ตอนที่ 303

The Strongest Hokage

“เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?!”

เมื่อ ไก เห็นว่าเขาพุ่งทะลุผ่านร่างของ ไนโตะ ไป ทำให้เขาต้องหันกลับมามอง ไนโตะ ด้วยดวงตาที่แสดงถึงความตกใจเป็นอย่างมาก

ภาพลวงตางั้นเหรอ?!

ได ที่กำลังมองดูการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ก็ดูจะตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เขาได้แต่ทำสีหน้าตกใจเมื่อมองไปที่ ไนโตะ

“ไก ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา ไม่อย่างนั้น ลูกจะไม่มีวันแสดงความแข็งแกร่งของลูกให้ ไนโตะ เห็นได้”

หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ได ก็พูดกับ ไก ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ไก ที่ยังไม่ได้ใช้วิชากระบวนท่าเปิดประตูด่านพลัง ไม่สามารถมองการกระทำของ ไนโตะ ออกได้ แต่ในทางกลับกัน ระดับความแข็งแกร่งของ ได ก็มากพอที่จะทำให้เขาเข้าใจและมองเห็นในสิ่งที่ ไนโตะ ทำ

ช่วงเวลาที่ลูกเตะของ ไก กำลังจะปะทะกับร่างของ ไนโตะ เพียงไม่ถึงเสี่ยววินาที ไนโตะ ก็ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปอีกที่หนึ่งแล้วกลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว จนเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ขยับไปไหน

อย่างไรก็ตาม ความเร็วของ ไนโตะ ก็เร็วมากจนเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นว่าเขาเคลื่อนไหว!

“ครับ!”

ในตอนนี้ สีหน้าของ ไก เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม เขากำหมัดของเขา จากนั้นเขาก็ขยับมือไปข้างหน้าหน้าผากและตะโกนออกมา

“ประตูที่ 1 ไคมง เปิด! , ประตูที่ 2 คิวมง เปิด! , ประตูที่ 3 เซมง เปิด!”

ไก ก็ทำการเปิดประตู 3 บานแรกของวิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 อย่างไม่ลังเล และทันใดนั้น ออร่าสีเขียวที่รุนแรงก็พุ่งออกมาจากร่างของเขา

ฟู้ม!!

ในช่วงเวลานั้น ความเร็วของ ไก ก็เพิ่มขึ้นอย่างกับเป็นคนละคน นินจาระดับ จูนิน จะไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ เว้นแต่ว่า จูนิน เหล่านั้นจะมี เนตรสีขวา หรือ เนตรวงแหวน!

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อ ไก พยายามที่จะต่อยหมัดความเร็วสูงใส่ ไนโตะ แต่เขาก็ต่อยไม่โดนอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า!

“อะไรกัน?!”

คราวนี้ ไก ดูตกใจมากกว่าเดิม ในการโจมตีครั้งก่อน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 3 แม้ว่าเขาจะแทบไม่เห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว ไนโตะ ได้หลบการโจมตีของเขาไปด้านข้างและกลับมาที่จุดเดิมทันทีนั้นเอง

มันไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วในระดับที่ไม่น่าเชื่อ!

ไก อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจกับความเร็วในระดับนี้ แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่สามารถเทียบได้ต่อให้พ่อของเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ก็ตาม!

“ประตูที่ 4 โชมง ประตูแห่งความเจ็บปวด เปิด!”

ด้วยความขมขื่นที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของ ไก เขาจึงเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ทันที และนี้คือขีดจำกัดของเขา

ฟึ้ม! ฟึ้ม!!

ในขณะที่ประตูด่านพลังบานที่ 4 ถูกเปิดออก ไก ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ไนโตะ เขาไม่ได้คิดถึงการเอาชนะ ไนโตะ อีกต่อไป ตอนนี้เขาหวังเพียงแค่ว่าเขาจะได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาให้ ไนโตะ ได้เห็น

ทันใดนั้น ไก ก็พุ่งเข้าหา ไนโตะ จากทางด้านหลัง และเหวี่ยงหมัดออกไป

ปั้ง!!

คราวนี้ การโจมตีของ ไก ก็ถูกเป้าหมายในที่สุด แต่มันไม่ใช่หลังของ ไนโตะ แต่เป็นฝ่ามือของเขาแทน

เมื่อ ไก เห็นว่า ไนโตะ หันหน้ามารับหมัดเขาไว้ เขาก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะเขามองไม่เห็นว่า ไนโตะ หันกลับมาเมื่อไร

“ห่างชั้น…เกิดไป!”

