บทที่ 1326 ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1326 ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

แปลโดย iPAT

 

 

ไม่นานหลังจากนั้นฟางหยวนก็ประสบความสำเร็จในการสร้างค่ายกลวิญญาณในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ยังใช้วิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเป็นแกนกลางโดยมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพีลอยนิ่งอยู่ด้านบนขณะที่วิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟและวายุหมุนอยู่รอบๆในแนวนอน สำหรับวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารี มันหมุนอยู่ในแนวตั้ง

 

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ปล่อยแสงสีขาวออกไปปกคลุมเสือดำเอาไว้

 

 

มันไม่ได้มีไว้ปกป้องผู้ใช้วิญญาณแต่มีไว้กักขังศัตรู

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี เจ้าเป็นบุตรชายของข้าจริงๆ! อีกหนึ่งเดือนจะมีบททดสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น  มันจะเกี่ยวกับชีวิตและความตายของเจ้า หากไม่ผ่านการทดสอบ เจ้าจะต้องตาย” ตู้ซื่อเฉินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

 

ร่างเล็กของฟางหยวนยืนอยู่ในกรงและชำเลืองมองเสือดำที่กำลังดิ้นรนอยู่ในค่ายกลวิญญาณก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

 

 

ฉากที่สองของอาณาจักรแห่งความฝันสิ้นสุดลง

 

 

ต่อไปเป็นฉากที่สาม

 

 

ฟางหยวนเดินตามตู้ซื่อเฉินไปยังริมแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว

 

 

เมื่อมองแม่น้ำสีแดงที่ไหลไปทางทิศตะวันออก ฟางหยวนตระหนักได้ทันทีว่ามันคือแม่น้ำมังกรแดงของภาคใต้

 

 

ภาคใต้มีแม่น้ำใหญ่สามสายได้แก่ แม่น้ำมังกรแดง แม่น้ำมังกรหยก และแม่น้ำมังกรเหลือง

 

 

ฟางหยวนรู้สึกสังหรณ์ร้ายเมื่อเห็นแม่น้ำสายนี้

 

 

ในเวลาต่อมาเขาได้ยินเสียงของตู้ซื่อเฉิน “ข้าจะให้เจ้ายืมวิญญาณ ตอนนี้เจ้าสามารถพึ่งพาตนเองเท่านั้น หากเจ้าไม่สามารถสร้างค่ายกลวิญญาณ เจ้ารู้ดีว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร”

อ่านนิยาย

 

ฟางหยวนกำลังจะถามแต่ถูกตู้ซื่อเฉินตบแผ่นหลัง

 

 

เขาไม่สามารถต้านทานพละพลังมหาศาลและถูกผลักเข้าไปในแม่น้ำมังกรแดงทันที

 

 

‘สารเลว!’ ฟางหยวนก่นด่าอยู่ในใจขณะที่เขาตกลงไปในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวและถูกกระแสน้ำพัดพาไป

 

 

ฟางหยวนพยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่เขามีเพียงร่างกายที่อ่อนแอของเด็กน้อย โชคดีที่ความสามารถในการว่ายน้ำของเขาไม่ธรรมดา ฟางหยวนดิ้นรนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะสามารถเงยหน้าขึ้นจากผิวน้ำและสูดหายใจ

 

 

ฟาหงยวนเริ่มตรวจสอบวิญญาณที่เขามี

 

 

‘บัดซบ!’ เขาลอบสบถอยู่ในใจอีกครั้งเพราะคราวนี้ไม่ได้มีเพียงวิญญาณระดับมนุษย์สี่ดวงแต่เป็นสิบสองดวง

 

 

เขาต้องจัดการพวกมันในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนั้นหรือ?

 

 

มีหลายวิธีที่จะจัดการพวกมันขณะที่เขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย นี่ทำให้ความหวังลดน้อยลงอย่างมาก

 

 

ฟางหยวนไม่ลังเลและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันโดยตรง

 

 

ทันใดนั้นคำตอบก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

 

เขาเข้าใจสามขั้นตอนแรกและเริ่มสร้างค่ายกลวิญญาณทันที

 

 

‘เพียงสามขั้นตอนแรกงั้นหรือ?’ ฟางหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันต่อไป

 

 

ขั้นตอนที่สี่ ขั้นตอนที่ห้า และขั้นตอนที่หก

 

 

พวกมันเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

 

 

แต่ยังเหลือบางขั้นตอนในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณนี้

 

 

ฟางหยวนกำลังจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเป็นครั้งที่สามแต่ในเวลานี้เขากลับถูกกระแสน้ำวนดูดกลืนเข้าไป

 

 

“ปัง!”

