ตอนที่ 580 ข่าวดี ข่าวร้าย อยากฟังอันไหนก่อน?

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

“เฮือก!”

 

กูเหลียงเฉินที่มีข้อมูลในหัวเป็นจำนวนมากรู้สึกเหมือนหน้าจะมืด หลังจากใช้เวลาพักใหญ่เพื่อปรับอารมณ์ของตัวเอง เขาก็ระงับอาการช็อคของตัวเองได้และมองหน้าชูฮัน “ท่านต้องการให้ผมส่งข้อมูลของท่านให้เหย่จือโป? นี่มัน แต่…”

 

กูเหลียงเฉินที่มีฉายาว่าภูเขาน้ำแข็งกลายเป็นคนไร้สติไปแล้ว ชูฮันที่แท้จริงเป็นคนที่ทำการตัดสินใจได้รวดเร็วมากและยังเสี่ยงมากเช่นกัน กูเหลียงเฉินรู้สึกกลัวอยู่ในใจ

 

“เหย่จือโปฆ่าพ่อแม่ของคุณ คุณไม่อยากจะแก้แค้นให้พวกท่านเหรอไง?”

 

ยิ่งคิด

 

“เหย่จือโปทำกับคุณเหมือนคนโง่ แล้วยังส่งให้คุณทำภารกิจที่อันตรายมากแบบนี้ ให้คุณมาสืบฉัน ไม่ต่างอะไรกับเดินเข้ามากางดงมีด!”

 

ยิ่งคิด

 

“เพราะงั้นก็ทำเป็นสืบต่อไป” ชูฮันพูดจากนั้นก็หยิบกระดาษข้างตัวขึ้นมา พร้อมกับหยิบปากกาขึ้นมาเขียน “ถ้าเหย่จือโปถามถึงสถานการณ์ของค่าย คุณบอกไปว่าชูฮันโง่มาก เขาก่อตั้งค่ายทหารในนี้และให้ชาวบ้านเจามาอยู่ด้วย จัดวางไม่ถูกต้อง ผู้คนตกอยู่ในปัญหาและไม่อย่างใจชูฮันอย่างมาก”

 

กูเหลียงเฉินกลืนน้ำลายอึก

 

ชูฮันนั่งอยู่ตรงข้ามขณะเขียนไปด้วยก็พูดต่อ “ถ้าคุณมีอิสระที่จะรายงาน คุณบอกไปว่าชูฮันเป็นบ้า เขาไม่คำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้คน ปล่อยให้ทุกคนกินอาหารกันอย่างเสรี จนเสบียงแทบไม่เหลือ”

 

“สำหรับสิ่งที่ฉันทำอยู่ทุกวัน คุณบอกไปว่าเห็นฉันนั่งอยู่ในห้องทำงานทุกวัน บอกว่าฉันเป็นคนโลภและมักใหญ่ใฝ่สูง เอาแต่เรียกผู้หญิงเข้ามาในห้องตลอดวัน แ้ลวก็ชอบออกไปค่ายรอบๆเพื่อปล้นและสร้างความวุ่นวาย และเขตดินแดนของเมืองอันลูก็ถูกฉันเป็นคนทำลาย” ความคิดของชูฮันทำให้กูเหลียงเฉินตะลึงค้างไปกลางอากาศแล้ว

 

“สำหรับการฝึกฆ่าซอมบี้” ชูฮันเอามือแตะคางก่อนจะพูดขึ้น “คุณห้ามบอกว่าคุณเป็นกัปตันนำทีมฆ่า พูดถึงเรื่องกลยุทธ์วงล้อมและการกระจายทีมของเรา นี่ไม่ใช่ความลับ คาดว่าหลายคนในซางจิงน่าจะเริ่มนำไปใช้แล้วด้วยซ้ำ”

 

“ครับ” ลำคอของกูเหลียงเฉินแห้งผาก

 

“สำหรับตอนนี้ ก็ประมาณเท่านี้ก่อน” ชูฮันส่งกระดาษปึกหนึ่งให้กูเหลียงเฉิน “คุณทำตอนที่ฉันไม่อยู่ ในตอนนี้ที่แผนกหน่วยข่าวกรองของกองทัพเขี้ยวหมาป่ายังไม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้น คุณก็เลยมีโอกาสส่งข้อมูล เข้าใจที่ฉันพูดมั้ย?”

 

ชูฮันไม่สามารถอยู่ในค่ายเขี้ยวหมาป่าได้ตลอดเวลา นอกเหนือจากการตั้งรกรากที่นี้ เขายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ

 

“ครับ” กูเหลียงเฉินพยักหน้าอีกครั้ง หากจู่ๆเขาก็พูดขึ้น “แล้วท่านยังจะก่อตั้งแผนกหน่วยข่าวกรองมั้ยครับ?”

 

“แน่นอน” ชูฮันเงยหน้าขึ้น “นายมีคนที่เหมาะสมในใจเหรอไง?”

