ตอนที่ 1588 แค่สู้

Monster Paradise

สำหรับหลินฮวงกับอีกสอง เก้าเถาวัลย์ที่ยืนตรงหน้าพวกเขาตอนนี้คือศัตรูที่ทรงพลังสุดที่เคยเจอ

 

แม้เขาจะดูค่อนข้างเงอะงะ แต่หลินฮวงกับอีกสองรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวี่แววว่าพลังงานจะลด นี่หมายความว่าเขาไม่ได้รับอันตรายทางร่างกายเลย

 

หลินฮวงมั่นใจว่าการโจมตีที่สะท้อนจากกระจกนั้นเหนือกว่าการโจมตีที่รุนแรงสุดของเขาอย่างน้อยสามเท่า แม้ความรุนแรงกับพลังโจมตีจะสูงขนาดนั้น มันก็ทำให้เก้าเถาวัลย์ได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย

 

สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือเก้าเถาวัลย์ได้โจมตีเวอชุโอโซซึ่งๆหน้า เขาไม่มีเวลาหลบ และไม่สามารถใช้การป้องกันใดได้ เขาใช้อาวุธโดยตรงพร้อมด้วยพลังเทวะกับร่างกาย

 

ภายใต้หน้ากาก สีหน้าของเวอชุโอโซกลายเป็นหนักอื้ง

 

จากการโจมตีก่อนหน้า พวกเขาคัดลอกกระจกของหลินฮวงอย่างสมบูรณ์ ในฐานะผู้เลียนแบบ เขารู้ดีว่าการโจมตีของหลินฮวงนั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวแค่ไหน พวกมันไปถึงขีดจำกัดในแง่ของความสามารถพลังจิต แค่จากการจำลองการโจมตีนั่น

 

อาจกล่าวได้ว่าการโจมตีนั้นอยู่ในระดับกึ่งจ้าวเทวะแล้ว

 

เดิมที เวอชุโอโซคิดว่าเก้าเถาวัลย์จะบาดเจ็บแน่ต่อให้ไม่บาดเจ็บสาหัสเนื่องจากเขารับการโจมตีโดยไม่เตรียมการ แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจคือเก้าเถาวัลย์แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิดและไม่ได้รับความเสียหายทางกายภาพนัก

 

นี่ยังหมายความว่าแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเก้าเถาวัลย์ต่อให้จะโจมตีอีกฝ่ายตอนประมาท

 

นอกจากนี้ ความสามารถปัจจุบันของเวอชุโอโซนั้นสามารถคัดลอกภาพแบบนั้นได้แค่สามครั้ง

 

ขณะที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซกำลังพยายามหาทางพลิกสถานการณ์ เก้าเถาวัลย์กับจิ่วเจี้ยนก็โจมตีอีกครั้งโดยไม่ลังเล

ในฐานะผู้บ่มเพาะกระบี่ รูปแบบการต่อสู้ของเขามักต่อสู้ก่อนแล้วคิดทีหลัง ไม่ว่าจะชนะหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่เขาต้องลงมือก่อน หลังลงมือแล้ว เขาถึงตัดสินใจว่าจะทำยังไงตามสถานการณ์ต่อสู้

 

คนเราแค่ต้องสู้!

 

พอมองค่ายกลกระบี่ทั้งเก้าที่รวมกันอีกครั้งกลางอากาศและคลื่นกระบี่สีทองก็กำลังควบแน่นด้วยความเร็วสูง หลินฮวงกับเวอชุโอโซก็รู้ว่าพวกเขาต้องโจมตี

 

คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนปกคลุมท้องฟ้า แต่เก้าเถาวัลย์ไม่ได้มองจิ่วเจี้ยน เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยคลื่นกระบี่ สายตาของเขาจับจ้องไปทางที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซอยู่

 

เขาไม่ตั้งใจจะดูถูกจิ่วเจี้ยน นี่เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ว่าการโจมตีของจิ่วเจี้ยนคล้ายกับอันก่อนหน้า เก้าเถาวัลย์บอกได้ง่าย ๆ จากความหนาแน่นของคลื่นพลังเทวะ

 

การโจมตีเช่นนี้จะไม่สามารถทำลายการป้องกันเขาได้เลย

 

แต่ทว่า สำหรับจิ่วเจี้ยน นี่คือการดูถูก

 

