ตอนที่ 310
ดาบดื่มน้ำตา
“ท่านป้า….”ไป๋หลินพูดพลางจ้องหยุนฟางด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น พอตื่นขึ้นมาพลังวิญญาณของนางก็ฟุ้งซ่านหนักกว่าเดิมอีก แม้ภายนอกจะดูเหม่อลอย แต่ถายในหัวคงกำลังปั่นป่วนอย่างมากแน่ๆ
ตุบ….หยุนฟางไม่ได้สนใจไป๋หลินที่อยู่ข้างๆเลย นางเดินไปหยิบดาบราชันศาสตราก่อนจะเดินออกไปที่สวนเพื่อเริ่มร่ายดาบอีกครั้ง สำหรับอู๋หมิงที่เห็นจนชินแล้วไม่เท่าไหร่ แต่ไป๋หลินกลับเอาแต่จ้องไม่วางตา
“ก็อยากที่เจ้าเห็น”อู๋หมิงว่าพลางถอนหายใจออกมา หยุนฟางพอตื่นขึ้นมาก็หยิบดาบฝึกวิชา ดูแล้วเหมือนคนไร้สติอย่างบอกไม่ถูก
“แต่ตอนนี้พลังวิญญาณของท่านป้าสมดุลกว่าตอนหลับอีกนะเจ้าคะ”ไป๋หลินตอบพลางมองไปทางหยุนฟาง น่าแปลก พอหยุนฟางเริ่มร่ายดาบราชันศาสตราไปรอบๆ พลังวิญญาณที่กำลังปั่นป่วนของนางก็เริ่มกลับมาลื่นไหลไม่ติดขัด หรือนี่จะเป็นวิธีกำจัดความเศร้าของนาง
“เจ้าจะบอกว่า พอนางได้ทำแบบนี้แล้วนางสบายใจขึ้นงั้นเหรอ”อู๋หมิงถามพลางเลิกคิ้วสงสัย
“เจ้าค่ะ ข้าว่าท่านอาจจะกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้”ไป๋หลินว่าพลางมองดาบที่ปัดไปมาบนอากาศอย่างไร้กำลัง ปกติหยุนฟางเป็นมือดาบที่เน้นเพิ่มพลังวิญญาณเข้าไปในตัวดาบเพื่อปล่อยคลื่นพลังออกมาจากดาบ การร่ายดาบเช่นนี้จึงไม่เหมือนที่อู๋หมิงคุ้นเคยแต่อย่างไร
วูบ…ร่างของอู๋หมิงทะยานออกไปข้างหน้าพลางเรียกกระบี่ทัณฑ์สวรรค์ออกมา ในเมื่อนางทำแบบนี้แล้วดีขึ้นเช่นนั้นมันก็สมควรสนับสนุนไม่ใช่หรือ
เปรี้ยง!! ทันทีที่อู๋หมิงกระโดดเข้าไปพร้อมกระบี่ หยุนฟางก็ตอบรับด้วยการเข้ามาโจมตีทันที ดาบในมือนางเบาหวิวจนอู๋หมิงสามารถรับได้ด้วยแรงเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีเพียงตอนนี้เท่านั้นที่หยุนฟางจ้องมองมาทางตนไม่ได้เหม่อลอยไปไหน ทำให้อู๋หมิงจงใจจ้องดวงตาของนางกลับพลางรับดาบของนางอย่างอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด
ภาพหญิงสาวที่กำลังถือดาบไล่ฟันชายหนุ่มยามนี้กลับลื่นไหลราวกับเป็นเพียงการเล่นของเด็กไม่รู้สึกถึงความรุนแรงเลยแต่อย่างไร ทำให้ไป๋หลินที่มองอยู่ข้างๆได้แต่เดินเอาฝาไปปิดหม้อข้าวต้มเอาไว้ ก่อนจะเดินออกมานั่งมองหยุนฟางกับอู๋หมิงประดาบกระบี่กันอย่างนุ่มนิ่มแปลกๆที่โต๊ะหินอ่อน
ผ่านไปสักพักไป๋หลินก็เริ่มขยับขาของตนที่ยังยาวไม่ถึงพื้นเล่นช้าๆ พลางมองพลังวิญญาณในร่างของหยุนฟางอย่างผ่อนคลาย พออู๋หมิงเข้าไปรับดาบของนาง พลังวิญญาณของนางยิ่งสงบ ยามนี้นางไม่ได้เหม่อลอยอีกแล้ว บางทีนางอาจจะกำลังพยายามเอาสมาธิทั้งหมดมาไว้กับการฝึกเพื่อจะไม่ให้เอาแต่คิดถึงอาจารย์กระมัง
