ตอนที่ 212

Legend of the mythological genes

“ราชาแห่งระบบสุริยะ?”

 

หลังจากที่จอมพลพูด ทุกคนในพื้นที่ก็เริ่มหายใจหอบ

สีหน้าของอัจฉริยะจากทั่วทั้งระบบสุริยะจักรวาลกลายเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาส่องแสงประกายแห่งความคาดหวัง

การลงทะเบียนอิสระจะมีแต่นักเรียนที่มีความสามารถสูงสุดเท่านั้น ผู้สมัครสอบที่ไม่ใช่อัจฉริยะจะไม่มีความมั่นใจและกล้าหาญที่จะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกภพ

ตราบใดที่พวกเขาได้คะแนนสูงสุดในการสอบรอบที่สอง พวกเขาก็จะกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในระบบสุริยะ ราชาแห่งระบบสุริยะ!

ใครจะไม่ต้องการสิ่งนี้?

ผู้สมัครสอบเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อคนอื่นๆมากมายในรุ่นเดียวกัน พวกเขามีความเย่อหยิ่งอยู่ในใจตามธรรมชาติและต้องการจะประสบความสำเร็จ

แม้แต่เฟิงหลินก็รู้สึกได้ว่ามีไฟเผาไหม้อยู่ในใจของเขา

ความขัดแย้งของเต๋า มันไม่อนุญาตให้ใครถอยออกไป

หากใครพลาดโอกาส ใครจะรู้ว่าจะไม่พลาดโอกาสที่สอง?

หากหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและทำให้พลาดโอกาส แม้ว่าพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะพวกเขาก็จะกลายเป็นขยะในที่สุด

เฉพาะผู้ที่มีความกล้าที่จะเดินหน้าต่อไปเท่านั้นที่จะสามารถหลบสิ่งกีดขวางได้ เมื่อมุ่งหน้าไปด้วยแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่

ผู้สมัครสอบทั้งหมดที่นี่มุ่งมั่นที่จะชนะ

เราอดไม่ได้ที่จะพูดว่าจอมพลนี้มีหลายวิธี เพียงคำพูดง่ายๆจากเขาทำให้หัวใจของทุกคนกระจัดกระจาย

ความเป็นปรปักษ์ในอากาศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

 

จอมพลจีรอสพูดต่อ “ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปยังดาวอสุรา มันเป็นสถานที่ที่อยู่กาแล็กซี่ทางช้างเผือกตอนหน้าที่ขับไล่อาชญากร บนดาวอสุรามีสัตว์ประหลาดชีวเคมีมากมายนับไม่ถ้วนที่มีความสามารถในการสืบพันธุ์แข็งแกร่ง หลังจากระยะเวลาหนึ่งสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจะทวีคูณเป็นจำนวนมากและมนุษยชาติจะต้องส่งคนไปเป็นประจำและแน่นอนว่าส่งไปเพื่อกำจัดสัตว์ประหลาด ดังนั้นการสอบรอบที่สองนี้ งานของพวกคุณคือการฆ่าสัตว์ประหลาดชีวเคมีเหล่านี้ และยิ่งถ้าคุณฆ่าได้เยอะคะแนนจะยิ่งสูงขึ้น ฉันขอเตือนว่ามีอาชญากรที่น่ากลัวมากมายที่นั่น พวกมันเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและแต่ละคนก็คล้ายกับปีศาจร้าย อาชญากรเหล่านี้จะเป็นศัตรูของเธอในสายตาของพวกมัน พวกเธอทุกคนเป็นอาหารแสนโอชะ เมื่อพวกมันเจอเธอ มีโอกาสสูงที่พวกมันจะโจมตีเธอตามธรรมชาติ เนื่องจากไม่มีกฎใดๆในดาวอสุรา พวกเธอสามารถฆ่าพวกมันได้เช่นกันและจะไม่มีการลงโทษใด ๆ … เพื่อเคารพความเป็นส่วนตัวจะไม่มีระบบตรวจสอบที่นั่น เธอสามารถใช้วิธีการใดก็ได้ที่คุณต้องการ หลังจากล่าสัตว์ชีวเคมีแล้วอย่าลืมตัดกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของมันมา ในตอนท้ายของการสอบขนาดและประเภทของนิ้วหัวแม่มือมอนสเตอร์ที่เธอมีจะมีคะแนนที่แตกต่างกัน”

 

คำปราศรัยของจอมพลนั้นรัดกุมและครอบคลุม แจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับเนื้อหาและอันตรายของการสอบรอบสอง

