ตอนที่ 786 : เขาอสูรโทเทม

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 786 : เขาอสูรโทเทม

 

ข่าวคราวของหลงเฉิ่งขวงที่แข็งแกร่งขึ้น ได้แพร่กระจายไปทั่วต่อผู้คนทั้งเกาะแห่งดาบทั้งเก่าและใหม่ หลายคนต่างคาดเดา ว่าคนของเขตแดนลึกล้ำต้องการเอาชนะฉินหยุนให้จงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มเทช่วยเหลือหลงเฉิ่งขวงเพิ่มกําลังมหาศาลเช่นนี้

 

ขั้นตอนการเสริมกําลังให้แก่หลงเฉิ่งขวงสร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พลังงานอสูรอัดแน่นบนฟากฟ้า จนเป็นผลให้ผู้คนต่างเชื่อ ว่านี่ไม่ใช่การเสริมกําลังอย่างที่ควรจะเป็น

 

ตามปกติแล้ว การหยิบยืมพลังจากเทพมาร มันย่อมต้องมีการสังเวย และพลังอันน่าสะพรึงเช่นนี้ เครื่องสังเวยย่อมต้องชวนขนลุกตามไปด้วย

 

หลังได้ทราบว่าฉินหยุนกลับมาจากนครเซียนยุทธภัณฑ์ หยางฉีเย่ว์พร้อมแม่เฒ่าหยุนเหยาจึงเร่งรีบเดินทางมา

 

“เสี่ยวหยุน หลงเฉิ่งขวงตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมเช่นก่อนหน้าแล้ว!” ทันทีที่หยางฉีเย่ว์เข้ามาในห้องรับรอง นางพบเห็นฉินหยุนพร้อมเร่งร้อนออกปาก

 

“เป็นเช่นนั้น แต่แล้วมันอย่างไร?” ฉินหยุนถามกลับ

 

“ภายในร่างของมัน มีจิตและวิญญาณมารอันแข็งแกร่งคงอยู่!” หยางฉีเย่ว์เผยสีหน้าหนักอึ้ง “นั่นต้องเป็นเทพมารในตํานานอย่างแน่นอน!”

 

เปาเฉิงโจ่วกล่าวเสียงลุ่มลึก “เทพมารคงอยู่ทุกหนแห่ง ตราบเท่าที่ยังมีผู้คนซึ่งพร้อมแปรเปลี่ยนเป็นมารร้ายและฝึกฝนเตอสูร พวกเขาเหล่านั้นย่อมเชิดชูบูชาเทพมาร!”

 

หยางฉีเย่ว์กล่าวเสริม “เสี่ยวหยุน อย่าได้เข้าร่วมต่อแล้ว การคงอยู่ของจิตวิญญาณเทพมารในร่างหลงเฉิ่งขวงยังไม่ตื่นขึ้น แต่หากมันตื่นขึ้นเมื่อใด เป้าหมายของมันย่อมเป็นเจ้า เพราะเทพมารเองก็ต้องการจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว”

 

ยามที่หลงเฉิ่งขวงดําเนินพิธีกรรมสังเวย เทพมารย่อมได้อ่านจิตใจของเขา ดังนั้นแล้วเทพมารย่อมได้ทราบ ว่าฉินหยุนครอบครองสองจารึกวิญญาณ เพียงเหตุผลนี้ เทพมารก็ยินดีประทานพลังอันยิ่งใหญ่ พร้อมส่งจิตวิญญาณเศษเสี้ยวลงมาประทับในร่างหลงเฉิ่งขวง ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะทําให้หลงเฉิ่งขวงได้รับจารึกวิญญาณของฉินหยุน

 

“พี่หยาง ข้าสามารถเอาชนะมันได้แน่!” ฉินหยุนกําหมัดแน่น “มีจิตและวิญญาณของเทพมารแล้วอย่างไร? เช่นนั้นข้าก็เพียงสังหารเทพ!”

 

หยางฉีเย่ว์เดิมคิดอยากเกลี้ยกล่อมฉินหยุน ทว่าหลังได้ฟังคํากล่าวอีกฝ่าย นางได้แต่ต้องยอมรับ

 

“อย่างนั้นเมื่อถึงเวลา เจ้าจงระวังให้มาก” หยางฉีเย่ว์ทราบว่าฉินหยุนแข็งแกร่งยิ่ง กระนั้นนางก็ทราบ ว่ากําลังของหลงเฉิ่งขวงเวลานี้น่าสะพรึงกลัวระดับใด

 

วันถัดมา งานชุมนุมยุทธ์ดาบได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

 

ตั้งแต่รุ่งสาง ฉินหยุนได้ทราบข่าวคราวใหญ่! ศิษย์ตระกูลเจี้ยนทั้งหมดยอมถอนตัวจากการแข่งขัน! กระทั่งเจี้ยนรั่วหยานก็ถอนตัว! นี่เป็นการแสดงให้เห็น ว่าพวกเขาเหล่านั้นหวาดเกรงต่อกําลังของหลงเฉิ่งขวง!

 

ตระกูลเจี้ยนเดิมเป็นเจ้าภาพงานชุมนุมยุทธ์ดาบ พวกเขาคิดอยากสําแดงพลังอํานาจอันเลิศล้ำให้ผู้คนได้ชื่นชม แต่แล้ว หลงเฉิ่งขวงกลับมีกําลังเพิ่มขึ้นมหาศาลจนขนาดตระกูลเจี้ยนยอมละทิ้งเกียรติ เลือกถอนศิษย์ของตนทั้งหมดออกจากการแข่งขัน!

