พวกเขากลับไปเดินบนถนน
ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาที่จะไม่มีใครกล้าพูดซุบซิบเรื่องหลิงฮัน พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวหลิงฮัน แต่พวกเขาหวาดกลัวฮูหนิว เด็กสาวตัวน้อยติดหนึบหลิงฮันขนาดนั้น ถ้าใครพูดไม่ดีกับหลิงฮัน เด็กสาวตัวน้อยอาจระเบิดความโกรธออกมาก็เป็นได้
หลังจากนั้นอีกสองวัน พวกเขาก็ถูกตามล่าอีกครั้ง
แน่นอนว่าต้องเป็นหูชิ่งฟาง
หลิงฮันรู้สึกชื่นชมมันจริงๆ ทั้งที่มันกลัวตายและหลบหนีไปถึงสองครั้ง แต่มันก็ยังมีหน้ากลับมาอีก ไม่สิ มันคงจะมีความต้องการอันแรงกล้า จึงลืมฉินหยีเย่วไม่ลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากลับมาแล้ว!” ไม่ว่าจะเป็นรถม้าหรือสาวงามสี่คนที่บังคับรถม้าต่างเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างคือมันไม่มีเสียงดังออกมาจากด้านในรถม้า
“ข้าจำเป็นต้องปรบมือให้เจ้าหรือไม่?” หลิงฮันเพียงยิ้ม
“ปรบมือ? เจ้าเอาเวลาไปคิดว่าจะทำยังไงให้มีรอดเถอะ!” เสียงของหูชิ่งฟางดังออกมา เมื่อประตูรถม้าเปิด มันเดินออกมาพร้อมกับชายชราที่อยู่ด้านข้าง
หลิงฮันรู้สึกตกใจและพูดว่า “ข้าไม่คิดว่านิกายวายุจันทราที่มากตัณหาของเจ้าจะเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันด้วย น่าขยะแขยงยิ่งนัก!”
“เหลวไหล!” หูชิ่งฟางตะคอก
“หึหึ พวกเจ้าทั้งสองคนต่างเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ พวกเจ้าคงทำกันอยู่ในรถม้าใช่ไหม?”หลิงฮันจงใจพูด
“เจ้าหนู ระวังปากของเจ้าหน่อย!” ชายชรารีบกล่าวออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังและแหลมคม ทำให้ตาและหูของโฉวจื่อเฟยและคนอื่นหลั่งเลือดออกมาทันที ยกเว้นฉินหยีเย่วเพราะระดับพลังของนางสูงกว่าพวกเขา
แน่นอนว่าหลิงฮัน จูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิวไม่ได้รับผลกระทบ หลิงฮันและฮูหนิวแข็งแกร่งพอที่จะต่อต้าน ส่วนจูเสวี่ยนเอ๋อนั้นถูกหลิงฮันปกป้องไว้
“ต้วนหมิงต๋า!” ฉินหยีเย่วพูดอุทานออกมากะทันหัน
“หืม ข้าไม่คิดเลยว่าสาวน้อยอย่างเจ้าจะรู้จักชายชราผู้นี้!ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นของนายน้อย ข้าอยากจะหลับนอนกับเจ้าเสียเหลือเกิน” ชายชราแสยะยิ้ม
“ต้วนหมิงต๋า จอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณ!” ฉินหยีเย่วพูดอุทานออกมาอีกครั้ง
ทุกคนรู้สึกสิ้นหวัง จอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณนั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้ฮูหนิวจะแข็งแกร่ง แต่นางเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น
และตอนนี้ต้วนหมิงต๋ามาด้วยตัวเอง ซึ่งเขาเป็นถึงจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณ แน่นอนว่าพลังต่อสู้ของเขาจะต้องห่างชั้นกว่าหยางอิงซือที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณมาก
มันจบแล้ว
ความสิ้นหวังก่อตัวขึ้นอยู่ในใจของพวกเขาอีกครั้ง
“ผู้อาวุโสต้วน ยกเว้นผู้หญิงพวกนั้น ส่วนคนที่เหลือฆ่าให้หมด!” หูชิ่งฟางกล่าว
“ขอรับ นายน้อย” ต้วนหมิงต๋าจ้องมองพวกหลิงฮันและพูมพึมพัมว่า “ใครอยากตายเป็นคนแรก?”
พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นสนุกกับพวกเขาอยู่ แต่หัวใจของโฉวจื่อเฟยและคนอื่นสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายและไม่อยากเป็นคนถูกฆ่าคนแรก
“ข้ากำลังถามพวกเจ้าอยู่ ใครอยากตายเป็นคนแรก?” ต้วนหมิงต๋าพูดออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง มันชอบที่จะเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นก่อนที่จะตาย
โฉวจื่อเฟยและคนอื่นมองหน้ากันไปมาและชี้นิ้วไปที่หลิงฮันขณะพูดว่า “เขา!”
