ตอนที่ 1947
ทว่าเดม่อนบางตัวก็เชื่องช้าเกินไป ไม่ระวังตัวจนพิษเหล่านี้สัมผัสเข้ากับร่างกาย ทันใดนั้นพวกมันก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ในขณะเดียวกันพิษสีดําเหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับกรดซัลฟิวริกก็ว่าได้ ร่างกายของพวกมันถูกกัดกร่อนไปอย่างรวดเร็ว
ภายในหนึ่งลมหายใจ ไม่คาดคิดว่าร่างของพวกมันจะถูกกัดกร่อนจนละลายกลายเป็นกลุ่มมวลสารสีดํา แม้แต่ที่พื้นก็ถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ เป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก
บนอากาศก็เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของกํามะถัน ไม่คาดคิดว่าแม้แต่อากาศเองก็จะแอบแฝงไปด้วยพิษ หมอกพิษลอยออกมารอบๆจนพวกเดม่อนไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ ส่งเสียงไอออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเวลานี้ราชันเดม่อนอสรพิษก็อยู่ในจุดศูนย์กลาง พื้นที่ในระยะหลายร้อยกิโลเมตรก่อตัวกลายเป็นสนามพิษ เดม่อนปกติทั่วไปที่มีภูมิคุ้มกันต่ําไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้
“แช่แข็ง!”
เซียปิงก็มองอย่างที่ไม่ต้องการมอง จากนั้นเขาก็ตบฝ่ามือออกไป ไหลเวียนทักษะพลังงานเยือกเย็นเก้าสวรรค์ พลังฉีเยือกแข็งที่น่าสะพรึงกลัวได้เอ่อล้นออกมาจากร่างกายของเขาทันที ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหลายร้อยกิโลเมตร
ทันใดนั้นกระแสเย็นก็พัดออกไปในทุกทิศทาง ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด พื้นที่บริเวณนั้นก็จะถูกแช่แข็ง เหมือนว่าจะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นโลกน้ําแข็งสีขาวก็ว่าได้ ความหนาวเหน็บเข้าปกคลุมรอบๆ
อะไรกัน?!
ราชันเดม่อนอสรพิษก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา ม่านตาขยายขึ้น เพราะมันค้นพบว่ากระแสเย็นเหล่านี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก พิษนับไม่ถ้วนของมันที่กระจายออกไป ไม่คาดคิดว่าจะถูกแช่แข็งไปอย่างง่ายดาย เปลี่ยนกลายเป็นอนุภาคน้ําแข็ง
อีกทั้งกระแสเย็นนี้ก็พัดเข้ามาจากทุกทิศทาง มาถึงที่ร่างกายของมันอย่างกะทันหัน ปกคลุมทั่วทั้งร่างของมัน
คาช่า คาซ่า อึดใจต่อมา ร่างของราชันเดม่อนอสรพิษก็ถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็ง เป็นรูปปั้นน้ําแข็งที่ดูสมจริงและมีชีวิตชีวาอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถมองเห็นสีหน้าที่แตกตื่นของมันก่อนที่จะถูกแช่แข็งได้อย่างชัดเจน
พลังฉีเย็นที่ปกคลุมไปรอบๆก็ทําให้เดม่อนจํานวนมากตื่นตระหนกขึ้นมา เหมือนว่าหากสัมผัสเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อย จะต้องถูกแช่แข็งทันที เป็นไปได้ว่าจะตามรอยเท้าของราชันเดม่อนอสรพิษไป
ตบ!
เซี่ยปิงก็ชี้นิ้วออกไป พลังงานฉีที่ทรงอํานาจปะทุออกไปจากนิ้วก่อนที่จะระเบิดเข้าใส่รูปปั้นน้ําแข็งนี้ รูปปั้นน้ําแข็งของราชันเดม่อนอสรพิษก็แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆอย่างกะทันหัน ร่างของราชันเดม่อนอสรพิษก็ไม่ต้องพูดถึง แตกสลายไปพร้อมๆกัน จิตศักดิ์สิทธิ์ดับสลายไป
“ราชันเดม่อนอสรพิษตายไปเช่นนี้? ถูกเจ้ามนุษย์นั่นสังหารในภายในชั่วครู่เดียว?!”
