กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 758
คำพูดนี้หมายความว่า……เขายังมีพี่น้องอยู่อีกคน?

“และหญิงที่วางอุบายกับข้าเป็นผู้ที่ข้าเกลียดชังและโกรธแค้นที่สุดในชีวิตนี้ ข้าเคยบังคับให้นางเอาเด็กออกแต่ว่าเป็นตายนางก็ไม่ยอม ข้าจึงทำได้เพียงฝืนบังคับ ท่านแม่ของเจ้ามีเมตตารู้สึกอยู่เสมอว่านั่นเป็นชีวิตเป็นๆชีวิตหนึ่งซึ่งไม่ควรถูกบีบคอจนตายเช่นนี้ รวมถึงข้าทรยศต่อแม่ของเจ้าด้วยเหตุนี้จึงได้ทะเลาะกับแม่ของเจ้าอยู่หลายครั้ง”

“หญิงผู้นั้นเจ้าเล่ห์นักและยังมีท่านแม่ของเจ้าหนุนหลังดังนั้นนางจึงได้ให้กำเนิดลูกชายอย่างราบรื่น”

“ไม่รู้ว่าเนื่องจากข้าใจจดจ่อต้องการที่จะฆ่าเด็กคนนั้นหรือเปล่า หรือว่าเนื่องจากหญิงผู้นั้นต้องการล้างแค้นเผ่าของนาง ช่วงเวลาขณะที่คลอดเด็กออกมาก็ได้ทิ้งเด็กไปเสียแล้ว”

“ทิ้งไป?”

ทิ้งไปหมายถึงสิ่งใด? ทอดทิ้งไป?

“ใช่ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเด็กคนนั้นถูกเขาฆ่าหรือถูกทอดทิ้งไป ตอนนี้ผ่านไปยี่สิบปีแล้วข้าเองก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นหรือตาย”

ในตอนนั้นเขาคิดที่จะตรวจสอบที่อยู่ของเด็กคนนั้น

แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่เคยลงมือทำ

หรืออาจเป็นเพราะเกลียดชังหญิงผู้นั้นมากมายนัก

แม้แต่เด็กที่หญิงผู้นั้นเกิดมาก็เกลียดชังไปด้วย

ในตอนนี้คิดๆไปแล้วเช่นไรเด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์

ไม่ว่าเขาจะเกลียดชังหญิงผู้นั้นมากเพียงใดก็ไม่ควรพาดพิงถึงเด็กคนนั้น

“ท่านพ่อรู้หรือไม่ว่าเด็กคนนั้นเป็นชายหรือหญิง?”

เหวินเฉิงเทียนส่ายศีรษะ

เขาไม่รู้

หญิงผู้นั้นก็ไม่เคยบอกเขา

แต่ว่าราวกับว่าเขาเคยได้ยินคนกล่าวว่าหญิงผู้นั้นได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง และก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ

“ท่านวางใจได้ เส่าอี๋จะตามหาเด็กคนนั้นให้พบและชดใช้ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาแทนท่านพ่อ”

“ไม่จำเป็นหรอก หรือบางที……ชั่วชีวิตนี้ข้าถูกกำหนดให้ละอายใจต่อเขา”

เหวินเฉิงเทียนหลับตาลงอย่างรู้สึกเหน็ดหนื่อย

หญิงผู้นั้นจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต

คลอดลูกออกมาก็เพียงเพื่อแก้แค้นเท่านั้น

เขาจะปล่อยให้เด็กคนนั้นมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร

แม้ว่าจะอุ้มท้องสิบเดือนจนให้กำเนิดเองแต่ในสายตาของนางก็เป็นเพียงแค่สัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

“เจ้ายังมีคำถามอันใดจะถามข้าอีกใช่หรือไม่?”

“อืม……ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดท่านพ่อถึงได้เกลียดชังข้าตั้งแต่เล็กจนโตเช่นนั้น”

“เจ้าเด็กโง่ ข้ารักเจ้ายังแทบไม่ทันแล้วจะเกลียดชังเจ้าได้อย่างไร”

“กฎของเผ่าเพลิงฟ้า ท่านพ่อของนายน้อยเผ่าในภายภาคหน้าจะต้องเข้าสู่พิธีบูชายัญไฟ ตอนนั้นข้ายังไม่ใช่หัวหน้าเผ่าและไม่เคยคิดที่จะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่ว่าหญิงผู้นั้นทำร้ายข้าจนทำให้ข้ากลายเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าเพลิงฟ้า”

“ข้ากลายเป็นหัวหน้าเผ่าซึ่งหมายความว่าเจ้าจะเป็นนายน้อยเผ่า ท่านแม่ของเจ้าจำต้องเข้าพิธีบูชายัญไฟแล้วข้าจะยอมให้แม่ของเจ้าเข้าพิธีบูชายัญไฟได้อย่างไร ดังนั้นข้าจึงได้เริ่มห่างเหินจากพวกเจ้า แสร้งทำเป็นไม่สนใจพวกเจ้าก็เพื่อหวังให้เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลายยกเลิกตำแหน่งนายน้อยเผ่าของเจ้า”

