ตอนที่ 305
ยานอนหลับ
“มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วย”หลังจากเพิร์ลเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนไป๋จูเหวินความจำเสื่อให้อู๋หมิงฟัง ทั้งท้องพระโรงก็มีท่าทีตกอกตกใจกันถ้วนหน้า ช่วงเวลาที่ไป๋จูเหวินหายไปหลังจบสงครามเหมาะเจาะกับเวลาที่เพิร์ลเล่ามาพอดี ทำให้อู๋หมิงค่อนข้างเชื่อถือทีเดียว
“ความจริงพวกเราเพียงจะเดินทางผ่านเมืองหลวงไปยังเมืองร้อยแปดอสูรเท่านั้นไม่คิดว่าจะโดนลากตัวมาที่นี่”เพิร์ลยิ้มเจื่อนๆพลางมองไปที่ประตูของห้องพระโรง พวกทหารไม่พูดไม่จาลากมันมาถึงนี่ตัวมันจะอธิบายก็ไม่มีใครฟัง
“เรื่องนั้น…เพราะข้าบอกให้พวกทหารพาไป๋จูเหวินมาทันทีที่มันมาถึง”อู๋หมิงตอบพลางยิ้มเช่นกัน ก็ใครจะไปคิดเล่าว่าเพิร์ลที่หน้าตาเหมือนไป๋จูเหวินอย่างกับแกะจะโผล่มา แถมทหารเฝ้าเมืองยังไม่มีพลังวิญญาณพอจะแยกแยะระดับพลังของไป๋จูเหวินกับเพิร์ลอีกต่างหาก
“ท่านพูดเหมือนไป๋จูเหวินไม่ได้อยู่ที่นี่?”เพิร์ลถามออกมาเพราะอู๋หมิงเหมือนจะบอกว่าไป๋จูเหวินยังไม่โผล่มาที่นี่เลย หากไป๋จูเหวินอยู่ที่เมืองร้อยแปดอสูรก็สมควรส่งทหารไปตามได้ง่ายๆ หรือมันกำลังออกเดินทาง?
“ถูกแล้ว ก่อนหน้านี้มีการโจมตีของพวกมาร ไป๋จูเหวินเสียพลังไปมากตอนนี้สมควรจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านเกิด”อู๋หมิงตอบเสียงเรียบ
“เช่นนั้นเอง มันอาการเป็นอย่างไรบ้าง”เพิร์ลถามด้วยท่าทีเป็นห่วง พวกน้าๆของไป๋จูเหวินช่วยเหลือมันมามาก พอรู้ว่าไป๋จูเหวินเกิดอันตรายมันก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“อย่ากังวล ไม่นานก็คงกลับมาเป็นปกติ แค่เพียงต้องพักผ่อนเท่านั้น”อู๋หมิงตอบพลางยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เห็นมันเป็นห่วงไป๋จูเหวินก่อนธุระของตนเองก็นับว่าคงเป็นสหายจริงๆไม่ได้แอบอ้าง
“แต่ท่านก็รอไป๋จูเหวินอยู่ ต้องการให้ทำเรื่องอะไรหรือ”เพิร์ลถามออกมาเพราะเหมือนพวกทหารจะรีบมากๆ
“เรื่องนั้น…ข้าเพียงต้องการให้มันปรุงยาให้สักหน่อย”อู๋หมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา ท่าทีของอู๋หมิงยามนี้ดูเหนื่อยอ่อนเล็กน้อยราวกับมีเรื่องลำบากใจ
“ยารักษาหรือขอรับ พวกเราก็เตรียมยามาไม่น้อย หากท่านต้องการ”เพิร์ลกำลังเสนอ แม้จะไม่ทราบว่ายารักษาของตนจะดีพอหรือไม่ แต่ยาของตนก็เป็นคนละสูตรกับที่นี่ บางทีอาจจะมียาที่อู๋หมิงต้องการก็ได้
“ข้าไม่ได้มองหายาที่ใช้รักษาร่างกาย แต่เป็นยาเพื่อรักษาจิตใจ”อู๋หมิงตอบพลางพิงกับพนักของบัลลังก์ ตั้งแต่จบพิธีศพของอาจารย์อู๋หมิงก็กังวลมาตลอด บางทีก็อยากได้ยาช่วยผ่อนคลายเหมือนกัน