“บัดซบ เจ้ามนุษย์นี้จะทรงพลังเกินไปแล้ว”
“เวรเอ๊ย การที่เขากล้าเข้ามาในรังของพวกเราเดม่อนด้วยตัวคนเดียว เขาคงเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับพวกเราทั้งหมดแล้ว”
“พวกเราร่วมมือกัน ฉีกร่างของเจ้ามนุษย์ที่ยโสโอหังนี้ให้กลายเป็นชิ้นๆ”
เมื่อเห็นว่าราชันเดม่อนอสรพิษถูกสังหารไป เดม่อนในระดับราชันตัวอื่นๆก็โมโหขึ้นมา เจ้ามนุษย์นี่สังหารตัวตนในระดับราชันเดม่อนอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัว ไม่ได้เห็นพวกมันเดม่อนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“เจ้ามนุษย์โง่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเพียงผู้เดียวที่มีพลังอํานาจของน้ําแข็งหรือ? ลองลิ้มรสน้ําแข็งอบิสของข้าราชั้นเดม่อนน้ําแข็งดู!” ราชันเดม่อนน้ําแข็งก็ตะโกนเสียงดังออกมา
ทั่วทั้งร่างกายของมันโปร่งใสและเป็นประกาย ทว่ากลับเป็นสีดํา เหมือนว่าควบแน่นขึ้นมาจากน้ําแข็งสีดําก็ว่าได้ ทั่วทั้งร่างกายแผ่คลื่นหนาวเหน็บที่เสียดแทงไปบนอากาศ ทําให้ผู้ที่อยู่รอบๆขนลุกซู่ขึ้นมา
นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของราชันเดม่อนน้ําแข็งที่กําเนิดขึ้นมาในอบิส ภายในร่างกายของมันแอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจเยือกแข็งที่ทรงพลังอย่างที่สุด เดม่อนปกติทั่วไปที่เผชิญหน้ากับมันจะถูกแช่แข็งไปอย่างกะทันหัน ไม่มีทางที่จะสู้ได้
เห็นเพียงแค่ว่าทันทีที่มันเคลื่อนไหวออกมา กระแสเย็นสีดําก็พัดออกไป อุณหภูมิโดยรอบลดต่ําลงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว มาถึงจุดที่น้ําต้องเปลี่ยนกลายเป็นน้ําแข็ง แม้แต่พลังเย็นสีดํานี้ก็แอบแฝงไปด้วยพลังฉีเดม่อนที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนเช่นกัน
นี่ไม่ใช่แค่สามารถแช่แข็งสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเท่านั้น ทว่าก็ยังสามารถกัดกร่อนพลังชีวิตได้เช่นกันเป็นการโจมตีประสาน แม้แต่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ก็ไม่สามารถต้านทานได้
“ตายซะ เจ้ามนุษย์ เพลงดาบชําแหละเทพเจ้า!”