ร่างกายของ ไก เต็มไปด้วยออร่าแสงสีเขียวจนไม่สามารถมองเห็นม่านตาของเขาได้อีกต่อไป

การโจมตีด้วยความเร็วเต็มที่ของเขา ถูก ไนโตะ ป้องกันได้อย่างง่ายดาย

“โอเค เราพอแค่นี้กันเถอะ”

ไนโตะ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของ ไก แล้วปั้นป่วนการไหลของจักระของ ไก ทันใดนั้นพลังที่ประทุอย่างรุนแรงของ ไก ก็หายออกไปจากร่างกายของ ไก ในทันที

ไก ที่กลับไปสู่สภาวะปกติของเขาแล้วดูเหนื่อยมาก อย่างไรก็ตามเพราะเขาถูกสกัดจักระโดย ไนโตะ ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจากการใช้กระบวนท่า แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขาก็ถูกใช้งานอย่างหนักและกล้ามเนื้อของเขาเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก

“เส้นทางชีวิตของเธอยังอีกยาวไกล อย่ายอมแพ้มัน จงฝึกหนักต่อไปและสักวันหนึ่งเธอจะเอาชนะฉันได้แน่นอน” ไนโตะ พยักหน้าให้ ไก

สิ่งที่ ไนโตะ พูด ไนโตะ ไม่ได้โกหก เพราะในการ์ตูน ไก เกือบจะสามารถสังหาร มาดาระ ได้ในขณะที่ มาดาระ อยู่ในร่างที่แข็งแกร่งที่สุด นั้นก็คือในขณะที่เขาอยู่ในฐานะ พลังสถิตร่าง ของ 10 หาง ซึ่งแข็งแกร่งกว่า ไนโตะ ในตอนนี้

ในตอนนี้ ไนโตะ ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ฮาชิรามะ เล็กน้อย และเมื่อเทียบกับ ฮาโกโรโมะ แล้ว ไนโตะ ก็ยิ่งห่างชั้นเข้าไปใหญ่ เขาจะไม่สามารถข้ามระดับของ ฮาชิรามะ ไปได้และไม่ต้องพูดถึง ฮาโกโรเมะ เว้นแต่ว่าเขาจะเปิดประตูด่านพลังบานถัดไป

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็เชื่อในเส้นทางของเขา เชื่อในขีดจำกัดสายเลือดของเขา และเชื่อว่า วิชากระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ จะพาเขาไปยังจุดสูงสุดที่แท้จริงของโลกใบนี้ได้!

…………

ค่ายของ โคโนฮะ

กำลังใจของกองทัพอยู่ในจุดสูงสุดเพราะการมาถึงของ ไนโตะ นินจาโคโนฮะ จำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้ต่อสู้กับ สัตว์หาง และพ่ายแพ้กลับมา เมื่อเห็น ไนโตะ พวกเขาก็มีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็น ไนโตะ มาอยู่ในแนวหน้าของสนามรบ

อย่างไรก็ตาม นินจาที่อายุน้อยบางคนก็ดูเหมือนจะมีข้อกังขาบางอย่าง แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ ไนโตะ และเหล่าคาเงะ  แต่พวกเขาก็ยังเชื่อว่าถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงแค่มนุษย์ และพลังของพวกเขาก็ไม่มีทางเทียบกับพวกสัตว์ประหลาดได้!

เพราะทุกครั้งที่การต่อสู้เริ่มขึ้น แทบจะไม่มีนินจาโคโนฮะในสนามรบคนไหนเลยที่จะสามารถทำอะไร 3 หาง ได้

นอกเหนือจากสัตว์ร้ายตัวนี้แล้ว หมู่บ้านคิริ ก็ยังได้ส่ง กลุ่ม 7 ดาบนินจาแห่งคิริ ลงสู่สนามรบด้วย

พวกเขาแต่ละคนแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่า โจนินระดับสูง และเมื่อพวกเขาใช้ดาบในตำนานของตนเอง พลังของพวกเขาจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับ คาเงะ เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในพวกเขาก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่สามารถใช้ดาบได้ทั้ง 7 เล่ม เขาคนนั้นก็คือ พี่ชายของ โฮซึกิ ซุยเงสึ , อัจฉริยะแห่งคิริ , อสูรกายกลับชาติมาเกิดตัวที่ 2 , โฮซึกิ มันเงสึ!

แค่ โฮซึกิ มันเงสึ เพียงคนเดียวก็สามารถจัดการกับนินจาระดับ คาเงะ ได้แล้ว!

