บทที่ 1322 ข้อจำกัดของฝ่ายธรรมะ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1322 ข้อจำกัดของฝ่ายธรรมะ

แปลโดย iPAT

ภาคใต้ ภูเขาอี้เทียน ค่ายกลวิญญาณ

“วูอัน (วูเหลียว) คารวะท่านวูอี้ไห่” ในค่ายกลวิญญาณของตระกูลวู วูเหลียวและวูอันทักทายฟางหยวนด้วยความเคารพ

ฟางหยวนพยักหน้า “นั่งลงและอธิบายว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ผู้อาวุโสวูเป่ยได้รับบาดเจ็บสาหัสจริงๆงั้นหรือ?”

วูเหลียวและวูอันชำเลืองมองหน้ากัน วูเหลียวเงียบและปล่อยให้วูอันรายงาน “นายท่าน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น…”

เดิมทีตระกูลปาก็พยายามต่อต้านตระกูลวูอยู่แล้ว เมื่อตระกูลวูพบกับความยากลำบากจากปัญหาจากทุกทิศทาง ตระกูลปาจึงร่วมวงเคลื่อนไหว

ปาเต๋อวางแผนมานาน วูเป่ยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้กับเขา

ผลของการประลองคือชัยชนะของตระกูลปา

“เราไม่ได้คาดหวังว่าท่านวูเป่ยจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรงถึงเพียงนี้ แม้ท่านวูเป่ยจะแพ้ในการประลอง แต่ท่านก็ประสบความสำเร็จในภารกิจ”

“ถูกต้อง แม้ท่านวูเป่ยจะแพ้ปาเต๋อ แต่ท่านวูเป่ยยังสามารถเข้าประชุมกับตระกูลเฉียวและตระกูลอื่นๆ นั่นทำให้เราคิดว่าอาการบาดเจ็บของท่านไม่ร้ายแรงนัก”

เมื่อวูอันกล่าวจบ วูเหลียวก็กล่าวเสริม

ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายในแต่ภายนอกแสดงออกด้วยความกังวล “ข้าเข้าใจสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม ข้าจะไม่เคลื่อนไหวหากศัตรูไม่ขยับ”

“รับทราบ” วูเหลียวและวูอันตอบรับทันที

พวกเขาไม่แปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว

ความกังวลของทุกคนก็คือความแข็งแกร่งของวูอี้ไห่จะเปรียบเทียบกับปาเต๋อได้อย่างไร?

แม้วูอี้ไห่จะสามารถเอาชนะเซี่ยเฟยกุ้ย แต่มันก็เป็นการประลองที่ตัดสินด้วยกฎ

แม้เขาจะสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับหอยภูเขา แต่ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น มันเป็นการเจรจากับสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา

นอกจากนั้นข่าวลือเกี่ยวกับเฉียวซื่อหลิวยังเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนรังเกียจเขา

“หากไม่มีสิ่งใดแล้ว พวกเจ้าสองคนก็ออกไปได้ ข้ารีบมาที่นี่ ข้ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย” ฟางหยวนโบกมือ

วูเหลียวจากไปทันทีแต่วูอันลังเลก่อนจะกล่าวเบาๆ “นายท่าน มีบางสิ่งที่ข้าต้องรายงาน…”

“พูด” ฟางหยวนรู้ว่าวูอันต้องการรายงานสิ่งใด

แน่นอนว่าคำกล่าวของวูอันไม่ได้อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของฟางหยวน มันเกี่ยวกับธุรกิจซื้อขายโอกาส

“สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด ตระกูลอื่นๆกำลังวิตกและหวาดกลัว เราควรหยุดธุรกิจนี้สักระยะหรือไม่?” วูอันถาม

ฟางหยวนเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าบอกไปแล้วว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม หากไม่มีสิ่งใดแล้วเจ้าก็ออกไปได้”

“รับทราบ” ร่องรอยของความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวูอันขณะที่เขาโค้งคำนับและจากไป

ตราบเท่าที่ธุรกิจซื้อขายโอกาสยังดำเนินต่อไป วูอันก็สามารถทำกำไรได้ต่อไป แล้วเหตุใดเขาจะไม่มีความสุข?

