เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 511
ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ ลู่ฝานสูดหายใจลึก พลังฟ้าดินรอบๆ เคลื่อนไหวภายใต้การหายใจของเขา บนพื้นมีลมหมุนเล็กน้อยปรากฏขึ้นมา

ลู่ฝานยืดเส้นยืดสาย บาดแผลดีขึ้นเกือบครึ่งเพราะฤทธิ์ยา บวกกับความสามารถในการฟื้นฟูที่วิปริตของเขา เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ก็ฟื้นฟูจนเกือบหาย มีเพียงแค่เกราะเกล็ดมังกร ที่ยังคงใช้ไม่ได้ไปสองสามวัน

“ขอบคุณคุณเซี่ยวเอ๋อร์มาก”

ลู่ฝานคารวะ กินยาของคนอื่น ยังไงก็ต้องพูดเพราะๆ

เซี่ยวเอ๋อร์เบะปากพูดว่า “ถ้าไม่เห็นแก่ที่นายทุ่มสุดตัว ฉันไม่มีทางให้ยานายหรอก”

เซี่ยวเอ๋อร์หันมามองผู้อาวุโส แล้วพูดว่า “ปู่โม่ ถือว่าเราผ่านหรือยัง”

ผู้อาวุโสที่โดนเรียกว่าปู่โม่ ยิ้มแล้วพูดว่า “จิตอัคคีที่เอามาได้ยาก อยู่ในมือพวกคุณแล้ว ฉันคงไม่มีเหตุผลใด ที่ไม่ให้พวกคุณไม่ผ่าน ลู่ฝานใช่ไหม ดีมาก ถ้าไม่เป็นอะไร รีบเตรียมตัวไปด่านสุดท้ายกับฉัน”

เมื่อลู่ฝานได้ยินว่าด่านสุดท้าย เขาเย็นยะเยือกไปทั้งใจ

ให้ตายเถอะ ในข้อมูลไม่ได้พูดเกี่ยวกับด่านที่สาม

ลู่ฝานก็ไม่รู้ว่าด่านที่สามคืออะไร เขาอดกังวลใจไม่ได้

ตอนนี้จิตอัคคีในมือ ปล่อยแสงอุ่นๆ ออกมา ลู่ฝานไม่ได้มองนาน เอามันใส่ลงไปในเข็มขัดทันที

ลู่ฝานจำได้ว่ามีสูตรการกลั่นยาพิเศษหลายสูตร ต้องใช้จิตอัคคี สูตรการกลั่นยาพวกนั้นอย่างน้อยอยู่ในระดับทิพย์ เห็นถึงระดับความหายากของจิตอัคคีได้เลย ความพยายามครั้งนี้ ไม่เสียเปล่าแล้ว

ดูเหมือนเซี่ยวเอ๋อร์ไม่ได้ต้องการจิตอัคคีด้วย ลู่ฝานจึงเอามาเป็นของตัวเองแบบเงียบๆ

รวยแบบเงียบๆ แล้วจะปลอดภัย คือทางที่ถูกต้อง

ทั้งสามคนเดินกลับมา ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักไร้คมของตัวเองกลับมา

นักบู๊ที่สอบประเมินคนอื่น ไม่มีใครที่ไม่มองลู่ฝานด้วยสายตาสับสน

1-2 ปีนี้ ลู่ฝานเห็นสายตาแบบนี้มาเยอะแล้ว เขากวาดตามอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ผู้อาวุโสพูดเสียงก้องว่า “คนที่ยอมแพ้ทั้งหมด คนที่ไม่ได้จิตอัคคี ถือว่าไม่ผ่านการสอบประเมิน พวกนายค่อยมาสอบใหม่ครั้งหน้า”

ทุกคนพยักหน้าเบาๆ แต่สีหน้าพวกเขาไม่ได้เศร้าเท่าไร กลับมองลู่ฝานอยู่อย่างชื้นชม

“คุณชายลู่ฝานใช่ไหม ผมชื่อสีว์หลิงซง มาจากเมืองหนิงโจว มาเป็นเพื่อนกันเถอะ”

“คุณชายลู่ฝาน ผมคือเสิ่นอู๋ซวงแห่งตระกูลเสิ่น เมืองเฟยอี่ว์ วันนี้ได้พบคุณชายลู่ฝาน โชคดีทั้งสามชาติจริงๆ เป็นเพื่อนกันได้ไหมครับ”

“คุณชายลู่ฝาน เป็นเพียงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถือว่าเป็นน้ำใจอะไร หวังว่าสองสามวันนี้ คุณชายลู่จะมาร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลอี่ว์ของเราได้ ผมอี่ว์โฉว จะจัดงานเลี้ยงสุดหรู เรียนเชิญคุณชายลู่ฝาน”

……

กลุ่มคนพากันเข้ามาห้อมล้อมลู่ฝาน

ลู่ฝานยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เซี่ยวเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ กระแอมเบาๆ แล้วพูดว่า “พวกนายพอแล้ว คุณชายลู่ฝานเป็นแขกของฉัน”

เพียงประโยคเดียว คนพวกนี้หุบปากทันที

มีคนหนึ่งกำลังจะพูดอะไร คนข้างๆ ดึงเขาเบาๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “คนของตระกูลอี้ว์ นายหาเรื่องไม่ได้หรอก”

ลู่ฝานมองเซี่ยวเอ๋อร์อย่างสงสัย เหมือนผู้หญิงคนนี้มีที่มาไม่ธรรมดา

ผู้อาวุโสสะบัดมือแล้วพูดว่า “พอแล้ว พวกนายกลับไปได้แล้ว”

เมื่อพูดจบ เขาก็สะบัดมือ ค่ายกลใต้เท้าสว่างขึ้นมาอีก

ทุกคนรู้สึกเหมือนโลกหมุนเคว้ง วิวรอบๆ เปลี่ยนอีกครั้ง

ตอนเท้าสัมผัสกับพื้น ลู่ฝาน เซี่ยวเอ๋อร์ และผู้อาวุโส ปรากฏตัวอยู่ในคฤหาสน์