ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 367 พี่ หนูจะบอกอะไรให้ ศัตรูหัวใจของแด๊ดดี้มาแล้วนะ
คณาธิปนี้ หลังจากแยกกันไปทำตามความชอบของตัวเองกับเส้นหมี่เมื่อครึ่งปีก่อน จนกระทั่งตอนนี้ เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
ถ้าไม่ใช่ว่าครั้งนี้จู่ๆ เขามาหาถึงที่ ให้อีริคช่วยชำระบัญชีบริษัทเขา
คาดว่า เส้นหมี่ใกล้จะลืมเขาอยู่แล้ว
“สวยใส ในเมื่อพวกคุณเป็นเพื่อนกัน งั้นเรื่องนี้ มอบให้คุณทำละกัน”
ตอนอีริคพาคณาธิปมาที่บริษัท แล้วเห็นเส้นหมี่ ก็มาที่นี่โดยตรง
เส้นหมี่:“……”
ถึงแม้ในใจจะไม่ยินยอมมากๆ แต่ว่า เห็นแก่เจ้านายแล้ว เธอก็ไม่อยากปฏิเสธ สุดท้ายได้แต่ตอบตกลง
หลังจากไม่เจอกันครึ่งปี คณาธิปผอมลงไปเยอะ ใบหน้าที่สวมแว่น ไม่ได้ดูกระปรี้กระเปร่าแบบเดิม นอกจากส่วนประกอบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแล้ว คนๆ นี้ หนวดเคราก็เกือบจะทำให้เธอจำไม่ได้
“นั่งก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้คุณ”เส้นหมี่พาเขาไปห้องทำงานของตัวเอง แล้วเทน้ำให้เขา
คณาธิปได้รับความโปรดปรานอย่างคาดไม่ถึงทันที:“ขอบคุณนะ”
เส้นหมี่มองเขาด้วยท่าทีธรรมดา กลับไปในโต๊ะทำงานของตัวเอง:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมบริษัทของคุณถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?ฉันจำได้ว่ามันเป็นไปได้ด้วยดีนี่”
“อือ เมื่อก่อนดีมาก แต่ครึ่งปีมานี้ ได้รับผลกระทบหนักไป บวกกับคนที่พัฒนาซอฟต์แวร์ เลียนแบบของคนอื่นมา เลยถูกฟ้องขึ้นศาล และยังต้องจ่ายค่าชดเชย จึงยืนหยัดต่อไปไม่ไหว”
คณาธิปถือแก้วน้ำแล้วยิ้มอย่างขมขื่น
เส้นหมี่:“……”
และก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร สุดท้าย ได้แต่เปิดคอม แล้วช่วยเขาทำ
โชคดีก็คือ เขามาทันเวลา หุ้นของบริษัทพวกเขาไม่ได้มีชื่อเสียงทางลบในตลาดหุ้น ดังนั้นพอเส้นหมี่ปล่อยมันออกไป ควบคุมต่อไปแบบลวกๆ ทำให้มันเติบโตขึ้นปลอมๆ แป๊บเดียว ก็มีคนจำนวนมากซื้อ
“ได้แล้ว น่าจะพรุ่งนี้คุณถึงจะได้เงิน”
“อือ ขอบคุณนะ สวยใส”
คณาธิปได้ยิน ในขณะที่ถอนหายใจยาวๆ ก็รีบตามมาขอบคุณเส้นหมี่ด้วย
เส้นหมี่ก็ยังมีท่าทีไม่แย่แส เธอแทบจะตอบกลับเขาอย่างเป็นทางการ:“ไม่ต้อง มันเป็นธุรกิจอยู่แล้วนี่ ฉันได้รับค่าคอมมิชชั่นจากคุณ ฉันควรทำสิ่งนี้อยู่แล้ว”
คณาธิป:“……”
เขาหน้าซีดขาว ในที่สุด เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ยืนขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วออกไป
เส้นหมี่ไม่มองเขาเลย พอเขาออกไปแล้ว ก็หยิบปากกาขึ้นมาทำงานของตัวเอง แต่ว่า ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงดัง“ตุบ”จากด้านนอก!
