ตอนที่ 367

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 367: จัดการ

 

“พี่ชาย เจ้าคือจักรพรรดิเริ่น!? ไม่ใช่สิ จักรพรรดิเริ่นตายไปแล้ว เจ้าไม่มีทางเป็นจักรพรรดิเริ่นไปได้ จริงๆ แล้วเจ้าเป็นใครกันแน่!?”

 

คนชุดดำมองมาที่เขาพร้อมกับสำรวจขึ้นๆ ลงๆ แม้จะสัมผัสกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้บางส่วน แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดไหน ระดับของเขานั้นไม่อ่อนแอ เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 6 แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอี้เทียนหยุน เขากลับรู้สึกหวาดกลัว

 

แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะยังไม่ได้ลงมือกับเขา แต่ก็ทำให้ในใจเข้าสั่นสะท้านได้อย่างง่ายดาย ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับอสูรร้าย อสูรร้ายที่กำลังจะขย้ำเข้าใส่เขา

 

รออยู่สักพักก็ไม่มีคำตอบ แต่เป็นกำปั้นของอี้เทียนหยุนที่ถูกส่งออกมาแทน ตัวเขากระพริบวาบ อึดใจต่อมา คนชุดดำอีกคนก็ถูกซัดปลิวกระเด็นอัดเข้ากับกำแพง ไร้ซึ่งลมหายใจเหมือนกับคนถือแส้กำราบมังกรเมื่อก่อนหน้า

 

เริ่นจื่อโหรวที่ถูกอี้เทียนหยุนช่วยให้เป็นอิสระก็ได้ถูกท่าทางที่อหังการของเขาทำให้สั่นสะท้าน ชายคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ เธอไม่เคยพบเขามาก่อน แต่กลับบอกว่าเป็นพี่ชายของเธอ นี่ทำให้เธอรู้สึกงุนงงอย่างมาก

 

ในขณะที่กำลังสับสนอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ได้พุ่งเข้าไป พร้อมกับเล็งกำปั้นเข้าใส่ผู้นำของคนชุดดำ

 

“ถอนตัวด่วน ถอนกำลังเดี๋ยวนี้!”

 

เมื่อคนชุดดำเห็นอี้เทียนหยุนพุ่งเข้ามา ก็รีบหมุนตัววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ควันสีดำที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้า กลายเป็นหมอกอำพรางเพื่อช่วยให้พวกเขาหลบหนี ทำให้พวกเขาหนีเข้าไปในหมอกหนาอย่างรวดเร็ว

 

“มาแล้วอย่าหวังว่าจะกลับไปได้!”

 

ยังไงก็ตาม นี่ก็สายเกินไปแล้ว อี้เทียนหยุนได้ยื่นมือเข้าไป พร้อมกับดึงร่างคนชุดดำจนเท้าลอยหวือขึ้นจากพื้น ก่อนที่เขาจะยกเท้าถีบเข้าที่ตันเถียนของอีกฝ่ายอย่างแรง

 

“ปัง!”

 

คนชุดดำร้องออกมา จากนั้นก็กระเด็นขึ้นไป ก่อนที่จะตกลงด้านข้างเริ่นจื่อโหรว พร้อมกับเอามือกุมท้อง สีหน้าซีดราวกับคนกำลังจะตาย “เจ้า เจ้าทำลายตันเถียนของข้า เจ้าทำลายพลังฝึกตนของข้า……”

 

ผู้เชี่ยวชาระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 6 เป็นราวกับไก่ ถูกบดขยี้อย่างง่ายดาย ทั้งระดับพลังของเขายังถูกทำลายทิ้งโดยที่อีกฝ่ายไม่ลำบาก ขนาดขุนพลมังกรที่แข็งแกร่งกว่ายังถูกเขาบดขยี้ อย่าว่าแต่คนชุดดำคนนี้เลย

 

จากนั้น คนชุดดำที่เหลือก็ถูกเขาลากออกมา พร้อมกับเตะเข้าใส่อย่างแรง จนไร้ซึ่งลมหายใจ

 

“ติ๊ง ท่านสังหารมือสังหารสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 260,000, ค่าความคลั่ง 3,300, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชา ท่าเท้าเงา, ประกายเงา, ได้รับไอเทม มีดสั้นเงา, แส้กำราบมังกร, พิษสังหารมังกร”

 

“ติ๊ง ท่านสังหารมือสังหารสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 270,000….”

