แดนนิรมิตเทพ บทที่ 627
เจิ้งหยวนฮ่าวกัดฟันแรงและกำหมัดทั้งสองไว้แน่น จนเล็บเกือบจะจิกเข้าไปในเนื้อ

แต่เมื่อเทียบกับความอับอายที่เขาได้รับตอนนี้ ทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย

สายตาของเพื่อนนักเรียนที่มองเจิ้งหยวนฮ่าว ตอนแรกเป็นความประหลาดใจ จนเปลี่ยนเป็นความเยาะเย้ย

โดยเฉพาะลูกน้องของเจิ้งหยวนฮ่าว ตอนนี้แต่ละคนรู้สึกอายจนหน้าแดง

เจิ้งหยวนฮ่าวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตอนนี้เขารู้สึกว่าขาทั้งคู่หนักมาก เขาไม่อยากจะไปแสดงความยินดีกับเฉินโม่จริง ๆ มิเช่นนั้น เขาจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของเพื่อนนักเรียน

สำรับเจิ้งหยวนฮ่าวที่ถือตัวสูงส่งเป็นพรสวรรค์อยู่ตลอดนั้น รู้สึกแย่กว่าตายซะอีก อานเข่อเยว่ที่อยู่ด้านข้างกัดฟันจนแน่นเช่นกัน เพราะทุกคนต่างรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเจิ้งหยวนฮ่าว และเธอก็ยอมรับเรื่องนี้เป็นความจริงนี้แล้ว ขาดเพียงแค่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะว่าเธอเป็นแฟนของเจิ้งหยวนฮ่าวเท่านั้น

ตอนนี้เจิ้งหยวนฮ่าวได้รับความอับอาย ซึ่งมันทำให้เธอเสียหน้าไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ทำให้เจิ้งหยวนฮ่าวอับอายขายหน้า คือผู้ชายที่เคยตามจีบเธออย่างบ้าคลั่ง

เพื่อนนักเรียนมองอานเข่อเยว่ด้วยสายตาที่รู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกอานเข่อเยว่กดขี่ ตอนนี้พวกเธอยิ้มเยาะเย้ยไม่หยุด

“ไม่รู้ว่าตอนนี้อานเข่อเยว่เสียใจกับการเลือกของตนเองในตอนนั้นหรือเปล่า ถ้าเธอเลือกเฉินโม่ วันนี้สิ่งที่เธอจะได้รับคือสายตาที่อิจฉาของทุกคน!”

สายตาที่อานเข่อเยว่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และย่อมมีความเสียใจอย่างแน่นอน เสียใจจนทำให้อานเข่อเยว่นอนไม่หลับ

แต่ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนเลือกเอง โทษคนอื่นไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เธอแบ่งแยกคนตามฐานะ ถ้าตอนนั้นเธอดีกับเฉินโม่สักหน่อย และด้วยความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของเธอกับครอบครัวของเฉินโม่มู่ มู่หรงยานเอ๋อร์กับเจี่ยงหยาวนั้นชิดซ้ายไปเลย

เพียงแต่โลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจ สิ่งที่สูญเสียไปไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้

สีหน้าของรองนายกๆ เจิ้งน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่สามารถควบคุมลูกชายของตนเองต่อหน้าผู้คนมากมายได้ ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เขาจะต้องถูกคนอื่นหัวเราะเยาะแน่นอน!

แม้แต่อนาคตทางการเมืองของเขาก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะการอบรมสั่งสอนลูกไม่ดี สำหรับคนธรรมดาแล้วอาจเป็นแค่เรื่องน่าขำ แต่สำหรับรองนายกๆ ซึ่งเป็นคนที่ประชาชนสนใจ มันมากเพียงพอที่จะแสดงถึงความประพฤติและคุณธรรมของเขา

“หยวนฮ่าว แกเป็นอะไรไป? ไม่ได้ยินที่พ่อพูดกับแกเหรอ” เจิ้งฉีหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงเย็นชามากราวกับลมพัดมาจากขั้วโลกเหนือ

แม้แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องที่อยู่ด้านข้าง ก็สามารถฟังออกว่ารองนายกๆ โกรธจริง ๆ แล้ว

เจิ้งหยวนฮ่าวตัวสั่นและลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ถ้าเขาไม่ให้เกียรติพ่อตนเองต่อหน้าคนมากมาย มันจะทำให้รองนายกๆ เจิ้งตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย และเขาไม่กล้าจินตนาการถึงผลที่ตามมา

ดังนั้น ถึงแม้ว่าเจิ้งหยวนฮ่าวจะไม่เต็มใจอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนต่อความอัปยศอดสู แล้วเดินไปยืนอยู่ข้างเจิ้งฉีหมิง

“ยังไม่รีบแสดงความยินดีกับเฉินโม่อีก!” เสียงของเจิ้งฉีหมิงเย็นชาเล็กน้อย

เจิ้งหยวนฮ่าวมองเฉินโม่ มีความอับอาย ความโกรธ และความไม่พอใจ อารมณ์ต่าง ๆ โจมตีเขาราวกับคลื่นพายุรุนแรง จนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขากำมือทั้งคู่ไว้แน่น จนเล็บจิบเข้าไปในเนื้อ เลือดหยดลงไปจากนิ้ว

เขาไม่สามารถเอ่ยปากพูดแสดงความยินดีออกมาได้

ขณะนี้ ใครก็สามารถมองออกว่าเจิ้งหยวนฮ่าวกับเฉินโม่เป็นศัตรูกัน

แล้วเจิ้งฉีหมิงที่เป็นพ่อของเจิ้งหยวนฮ่าว จะไม่รู้ได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม เจิ้งฉีหมิงเพิ่มระดับเสียงขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ความโกรธที่เขาพยายามซ่อนอยู่ ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว น้ำเสียงเย็นชาจนทำให้คนรู้สึกชาหนังศีรษะ “เร็วสิ!”

นายกๆ เอี๋ยนเงยหน้ามองเจิ้งฉีหมิง มีความชื่นชมประกายผ่านดวงตา และแอบถอนหายใจเล็กน้อย “เจิ้งฉีหมิงเป็นคนเจ้าเล่ห์จริง ๆ”

เฉินโม่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ลืมตาขึ้นเล็กน้อย แล้วมองภาพนี้อย่างเงียบ ๆ