แม้ธุรกิจจะถูกเปิดโปงโดยตระกูลปา ความรับผิดชอบของวูอันก็ยังต่ำมากเพราะหัวหน้าของเขาอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป

ฟางหยวนตระหนักถึงความคิดของวูอันเป็นอย่างดี

เขาเย้ยหยันอยู่ภายใน ‘วูอันผู้นี้ช่างสายตาสั้นนัก’

มันเป็นเรื่องจริงที่สถานการณ์ในปัจจุบันของตระกูลวูดูไม่ดีนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของภาคใต้้

ปาเต๋อฉลาดมาก แม้เขาจะเคลื่อนไหว เขาก็ไม่ได้โจมตีธุรกิจซื้อขายโอกาส เขารู้ขีดจำกัดของตนเองเพราะผลประโยชน์นี้ไม่ได้เป็นของตระกูลวูเพียงตระกูลเดียวแต่ยังรวมถึงตระกูลอื่นอีกหลายตระกูล

หากเขาโจมตีธุรกิจนี้ มันจะนำไปสู่ความเป็นอริศัตรูกับกองกำลังอื่นๆ เมื่อเวลานั้นมาถึงกองกำลังพันธมิตรของตระกูลวูจะร่วมมือกันจัดการตระกูลปา

ด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ของภาคใต้ทั้งหมด ปาเต๋อจึงไม่ได้โจมตีไปที่จุดนี้เพื่อสร้างความยากลำบากให้กับตนเอง หากเขาทำ ผลลัพธ์จะไม่น่าพอใจ เว้นเพียงตระกูลวูจะล้มลง เมื่อเวลานั้นมาถึงมันจะเป็นเวลาเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ

ไม่ว่าจะเป็นปาเต๋อหรือฟางหยวน พวกเขาต่างเข้าใจจุดนี้

เรื่องราวบนโลกใบนี้เหมือนเกมส์หมากรุก ผู้เล่นที่เก่งที่สุดมักวางแผนการเคลื่อนไหวในอนาคตเอาไว้ล่วงหน้า พวกเขาจะรู้ว่าเมื่อใดควรใช้กลยุทธ์ใดและตัวหมากชิ้นไหนที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ด้วยเหตุนี้ธุรกิจซื้อขายโอกาสจึงดำเนินต่อไป สิ่งที่จะทำให้ปาเต๋อเคลื่อนไหวไม่ใช่ธุรกิจนี้แต่เป็นตระกูลวู!

ปัจจัยในการตัดสินใจมักไม่ใช่ตัวปัญหาแต่เป็นปัจจัยภายนอก

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ฟางหยนวก็หันหน้าไปทางตระกูลวูโดยไม่รู้ตัว

วูหยงอาจเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่เขายังตกลงสู่กับดักของฟางหยวน

เพราะนี่ไม่ใช่การแข่งขันด้วยความแข็งแกร่งแต่เป็นประสบการณ์

เหตุผลที่ฟางหยวนเริ่มเข้าหาเฉียวซื่อหลิวไม่ใช่เพราะตัวของเฉียวซื่อหลิวเองแต่เขาทำเพื่อให้ได้กลับมายังอาณาจักรแห่งความฝัน

วูหยงสามารถอดทนต่อความโลภของวูอี้ไห่แต่เขาไม่สามารถอดทนต่อการแย่งชิงอำนาจในตระกูลวู

ที่เป็นสิ่งที่สามารถคาดเดา

ก่อนที่วูตู๋ซิ่วจะเสียชีวิต นางต้องการมอบวิญญาณอมตะของนางให้กับวูอี้ไห่

สายเลือดและต้นกำเนิดของวูอี้ไห่ได้รับการยอมรับแล้ว เมื่อเขาได้รับอำนาจบางอย่าง เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่สำหรับวูหยง

เดิมทีวูตู๋ซิ่วคอยระวังตระกูลเฉียวมาตลอด ตอนนี้วูหยงก็ต้องป้องกันภัยคุกคามจากตระกูลเฉียวและวูอี้ไห่เช่นกัน