หลังจากพูดจนถึงตรงนี้ เขาหยุดสักครู่ก่อนจะพูดต่ออย่างลึกซึ้ง “แต่ฉันยังต้องเตือนพวกเธอ ในระหว่างการสอบเธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าผู้แข่งขันโดยตรง หากถูกค้นพบ เธอจะหมดสิทธิ์และถูกส่งกลับทันที”

 

หลังจากได้ยินคำเหล่านี้บรรยากาศก็เงียบลง

เฟิงหลินเข้าใจดี

แม้ว่าคำพูดของจอมพลดูเหมือนจะเป็นคำเตือนเพื่อประโยชน์ของทุกคน ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในก็กระตุ้นให้ผู้สมัครทุกคนพยายามอย่างดีที่สุดและฆ่ากันเอง

ที่เขาพูดหมายความว่ายังไง พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าผู้แข่งขันโดยตรง?

หมายความว่าการฆ่าทางอ้อมจะได้รับอนุญาต?

คะแนนสอบจะขึ้นอยู่กับจำนวนกระดูกนิ้วหัวแม่มือสัตว์ประหลาดที่ฆ่ามาได้ มีหลายวิธีในการเพิ่มคะแนน ตราบใดที่คนๆหนึ่งฆ่าคนอื่นโดยอ้อม พวกเขาก็จะได้รับกระดูกนิ้วหัวแม่มือของสัตว์ประหลาดที่คนๆนั้นมี ไม่ว่าในกรณีใดไม่มีการตั้งค่าระบบการตรวจสอบ

จิตสังหารครอบคลุมไปทั่ว

ผู้สมัครสอบต่าง ๆ ทุกคนมีสถานะพลังสูงมาก ไม่มีคนโง่ที่นี่ ทุกคนฉลาดมาก พวกเขาสามารถมองเห็นจุดสำคัญได้ทันทีและหลายคนเริ่มยิ้มอย่างเย็นชา

ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายความมุ่งร้าย ขณะที่พวกเขาสำรวจคู่ต่อสู้ความคิดต่างๆก็พุ่งทะลุจิตใจของพวกเขา

 

“ดาวอสุรา อสุราเป็นเทพชั่วร้ายในตำนานฆ่าคนมานับไม่ถ้วนสถานที่แห่งนี้เหมาะสมจริงๆ” หัวใจของเฟิงหลินเย็นชาดุจน้ำแข็ง เขาไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ(อาชูร่า)

เขานึกภาพออกแล้วว่าการสอบรอบสองนี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการนองเลือด ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเวลาสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถ

หากคนอื่นมีเจตนาร้ายต่อเขาอย่างแท้จริงก็จะไม่มีใครมาตำหนิเขาไร้เมตตา

การแก้แค้นนั้น สิบปีก็ยังถือว่าไม่สาย

สำหรับเฟิงหลินเขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้แก้แค้น นี่เป็นโอกาส!

“ดาวสุราอยู่ในภูมิภาคดาวห่างจากระบบสุริยะประมาณ 5,000 ปีแสง แม้จะเดินทางผ่านรูหนอนเราก็ยังต้องใช้เวลาอีกสามวัน พวกเธอสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เรามีเวลาพักผ่อนสามวัน สิ่งที่กำลังรอพวกเธออยู่คือการเดินทางแสนน่ากลัว ฉันขอให้พวกเธอทุกคนโชคดี ” จอมพลจีลอสหัวเราะ และเดินนำทหารติดอาวุธออกไป

 

ภายใต้ข้อมูลที่ได้รับจากปัญญาประดิษฐ์ยานรบ เฟิงหลินและคนอื่น ๆ เดินไปที่ห้องของพวกเขาเพื่อพักผ่อน

การตกแต่งภายในของยานรบนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ผู้สมัครสอบทุกคนจะได้รับห้องพักหรูหราขนาดประมาณ 200 ตารางเมตร ห้องพักเต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงห้องเสมือน ห้องบ่มเพาะและห้องพักผ่อน …

เฟิงหลินนั่งบนเตียงและเริ่มบ่มเพาะ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเสียงออดก็ดังขึ้น

เขาขมวดคิ้วและลืมตา ใครมาหาเขา?

