ตอนที่ 419: การแทรกแซงของอาณาจักรฉินหวง
หลังจากได้รับผลกระทบระหว่างทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของเซียวเทียนกับเซียนสวรรค์ 11 คน เมืองชั้นหนึ่งที่รู้จักกันในนามเมืองเบเนโวเลนซ์จึงมีกำแพงถล่มหลายกิโลเมตร จำนวนผู้เสียชีวิตสูงมาก หากพวกเขาไม่ใช้เวลาหลายเดือนในการสร้างกำแพง เมืองจะต้องย่อยยับอย่างแน่นอน
ในการต่อสู้ครั้งนี้ เซียนสวรรค์ทั้งสามจากอาณาจักรเกอซุนและเซียวเทียนต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อเทียบกับการสูญเสียของอาณาจักรวายุคราม ความเสียหายของอาณาจักรเกอซุนจึงดูเล็กน้อยมาก เมื่อเซียนสวรรค์ 7 คนตายและคนที่เหลืออีก 4 คนหนีออกจากเมือง อาณาจักรวายุครามก็ไม่ต้องการที่จะรั้งท้ายเช่นกัน การสูญเสียนั้นมีผลมากต่อขวัญกำลังใจ และหากไม่มีเซียนสวรรค์ปกป้องพวกเขา กองทัพก็ไม่กล้าที่จะบุกโจมตีต่อไป
เมืองเบเนโวเลนซ์เป็นเมืองชั้นหนึ่งที่มีจวนเจ้าเมืองอยู่ห่างออกไป 30 กิโลเมตรจากทางเข้าเมือง ผู้บัญชาการกองทัพปกป้องกำแพงเมืองใช้วิธีการเดียวกันจากป้อมปราการทางทิศตะวันตกและเปลี่ยนโรงเตี๊ยมที่อยู่ใกล้เคียงให้เป็นห้องวางกลยุทธ์ชั่วคราว
ภายในโรงเตี๊ยม เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของอาณาจักรเกอซุนพยายามรีบรักษาเซียนสวรรค์ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทั้งสี่คน
สถานะของเจี้ยนเฉินในฐานะผู้พิทักษ์จักรพรรดิค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นแม่ทัพและผู้บัญชาการกองทัพจึงดูแลเอาใจใส่เจี้ยนเฉินเป็นพิเศษ
หลังจากบทสนทนาสั้น ๆ เจี้ยนเฉินก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของป้อมปราการทางทิศตะวันออก เขาถามเกี่ยวกับตระกูลเจียงหยางแต่เขาก็ต้องผิดหวัง แทนที่พวกเขาจะไปที่ป้อมปราการทางตะวันออก พวกเขากลับไปยังป้อมปราการอีกแห่งหนึ่ง ดังนั้นความพยายามของเจี้ยนเฉินในการพบครอบครัวของเขาจึงไร้ผลอีกครั้ง
ในขณะนี้เจี้ยนเฉินมีสีหน้าที่เคร่งเครียด “แม่ทัพหลิว อาณาจักรวายุครามมีเซียนสวรรค์กี่คน ? มีเซียนสวรรค์ 11 คนในป้อมปราการทางตะวันออก นั่นหมายความว่าพวกเขาส่งทุกคนมาโจมตีหรือ ? ” แม่ทัพหลิวเป็นเจ้าหน้าที่อันดับสูงสุดของป้อมปราการทางตะวันออก
แม่ทัพหลิวถอนหายใจครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดเผยสีหน้าจริงจัง “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ นี่เป็นเรื่องที่ข้าไม่มีคำตอบ จากเซียนสวรรค์ทั้งสิบเอ็ดคนที่ท่านเห็น 5 คนมาจากอาณาจักรฉินกาน”
“อาณาจักรฉินกาน ! ” ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายแวววาวอย่างเป็นอันตรายในขณะที่เขาพูดว่า ” เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาณาจักรฉินกานได้ตัดสินใจเพราะคิดว่าแผนการของฝ่ายศัตรูจะสำเร็จในสงครามครั้งนี้ ? “
แม่ทัพหลิวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและตอบว่า “นั่นอาจเป็นไปได้ แม้ว่าอาณาจักรฉินกานยังไม่ส่งกองทัพมา แต่เซียนสวรรค์ทั้งห้าที่ท่านเห็นในวันนี้ล้วนมาจากอาณาจักรของพวกเขา”