เมื่อตระกูลเฉียวกับวูอี้ไห่ใกล้ชิดกัน แล้ววูหยงจะไม่ตื่นตัวได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้วูอี้ไห่กลับเข้าสู่ตระกูลวูด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลเฉียว โดยเฉพาะการออกหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามของตระกูลวู มันทำให้วูหยุงต้องระวังตัวมากขึ้น

และตอนนี้ดูเหมือนวูอี้ไห่จะกลับไปร่วมมือกับตระกูลเฉียวอีกครั้ง มันยิ่งทำให้วูหยงวิตกกังวล

การกระทำของวูหยงเป็นแผนการที่เตรียมไว้อย่างพิถีพิถัน

เขาไม่ได้ถามโดยตรงว่าฟางหยวนยังต้องการกลับไปอาณาจักรแห่งความฝันหรือไม่

แต่เขาให้ฟางหยวนเลือกภารกิจสามอย่าง

มีความหมายอยู่เบื้องหลังตัวเลือกทั้งสาม

ภารกิจแรก ภูเขาซวนหมิง มันเป็นงานหนักที่สุดโดยธรรมชาติ มันจะเกิดความขัดแย้งและต่อสู้ขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากมีวิญญาณอมตะเข้ามาเกี่ยวข้อง หากฟางหยวนเลือกภารกิจนี้ มันหมายความว่าเขายินดีเสี่ยงชีวิตเพื่อตระกูลและวูหยงสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้อีกมากในอนาคต

ภารกิจที่สาม งานเลี้ยงวันเกิดของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองของตระกูลอี้ มันคือการทดสอบ ตระกูลอี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทะเลตะวันออก หากฟางหยวนเลือกภารกิจนี้ นั่นหมายความว่าเขายังคงผูกพันกับทะเลตะวันออกอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ

ภารกิจที่สอง ป้องกันอุทกภัยจากแม่น้ำมังกรแดง นี่คือกับดัก

ตระกูลวูและตระกูลเฉียวมีอาณาเขตอยู่ใกล้กับแม่น้ำมังกรแดงทั้งคู่ ตระกูลวูต้องการป้องกันน้ำท่วม ตระกูลเฉียวก็เช่นกัน

ดังนั้นมีโอกาสที่ผู้อมตะของทั้งสองตระกูลจะร่วมมือกัน

เมื่อฟางหยวนเลือกภารกิจนี้ หัวใจของวูหยงกลายเป็นเย็นเยียบ แม้เขาจะยิ้มแย้ม แต่เขาได้ตัดสินใจย้ายวูอี้ไห่ออกไปทันที เขาไม่สามารถปล่อยให้วูอี้ไห่ติดต่อกับตระกูลเฉียวได้อีกต่อไป

เฉียวซื่อหลิวเป็นหนึ่งในสามเทพธิดาที่งดงามที่สุดของภาคใต้ นางมีความงามที่น่าหลงใหล แม้ตอนนี้หัวใจของวูอี้ไห่จะไม่สั่นคลอน แต่ผู้ใดจะสามารถบอกได้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร?

กระทั่งผู้ชายที่โดดเด่นก็ไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของหญิงงาม โดยเฉพาะหญิงงามเช่นเฉียวซื่อหลิว

นอกจากความงามแล้ว นางยังมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา

เมื่อวูอี้ไห่แต่งงานกับเฉียวซื่อหลิว มันจะกลายเป็นเรื่องที่ทำกำไรหมาศาลให้กับเขาและตระกูลเฉียว

วูอี้ไห่สามารถใช้ตระกูลเฉียวเพื่อเพิ่มอำนาจในตระกูลวูให้กับตนเอง สุดท้ายตระกูลเฉียวจะสามารถทำลายขีดจำกัดในอดีตของพวกเขาได้สำเร็จ พวกเขาจะสามารถเจาะลึกเข้าสู่แกนกลางของต้นไม้ใหญ่ที่เรียกว่าตระกูลวู