“แต่เจ้ากลับช่างโดดเด่นนัก เจ้าโดดเด่นในทุกๆด้าน อายุยังน้อยก็เก่งทั้งบุ๋นและบู๊รวมถึงวรยุทธ์สูงส่งซึ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์หายากนับพันปีของเผ่าเพลิงฟ้า

“แม้ว่าข้ารู้สึกเป็นสุขก็โศกเศร้าด้วยยิ่งนัก ที่เป็นสุขคือลูกชายของข้าเป็นผู้มีพรสวรรค์ ที่น่าเศร้าคือเจ้าอาจจะต้องถูกเลือกให้เป็นนายน้อยเผ่า”

“จริงตามนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านั้นได้กำหนดให้เจ้าเป็นายร้อยเผ่าเลยโดยตรง และยังเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าเผ่าในภายหน้าเป็นคนแรก ท่านแม่ของเจ้าก็ไม่สามารถหนีโชคชะตาได้เช่นเดียวกัน ถูก……บูชายัญไฟ……”

เหวินเฉิงเทียนกล่าวถึงภายหลังด้วยน้ำเสียงของสะอึกสะอื้นจนแทบจะร้องไห้ไม่เป็นเสียง

ยิ่งเหวินเส่าอี๋ฟังมากเท่าใดสีหน้าก็ยิ่งดูไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น

ตั้งแต่เล็กจนโตท่านพ่อไม่ได้สนใจเขาเลย ไม่ว่าเขาจะมีความสุขหรือโศกเศร้า หรือว่ากำลังจะตาย ท่านพ่อก็ไม่เคยมาดูเขามาก่อนเลย

เขาทุ่มเทฝึกฝนวรยุทธ์อย่างหนัก ทุ่มเทเล่าเรียนอย่างหนักก็เพียงเพื่อให้ท่านพ่อชมเชยเขาสักเล็กน้อย

คิดไม่ถึงว่า……

ความพยายามของเขาไม่เพียงแต่ทำร้ายท่านพ่อของเขา

และยังทำร้ายท่านแม่จนตายด้วย……

ท่านแม่ของเขา……ถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขาเอง……

“อย่าได้โทษตนเองนี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เป็นเพราะกฎของเผ่าเพลิงฟ้านั้นช่างโหดร้ายยิ่งนัก ข้าเคยคิดที่จะยกเลิกกฎเกณฑ์ข้อนี้ แต่ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสทั้งหลายของเผ่าเพลิงฟ้ามีจำนวนมากมายนัก มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งคัดค้าน ด้วนเหตุนี้……กฎข้อนี้ของเผ่าจึงไม่สามารถยกเลิกไปได้ตลอดมา”

“ดังนั้นข้าจึงจงใจสร้างความเข้าใจผิดบางอย่าง เพื่อต้องการให้พวกเขาริเริ่มยกเลิกตำแหน่งนายน้องเผ่าของเจ้า เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เจ้าขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าและเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากเดียวกับข้า”

“หลังจากที่ท่านแม่ของเจ้าเสียชีวิตไป ข้าไม่อยากเผชิญหน้ากับเจ้า ประการแรกเนื่องจากเจ้าช่างเหมือนแม่ของเจ้านัก เมื่อเห็นเจ้าข้าก็นึกถึงท่านแม่ของเจ้า”

“ประการที่สองเนื่องจากข้าไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเจ้าเช่นไร เพราะข้าไร้ความสามารถข้าทำให้เจ้าไร้ซึ่งท่านแม่ตั้งแต่เด็ก”

เหวินเส่าอี๋ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นอนหมอบอยู่ในอ้อมอกของเหวินเฉิงเทียนพร้อมกับร่ำไห้

เป็นเขาที่ไม่เข้าใจในความยากลำบากของท่านพ่อ

หากว่าเขาสามารถเดาเจตนาของท่านพ่อได้เร็วกว่านี้ก็จะไม่ทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อฝึกฝนวรยุทธ์เอาใจท่านพ่อ จนสุดท้าย……ได้ทำร้ายท่านพ่อท่านแม่

ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา

“แค่กๆๆ……

เหวินเฉิงเทียนไออย่างรุนแรงจนไอออกมาเป็นเลือดสีดำและร่างกายก็สั่นเทา

เหวินเส่าอี๋ปาดน้ำตาอย่างยุ่งเหยิง เลือดสีดำบนพื้นกระทบดวงตาของเขาอย่างเจ็บปวด

“ข้าไปหากู้ชูหน่วนเพื่อขอยาถอนพิษ”