“เช่นนั้นลองใช้ยานอนหลับดีหรือไม่เพคะ”รูบี้เสนอออกมาพลางเอาขวดยาออกมาจากแหวนมิติของตน ในมือของนางปรากฏขวดใสที่มีน้ำสีใสบรรจุเอาไว้
“ยาสลบ?”อู๋หมิงสะดุ้ง แต่ไม่เท่าเหล่าองครักษ์ที่อยู่รอบๆ พวกมันแทบจะชักอาวุธออกมาทันทีที่รูบี้นำขวดยาออกมา
“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ยาสลบ ถึงมันจะคล้ายๆก็เถอะ”เพิร์ลรีบยกมือห้ามพลางหันไปอธิบายกับคนคุ้มกันของตนที่เตรียมจะสู้เต็มที่
“แล้วเป็นยาอะไร”อู๋หมิงว่าพลางยกมือบอกให้องครักษ์เอาอาวุธลง
“มันเป็นยาที่ทำให้นอนหลับได้ง่ายขอรับ ไม่เหมือนยาสลบที่บังคับให้ร่างกายหลับทันที แต่มันจะช่วยทำให้ผู้ดื่มผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้นขอรับ”เพิร์ลอธิบาย ต่อให้กระดกยานี่หมดขวด แต่ถ้าฝืนก็ไม่หลับแต่อย่างไร เพียงแต่จะมีอาการง่วงเท่านั้น
“เช่นนั้นหรือ”อู๋หมิงยังคงมีท่าทีไม่เชื่อ อู๋หมิงเคยเจอแต่ยาสลบที่มีพิษต่อร่างกาย จะใช้ก็กลัวจะมีผลร้าย เลยอยากจะขอร้องให้ไป๋จูเหวินปรุงยาที่มีผลใกล้เคียงกันขึ้นมาแทน แต่ไม่คิดว่ารูบี้จะมียาชนิดนี้อยู่
“ขอรับ ข้าจะลองดื่มให้ท่านดูก็แล้วกัน”เพิร์ลว่าพลางเอายาจากรูบี้มาดื่มไปครึ่งขวด จริงๆยานี้รูบี้ต้องใช้เองเป็นประจำ อาจจะเพราะด้วยนิสัยชอบประดิษฐ์โน่นนี่อยู่ตลอดทำให้การนอนสำหรับรูบี้เป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่นางกลับไม่ค่อยมีพลังวิญญาณนักทำให้ร่างกายรับไม่ไหวเมื่อไม่ได้นอนเป็นเวลานานๆ สุดท้ายพ่อของรูบรี้ต้องจากหมอมาช่วยปรุงยาให้เป็นพิเศษจนได้ยาขวดนี้มา
“อย่างที่เห็นขอรับ มันไม่ได้ทำให้หลับทันที”เพิร์ลว่าพลางคืนขวดให้กับรูบี้ การที่มันดื่มลงไปแบบนี้ก็เพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่ามันไม่ได้มีผลร้ายกับร่างกาย
“ขอโทษด้วยที่สงสัยพวกเจ้า…”อู๋หมิงว่าพลางมองขวดนาในมือของรูบี้นิ่ง เพิร์ลตอนนี้แม้ยังไม่หลับแต่ก็ตาปรืออย่างเห็นได้ชัด แถมหลังจากนั้นมันยังหาวออกมานิดหน่อยด้วย
“ข้าขอแบ่งยาจากพวกเจ้าได้หรือไม่”อู๋หมิงถามพลางลุกขึ้นมาหาพวกเพิร์ล ในเมื่อไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินจะกลับมาเมื่อไหร่ ก็คงต้องขอแบ่งยาจากพวกเพิร์ลไปก่อน
“ดะ ได้เพคะ แต่พวกเรามีเงื่อนไข”รูบี้ว่าพลางนำยาออกมาอีกหลายขวด
“เงื่อนไข”อู๋หมิงเลิกคิ้ว แน่นอนมันไม่อยากรับของๆใครมาฟรีอยู่แล้ว
“กระหม่อมอยากจะปรึกษากับองค์ราชาเพคะ พวกกระหม่อมมีความคิดจะนำสินค้ามาขายยังแผ่นดินของพระองค์ หากท่านยินดีรับฟังยาพวกนี้ก็เป็นของพระองค์”รูบี้ว่าพลางจ้องมองอู๋หมิงอย่างกังวล