คลื่นกระบี่กว่าล้านรวมตัวกันในอากาศแทบจะพร้อมกัน วินาทีต่อมา พวกมันก็พุ่งลงมาใส่เก้าเถาวัลย์เหมือนพายุฝน

 

คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งใส่เก้าเถาวัลย์จากทุกทิศทาง

 

เก้าเถาวัลย์ไม่สนใจคลื่นการโจมตีเช่นนี้ ตอนเขาเห็นคลื่นกระบี่พุ่งมา เขาก็รู้แล้วว่าการโจมตีของจิ่วเจี้ยนไม่ต่างจากรอบที่แล้ว

 

เขาไม่แม้แต่จะเสียเวลาพยายามหลบมัน เขาเพียงห่อหุ้มร่างกายตัวเองด้วยชั้นพลังเทวะเป็นการป้องกัน

 

ปัจจุบัน เขามีความสามารถป้องกันของเกราะเงิน ด้วยพลังเทวะปริมาณมหาศาลในตัวเขา การโจมตีของจิ่วเจี้ยนจะไม่สามารถเจาะการป้องกันของเขาได้

 

พอสังเกตเห็นว่าเก้าเถาวัลย์ป้องกันตัวเองยังไง มุมปากของจิ่วเจี้ยนก็ยกยิ้มขึ้น

 

วินาทีต่อมา คลื่นกระบี่ทองก็ได้ชนเข้ากับชั้นป้องกันของเก้าเถาวัลย์และระเบิด พรากพลังเทวะส่วนหนึ่งไป

 

ใช่-จิ่วเจี้ยนไม่ได้ตั้งใจทำลายการป้องกันของเก้าเถาวัลย์เลย

 

พอเขารู้ว่าการโจมตีของเขาไม่รุนแรงพอจะทำให้เก้าเถาวัลย์บาดเจ็บ เขาก็เปลี่ยนกลยุทธ์และกำหนดให้ตัวเองเป็นฝ่ายสนับสนุน

 

ค่ายกลกระบี่ดูไม่ต่างจากรอบที่แล้ว แต่จริง ๆ แล้ว จิ่วเจี้ยนได้แอบปรับแต่งมันเล็กน้อย เพิ่มการระเบิด การดูดซับและการแทรกแซง

 

ทุกครั้งที่คลื่นกระบี่ระเบิด พวกมันจะดูดพลังเทวะรอบ ๆ พวกมันยังจะปล่อยพลังเทวะส่วนนี้เพื่อสร้างคลื่นรบกวนที่จะขัดขวางประสาทสัมผัสกับจิตเทวะของเก้าเถาวัลย์

 

ครั้งนี้ จุดประสงค์ของจิ่วเจี้ยนในการโจมตีไม่เพียงเพื่อผลาญพลังเทวะของเก้าเถาวัลย์ แต่ยังเพื่อสร้างโอกาสให้หลินฮวงกับเวอชุโอโซได้โจมตี

 

ในความเป็นจริง ผู้บ่มเพาะกระบี่ส่วนใหญ่จะสู้อย่างหน้ามืดตามัวและคิดน้อย เหตุผลเพราะควาสามารถพวกเขาพอที่จะบดขยี้ศัตรู พวกเขาไม่ต้องคิดอะไรมาก

 

แต่ทว่า ในฐานะผู้บ่มเพาะกระบี่ที่มีประสบการณ์โชกโชน จิ่วเจี้ยนไม่หลับหูหลับตาโจมตีหลังการโจมตีรอบแรกล้มเหลว เขาคิดกลยุทธ์ขึ้นมาทันทีท

 

นี่ทำให้เขาโจมตีโดยไม่ลังเลขณะที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซยังพิจารณาว่าจะแก้เกมยังไง

 

ไม่เพียงเขาจะทำให้เก้าเถาวัลย์มองว่าเขานั้นเป็นพวกหุนหันพลันแล่น แม้กระทั่งหลินฮวงกับเวอชุโอโซก็คิดเหมือนกัน

 

แต่ทว่า หลินฮวงกับเวอชุโอโซตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นทันทีที่คลื่นกระบี่ของจิ่วเจี้ยนระเบิด โดยไม่ลังเล พวกเขาโจมตีตาม

 

หลินฮวงพุ่งใส่เก้าเถาวัลย์อีกครั้ง ฟันเขาด้วยห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งสิบสองซึ่งผสานกับกฏสวรรค์เต๋าดาบ

 

ไม่เหมือนการโจมตีครั้งก่อน ห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งสิบสองที่เขาเพิ่มครั้งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อโจมตี แต่เพื่อดูดกับผลาญพลังเทวะ

 

หลังเขาเห็นการโจมตีของจิ่วเจี้ยน เขาก็เกิดแรงบันดาลใจเฉกเช่นเดียวกัน นั่นคือการสู้กับเก้าเถาวัลย์ด้วยการผลาญพลัง!