 

 

ฟางหยวนถูกต้นไม้พุ่งชนและหมดสติทันที

 

 

วินาทีต่อมาเขาตื่นขึ้นและกลับสู่โลกของความเป็นจริง

 

 

จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 

เขาเร่งใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างรวดเร็ว

 

 

หนึ่ง สอง สาม…หก

 

 

ครั้งนี้เขาต้องใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวถึงหกดวงเพื่อกู้คืนจิตวิญญาณ

 

 

‘ฉากที่สามยิ่งยากลำบากมากขึ้น สภาพแวดล้อมในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอันตรายมาก’

 

 

‘แต่…’

 

 

‘ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของข้าบรรลุสู่ระดับกึ่งผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว!’

 

 

ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้

 

 

ระดับความสำเร็จคือสิ่งใด?

 

 

มันคือความเข้าใจเฉพาะทางของผู้ใช้วิญญาณ

 

 

ระดับความสำเร็จแบ่งออกเป็นห้าระดับได้แก่ สามัญ ผู้เชี่ยวชาญ ปรมาจารย์ ปรมาจารย์เอก และปรมาจารย์สูงสุด

 

 

โดยธรรมชาติแล้วมันยังมีระดับย่อยอยู่ด้วยเช่น กึ่งผู้เชี่ยวชาญ กึ่งปรมาจารย์ กึ่งปรมาจารย์เอก และกึ่งปรมาจารย์สูงสุด

 

 

ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์จะบรรลุระดับสามัญหลังจากพวกเขาฝึกฝนอย่างหนักมาตลอดช่วงชีวิต

 

 

การบรรลุระดับกึ่งผู้เชี่ยวชาญหาได้ยากในผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ มีเพียงผู้ใช้วิญญาณวัยเยาว์ที่โดดเด่นหรือผู้ใช้วิญญาณที่เต็มไปด้วยประสบการณ์เท่านั้นที่จะบรรลุระดับนี้

 

 

สำหรับระดับผู้เชี่ยวชาญ เป็นเรื่องยากที่ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์จะบรรลุถึง อาจมีเพียงหนึ่งในหมื่นคนเท่านั้น ตัวอย่างเช่นในสงครามแย่งชิงตำแหน่งเจ้าเหนือหัวของภาคเหนือ มีผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสอยู่เพียงห้าคน หนึ่งในนั้นคือฟางหยวน

 

 

ผู้ที่มีความสำเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์มักเป็นตัวตนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับหก

 

 

ระดับปรมาจารย์คือความเข้าใจที่ลึกซึ้งและอนุญาตให้ผู้อมตะสามารถเลียนแบบเส้นทางสายอื่น ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะของไห่ฟาน ข้อตกลงหนึ่งร้อยปี มันใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อบรรลุผลลัพธ์เดียวกับเส้นทางแห่งข้อมูล นอกจากนี้มันยังแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟานอย่างน้อยที่สุดก็ต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์

 

 

โดยทั่วไปมีผู้อมตะที่บรรลุระดับปรมาจารย์เพียงไม่กี่คน พวกเขามักต้องใช้เวลาสะสมความเข้าใจหลายร้อยปีควบคู่ไปกับพรสวรรค์ตามธรรมชาติ ในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาสามารถบรรลุเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดหลังจากห้าร้อยปีเท่านั้น

 

 

ผู้ที่สามารถบรรลุระดับปรมาจารย์ส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

 

เหนือขึ้นไปคือระดับกึ่งปรมาจารย์เอกที่ยากยิ่งกว่า พวกเขามักเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดหรือผู้อมตะระดับแปด

 

 

สำหรับระดับปรมาจารย์เอก ผู้อมตะระดับแปดจะบรรลุระดับนี้เมื่อฝึกฝนไปถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต

 

 

ผู้ที่สามารถบรรลุระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดมีไม่กี่คนในรอบหลายพันปี

อ่านนิยาย

 

ไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงความยากลำบากของปรมาจารย์สูงสุด บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ตัวตนระดับนี้มีเพียงสามคนตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน หนึ่งในนั้นคือบรรพชนผมยาว

 

 

เดิมทีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนอยู่ในระดับสามัญ แต่ตอนนี้มันก้าวเข้าสู่ระดับกึ่งผู้เชี่ยวชาญแล้ว

 

 

ผู้ใช้วิญญาณส่วนใหญ่จะพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงระดับนี้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะทุ่มเทมากเพียงใดก็ตาม

 

 

ฟางหยวนบรรลุสิ่งนี้ได้โดยใช้เวลาเพียงสองหรือสามวันหลังจากสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

 

