ฉันก็จะไม่ให้เธอได้อยู่กับหนานเจวี๋ย ยิ่งไม่ต้องคิดที่จะเข้าบ้านเผยของฉัน!” คุณแม่เผยพูดจบ หยิบกระเป๋าจากไปโดยไม่หันมามอง

 

 

 

 

      ตอนที่ 309 คุณคิดจะทำอะไรกันแน่

 

 

           ฉู่อีอีฟังได้ยินคำพูดของคุณแม่เผยแล้วสีหน้าเปลี่ยนเป็นอาฆาต เธอรู้สึกเหมือนเธอยื่นหน้าไปให้คนอื่นตบ หากเธอรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ เธอก็จะไม่ทำเรื่องที่ไร้สมองแบบนี้หรอก!

 

 

           ที่ห้องประชุมชั้นบนสุดของกลุ่มบริษัทกง

 

 

           “คุณเผย หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอย่างราบรื่นนะครับ” กงจวิ้นฉือยื่นมือพร้อมยิ้มเอ่ยกับเขา สายตาที่มองเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างมืออาชีพ ครั้งนี้เผยหนานเจวี๋ยตั้งใจมาเซ็นต์สัญญาที่บริษัทของกงจวิ้นฉือ เพราะการร่วมมือในครั้งนี้มีขนาดใหญ่ มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องคุยกันอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นพวกเขาจึงคุยกันถึงครึ่งค่อนวัน

 

 

           “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ” เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือกล่าวเย็นชา สายตากวาดมองฉู่เจียเสวียนที่ยิ้มน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา ในใจรู้สึกโมโห

 

 

           ความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ทำให้เขาอึดอัดเกินไปแล้ว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญของเธอเมื่อครู่ ในใจของเผยหนานเจวี๋ยยิ่งมองฉู่เจียเสวียนด้วยความชื่นชม

 

 

           “ประธานกงคะ คุณมีสายด่วนค่ะ” มีเสียงดังขึ้นที่หน้าห้องประชุม เลขายืนเอ่ยอยู่ข้างหน้า

 

 

           กงจวิ้นฉือพยักหน้า จากนั้นก็พูด “คุณเผยครับ เจียเสวียน ผมขอตัวสักครู่” พูดจบก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากออฟฟิศ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูแผ่นหลังของกงจวิ้นฉือที่จากไปไกล เอื้อมมือจัดเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ ในเมื่อตอนนี้คุยงานเสร็จแล้ว สัญญาก็เซ็นต์แล้ว ไม่จัดเก็บเอกสารเพื่อจากไปแล้วจะให้ทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ เธอไม่คิดว่าเธอกับเขามีอะไรที่น่าคุย

 

 

           เมื่อเห็นใบหน้าที่เฉยเมยของฉู่เจียเสวียน จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกไม่พอใจมาก เธอมีเสน่ห์มากจริงๆ และน่าดึงดูดมากด้วย

 

 

           “เจียเสวียน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยกะทันหัน มองฉู่เจียเสวียน เรียกเบาๆ

 

 

           “คุณเผย พวกเราไม่ได้สนิทกัน คุณเรียกชื่อเต็มของฉันจะดีกว่า” ฉู่เจียเสวียนตอบทันทีโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ใช่ว่าเขาอยากเรียก ‘เจียเสวียน’ ก็เรียกได้สักหน่อย

 

 

           บางทีอาจเพราะคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะพูดแบบนี้ สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนทันที เธอไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเขาถึงเพียงนี้เชียวเหรอ ก้าวขายาวๆ ไปหาฉู่เจียเสวียน คว้ามือของฉู่เจียเสวียนไว้

 

 

           ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่พอใจ “คุณเผยคะ รบกวนคุณให้เกียรติกันหน่อย!”

 

 

           “ให้เกียรติ? ฉู่เจียเสวียนคุณบอกให้ผมให้เกียรติ? หรือว่าคุณลืมไปแล้วว่าอดีตของพวกเรามันเป็นยังไง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเย็นชา ทั้งๆ ที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา แต่ว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องการเข้าใกล้เธอ

 

 

           ทั้งๆ ที่รู้แล้วควรอยู่ให้ห่างจากเธอ แต่ว่าทุกครั้งที่ไม่เจอเธอ สมองของเขาก็คิดถึงเธออย่างควบคุมไม่ได้

 

 

           “ปล่อยนะ!” มือของฉู่เจียเสวียนที่ถูกเผยหนานเจวี๋ยคว้าไว้นั้นรู้สึกเจ็บ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

 

 

           “ผมไม่ปล่อย!”

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย คุณคิดจะทำอะไร” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากไม่พอใจ คิ้วขมวดกัน มองเผยหนานเจวี๋ยที่มีสีหน้ามืดมน หัวใจดำดิ่งลงไม่หยุด

 

 

           “ทำไม่ล่ะ เห็นผมก็ไม่พอใจขนาดนี้เลยเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความหดหู่เล็กน้อย สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีความเจ็บปวด แต่ว่าเขาปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้เป็นอย่างดี

 

 

           คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนอึ้งไป ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงพูดแบบนี้

 

 

           “คุณเป็นบ้าหรือไง! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ที่นี่คือบริษัทกง ไม่ใช่บริษัทเผยของคุณ!” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเยือกเย็น มองเขาอย่างเฉยเมย ในแววตานั้นมีความรังเกียจจางๆ

 

 

           “คุณบอกมาสิว่าทำไมเวลาที่คุณมองกงจวิ้นฉือถึงได้อ่อนโยนขนาดนั้น แต่เวลาที่มองผมต้องทำหน้าขมึงทึงเหมือนกับว่าผมติดค้างคุณหลายล้านด้วย?” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยไม่พอใจ