แล้ววูหยงจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองอย่างรุนแรงเพราะมันอาจย้อนกลับมาจัดการเขา

ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายธรรมะก็มีกฎเกณฑ์ที่ต้องทำตาม เขาไม่สามารถกระทำการอย่างตรงไปตรงมาเหมือนฝ่ายปีศาจ

วูหยงคิดและพบว่ามันยากที่จะจัดการวูอี้ไห่ แม้จะมีหลักฐานการทุจริตของวูอี้ไห่แต่วูอี้ไห่ก็เป็นน้องชายของเขา

หลังจากครุ่นคิด วูหยงก็นึกถึงอาณาจักรแห่งความฝัน

เขาสามารถใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อเนรเทศวูอี้ไห่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ความสำเร็จที่ผ่านมาของวูอี้ไห่ทำให้วูหยงตัดสินใจในที่สุด

เขาลงมือทันทีหลังจากตัดสินใจ แม้เขาจะให้ฟางหยวนเลือกภารกิจสามอย่าง แต่ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่มีตัวเลือก พวกมันเป็นเพียงบททดสอบเท่านั้น

‘ฝ่ายธรรมะเป็นเช่นนี้’

‘หากผู้ใดไม่อยู่ข้างบนก็จะไม่มีอิสระ’

‘แต่กระทั่งจะอยู่บนจุดสูงสุด องค์กรก็จะกลายเป็นโซ่ตรวนที่ผูกมัดพวกเขาเอาไว้’

ฟางหยวนถอนหายใจอยู่ภายในแต่เขารีบจัดการอารมณ์ของตนเองและเริ่มมองไปที่อาณาจักรแห่งความฝันที่อยู่ข้างหน้า

เขากลับมาที่นี่อีกครั้ง วิญญาณอมตะสองดวงยังเป็นของเขา

อาณาจักรแห่งความฝันขยายตัวและเคลื่อนไหวตลอดเวลา

‘โอ้ อาณาจักรแห่งความฝันนี้ค่อนข้างดี มันเกิดจากความทรงจำและประสบการณ์ของเจ้าของ ไม่ใช่จินตนาการที่ไร้สาระ’

ฟางหยวนตรวจสอบและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันทันที

วิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนไป

บนเนินเขาที่ลาดเอียงเล็กน้อย ผู้อมตะวัยกลางคนหันหลังกลับมาหาฟางหยวน “บุตรชายของข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดตระกูลตู้ของเราจึงมีอำนาจเหนือเทือกเขาแห่งนี้?”

ฟางหยวนตรวจสอบตนเองและพบว่าเขากลายเป็นเด็กไปแล้ว

“ท่านพ่อ ข้าไม่รู้” เขาตอบ

“เพราะเส้นทางแห่งค่ายกล!” เสียงของผู้อมตะวัยกลางคนดังขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

“เส้นทางแห่งค่ายกล?” ฟางหยวนพึมพำ

“ถูกต้อง เส้นทางแห่งค่ายกล” ดวงตาของผู้อมตะวัยกลางคนส่องประกายคมชัด

“ท่ามกลางเส้นทางมากมาย เส้นทางแห่งค่ายกลอาจเป็นเส้นทางที่ซับซ้อนที่สุด บุตรชายของข้า ตั้งแต่วันนี้ข้าจะมอบแก่นแท้บนเส้นทางแห่งค่ายกลให้กับเจ้าและแนะนำวิธีการบ่มเพาะของเจ้า” ผู้อมตะวัยกลางคนกล่าวด้วยสายตาที่เร้าร้อน

“ท่านพ่อ ข้าจะตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน” ฟางหยวนตอบกลับ

ผู้อมตะวัยกลางคนส่ายศีรษะ “ตั้งใจเรียนยังไม่พอ เจ้าต้องประสบความสำเร็จ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จ เจ้าต้องเก่งกว่าทุกคนและต้องเป็นผู้อมตะที่อายุน้อยที่สุดเพราะเจ้าคือบุตรของตู้ซื่อเฉิน เพราะเจ้าคือว่าที่ผู้นำตระกูลตู้!”