นี่คือพลังอำนาจของอาณาจักรแห่งความฝัน

 

 

อาจกล่าวได้ว่าอาณาจักรแห่งความฝันคือศูนย์รวมความหมายที่แท้จริง เมื่อผู้อมตะประสบความสำเร็จในการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงและทำให้ระดับความสำเร็จของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น

 

 

‘เพียงสองฉากก็ทำให้ข้าก้าวเข้าสู่ระดับกึ่งผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งค่ายกลแล้ว อาณาจักรแห่งความฝันนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ’

 

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่มันยากมาก’

 

 

‘แต่ข้าไม่เคยได้ยินชื่อของตู้ซื่อเฉินมาก่อนจริงๆ…’

 

 

วิธีการสอนของเขาทำให้ฟางหยวนรู้สึกพูดไม่ออก แต่คนที่เขาสั่งสอนคือเจ้าของอาณาจักรแห่งความฝันนี้ เห็นได้ชัดว่าเด็กผู้นี้เป็นตัวละครที่สำคัญ

 

 

ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขาอยู่ห่างจากระดับผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น

 

 

‘ตราบเท่าที่ข้าผ่านฉากที่สาม ความสำเร็จของข้าจะก้าวเข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน!’

 

 

ฟางหยวนเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น

 

 

การคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝันช่วยยกระดับความสำเร็จของเขา นี่เป็นทางลัดในการบ่มเพาะ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สามารถหยุดความปรารถนาอันแรงกล้าต่อมัน

 

 

แต่เนื่องจากเขาออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันแล้ว เขาจึงไม่รีบร้อนกลับเข้าไป

 

 

เขานึกถึงเหตุการณ์ในฉากที่สามและวิญญาณทั้งหมด

 

 

เขารู้จักพวกมันเพียงหกสิบส่วน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณเหล่านั้น

 

 

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์แต่พวกมันส่วนใหญ่สูญพันธุ์ไปแล้ว

 

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็พบข้อมูลที่เขาต้องการ

 

 

จากนั้นเขาก็อ่านสารานุกรมวิญญาณที่เขาซื้อมาก่อนหน้านี้อีกครั้ง

 

 

แต่ความเข้าใจในการอ่านครั้งนี้แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเข้าใจเพียงผิวเผิน แต่ตอนนี้เขาสามารถเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ด้วยการกวาดตามองเพียงครั้งเดียว นี่ทำให้เขาพบสิ่งใหม่ๆ

 

 

อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่ฟางหยวนยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้

 

 

ท้ายที่สุดเขาก็ยังเป็นเพียงกึ่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์สามารถบรรลุถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ แน่นอนว่ามรดกชิ้นนี้ยังมีบางสิ่งที่ฟางหยวนไม่สามารถทำความเข้าใจ

 

 

ฟางหยวนหมกมุ่นอยู่กับความลึกซึ้งของค่ายกลวิญญาณ โดยไม่รู้ตัวเวลาก็ค่อยๆผ่านพ้นไป

 

 

เมื่อเขากระหายน้ำ เขาจะดื่มน้ำ เมื่อเขาหิว เขาจะกินผลไม้

 

 

ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเขา เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อช่วยในการเรียนรู้

 

 

ขอบเขตเนื้อหาของเส้นทางแห่งค่ายกลกว้างใหญ่มาก มันเชื่อมโยงกับทุกเส้นทาง

 

 

เพียงเมื่อวูอันขอพบฟางหยวน เขาจึงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

 

 

“แปดวันผ่านไปโดยไม่รู้ตัว…” ฟางหยวนงุนงงอยู่ชั่วครู่

 

 

ความคิดที่วุ่นวายในใจของเขาค่อยๆสงบลง

 

 

ในช่วงเกือบสิบวันที่ผ่านมาแห่งการเรียนรู้ มันทำให้พื้นฐานบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาแข็งแกร่งขึ้น

 

 

“เขามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?” ฟางหยวนขมวดคิ้วอย่างไม่สามารถอดทน

 

 

แต่หลังจากครุ่นคิด เขาก็ตัดสินใจอนุญาตให้วูอันเข้าพบ

 

 

ปรากฏว่าวูอันนำเทพธิดากระต่ายขาวมารายงานสถานการณ์เกี่ยวกับธุรกิจซื้อขายโอกาสและมอบบัญชีให้ฟางหยวนตรวจสอบ

 

 

แม้ฟางหยวนจะไม่สนใจธุรกิจนี้แต่เขายังเป็นผู้นำของธุรกิจ

 

 

อีกด้านหนึ่งในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เทพธิดากระต่ายขาวต้องส่งรายงานให้เขา