“พระเจ้า!เขาเป็นอะไรไป?ทำไมจู่ๆ ก็ล้มลงไป?สวยใส!สวยใส!แขกของคุณเป็นลม!รีบออกมาดูเร็ว!”
เส้นหมี่:“……”
เธอดึงเก้าอี้แล้วออกไปทันที ก็เป็นจริง พอมาถึงด้านนอกก็เห็นผู้ชายที่เพิ่งเดินออกไปจากห้องทำงานของเธอ ล้มลงไปที่พื้นไม่ได้สติ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
สุดท้ายวันนี้เส้นหมี่ก็ยังถามอีริคเกี่ยวกับเรื่องของโปรเจกต์ไม่สำเร็จ
แต่พาคณาธิปกลับมาที่บ้าน
“อาธิป?ทำไมเขามาบ้านพวกเราคะ?”หนูรินจังเห็นคนๆ นี้ถูกหม่ามี๊พากลับมาที่บ้าน ใบหน้าเล็กๆ เนื้ออ้วนๆ ก็ปรากฏความตกใจ
ปอร์เช่ก็แปลกใจไม่น้อย
เรียกได้ว่าขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วย
“เขาป่วย จะพักที่บ้านพวกเราหนึ่งคืน”
เส้นหมี่เห็นทั้งสองคนเป็นแบบนี้ จึงได้แต่อธิบาย
ปอร์เช่จึงไปเก็บห้อง ส่วนหนูรินจัง มองตามด้านหลังของหม่ามี๊สักพัก ก็รีบวิ่งไปโทรหาพี่ชาย
เธอต้องบอกข่าวนี้กับพี่ชาย อาธิปที่เคยอยากเป็นแด๊ดดี้ของพวกเขามาอีกแล้ว แด๊ดดี้ยังไม่มาเลย ภรรยาจะไปกับคนอื่นอยู่แล้ว
เด็กสาวกังวลใจมาก
เส้นหมี่ไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของลูกสาว
หลังจากเธอพาคณาธิปกลับมาแล้ว เอาเข้าไปที่ห้อง แขวนกลูโคสให้เขา ก็ออกมา
เขาไม่มีปัญหาอื่น
จู่ๆ ก็เป็นลมที่บริษัท เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียมากไป อีริคเห็นเขาเป็นแบบนี้ คิดได้ว่าเส้นหมี่เป็นหมออยู่แล้ว จึงให้เขาพากลับมาไปตามสถานการณ์
เส้นหมี่หมดหนทางอย่างมาก
แต่คืนนี้ ปอร์เช่กลับดูไม่ชอบใจและเย็นชากับคนๆ นี้เป็นอย่างมาก
ไม่รู้เพราะว่าเขารู้เรื่องที่เมื่อก่อนคณาธิปหลอกเส้นหมี่หรือเปล่า?คืนนี้ เส้นหมี่จึงเรียกเขาไม่ตื่นเลย
“พี่ ผมพารินจังไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้เธอต้องตื่นเช้า”
เข้าใจแล้ว ไปเถอะ”
เส้นหมี่ถอนหายใจ ได้แต่ให้พวกเขาไปนอน
ดังนั้นคืนนี้ ล้วนแต่เป็นเส้นหมี่ที่ดูแลคณาธิป แม้แต่ตอนท้าย เพื่อเฝ้าเข็มของเขา ก็นอนแผ่ไปที่ขอบเตียงเขา
วันถัดมาคณาธิปตื่นมาเห็นเธอ อยู่ในผ้าห่มนานไม่กล้าขยับ เพราะกลัวว่าจะปลุกเธอตื่น
ท่ามกลางแสงสีทองยามเช้า เขายื่นมือออกไป อยากจะลูบหัวเล็กๆ ที่นอนอยู่ข้างเตียงเขา
แต่ว่า……
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ตื่นหรือยัง?”
เสียงเล็กๆ ที่หน่อมแน้มเข้ามากะทันหัน แล้วประตูบานนี้ก็ถูกเปิดดัง“ปัง”
เป็นหนูรินจัง
คณาธิปชักมือกลับทันที ทำเป็นหลับอยู่
ที่เข้ามาด้วยยังมีปอร์เช่ ส่วนเขาพอเห็นฉากนี้ สีหน้าก็เหมือนว่ายิ่งดูแย่มากขึ้น