ตูม!!! อยู่ๆดาบหนึ่งของหยุนฟางก็รุนแรงขึ้นมา ทำเอาอู๋หมิงที่รับดาบเบาๆของนางมาตลอดรับแทบไม่ทัน โชคดีที่อู๋หมิงถนัดการจำแนกกระบวนท่าทำให้ทราบก่อนที่ดาบจะโดนกระบี่เสียอีกว่ากำลังรอบนี้ไม่เหมือนเดิม
“………”อู๋หมิงมองไปที่หยุนฟางก็พบว่าที่ขอบตาของนางมีน้ำตาไหลออกมา ทำเอาอู๋หมิงไม่ทราบจะรับมืออย่างไรดี
เปรี้ยง!!! ดาบคราวนี้หนักหน่วงกว่าตอนแรกเสียอีก แต่คราวนี้อู๋หมิงเองก็ใช้กำลังของตนรับดาบอย่างจริงจัง ทำให้ไม่ได้ถอยไปหลายก้าวอย่างเมื่อครู่
เปรี้ยงๆๆ ดาบขอบหยุนฟางยามนี้ยิ่งมายิ่งแรง แถมนางยังร่ายดาบเร็วกว่าปกติเสียอีก ทำเอาอู๋หมิงที่ทำหน้าที่รับดาบต้องเกร็งไปทั้งร่าง นี่นางพลังวิญญาณต่ำกว่ามันไม่ใช่หรืออย่างไร
ตูม!! คราวนี้อู๋หมิงหลบดาบของหยุนฟางทำเอาพื้นสวนแตกกระจายจนฝุ่นดินฟุ้งไปหมด
เปรี้ยง!! อู๋หมิงแทงกระบี่ออกไปด้วยความเคยชิน แต่หยุนฟางก็งัดดาบขึ้นมาปัดกระบี่ของอู๋หมิงจนกระบี่ทัณฑ์สวรรค์เบี้ยวไปเล็กน้อย
“เอาจริงสิ..”หยุนฟางพูดออกมาพลางปล่อยพลังของตนออกมาข้างนอก พริบตานั้นหยดน้ำตาของนางก็หยดลงบนดาบราชันศาสตราเข้าพอดี ทำเอาอู๋หมิงไม่ทราบจะตอบรับเช่นไรดี
เปรี้ยง!! ดาบของหยุนฟางแรงขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว ทำเอาอู๋หมิงใจหายวาบ นี่นางกะจะฟันให้ตัวมันขาดครึ่งเลยหรืออย่างไร
ตูม!!! กระบวนท่าดาบของหยุนฟางไม่เหมือนเดิม หรือว่าตลอดมานี้นางฝึกฝนดาบไม่ใช่เพราะคุ้มคลั่งแต่เพราะคิดค้นวิชาใหม่งั้นหรือ
เปรี้ยงๆๆๆ วิชาดาบของหยุนฟางคราวนี้แม้จะไม่ปล่อยคลื่นพลังออกมาอย่างที่ถนัด แต่พลังวิญญาณก็อัดแน่นอยู่ในดาบจนกำลังมากขึ้นหลายเท่า ทำให้อู๋หมิงต้องพยายามสวนกระบี่ไปในจังหวะง้างฟันเพื่อลดทอนอานุภาพลง
“ท่านลุง ถ้าท่านไม่เอาจริงท่านป้าจะโกรธนะเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางกระโดดขึ้นไปบนหลังคาแทน เพราะบนพื้นทำท่าจะไม่ปลอดภัยแล้ว ตอนท่านแม่ซ้อมกับท่านพ่อก็เหมือนกัน ถ้าท่านพ่อไม่เอาจริงท่านแม่จะโกรธแล้วก็งอนไปเลย
“อา…”อู๋หมิงกล้ำกลืนรับคำพลางมองท่วงท่าของหยุนฟาง
เปรี้ยงๆๆๆ!!! ท่วงท่าของหยุนฟางโซเซอย่างประหลาดทำให้อู๋หมิงอ่านทางได้ค่อนข้างยาก แต่ตรงหน้านางคืออู๋หมิงเชียวนะ ผู้ที่สามารถอ่านกระบวนท่าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ถึงขั้นสามารถรับมือฝ่ามือประกายอัสนีของไป๋จูเหวินได้เลยทีเดียว