ราชันเดม่อนอีกตัวก็เคลื่อนไหวออกมา มันคือราชันเดม่อนชําแหละ ร่างกายของมันมีหนวดอยู่108เส้นด้วยกัน ทว่าหนวดสีครามแต่ละเส้นเป็นเหมือนกับคมดาบก็ว่าได้ สามารถที่จะตัดทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง
เมื่อหนวดทั้ง108เส้นนี้โจมตีศัตรู นี่จะเป็นเหมือนกับยอดนักดาบจํานวน108คนที่แสดงเพลงดาบระดับสุดยอดออกมาพร้อมๆกัน แสงดาบที่แหลมคมสามารถที่จะตัดฉีกศัตรูได้อย่างกะทันหัน
ดาบพลังฉีที่ปะทุออกมา สามารถทําลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่เหล็กไมก้าก็ยังตัดได้อย่างง่ายดาย ราวกับเป็นการตัดเต้าหูก็ว่าได้
ภายในระยะเวลาอันสั้น ดาบพลังฉีของราชันเดม่อนชําแหละก็ปรากฏขึ้นมา ดาบพลังฉีจํานวนนับแสนปรากฏขึ้นมาบนอากาศ รวมกันอย่างแน่นขนัด เหมือนว่าจะตัดฉีกพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด ทําให้ผู้ที่อยู่รอบๆรู้สึกใจสั่นและเสียวสันหลังวาบ
คาดการณ์ได้ว่าต่อให้มีเดม่อนในระดับต่ําจํานวนกว่าล้านตัวที่ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ ก็จะต้องถูกตัดจนกลายเป็นก้อนเนื้อจํานวนนับไม่ถ้วนภายในชั่วพริบตา
“ลําแสงเดม่อนแห่งการทําลายล้าง!”
ผู้ที่เคลื่อนไหวออกมานี้ก็คือราชันเดม่อนร้อยเนตร เห็นเพียงแค่ว่ามันมีความสูงกว่าสิบเมตร ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยดวงตานับร้อย ดวงตาแต่ละดวงเผยให้เห็นถึงความมืดมนและความน่าสะพรึงกลัว กลอกไปมา เหมือนว่าจะมีสติสัมปชัญญะเป็นของตนเองก็ว่าได้
ผู้คนปกติธรรมดาที่มองเข้าไปในดวงตาเหล่านี้ จะถูกพลังวิญญาณของราชันเดม่อนร้อยเนตรกัดกร่อนและทําให้คลุ้มคลั่งขึ้นมาได้
ดวงตาแต่ละดวงของมันมีลําแสงเดม่อนแห่งการทําลายล้างปะทุออกมา แอบแฝงไปด้วยพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว มันที่ยืนอยู่ในจุดๆเดิม ราวกับเป็นป้อมปราการที่ยิงปืนใหญ่นับไม่ถ้วนออกมาก็ว่าได้
ภายในระยะเวลาอันสั้น ลําแสงเดม่อนแห่งการทําลายล้างก็ปะทุออกมานับหมื่นเส้น เป็นการโจมตีแบบกระจายออกไปสู่เซียปิง เหมือนว่าจะต้องทําลายพื้นที่บริเวณนี้ให้สิ้นซาก
“เปลวไฟเดม่อนแห่งอบิส!”
ราชันเดม่อนแผดเผาก็ไม่สามารถยับยั้งความโมโหของตนเองได้ ทั่วทั้งร่างกายของมันเหมือนกับควบแน่นขึ้นมาจากก้อนหิน ทว่าทุกๆที่กลับมีลาวาไหลเวียนอยู่ ควันที่หนาแน่นลอยออกมาจากร่าง เต็มไปด้วยกลิ่นของกํามะถัน ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่ สูงกว่าหลายร้อยเมตร ราวกับเป็นภูเขาขนาดเล็กก็ว่าได้
ทั่วทั้งร่างกายของมันก็มีเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวลุกโชนออกมา นี่คือเปลวไฟเดม่อนแห่งอบิสเทียบเท่าได้กับเปลวไฟแห่งสวรรค์ เมื่อใดที่ศัตรูสัมผัสเข้ากับเปลวไฟนี้ จะต้องถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปอย่างกะทันหัน
เห็นเพียงแค่ว่ามันไหลเวียนพลังอํานาจของเดม่อนออกมา เปลวไฟเดม่อนแห่งอบิสก็ลุกโชนอย่างเกรี้ยวกราดมากขึ้น เปลวไฟเดม่อนปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้ แผ่นดินแตกแยกออกจากกัน เหมือนว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นโลกแห่งลาวา
ภายในชั่วพริบตา เดม่อนในระดับราชันตัวอื่นๆก็ได้เคลื่อนไหวออกมาเช่นกัน แสดงการโจมตีของตนเองออกมา ใช้พลังอํานาจที่เต็มเปี่ยม จะต้องทําให้เจ้ามนุษย์บัดซบเซี่ยงนี่กลายเป็นผุยผงไปอย่างฉับพลัน
“เดวิลพันเนตร!”