เจี้ยนเฉินก็เงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำตอบและเริ่มใช้ความคิด แววตาของเขาก็ส่องประกายเป็นลางไม่ดี
“แม่ทัพหลิว ท่านคิดว่าท่านสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าอาณาจักรฉินกานและอาณาจักรวายุครามมีผู้เชี่ยวชาญกี่คน และใครที่ถูกฆ่าตายในวันนี้ ? ” น้ำเสียงของเจี้ยนเฉินไม่บ่งบอกอารมณ์
แม่ทัพหลิวพยักหน้าและตอบว่า “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ หลังจากตรวจสอบเสื้อผ้าของพวกเขาแล้ว เราได้พิจารณาแล้วว่าพวกเขา 3 คนมาจากอาณาจักรฉินกาน ขณะที่อีก 4 คนที่เหลือมาจากอาณาจักรวายุคราม อาณาจักรวายุครามน่าจะมีเซียนสวรรค์ 8 คนซึ่งหมายความว่าในทางทฤษฎีก็น่าจะเหลือ 4 คน อาณาจักรฉินกานก็มีเซียนสวรรค์ 8 คนเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าน่าจะเหลืออีก 5 คน”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าขณะที่ไตร่ตรอง เขาพูดว่า”ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเซียนสวรรค์เหล่านั้น ข้าจะจัดการพวกเขาเอง แม่ทัพหลิว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ท่านก็ควรไปพักผ่อน”
ใบหน้าของแม่ทัพหลิวไม่มีความท้อถอย เขายืนขึ้นจากโต๊ะแล้วโค้งคำนับให้เจี้ยนเฉิน “ข้าขอตัวก่อน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ หากท่านต้องการสิ่งใด โปรดเรียกหาข้าได้ตลอดเวลา” หลังจากนั้นแม่ทัพหลิวจึงเดินออกจากห้องไป
ปัง !
ขณะที่แม่ทัพหลิวกำลังจะออกจากห้อง ประตูก็ถูกเหวี่ยงกลับก่อนที่จะตกลงมา ในช่วงเวลาต่อมาภาพเบลอสีขาวพุ่งเข้ามาในห้องและกระโจนเข้าใส่หน้าอกของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง,แต่รอยยิ้มที่หายากก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาเริ่มที่จะกอดรัดร่างสีขาวที่รัดหน้าอกของเขาไว้แน่น.
ร่างสีขาวฉับพลันที่ปรากฏขึ้นในห้องคือลูกเสือขาวที่เขาเกือบลืมมันไว้ที่ชายแดนของอาณาจักรฉินกาน
แม่ทัพหลิวหายตกใจทันทีเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินคุ้นเคยกับลูกเสือขาว เขาเคยเห็นเซียวเทียนนำลูกเสือเข้ามาแต่ท่าทางเขาดูไม่คุ้นเคยกับมัน
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ตอนนี้ประตูพังไปแล้ว ข้าจะส่งคนมาซ่อมมันให้เร็วที่สุด” แม่ทัพหลิวพูดก่อนที่จะออกไปจากห้อง
“กรร ….” ลูกเสือน้ำตาคลอขณะที่มองเจี้ยนเฉินด้วยความเศร้าโศก กรงเล็บทั้งสองของมันฝังในเสื้อผ้าของเจี้ยนเฉิน มันเกือบฉีกเสื้อของเขา การกระทำของมันเป็นสัญญาณว่ามันกำลังไม่พอใจเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังคงลูบหัวของลูกเสือด้วยความเอ็นดู เขาพูดขอโทษอย่างนุ่มนวล จากนั้นเขาก็ปลอบลูกเสือ เขาหยิบโสมขึ้นมาหลายชิ้นให้มันกิน