 

หลังจากสังหารเหล่ามือสังหาร เสียงระบบก็ดังขึ้นมา ทำให้เขาถึงกลับจ้องมองอย่างตกใจ ท่าเท้าเงานี้เหมือนกับที่ผู้คุ้มกันเงาของอาณาจักรใต้พิภพใช้เลย หรือว่าวิชานี้จะเป็นวิชาพื้นฐานของพวกมือสังหาร?

 

ยังไงก็ตาม เขาก็ยังไม่หยุดมือ ยังคงลากคนชุดดำที่หนีไปออกมาสังหารต่อ นอกจากตัวหัวหน้าแล้ว คนอื่นล้วนแต่ถูกหมัด ไม่ก็เท้าของเขาบดขยี้อย่างไร้ปรานี

 

แค่เหลือคนที่แข็งแกร่งไว้คนเดียวก็พอ ส่วนคนอื่นก็แค่ลูกกระจ๊อกเท่านั้น เค้นไปก็ไม่ได้อะไร ฐานะของพวกมันนั้นต่ำ ต่อให้ทรมานไปก็ไม่ได้ข้อมูลที่คุ้มค่าจากปากพวกมัน

 

พริบตา พวกที่เหลือก็ถูกเขาจัดการอย่างง่ายดาย จากนั้นอี้เทียนหยุนเดินมายังเบื้องหน้าตัวหัวหน้ามือสังหาร พร้อมกับดึงผ้าปิดหน้าของอีกฝ่ายลง เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย

 

“ขุนพลหวัง ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้า!” เมื่อเริ่นจื่อโหรวเห็นใบหน้าของชายกลางคนๆ นี้ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

 

“ใช่แล้ว ข้าเอง” ขุนพลหวังเผยรอยยิ้มแสยะออกมา “ไม่คิดว่าจะมีผู้ช่วยอย่างนี้อยู่ด้วย เป็นพวกเราที่ประมาทเกินไป องค์หญิง ขอให้เจ้าจงส่งสมบัติลับมังกรสวรรค์ออกมาแต่โดยดีเถอะ จากนั้นก็จงหนีไปจากที่นี่ซะ อย่าได้หวังที่จะนั่งในตำแหน่งจักรพรรดินี้อีก ไม่อย่างนั้น สิ่งสุดท้ายที่เจ้าจะได้พบก็คือความตาย!”

 

“ความตายอย่างงั้นเหรอ?” เริ่นจื่อโหรวยิ้มเยาะ “การตายของพี่ชายข้าคงเป็นเพราะเหตุผลเดียวกันนี้ด้วยสินะ? เพียงเพื่อหวังบัลลังก์จนต้องกระทำถึงจุดนี้ ต่อให้ข้าจะอ่อนแอ และสุดท้ายต้องพบกับความตาย แต่ข้าก็ต้องเอาเจ้าไปด้วยให้ได้!”

 

นี่เป็นสิ่งที่เธอคาดเดา และความจริงก็เป็นอย่างนี้ คนลงมือเป็นใครนั้นไม่รู้ แต่รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับอัครเสนาบดีหลงอย่างแน่นอน อัครเสนาบดีหลงเป็นผู้ที่ทำให้อาณาจักรตกต่ำลง ทำให้ราชวงศ์ต้องถูกดูถูก เพราะตอนที่จักรพรรดิเริ่นยังมีชีวิตอยู่ อาณาจักรเทียนหลงนั้นรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นตกต่ำ ทั้งยังถูกอาณาจักรใต้พิภพเข้าโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแทบจะไม่สามารถต่อต้านได้

 

“ฮ่าๆ เจ้าไม่สามารถสู้อัครเสนาบดีหลงได้หรอก……”

 

ขุนพลหวังหัวเราะ พร้อมๆ กับประกายสีเงิน แทงเข้าใส่หน้าอกของเขาอย่างแรง ทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง จ้องมาที่เธอด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

“สู้ได้ไม่ได้เป็นเรื่องหลังจากนี้ แต่ตอนนี้เจ้าคงต้องไปก่อน ลงไปขอโทษพี่ชายข้าในนรกซะ!” เริ่นจื่อโหรวจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างเผ็ดร้อน

 

“เจ้า…..” ขุนพลหวังเบิกตาโพลง จากนั้นก็คอพับ ไร้ซึ่งลมหายใจ

 