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆ กระบี่ทัณฑ์สวรรค์กระจายอกไปทั่วทิศทาง ทำให้หยุนฟางยกดาบขึ้นมาป้องกันก่อนจะเอี้ยวตัวไปทางซ้ายแล้วหมุนตัววาดดาบรอบตัวหนึ่งรอบฟาดใส่กระบี่ของอู๋หมิงอย่างแรงจนกระบี่ของอู๋หมิงชะงักค้างไปก่อนที่กระบี่ประกายอัสนีจะใช้ออกมาจนเต็มที่เสียอีก
“……”อู๋หมิงเห็นเช่นนั้นก็แอบประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้ นางไม่ได้หลบหรือปัดป้องกระบี่ประกายอัสนี แต่ทุบทิ้งเลยงั้นหรือ
วูบ….พลังวิญญาณของอู๋หมิงเพิ่มสูงขึ้นในทันที ทำให้หยุนฟางยามนี้ดูจริงจังกว่าเดิมมาก
“องค์จักรพรรดิ”ยังไม่ทันจะเริ่ม อยู่ๆเหล่าทหารก็เข้ามาล้อมสวนเอาไว้เพราะสัมผัสได้ถึงการต่อสู้ที่ผิดปกติไปจากเดิม แม่อู๋หมิงจะรับกระบี่ของหยุนฟางให้บ่อยๆ แต่คราวนี้มันดูหนักหน่วงเกินไป
“ไม่ต้องยุ่ง”อู๋หมิงตอบพลางง้างกระบี่ไปข้างหลัง
เปรี้ยง..อยู่ๆสายฟ้าก็แล่นออกมาจากกระบี่ วิ่งไปตามพื้นรอบๆจนเกิดเป็นประกายแสงชัดเจน ในเมื่อหยุนฟางบอกให้มันเอาจริง มันก็จะทำตามที่นางขอ
เปรี้ยง!! กระบี่ของอู๋หมิงพุ่งเข้าไปหาหยุนฟางอย่างรุนแรง ก่อนปลายกระบี่จะแยกออกเป็นนับร้อยนับพันสายพร้อมประกายสายฟ้าที่ก่อตัวเป็นรูปปักษาอัสนีที่น่าหวาดกลัวไม่น้อย
วูบ….หยุนฟางไม่คิดจะหลบ นางง้างดาบขึ้นสูงก่อนจะรวบรวมพลังวิญญาณไปไว้ที่ดาบ
ตูม!! เปรี๊ยๆๆๆๆ!! ดาบของหยุนฟางฟาดออกไปพร้อมกำลังมหาศาลทำเอากระบวนท่าของอู๋หมิงแตกกระเจิงพร้อมดาบของนางที่หยุดอยู่ที่กระบี่ของอู๋หมิง หากไม่ใช่กระบี่ทัณฑ์สวรรค์ละก็กระบี่คงหักและอู๋หมิงคงโดนนางฟันตายไปแล้วแน่ๆ
ตุบ….หยุนฟางปล่อยดาบลงกับพื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ทำเอาอู๋หมิงที่อยู่ข้างๆได้แต่เก็บกระบี่ของมันไปก่อนจะเดินเข้าไปหานางใกล้ๆ
“ถ้าข้าฝึกสำเร็จก่อน อาจารย์คงไม่ตาย”หยุนฟางร้องไห้ออกมาพลางก้มหน้าลงต่ำจนน้ำตาไหลออกมาหยดลงไปบนดาบราชันศาสตราที่นางพึ่งปล่อยลงไปบนพื้น
“ข้ามันศิษย์ไม่ได้เรื่อง ถ้าตอนนั้นข้าเข้าไปช่วยอาจารย์ได้….”หยุนฟางพูดได้เท่านั้นอู๋หมิงก็ดึงนางเข้าไปกอดพลางลูบที่หลังของนางเบาๆ
“ข้าเองก็ช่วยอะไรอาจารย์ไม่ได้เลย”อู๋หมิงตอบพลางกอดร่างของหยุนฟางเอาไว้
“ถ้าตอนนั้นข้าเก่งกว่านี้ อาจารย์คงไม่ตาย”อู๋หมิงพูดเช่นเดียวกับที่หยุนฟางกำลังจะพูดไม่มีผิด ทำเอาหยุนฟางได้แต่ซบหน้าลงบนอกของอู๋หมิง
“ทุกคนบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดของข้า แต่ข้าไม่คิดจะยกโทษให้ตัวเองหรอก”อู๋หมิงพูดพลางปล่อยหยุนฟางออกจากอ้อมกอดก่อนจะจ้องมองดวงตาของนางอย่างจริงจัง