ลูกพยัคฆ์สับสนอยู่ครู่หนึ่ง มันดีใจราวกับว่ามันลืมเรื่องความไม่พอใจ มันกลืนโสมด้วยเสียงฟี้อย่างเบิกบานใจก่อนที่จะเริ่มหาวเมื่อมันกินเสร็จ ในเวลาไม่นาน มันก็หลับไปบนตักของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างรักใคร่เมื่อได้เห็นลูกเสือในแบบที่น่าเอ็นดู เมื่อไม่นานมานี้เองที่เขาได้ตระหนักว่าลูกเสือตัวนี้ชอบเขามากเพียงใด
สามวันผ่านไปภายในพริบตา ในช่วงสามวัน เจี้ยนเฉินยังคงเลี้ยงลูกพยัคฆ์ด้วยสมบัติสวรรค์เพราะเขาหวังว่ามันจะโตเร็วขึ้น เจี้ยนเฉินไม่ได้ลืมคำพูดของผู้อาวุโสเซียว เขาพยายามเร่งการเติบโตให้เร็วที่สุด
เจี้ยนเฉินรู้ว่าผู้เฒ่าเซี่ยวไม่ใช่คนที่พูดเล่น บางทีในอนาคตอันใกล้นี้อาจมีปัญหาบางอย่างสำหรับลูกเสือ
หลังจากผ่านไป 3 วัน เซียวเทียนและเซียนสวรรค์อีก 3 คนก็รักษาบาดแผลจนหาย เมื่อเซียนสวรรค์ 3 คนจากอาณาจักรเกอซุนเเห็นเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมารยาท
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ดีที่ท่านมาทันเวลา มิฉะนั้น,ชีวิตของข้าคงจะสิ้นสุดที่นี่” เซียวเทียนหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัว
“เซียวเทียน ในสถานการณ์เช่นนี้ หากท่านไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ ข้าก็มีความเชื่ออย่างเต็มที่ว่าอย่างน้อยที่สุดท่านก็จะสามารถหนีรอดไปได้” เจี้ยนเฉินหัวเราะ การเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวงนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการเป็นผู้พิทักษ์ประจำอาณาจักรใด ๆ พวกเขาได้รับเลือกอย่างพิถีพิถันและเป็นโลกที่เหนือกว่าอาณาจักรอื่น ๆ คงมีเพียงแค่ในกรณีที่พวกเขาขัดขืนอำนาจที่น่ากลัวกว่านี้ พวกเขาจะตายได้ง่าย
เจี้ยนเฉินรู้ว่าเซียวเทียนมีอายุหลายร้อยปีและเป็นเซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 5 ความสามารถของเขาเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากและเกือบจะใกล้เคียงกับเซียนผู้คุมกฎ เจี้ยนเฉินไม่เชื่อว่าเซียวเทียนไม่มีไพ่ตายช่วยชีวิตเพราะที่ปรึกษาจักรพรรดิคงไม่ตายง่าย ๆ
หลังจากพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นมาระยะหนึ่ง เจี้ยนเฉินก็มาถึงประเด็กหลักของปัญหา “ในตอนนี้อาณาจักรเกอซุนถูกอาณาจักรฉินกานโจมตีด้วยเช่นกัน ด้วยการรวมกันของทั้งสองฝ่าย พวกเขามีเซียนสวรรค์ 9 คนซึ่งเป็นปัญหาสำคัญสำหรับอาณาจักรเกอซุน เซียวเทียน ปกป้องป้อมปราการทางทิศตะวันออกไปอีกสี่ห้าวัน เผื่อว่าพวกเขาจะกลับมาบุกอีกครั้ง”
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้มีเกียรติ ท่านจะไปแล้วหรือ ? ” เซียวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงกังวบลเล็กน้อย
เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ข้าจะไปที่อาณาจักรฉินกานด้วยตัวเอง ตอนนี้พวกเขาสอดมือเข้าไปยุ่งในสงครามของเรา เราไม่ควรปล่อยพวกเขาออกไปง่าย ๆ ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งแววอำมหิต หากเขาไม่ได้อยู่ในการต่อสู้นี้ เจียงไป่จะตกอยู่ในอันตราย