169 ต่งรั่งหลินสารภาพรัก(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่169 ต่งรั่งหลินสารภาพรัก(1)

เช้าวันถัดมา เซียวชูหรันไปที่ออฟฟิศอย่างรีบเร่ง

เย่เฉินขับรถจักรยานไฟฟ้าของตน ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสด

ระยะหลังเซียวชูหรันใจจดจ่อยุ่งกับเรื่องที่ทำงาน ลำบากเป็นอย่างมาก เขาซื้ออาหารที่มีโภชนาการสูงไว้เป็นพิเศษ เตรียมไว้เพื่อบำรุงภรรยา

รอซื้อกับข้าวเสร็จ เย่เฉินเดินออกมาจากตลาด ไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ ก็เห็นต่งรั่งหลิน

“เย่เฉิน!” ต่งรั่งหลินเรียกเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

เย่เฉินมองไปที่เขา พูดด้วยความประหลาดใจว่า: “ต่งรั่งหลิน บังเอิญจัง คุณก็มาที่นี่!”

ต่งรั่งหลินมองเย่เฉิน และพูดตะกุกตะกัก: “ใช่……ใช่ ไม่ ไม่……ไม่ใช่ ฉัน……ฉันเอ่อ……”

เย่เฉินพูดอย่าง งงงวยว่า:“คุณพูดช้าลงหน่อย หรือว่าเกิดเรื่องแล้วใช่มั้ย?”

ต่งรั่งหลินวิตกกังวลจนหน้าชา แท้จริงเธอรออยู่ที่นอกบ้านของเซียวชูหรันตั้งแต่เช้าแล้ว เดินตาม เย่เฉินมาตลอดทาง

ต่งรั่งหลินรวบรวมความกล้า กัดริมฝีปากแดงระเรื่อเบา ๆ แล้วพูดว่า: “ฉัน……ฉันตั้งใจมาขอบคุณคุณเป็นพิเศษ ขอบคุณที่เมื่อวานคุณช่วยชีวิตฉันไว้” เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงขบขันว่า: “ฉันช่วยคุณก็เพราะคุณเป็นเพื่อนสนิทของชูหรัน ผมกับคุณไม่ต้องเกรงใจอะไรขนาดนั้น” เขานึกว่าเกิดเรื่องอะไร ที่แท้ก็เพราะอย่างนี่เอง

ต่งรั่งหลินส่ายหัวไปมา รวบรวมความกล้าพูดต่อไปอีกว่า: “เย่เฉิน ที่จริงแล้ว……ที่จริงฉันยังรู้ คุณไม่เพียงช่วยฉันเมื่อวานนี้ คราวก่อนตอนอยู่ที่โรงแรมจินหลิง คนที่ช่วยเหลือฉันก็คือคุณ”

เสียงตุบดังขึ้นในใจของเย่เฉิน เรื่องคราวก่อนต่งรั่งหลินรู้ได้อย่างไร? ครั้งก่อนตนใส่หน้ากาก เธอไม่น่าจะรู้นะ!

เขารีบปฏิเสธทันทีพูดว่า: “คุณจำคนผิดแน่ ๆ? ผมไม่เคยไปที่โรงแรมจินหลิงอะไรนั้นเลย คนที่ช่วยเหลือคุณจะต้องเป็นผู้อื่นอย่างแน่นอน”

ต่งรั่งหลินมองไปยังเย่เฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ข้างในมีทั้งไม่เต็มใจ มีทั้งความชื่นชม ยังมีความคับข้องใจที่ไม่อาจเผยออกไปได้

ทำไมเขาไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะยอมรับ? หรือว่า ในสายตาของเขาตนเองไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึงเลยหรือไง? เขาไม่เต็มใจแม้แต่จะยอมรับว่าได้เคยช่วยเหลือตนเองมาก่อน?

คิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอพูดต่อไปด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า: “ที่โรงแรมจินหลิงเวลานั้น เซียวไห่หลงเชิญฉันมารับประทานอาหาร ฉันถูกให้ไปขายบริการกับลูกไฮโซ ผลที่เกิดคือเซียวไห่หลงทำให้พวกเค้าโกรธ ถูกคนล้อมอยู่ที่ประตูโรงแรม มองดูแล้วน่าจะเกิดเรื่องใหญ่ ไม่คาดคิดว่าในสถานการณ์ที่อันตรายนั้นเซียวไห่หลงทิ้งฉันและวิ่งหนีไป ในขณะนั้นเองมีฮีโร่สวมหน้ากากคนหนึ่ง ราวกับฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ ชกต่อยคนทั้งหมดล้มคะมำ ช่วยเหลือฉันให้ปลอดภัย และคุณยังพาฉัน……”

เล่าถึงตรงนี้ สีหน้าของต่งรั่งหลินแดงระเรื่อขึ้นในพริบตา ในวันนั้นตนและเย่เฉินได้สัมผัสใกล้ชิดกัน กางเกงก็ถูกเย่เฉินถอดออกไป……

แน่นอน เธอรู้อย่างชัดเจนว่า เย่เฉินถอดกางเกงของตนไป ที่จริงแล้วก็เพื่อช่วยเหลือตน ไม่มีความคิดที่จะล่วงเกินแต่อย่างใด

เย่เฉินฟังจบใบหน้ารู้สึกเขินอาย เธอคนนี้ เล่าเรื่องแบบนี้อย่างเปิดเผยตรง ๆ เรื่องแบบนี้ตนเองจะยอมรับได้หรือ? ไม่ได้อย่างแน่นอน!”

ถ้าหากเซียวชูหรันรู้เรื่องระหว่างตนและเพื่อนสนิทของเธอเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ต้องเดือดดาลแน่นอน!

“รั่งหลิน คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันต่อสู้เป็น แต่ฉันไม่ใช่ผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือคุณคนนั้นแน่นอน”

พูดจบ ก็รีบร้อนเปลี่ยนเรื่องพูด: “หากว่าใช่ ก็แค่เรื่องเมื่อวานที่ช่วยคุณครั้งนั้น!”

เห็นเย่เฉินยังไม่ยอมรับ ต่งรั่งหลินถอนหายใจดังเฮ้อ นำหินคุ้มกันชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า

“หินชิ้นนี้ล่ะ? คุณจะอธิบายอย่างไร”

เย่เฉินเพ่งมอง นี่มันหินที่ตนเองทำหายนานมาแล้วไม่ใช่เหรอ? ตามหามาตลอด ไปอยู่ในมือของต่งรั่งหลินได้อย่างไร หรือว่า เธอจะเก็บได้ ตอนที่ช่วยเหลือเธอที่โรงแรมจินหลิง?”