“อย่าไป……เปล่าประโยชน์ เผ่าหยกกับเผ่าเพลิงฟ้าเป็นศัตรูกัน พวกเขาใจจดจ่อเพียงต้องการกำจัดเผ่าเพลิงฟ้าให้สิ้นซากจึงไม่มีทางให้ยาถอนพิษแก่เจ้า”

“ต่อให้ขอร้องข้าก็จะขอยาถอนพิษมาให้ได้”

“หากเจ้าต้องขอร้องข้ายอมตายดีกว่า

“ท่านพ่อ……”

“เส่าอี๋เจ้าฟังนะ เผ่าเพลิงฟ้ายังมีสาขาแห่งหนึ่งในรัฐปิง สาขานั้นใหญ่เทียบเท่ากับสำนักใหญ่ของเรา เจ้านำป้ายคำสั่งหัวหน้าเผ่าและค้นหารัฐปิงตามแผนที่นี้พวกเขาจะ

ยอมรับเจ้าในฐานะหัวหน้าเผ่า ถึงตอนนั้นเผ่าเพลิงฟ้าก็จะสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว……แค่กแค่ก……

“ท่านพ่อ ท่านอย่าพูดอีกเลย……ท่านให้ผู้อาวุโสทั่งหลายเข้าดูท่านสักน่อย……”

“จ้าจะต้องพูด หากไม่พูดอีกก็จะไม่ทันการแล้ว”

เหวินเฉิงเทียนเจ็บปวดจนขมวดคิ้ว

อุณหภูมิในร่างกายของเขาเริ่มร้อนขึ้นอีกครั้ง และความเจ็บปวดเผาไหม้อย่างรุนแรงทรมานเขาเจียนตาย

“นี่เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าเพลิงฟ้า นอกจากหัวหน้าเผ่าที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่ามีสาขาแห่งหนึ่งของเผ่าเพลิงฟ้าในรัฐปิง หากเจ้าต้องการเป็นเพียงคนธรรมดาเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปตามหา แต่หากว่าเจ้าต้องการที่จะชุบชีวิตเผ่าเพลิงฟ้าเจ้าต้องไปยังรัฐปิง”

“พ่อหวังให้ลูกเป็นเพียงคนธรรมดาแต่พ่อก็รู้จักเรื่องนิสัยใจคอของเจ้าดี หากเป็นเมื่อก่อนเจ้าคงจะเป็นแค่ชายหนุ่มอิสระเสรีเป็นแน่ แต่กลับให้เจ้าพบเจอความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องนานหลายวัน แล้วเจ้าจะปล่อยให้สาวกเหล่านั้นที่เสียสละชีวิตเพื่อเจ้าตายไปอย่างอนาถโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร”

เหวินเส่าอี๋ไม่พูดจา

เขาต้องการทวงความยุติธรรมคืนให้กับผู้ที่ตายไปแล้วจริงๆ

นี่คือสิ่งที่เขาติดค้างพวกเขา

เหวินเส่าอี๋มองไปยังกระดูกสะบักของตนด้วยความเจ็บปวด

หากว่า……

หากว่าวรยุทธ์ของเขาไม่หมดสิ้นไป

เช่นนั้นจะดีมากเพียงใด

“พ่อติดต้างเจ้ามากเกินไป ดังนั้นก่อนตายพ่อจำเป็นต้องทำสิ่งหนึ่งแทนลูก”

เหวินเฉิงเทียนพยายามลุกขึ้นนั่ง พิงกำแพงหินโดยที่หายใจอย่างหอบ

“กระดูกสะบักของเจ้าข้ามีวิธีต่อรักษา”

“กระดูกสะบักเชื่อมต่อได้หรือ?”

ผู้ที่ฝึกวรยุทธ์จะคัดกระดูกสะบักออกไม่ได้หมดสิ้นไปเลยหรือ?

แล้วยังจะเชื่อมต่อได้อย่างไร?

ความหวังอันริบหรี่ผุดขึ้นมาในใจของเหวินเส่าอี๋

หากว่ากระดูกสะบักของเขาสามารถเชื่อมต่อกันได้

เขาก็จะสามารถฝึกวรยุทธ์ได้อีกครั้งและปกป้องผู้ที่เขาต้องการปกป้องได้……

“ใช่ เจ้า……ไปเรียกผู้อาวุโสทุกคนมาให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

“ได้……”

หลังจากนั้นครู่หนึ่งผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสทั้งหลายที่เหลืออยู่ของเผ่าเพลิงฟ้าได้ถูกเรียกมาทั้งหมด แต่ละคนคุกเข่าลงบนพื้นทีละคนๆเพื่อรอคำสั่งการของเหวินเฉิงเทียน

เหวินเฉิงเทียนยกมือขวาของเหวินเส่าอี๋ขึ้นและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “จากนี้ไปข้าจะส่งต่อตำแหน่งของหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าให้กับลูกชายของข้าเหวินเส่าอี๋ ทุกคนจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา จงภักดีต่อเขาชั่วชีวิตและห้ามมีใจคิดคดทรยศ”