ดันโซ ซึ่งเป็นผู้นำ หน่วยราก ได้สั่งการให้ทีมหน่วยรากลงสู่สนามรบและพยายามที่จะทำให้ กลุ่ม 7 ดาบนินจาแห่งคิริ ล่าถอยไป แต่อย่างไรก็ตามเพราะเขาไม่ได้ลงสู่สนามรบด้วย ดังนั้นหน่วยรากของเขาจึงพ่ายแพ้กลับมา

เรื่องนี้ทำให้ ดันโซ อับอาย จนแม้หลังจากที่ ไนโตะ มาที่ค่าย ดันโซ ก็ยังยังคงซ่อนตัวอยู่ในความมืด

การใช้หมากตัวสำคัญเหล่านี้ของ หมู่บ้านคิริ และการทำผิดพลาดของ ดันโซ จึงทำให้ในสนามรบ ทางด้านของ โคโนฮะ ต้องตกอยู่ในความเสียเปรียบอย่างสมบูรณ์

เหล่านินจาที่ยังมีข้อสงสัย พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากกัดฟันแน่นและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากภาวนาให้ ไนโตะ สามารถเอาชนะ 3 หาง และ กลุ่ม 7 ดาบนินจาในแห่งคิริ ได้  เขาเป็นความหวังสุดท้ายของ โคโนฮะ ที่จะเอาชนะการต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ได้ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ของ โคโนฮะ

……….

แสงอาทิตย์สาดส่อง พระอาทิตย์ขึ้น แสดงให้เห็นว่าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

กลุ่ม 7 ดาบนินจาในแห่งคิริ ยืนอยู่ที่แนวหน้าของ กองทัพคิริ

ทางด้านหลัง พลังสถิตร่าง ของ 3 หาง ยืนอยู่โดยมี ทีมนินจาคิริ ล้อมรอบอยู่ เขาเป็น พลังสถิตร่าง คนเดียวที่เคยปรากฏตัวในการ์ตูน

3 หาง ไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไร อาจกล่าวได้ว่าเขาอ่อนแอที่สุดในหมู่ สัตว์หาง ในการ์ตูน เขาถูก แสงอุษา จับได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อเขาออกจากทะเล เขาก็หมดพลัง

แต่อาจเป็นเพราะความอ่อนแอของ 3 หาง ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะควบคุม 3 หาง และในฐานะของ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 เขาจึงสามารถควบคุม อิโซบุ (ชื่อของ 3 หาง) ได้ แต่แม้ว่าเขาจะควบคุม อิโซบุ ได้ เขาก็ไม่สามารถควบคุม อิโซบุ ได้อย่างสมบูรณ์

ด้วยเหตุนี้ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 จึงต้องบังคับให้ อิโซบุ เข้าร่วมในการต่อสู้ เพราะเขาไม่สามารถควบคุม อิโซบุ ได้ดั่งใจ ดังนั้นเพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดจากการอาละวาดของ อิโซบุ ทำให้ หมู่บ้านคิริ ต้องตัดสินใจส่ง กลุ่ม 7 ดาบนินจาในแห่งคิริ ลงสู่สนามรบแทนเพื่อลดความเสี่ยงนั้น

บรรดานักดาบเหล่านี้ ไม่ใช่นักดาบรุ่นหลังอย่าง โฮชิงาคิ คิซาเมะ , โมโมจิ ซาบุสะ หรือ โฮซึกิ ซุยเงสึ แต่เป็น นักดาบรุ่นแรกอย่าง ซุยคาซัน ฟูกูคิ , บิวะ จูโซ , โฮซึกิ มันเงสึ และคนอื่น ๆ

“หน่วยสอดแนวของเราส่งข้อมูลมาบอกว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ มาที่นี่แล้ว หลังจากที่เขาเอาชนะ 1 หาง และทำให้ โคโนฮะ ชนะในการต่อสู้กับ ซึนะ”

จูโซ ผู้ใช้ ดาบใหญ่สะบั่นเศียร พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

โฮซึกิ มันเงสึ พูดด้วยเสียงน่าเบื่ออกมาว่า “เฮ้ย…ฉันไม่ชอบฉายานั้นเอาสะเลย…หลังจากวันนี้…ฉายานั้นคงต้องจบลงแค่นี้แล้วละ…”

โฮซึกิ มันเงสึ ถือได้ว่าเป็นตำนานของ หมู่บ้านคิริ เขาไม่เคยพ่ายแพ้ในทุกการต่อสู้ และเขาก็เป็นหัวหน้าของ กลุ่ม 7 ดาบนินจาในแห่งคิริ