“แต่ข้าจะอยู่ต่อไปเพื่อแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่อาจารย์หวังเอาไว้ และจะทำให้อาจารย์ไม่คิดเสียใจที่สละชีวิตช่วยพวกเราเอาไว้”อู๋หมิงพูดจบก็ยิ้มออกมาบางๆ มันร้องไห้ไม่ได้ มันไม่อาจเผยน้ำตาออกมาท่ามกลางเหล่าทหารและตัวหยุนฟางได้ ตอนนี้น่ำตาของมันคงอยู่บนแก้มของหยุนฟางกระมัง
“ข้าเอง…ก็เหมือนกัน”หยุนฟางตอบพลางเช็ดน้ำตาตัวเองช้าๆ เห็นนางเริ่มคุยกับตนเองอู๋หมิงก็โล่งใจขึ้นมาก ก่อนที่มันจะพานางเข้าไปในห้องเพื่อให้นางพักเหนื่อย
“ท่านป้า ท่านสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง”ไป๋หลินถามพลางกระโดดลงมาจากหลังคา
“เจ้า….ลูกของไป๋จูเหวิน”หยุนฟางขมวดคิ้วพลางมองไปทางไป๋หลิน ตอนตื่นขึ้นมานางไม่ได้มองอะไรเลยก็เลยไม่ทันสังเกตุว่าไป๋หลินอยู่ที่นี่
“ถ้าท่านสบายใจแล้วก็ทานอะไรสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ ข้าเตรียมข้าวต้มมาให้แล้ว”ไป๋หลินยิ้มกว้าง ก่อนจะเอาถ้วยข้าวต้มที่วางไว้ข้างเตียงออกมาที่โต๊ะอาหารเพื่อให้หยุนฟางได้กิน
“ขอบใจ”หยุนฟางว่าพลางนั่งลงที่เก้าอี้ช้าๆ พอเริ่มตั้งสติได้หยุนฟางก็เริ่มรู้สึกหิวทันที ทำให้ข้าวต้มของไป๋หลินหมดในพริบตา
หลังจากนั้นอู๋หมิงกับไป๋หลินก็อยู่คุยกับหยุนฟางจนหมดช่วงบ่ายก่อนที่อู๋หมิงจะขอตัวกลับไปทานอาหารค่ำกับขุนนางที่นัดเอาไว้ ทำให้หยุนฟางได้ใช้เวลากับไป๋หลินจนกระทั่งกลางคืน
“ท่านป้า ข้าขอนอนด้วยได้หรือเปล่า”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้าห้องมาในชุดนอนสีขาว ทำเอาหยุนฟางได้แต่อมยิ้มพลางเรียกให้ไป๋หลินขึ้นมานั่งบนเตียงเดียวกับนาง
“ท่านป้า พลังวิญญาณของท่านสงบลงมากแล้ว แบบนี้ท่านลุงคงวางใจแล้ว”ไป๋หลินยิ้มพลางขึ้นมานั่งข้างๆหยุนฟางบนเตียง ที่นางมาขอนอนด้วยแบบนี้เพราะนางอยากอยู่เป็นเพื่อนหยุนฟางนั่นเอง
“เหมือนในที่สุดข้าก็คิดตกเสียที”หยุนฟางตอบพลางจับตัวไป๋หลินขึ้นมานั่งบนตัก แม่หนูนี่ตัวเล็กมาก แถมยังเบาอีกต่างหาก นี่เหม่ยหลินได้หาข้าวให้นางกินดีหรือเปล่านะ…
“คิกๆ อย่างนี้ค่อยคุ้มที่ท่านลุงลงทุนไปตามข้าที่เมืองร้อยแปดอสูรหน่อย”ไป๋หลินหัวเราะพลางพิงลงไปบนตัวของหยุนฟาง
“หืม…ไปตามที่เมืองร้อยแปดอสูรเลยงั้นหรือ ไหนเจ้าลองเล่ามาให้ป้าฟังหน่อยว่าท่านลุงของเจ้าทำอะไรบ้าง”หยุนฟางถามพลางหยิบหวีที่ลิ้นชักหัวเตียงมาหวีให้ไป๋หลิน พออยู่กับนางแบบนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นดีเหลือเกิน
หลังจากนั้นไป๋หลินก็เริ่มเล่าเรื่องที่อู๋หมิงไปตามหาพ่อของนางที่วังมังกรให้หยุนฟางฟังช้าๆ ยัยหนูน้อยคนนี้ความทรงจำดี ทำให้เล่ารายระเอียดได้ไม่ขาดตกบนพร่องทีเดียว ทำเอาหยุนฟางอมยิ้มน้อยๆตลอดเวลาที่นางเล่า