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา พวกเราไม่คิดจะกีดกันเพื่อนบ้านอยู่แล้ว แน่นอนว่าข้าเองก็อยากให้คนของเราสามารถเข้าไปค้าขายที่อาณาจักรของเจ้าด้วย”อู๋หมิงถามพลางมองรูบี้ด้วยท่าทีเป็นมิตร
“แน่นอนเพคะ หม่อมฉันเป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองริมชายฝั่งอยู่แล้ว เมืองของเรายินดีต้อนรับคนของอาณาจักรพระองค์เพคะ”รูบี้ตอบด้วยท่าทีอ่อนน้อม ก่อนจะยื่นยาที่อู๋หมิงต้องการให้
“ท่าทางสหายเจ้าจะไม่ไหวแล้ว พวกเจ้ามาหาไป๋จูเหวินไม่ใช่หรือ พักอยู่ที่นี่ไปก่อนระหว่างรอก็แล้วกัน”อู๋หมิงตอบพลางยิ้มบางๆ ทำให้รูยี้หันไปมองเพิร์ลที่อยู่ช้างๆ เมื่อครู่มันกระดกยาไปครึ่งขวด มากกว่าปริมาณปกติเป็นสิบเท่า ท่าทางมันจะเริ่มง่วงแล้วจริงๆ
“ขอบพระทัยเพคะ”รูบี้ตอบด้วยท่าทีนอบน้อม เท่านี้ข้ออ้างที่ตนใช้เพื่อเดินทางมาที่แผ่นดินผืนนี้ก็ลุล่วง หลังจากนี้ก็จะได้สำรวจอย่างที่ใจหวังแล้ว
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”อู๋หมิงว่าพลางสั่งให้สาวใช้พาพวกเพิร์ลไปยังเรือนรับรอง ส่วนตนนั้นเก็บยาเข้ามิติของตนแล้วสั่งเลิกประชุมในทันที
“ทุกท่าน วันหลังค่อยมาหารือกันใหม่ เทียนเหวิน เจ้าไปแจ้งเรื่องแขกของเรากับเมืองร้อยแปดอสูร”อู๋หมิงพูดจบก็เดินหันหลังจากไป แน่นอนว่าอู๋เทียนเหวินเองก็เข้าใจดีว่าอู๋หมิงจะทำอะไร
กึก….อู๋หมิงเดินกลับมาที่วังส่วนของตนพลางเปิดประตูไม้ออกอย่างช้าๆ แต่เดิมส่วนพักของอู๋หมิงมีห้องมากมายเพื่อเตรียมเอาไว้รับรองมเหสีหรือนางกำนัลที่อู๋หมิงถูกใจ แต่ตอนนี้กลับมีห้องเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่มีคนใช้ แถมนางยังไม่ได้เป็นทั้งมเหสีหรือแม้กระทั่งนางกำนัล
เคร๊ง!!! อู๋หมิงเรียกกระบี่ทัณฑ์สวรรค์ออกมารับการโจมตีจากดาบราชันศาสตราที่พุ่งตรงมาอย่างหนักหน่วง แน่นอนว่าคนที่ถือดาบราชันศาสตราย่อมเป็นหยันฟางสหายของอู๋หมิงนั่นเอง เพียงแต่สภาพของนางยามนี้กลับดูไม่เหมือนหยุนฟางคนเดิม
เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! ดาบราชันศาสตรายามนี้ฟาดออกมาอย่างดุดันแต่กลับไร้คลื่นดาบที่หยุนฟางมักใช้ประจำ แต่ถึงจะรุนแรงขนาดไหน ตัวหยุนฟางที่พลังอ่อนกว่าอู๋หมิงหลายขั้นก็ไม่มีทางทำให้อู๋หมิงเสีหลักได้แต่น้อย
เปรี้ยง!! ดาบราชันศาสตรากระแทกกระบี่ของอู๋หมิงจนกระบี่ทัณฑ์สวรรค์สั่นสะเทือน กระบวนท่าของหยุนฟางยามนี้รุนแรงน่าหวาดกลัวอย่างกับคนเสียสติ หรือนางจะธาตุไฟเข้าแทรกกัน?