หลังจากที่เขาเปิดประตู คนแปลกหน้าสี่คนก็ยืนอยู่หน้าห้อง มีทั้งชายและหญิง และบุคคลที่เป็นผู้นำก็คือชายหนุ่มหน้ากลมดูไม่เป็นอันตราย

 

“ฉันขอถามว่าอะไรนายหน่อยได้ไหมเฟิงหลิน? นายสนใจที่จะร่วมทีมกับเราไหม?” ชายหนุ่มหน้ากลมยิ้ม

“หืมม?” เฟิงหลินรู้สึกสับสน

“การสอบรอบที่สองบนดาวอสุราโหดร้ายมาก การรวมกลุ่มกันเท่านั้นที่เราจะมีโอกาสรอดชีวิต! ผู้สมัครคนอื่น ๆ ได้เริ่มสร้างพันธมิตรขึ้นมาแล้วไม่มีใครต้องการพวกเราสี่คน ดังนั้นจึงเราตัดสินใจที่จะร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันและทำคะแนนให้ดีที่สุด ฉันสังเกตเห็นว่านายอยู่คนเดียวเช่นกัน นายต้องการเข้าร่วมกับเราหรือไม่ มันจะปลอดภัยกว่านี้หากเรามีคนมากกว่านี้ ” ชายหนุ่มหน้ากลมพูดเชิญอย่างจริงใจ

 

พวกขี้แพ้เหล่านี้ตัดสินใจที่จะรวมกลุ่มเพื่อเป็นพันธมิตรกันเอง?

ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีเจตนาดี แต่พลังวิญญาณของเฟิงหลินนั้นไวมาก เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อชายหนุ่มหน้ากลมพูดหัวใจของเขาส่งความผันผวนแปลกๆ เคลือบด้วยความเป็นศัตรู

ชายหนุ่มหน้ากลมคนนี้ดูไม่เป็นอันตราย แต่ตามความเป็นจริงเขาซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ เขาไม่ใช่คนดี

จะมีเรื่องดีๆเช่นนี้ในโลกได้ยังไง?

เฟิงหลินยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขา แต่คนเหล่านี้ต้องการให้เขาเป็นพันธมิตรด้วย?

คนพวกนี้มีความคิดที่จะตามหาเขา พวกเขาไม่กลัวว่าเขาจะเป็นภาระและทำให้คนในกลุ่มต้องตายบนดาวอสุราหรือไงกัน?

พวกเขามีความตั้งใจดีจริงๆหรอ?

เจตนาดีจะมีอยู่จริงในการทดสอบที่โหดร้ายเช่นนี้จริงๆ?

เฟิงหลินเป็นอิสระมานานแล้ว เขามักจะมองในมุมมองที่ร้ายที่สุดเสมอ

ในมุมมองของเขาแรงจูงใจของคนเหล่านี้ไม่ได้บริสุทธิ์

เฟิงหลินไม่คุ้นเคยกับการอยู่เป็นกลุ่ม ยิ่งกว่านั้นคนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่ไม่ดี ไม่มีทางที่เขาจะตกลง

 

“ฉันขอโทษด้วย ฉันจะไม่เข้าร่วมกลุ่มใครทั้งนั้น” เฟิงหลินปฏิเสธและไม่รอให้คนเหล่านั้นพูดอะไร เขาปิดประตู ไม่พูดกับพวกเขาอีกต่อไป

 

เมื่อชายหนุ่มหน้ากลมเห็นว่าเฟิงหลินไม่ไว้หน้าพวกเขาเลย ดวงตาของเขาก็หรี่แคบลง รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนจากความอบอุ่นและอ่อนโยนเป็นเยือกเย็น

คราวนี้เฟิงหลินสัมผัสถึงเจตนาร้ายได้ชัดเจน รู้สึกเหมือนมีเข็มแทงที่หลังของเขา

ชายจากดาวอังคารก่อนหน้านี้ และแขกที่ไม่ได้รับเชิญกลุ่มนี้ เฟิงหลินสามารถรู้สึกถึงกระแสน้ำที่เคลื่อนไหวในที่มืด แม้ว่าเขาจะยังคงโดดเดี่ยวและเป็นอิสระอยู่เสมอ ไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางได้อยู่คนเดียวแน่ บนดาวอสุรา เขาต้องระวังตัวให้มาก

สามวันผ่านไป ยานรบสั่นสะเทือนขณะที่มันกำลังบินผ่านอวกาศ การเดินทางผ่านรูหนอนสิ้นสุดลงแล้ว

เฟิงหลินลืมตา เห็นดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ปกคลุมไปด้วยความมืด ลอยโดดเดี่ยวในอวกาศ

พวกเขามาถึงดาวอสุราแล้ว!