 

นี่เพราะเขาตระหนักดีว่าแม้กระทั่งการโจมตีที่รุนแรงสุดของเขาก็ยังไม่รุนแรงถึงหนึ่งในสามของคลื่นพลังที่สะท้อนกลับก่อนหน้า มันจึงยากสำหรับเขาที่จะทำร้ายเก้าเถาวัลย์

 

เวอชุโอโซยืนอยู่ด้านข้าง รับผิดชอบการโจมตีในรอบนี้

 

ขณะที่เขาประสานมืออย่างซับซ้อน ร่างกว่าสิบที่ดูเหมือนหลินฮวงก็ปรากฏในอากาศอีกครั้ง กระจกรวมกันอย่างรวดเร็วต่อหน้าหลินฮวงแต่ละร่าง หลังจากนัน้ คลื่นกระแทกสีแดงสลับดำก็พุ่งออกไป!

 

มันคือหนึ่งในความลับที่ยิ่งใหญ่สุดของเวอชุโอโซ เขาสามารถจำลองภาพในจินตนาการได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

หลังจำลองคลื่นสะท้อนของหลินฮวงเป็นครั้งแรก เวอชุโอโซก็สามารถใช้มันได้เองอีกในอนาคต ตราบเท่าที่เขามีพลังเทวะพอในตัวและมีความสามารถพลังจิตแกร่งกล้าพอ เขาจะสามารถใช้มันได้

 

แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังอดเลิกคิ้วไม่ได้พอเห็นว่าการโจมตีของเขาโดนคัดลอกอีก เขาเกิดความอิจฉาเวอชุโอโซขึ้นมาอีก

 

เก้าเถาวัลย์ที่ปัจจุบันโดนคลื่นกระบี่ระเบิดกลืนกินรู้สึกไม่ค่อยดีนัก

 

จริงอยู่ว่าการโจมตีทำลายการป้องกันเขาไม่ได้ แต่ทว่า คลื่นระเบิดเจิดจ้านั้นขัดขวางมุมมองเขา นอกจากนี้ คลื่นพลังเทวะที่ระเบิดยังรบกวนประสาทสัมผัสกับจิตเทวะเขา

 

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นการโจมตีอันทรงพลังสองสาย แต่ทว่า ด้วยการแทรกแซง เขาไม่สามารถกำหนดทิศทางหรือมุมของการโจมตีได้อย่างแม่นยำ

 

หลังพิจารณาสักพัก ไม่ช้าเขาก็ตัดสินใจ

 

เถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทั้งสองมือของเขา เปลี่ยนเป็นเกราะป้องครึ่งวงกลมขนาดยักษ์สองใบในชั่วพริบตา ขณะที่เขาเขย่าแขนสองข้างเล็กน้อย ครึ่งวงกลมทั้งสองก็ผสานกัน สร้างเป็นทรงกลมสมบูรณ์ซึ่งห่อหุ้มร่างกายเขาไว้ข้างใน

 

พอดีกับที่เก้าเถาวัลย์สร้างโล่ป้องกันสำเร็จ การโจมตีทั้งสองก็กระทบโล่ของเขาแทบจะพร้อมกัน

 

คลื่นดาบสีแดงเลือดของหลินฮวงฟาดฟันใส่โล่ยักษ์ มันเจาะไม่ทะลุ มันกลับเริ่มดูดพลังเทวะที่ห่อหุ้มโล่

 

คลื่นกระแทกของเวอชุโอโซได้กระแทกโล่อย่างรุนแรงจากอีกมุม หลังกัดเซาะอยู่หลายวินาที รอยแตกก็เริ่มปรากฏบนผิวโล่

 

แต่ทว่า หลินฮวงกับอีกสองสังเกตเห็นว่ามีเถาวัลย์ขยายออกมาอุดรอยแตก

 

การห้ำหันนี้กินเวลาอยู่สองถึงสามนาทีก่อนในที่สุดคลื่นพลังจะสลาย

 

ผิวของโล่ยักษ์ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแตกและรูพรุน แต่ทว่า สุดท้าย มันก็ยังไม่พัง…