ตูมมม!! ดาบราชันศาสตรายังโถมโจมตีอู๋หมิงไม่หยุด นี่ไม่เหมือนการประลองวัดฝีมือแต่อย่างไร มันเหมือนกับหยุนฟางกำลังอาลาวาดเสียมากกว่า
“เจ้ายังไม่พักอีกงั้นหรือ”อู๋หมิงถามพลางมองดาบราชันศาสตราที่พยายามกดกระบี่ทัณฑ์สวรรค์เอาไว้
“…..”หยุนฟางไม่ได้ตอบ นางเพียงยกดาบราชันศาสตราออกก่อนจะเริ่มโจมตีอู๋หมิงต่อด้วยกระบวนท่าหนักหน่วงเช่นเดิม แม้เสียงสะท้อนจะแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงในการปะทะ แต่สิ่งที่สะท้อนผ่านกระบี่ของอู๋หมิงมานั้นกลับมีเพียงความเศร้า
เคร๊ง! อู๋หมิงรับดาบของหยุนฟางเอาไว้พลางปล่อยให้นางฟาดฟันต่อไป นางไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายมัน เพียงแต่หาเป้าหมายในการระบายอารมณ์ที่อัดอั้นของนางต่างหาก ในการต่อสู้กับเหล่ามาร หยุนฟางเสียอาจารย์ของตนไปเช่นเดียวกับอู๋หมิง แต่นางอาการหนักกว่ามาก นางไม่เหมือนอู๋หมิงที่มีอาณาจักรต้องดูแล มีพี่น้อง มีครอบครัว นางมีเพียงอาจารย์คนเดียวเท่านั้นที่เปรียบเสมือนพ่อแท้ๆ นางในตอนนี้ไม่สามารจัดการอารมณ์ตนเองได้เลย
เปรี้ยง!! ดาบราชันศาสตราฟาดลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ดาบราชันศาสตรากลับหลุดมือเสียอย่างนั้น ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่ามือของหยุนฟางเต็มไปด้วยเลือดที่เกิดจากการเหวี่ยงดาบติดต่อกันยาวนานหลายวันนั่นเอง
“ฮึก…”หยุนฟางร้องไห้ออกมาก่อนจะซบลงบนอกของอู๋หมิง ตั้งแต่นางเสียอาจารย์ไป นางก็เอาแต่ฟาดดาบกับร้องไห้ ไม่ได้กิน ไม่ได้นอนมาหลายวันจนอู๋หมิงเป็นห่วงอย่างมาก
หมับ..อู๋หมิงกอดร่างของหยุนฟางเอาไว้แน่น ตอนนี้รู้สึกว่าหญิงสาวผู้แข็งแกร่งนางนี้กลับเปราะบางเสียเหลือเกิน ราวกับจะแตกสลายลงไปง่ายๆ
กึก…อู๋หมิงนำขวดยาที่ได้จากรูบี้ออกมาพลางนำมันจ่อไปที่ปากของหยุนฟาง นางไม่ได้มีท่าทีตอบโต้แต่อย่างไร ทำให้อู๋หมิงสามารถป้อนยาให้นางได้อย่างง่ายดาย
“….”อาจจะเพราะร่างกายเหนื่อยล้ามาหลายวันทำให้หยุนฟางแทบจะหลับไปทันทีที่ดื่มยาเข้าไป อู๋หมิงเองก็ได้แต่ถอนหายใจอุ้มร่างของนางไปยังห้องพักที่นางยังไม่แม้แต่จะเข้าไป
“ไม่ต้องห่วง”อู๋หมิงว่าพลางพาหยุนฟางมานอนที่เตียง ร่างกายของนางตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อคงต้องให้สาวใช้มาเช็ดตัวให้กระมัง…
อู๋หมิงเห็นขอบตาของหยุนฟางยังมีน้ำตาอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจพลางนำผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาให้นาง อู๋หมิงเองก็เสียอาจารย์ที่เปรียบได้ดั่งญาติผู้ใหญ่ไปเช่นกัน เข้าใจหัวอกหยุนฟางดี แต่มันร้องไห้ไม่ได้ เพราะมันยังมีอาณาจักรอยู่บนแผ่นหลัง ยามเห็นหยุนฟางร้องไห้ไม่หยุด มันกลับแอบรู้สึกขอบคุณนางเพราะมันเหมือนได้นางช่วยร้องไห้แทน
“เจ้ายังมีข้าอยู่ทั้งคง ไม่เป็นไรหรอก”อู๋หมิงว่าพลางเลื่อนมือไปกุมมือของหยุนฟางเอาไว้