“ติ๊ง ท่านสังหารขุนพลหวังสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 390,000, ได้รับค่าความคลั่ง 4,600, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชา ท่าเท้าเงา, ฝ่ามือคลื่นเมฆา, แส้ไร้เงา, ได้รับไอเทม แส้กำราบมังกร, พิษสังหารมังกร”

 

แม้คนที่สังหารขุนพลหวังจะเป็นเริ่นจื่อโหรว แต่ว่าเขาก็ยังได้รับค่าประสบการณ์อยู่ดี

 

หลังจากนั้น เหล่าผู้คุ้มกันก็ได้โถมเข้ามาจากด้านนอก เพราะได้ยินเสียงต่อสู้จากที่นี่ ที่นี่ไม่มีหมอกดำเหลืออยู่แล้ว ทำให้พลังที่เกิดจากการต่อสู้ส่งออกไปด้านนอก ทำให้เหล่าผู้คุ้มกันรู้สึกตัว แต่ว่าคนร้ายได้ตายแล้ว แม้พวกเขาจะเข้ามา แต่ก็สายเกินไป

 

“คุ้มกันองค์หญิง!”

 

เหล่าผู้คุ้มกันพากันล้อมเข้ามา พร้อมกับมองไปที่อี้เทียนหยุนอย่างประสงค์ร้าย ขณะที่ถือหอกเล็งมาที่เขา

 

“องค์หญิง ท่านไม่เป็นไรนะพะยะค่ะ?” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งถามขึ้น

 

“ข้าไม่เป็นไร ลดอาวุธในมือเจ้าลงซะ เขาไม่ใช่มือสังหาร มือสังหารทั้งหมดถูกจัดการแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือของผู้ช่วยเหลือคนนี้” เริ่นจื่อโหรวพูดอย่างไม่ใส่ใจ “จัดการศพพวกนี้ด้วย ส่วนขุนพลหวังนั้น เอาศพเขาไปแขวนไว้ที่นอกประตูเมือง พร้อมทั้งประกาศให้ภายนอกรับรู้ ว่าเขาเป็นคนที่คิดสังหารข้า แต่กลับถูกข้าสังหารแทน!”

 

“เป็นขุนพลหวัง…..” พวกเขาพากันสูดลมหายใจเฮือก หลังจากเห็นชัดๆ ที่แท้มือสังหารก็คือขุนพลหวังนี่เอง

 

จากนั้น พวกเขาก็ทำการเก็บกวาดศพ แต่ว่าผู้คุ้มกันหลายคนก็ยังไม่ไปไหน ทำหน้าที่คุ้มกันอยู่ใกล้ๆ

 

“พวกเจ้ากลับไปซะ ที่นี่ไม่มีเรื่องให้พวกเจ้าจัดการ” เริ่นจื่อโหรวโบกมือ บอกให้พวกเขากลับไป

 

“พะยะค่ะ องค์หญิง!” พวกเขามองไปที่อี้เทียนหยุนคราหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไร จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากทุกคนออกไปหมดแล้ว ร่างของเริ่นจื่อโหรวก็ซวนเซ แต่ก็ถูกอี้เทียนหยุนที่อยู่ข้างๆ ประคองไว้ “เจ้าไม่เป็นไรนะ? ก่อนหน้านี้ที่โดนพิษ ดูเหมือนว่ามันจะซึมเข้าไปในร่างเจ้าแล้ว”

 

“ข้าไม่เป็นไร” เริ่นจื่อโหรวไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่สะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเขา ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ยอมให้เขาประคองเธอไว้ จากนั้นก็เงยหน้ามองเขา แล้วถามเขาว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงได้เลือกที่จะช่วยข้า?”

 

“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเรียกข้าว่าพี่อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนยิ้มให้เธอ จากนั้นก็ถอดหน้ากากออก เผยใบหน้าที่แท้จริงให้เธอได้ดู

 

“พี่!” หลังจากเริ่นจื่อโหรวเห็นหน้าเขาชัดๆ ก็พลันตกใจออกมา แต่เหมือนว่าพิษจะซึมลึกเข้าไปในร่าง ทำให้ร่างกายของเธอสั่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

อี้เทียนหยุนประคองเธอไว้ จากนั้นก็พูดว่า “ไม่ต้องฝืนอีกต่อไปแล้ว ข้าจะพาเจ้าเข้าไปถอนพิษ”

 

“อืม….” เริ่นจื่อโหรวก็ไม่ทำเป็นฝืนอีก เชื่อใจเขาโดยสมบูรณ์