เซียปิงก็ไหลเวียนพลังอํานาจของตนเองออกมา พลังเวทมนตร์ปริมาณมหาศาลเอ่อล้นมาจากส่วนลึกของร่างกายทันที พลังฉีธรรมชาติที่ไร้ขอบเขตก็ควบแน่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนกลายเป็นเทวรูปฟ้าดินเดวิลพันเนตรอย่างกะทันหัน
เห็นเพียงแค่ว่าเดวิลพันเนตรนี้มีความสูงกว่าสามร้อยเมตร ทั่วทั้งตัวมีดวงตานับพัน ดวงตาแต่ละดวงดูเหมือนว่าจะเป็นตัวแทนของพลังอํานาจลึกลับในขุมนรกล้ําลึก และไม่สามารถหยั่งถึง
เห็นได้ชัดว่าเดวิลตัวนี้ ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ยินดียินร้ายใดๆ มีออร่าที่ศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมา ราวกับเป็นเทพเจ้าที่สูงส่ง กําหนดความตายได้ มีพลังอํานาจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้
ปัง!
ในตอนนี้ เดวิลพันเนตรก็ได้ลืมตาขึ้นมา ราวกับต้องการจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ลําแสงจํานวนนับไม่ถ้วนก็ปะทุออกมาจากดวงตาแต่ละดวง ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลสังหารอย่างกะทันหันเจาะทะลวงห้วงอวกาศออกไป
ตับ ตับ ตับ!!!
ในช่วงเวลาเหมือนว่าเวลาได้หยุดเดินลง ราชันเดม่อนน้ําแข็ง ราชันเดม่อนชําแหละ ราชันเดม่อนร้อยเนตร ราชันเดม่อนแผดเผาและเดม่อนในระดับราชันตัวอื่นๆ ในช่วงเวลานี้ร่างของพวกมันอยู่ห่างจากเซียปิงประมาณไม่กี่ร้อยเมตร
ทว่าในตอนนี้ พวกมันกลับจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ค้นพบว่าความสามารถ ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองได้พ่ายแพ้ให้กับลําแสงของฝ่ายตรงข้ามอย่างราบคาบ
อีกทั้งลําแสงเหล่านี้ก็ยังเจาะทะลวงผ่านร่างของพวกมันไปอย่างกะทันหัน เห็นได้ชัดว่าร่างของพวกมันมีพลังป้องกันที่เทียบเท่าได้กับพลังป้องกันของสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสูง ทว่าตอนนี้กลับดูเปราะบางยิ่งกว่าเต้าหูเสียอีก
ภายในหนึ่งลมหายใจ ร่างของพวกมันก็กลายเป็นรูนับไม่ถ้วน ราวกับเป็นรังผึ้งก็ว่าได้
หล่ง หล่ง หล่ง
วินาทีต่อมา ราชันเดม่อนน้ําแข็ง ราชันเดม่อนชําแหละ ราชันเดม่อนร้อนเนตร ราชันเดม่อนแผดเผาและเดม่อนในระดับราชันอีกสิบกว่าตัวก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างของพวกมันระเบิดกระจุยกระจายออกไป
ปาช่า ซากศพของพวกมันก็กระแทกลงสู่พื้น ควันฟุ้งกระจายขึ้นมา กระแทกลงพื้นอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นหลุมลึกจํานวนมากขึ้นมา