 

“อะไรน่ะครับ?” กูเหลียงเฉินไม่คิดว่าชูฮันจะโพล่งออกมาเร็วแบบนี้ เขายังไม่ทันคิดอะไรเลย “ความจริง หลูเหวินเฉิง…”

 

“นั่นเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเปล่า?” ชูฮันเหลือบมอง

 

กูเหลียงเฉินเงียบไปพักใหญ่เพื่อหาคำมาพูด

 

“เจ้านั่น มีความสามารถด้านการหาข่าวสารนั่น” ชูฮันยิ้มมุมปาก “คุณกังวลอะไร? ฉันไม่กินคุณหรอก”

 

“เอ่อ” กูเหลียงเฉินพยักหน้า การสนทนาในวันนี้มันมีข้อมูลมากเกินไปจนสมองเขารับไม่ไหวแล้ว

 

“ก่อนอื่น ลองดูคนอื่นด้วย” เนื่องจากตอนนี้กูเหลียงเฉินกลายเป็นคนของชูฮันอย่างสมบูรณ์แล้ว ชูฮันจึงไม่จำเป็นต้องปกปิดแผนการของเขา “ฉันต้องการแผนกหน่วยข่าวกรอง 2 แผนก แผนกหนึ่งสำหรับการสอดแนมภายนอกให้กับกองทัพเขี้ยวหมาป่า ฉันจะให้ทีมความลับของพระเจ้าทำแผนกนี้พวกเขาเป็นทีมสงครามทหารหน่วยสืบราชการลับที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ฉันจะฝึกทีมนี้เอง ส่วนอีกทีมนายเป็นคนคัดเลือกคนและฝึกเอาเอง ไว้สำหรับการสังเกตการณ์”

 

“ครับ” กูเหลียงเฉินจะพูดอะไรได้มากไปกว่านี้ สมองของชูฮันคิดทุกอย่างได้รวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ กูเหลียงเฉินต้องการเวลากลับไปไตร่ตรองทุกอย่างที่รับรู้ในวันนี้ก่อน ตอนนี้มันมากเกินไปสำหรับเขา

 

หลังจากกูเหลียงเฉินออกไปพร้อมกับความสับสน ชูฮันก็รีบกลับไปจัดการเอกสารที่เหลืออย่างเร่งรีบต่อ เขาไม่ได้ประหลาดใจมากเรื่องของกูเหลียงเฉิน ประกอบกับวันนี้เขาอารมณ์ดีด้วย

 

“ก๊อก! ก๊อก!”

 

ประตูถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นซางจิ่วตี้ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองโตและรอยยิ้ม “ยุ่งหน่อยนะค่ะ มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย คุณอยากจะฟังอันไหนก่อน?”

 

ชูฮันหยุดปากกาในมือและกวาดสายตามองซางจิ่วตี้ “ข่าวร้ายก็คือฉันมีเอกสารกองโตให้จัดการ ข่าวดีก็คือกระสุนล่อซอมบี้ AB เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตแล้วใช่มั้ย?”

 

ซางจิ่วตี้อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและหัวเราะทันที “ตามนั้นค่ะท่าน”

 

ด้วยเหตุนี้ ชูฮันก็บิดปาก “ฉันเองก็มีข่าวดีและข่าวร้าย เธออยากฟังอันไหนก่อน?”

 

ซางจิ่วตี้วางเอกสารในมือลง เธออยากจะทายให้ออก แต่โชคร้ายที่มันไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย เธอจึงได้แต่ส่ายหัว “ฉันเดาไม่ออก”

 

ตอนนั้นเอง จู่ๆชูฮันก็วางปากกาในมือลง เขาบุกขึ้นบิดตัวคลายเมื่อยและเดินเข้ามาหาซางจิ่วตี้ กวาดสายตามองขึ้นลงทั่วร่างของซางจิ่วตี้ จ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงฉ่ำของเธอ “ข่าวดีคือฉันจัดการเอกสารทางการของฉันเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนที่เธอพึ่งเอามา ฉันรับประกันได้เลยว่าจะทำให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง แล้วฉันจะได้มีเวลาอยู่กับเธอคืนนี้”

 

มองไปที่น้ำเสียงที่ค่อนข้างร้อนแรงของชูฮัน ซางจิ่วตี้ก็รู้ว่าชูฮันคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ เธออยากจะกรี๊ดออกมา แก้มขึ้นสีแดงรื่อด้วยความอายแล้วกระซิบถามต่อ “แล้วข่าวร้ายล่ะ?”

 

ชูฮันค่อยๆจับปอยผมของซางจิ่วตี้ไปทัดหลังหู “ข่าวร้ายคือฉันจะไป วันพรุ่งนี้”

 

หลังจากนั้นมันก็เกิดความเงียบขึ้น ซางจิ่วตี้ถอนหายใจ ตาเป็นประกาย เธอถอยหลังหนีจากชูฮันไปสองก้าวและส่งยิ้มให้เขา “อย่างนั้นคุณไม่ควรใช้เวลากับฉันเย็นนี้ คุณจะไปพรุ่งนี้แล้ว เพราะฉะนั้นควรพักผ่อนให้เต็มที่”

 

“ไม่…” ชูฮันรีบโบกมือปฏิเสธ

 

“ฉันว่าคุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว” ซางจิ่วตี้พูดแทรกชูฮันขึ้นมาอย่างไม่ต้องการได้ยิน “ฉันจะให้คนเตรียมทุกอย่างอาหารอย่างดีไว้สำหรับเย็นนี้”

 

“เอ่อ ไม่ใช่…” ชูฮันไม่มีโอกาสได้พูด

 

“ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ คุณยุ่งมาตลอดทั้งวัน ยังไงคุณก็ต้องกิน” ซางจิ่วตี้พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปทันที

 

“อ่อ…ไม่ใช่”

 

ชูฮันมองตามหลังซางจิ่วตี้ไป เขาอยากจะร้องไห้ออกมา ครั้งนี้เขาอยากจะผูกคอตายจริงๆ เขาทำโอกาสดีๆหลุดมือไป และเชื่อเลยว่าความคิดของผู้หญิงนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!