“พวกเจ้าอย่าได้หลงกลเขา!” เหอหลันหยุนกรีดร้อง “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่มีทางปล่อยพวกเราไปอยู่แล้ว พวกเราต้องสู้!”
“พวกเราจะสู้กับเขาได้ยังไง อย่างน้อยเขาอาจทำให้พวกเรารอด!” โฉวจื่อเฟยกรีดร้อง
หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “มีคำพูดที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเจ้าไม่สู้จะต้องตาย! เดิมทีข้าไม่รังเกียจที่จะเฝ้าดูอย่างเงียบๆ ถ้าไม่มีใครฆ่ามัน ข้าก็จะเป็นคนฆ่ามันเอง”
“อวดดี!”
“เจ้าเป็นแค่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณแท้ๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ต้วนหมิงต๋าหัวเราะ มันรู้สึกชอบที่ได้เห็นพวกเขาแตกกลุ่มกันเอง
“ผู้อาวุโสต้วน รีบฆ่ามันได้แล้ว!” หูชิ่งฟางพูดเร่ง
ต้วนหมิงต๋าจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “ตั้งแต่ที่ทุกคนตัดสินใจให้ฆ่าเจ้าเป็นคนแรก ข้าก็จะทำตามความต้องการของทุกคนและฆ่าเจ้าก่อน!”
“ถ้าเจ้าทำได้ก็เข้ามา” หลิงฮันกล่าว
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าบ้าไปแล้ว!’ ต้วนหมิงต๋าแสยะยิ้มและเหลือบมองไปที่ฮูหนิว “เด็กสาวตัวน้อยคนนั้นรึที่ฆ่าหยางอิงซือ?” ปฏิกิริยาแรกเมื่อมันได้ยินมันคิดว่าเป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ตอนนี้หลังจากที่เห็นด้วยตาตัวเอง ทำให้มันรู้สึกเชื่อขึ้นมาเล็กน้อย
มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?
“สาวน้อย ไหนลองแสดงพลังที่แท้จริงของเจ้าให้ข้าได้เห็นหน่อยว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง?” ต้วนหมิงต๋ากล่าว
ฮูหนิวเค้นเสียงและพูดว่า “หลิงฮันจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง และหนิวจะไม่ยุ่ง!”
เมื่อต้วนหมิงต๋าได้ยินชื่อของหลิงฮัน มันไม่รู้สึกอะไร นั่นเป็นเพราะที่นี่คือภูมิภาคกลางที่กว้างใหญ่ไพศาล บางทีข่าวคร่าวอาจจะยังแพร่กระจายไปไม่ทั่ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนุ่มนี่แข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว?”
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “แข็งแกร่งหรือไม่นั้นอีกไม่นานเจ้าจะได้รู้เอง”
“บ้า บ้าไปแล้ว ข้าล่ะชอบนักที่จะฆ่าคนอย่างเจ้า!” ต้วนหมิงต๋าหัวเราะและปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
จอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณนั้นแข็งแกร่งมาก
แต่ว่าหลิงฮันไม่หวาดกลัว เขาเพียงแค่หัวเราะออกมาและพูดว่า “เจ้ากำลังข่มข้า?”
“ข้าไม่ได้ข่มเจ้า แต่มันเป็นแรงกดดันของจริง” ต้วนหมิงต๋าหัวเราะ มือขวาของมันกดทับไปที่หลิงฮันและพลังก่อเกิดอันไร้ที่สิ้นสุดก็พุ่งเข้าหาหลิงฮัน
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย?” ร่างของหลิงฮันหายไปในพริบตา พรึบ เขาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าอีกฝ่ายและปล่อยหมัดออกไป
เร็วมาก!
ทุกคนรู้สึกตกใจ มันรวดเร็วมากเกือบเท่ากับฮูหนิว
แม้ว่าต้วนหมิงต๋าจะไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของอูหนิวและให้ค่าอยู่เล็กน้อย แต่สำหรับหลิงฮันนั้น…นี่มันไม่น้อยเลย!
การโจมตีของหลิงฮันรวดเร็วเท่ากับสายฟ้า ซึ่งทำให้มันไม่สามารถป้องกันได้ มันมีเวลาแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่จะหันหน้าหลบ ปัง แก้มของมันถูกหมัดของหลิงฮันต่อย ทำให้โลหิตพุ่งไหลออกมาจากปากของมันทันที
มันถูกต่อยกระเด็นไปด้านหลัง และคิดที่จะล่าถอยไปตั้งหลัก แต่ทว่าหลิงฮันยังคงไล่ตามมาและอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น ซึ่งทำให้มันตัวสั่นเทาไม่หยุด
บัดซบ!