 

เดิมมีผู้เข้าร่วมแข่งขันยี่สิบสี่คนในวันนี้ ตอนนี้เหลือเพียงแปดคน ศิษย์ตระกูลเจี้ยน รวมถึงหยางฉีเย่ว์ กระทั่งศิษย์ตระกูลหลง ทั้งหมดล้วนถอยฉาก

 

ข่าวคราวครั้งนี้ได้สะท้านสะเทือนต่อเกาะแห่งดาบทั้งสอง ผู้คนต่างทราบ ว่าหลงเฉิ่งขวงยังอยู่ที่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับกลาง กระนั้นกลับมีกําลังทัดเทียมราชันยุทธ์ พวกเขาล้วนคาดหวังต่อการแข่งขันที่เกิดขึ้น กระนั้นตอนนี้ หลายคนกลับเลือกถอนตัวจากไป

 

ฉินหยุนไม่ถอนตัว เขามั่นใจ ว่าแม้หลงเฉิ่งขวงครอบครองพลังของเทพมาร เขาก็ยังสามารถมีชัยชนะเหนืออีกฝ่าย ฉินหยุนมาถึงเวทีประลองยุทธ์ พบเห็นหลงเฉิ่งขวงที่สวมใส่ชุดหรูหราสีทองปักลายมังกร

 

หน้าผากของอีกฝ่าย มันมีเขาสีดํายื่นยาวออกมา กระนั้น ที่ร่างกายกลับไร้ซึ่งออร่ามาร และท่าทีก็ยังเป็นเช่นก่อนหน้า อหังการ อวดดี และมองเหยียดต่อทุกผู้คน ฉินหยุนไม่พบเห็นว่าหลงเฉิ่งขวงสภาพนี้น่าหวาดกลัวเช่นไร ในสายตาของเขา หลงเฉิ่งขวงแทบไม่ต่างอันใดจากก่อนหน้า

 

ชายชราร่างอ้วนท้วนจากเขตแดนลึกล้ำพบเห็นฉินหยุนและเปาเฉิงโจ่วปรากฏตัว เขาจึงแสยะยิ้มกล่าวคํา “อย่างน้อยเจ้าก็ยังมา นึกว่าจะหนีไปเสียแล้ว! ฉินหยุน เจ้าไม่ถอนตัว ถือว่ามีความกล้ายิ่งนัก!”

 

ผู้คนจากเขตแดนลึกล้ำต่างยินดีที่ได้พบเห็นเรื่องราวเป็นเช่นนี้

 

เจี้ยนสือเทียนกังวลห่วงหาฉินหยุนเช่นกัน กระทั่งเขายังคาดหวังให้ฉินหยุนถอนตัว

 

“หลงเฉิ่งขวงทําไหล่ข้าได้รับบาดเจ็บ หนี้แค้นครั้งนั้นยังไม่สะสาง ข้าหรือจะถอนตัว?” ฉินหยุนมองทางหลงเฉิ่งขวงพร้อมกล่าวเสียงเย็นเยียบ

 

ชายชราร่างอ้วนท้วนหันไปกล่าวกับเจี้ยนสือเทียน “จ้าวสํานักดาบ พวกเราเอาอย่างนี้เป็นไร ให้ฉินหยุนและหลงเฉิ่งขวงตัดสินอันดับหนึ่งไปเลย! เพราะผู้เข้าร่วมที่เหลือตอนนี้ ก็มีแต่ฉินหยุนและศิษย์ของฝ่ายเราทั้งสิ้น”

 

ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำร้องขอการจัดรอบสุดท้ายเสียตอนนี้ เรื่องราวดังกล่าว เป็นผลให้หลายคนต้องร้องตะโกนอย่างนึกถึง

 

“ในเมื่อเจ้าว่าอย่างนั้น ก็ว่าตามนั้น” เจี้ยนสือเทียนกังวลว่าเรื่องราวจะถูกลากถ่วง ถึงตอนนั้นมันจะไม่ดีสําหรับฉินหยุนเอง ผู้ใดกันทราบ ว่าอีกฝ่ายจะมีวิธีการลึกลับใดคงเหลือเพื่อเพิ่มกําลังหลงเฉิ่งขวงอีก!

 

ผู้คนจากเขตแดนลึกล้ำต่างกังวลด้วยซ้ำว่าฉินหยุนจะหวาดกลัวเผ่นหนี ดังนั้นพวกเขาจึงคิดเริ่มศึกโดยตรงเสียแต่ตรงนี้! อย่างไรแล้ว ก็มีแต่หลงเฉิ่งขวงที่มีศักยภาพมากพอจัดการฉินหยุนได้ หากศิษย์ผู้อื่นของเขตแดนลึกล้ำต่อสู้กับฉินหยุน พวกเขาย่อมต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย!

 

ฉินหยุนและหลงเฉิ่งขวงต่างยืนบทเวทีประลองยุทธ์

 

เสียงระฆังพลันดังขึ้นอย่างรุนแรง การศึกเริ่มขึ้นแล้ว!

 

กระนั้น ฉินหยุนและหลงเฉิ่งขวงหาได้ลงมือ เรื่องนี้เป็นผลให้หลายคนเกิดความสงสัยจนร้องตะโกนสบถออก

 

สาเหตุว่าทําไมฉินหยุนไม่เคลื่อนไหว เพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นรอบด้าน มันทําให้เขายากเคลื่อนไหว ดวงตาของหลงเฉิ่งขวงพลันแปรเปลี่ยน มันเผยประกายแสงสีเขียว นี่คือดวงตาที่เผยความโหดเหี้ยมชวนสะพรึง ยามฉินหยุนมองที่ดวงตาหลงเฉิ่งขวง มันราวกับเขาได้เห็นทั้งโลกหล้าที่อัดแน่นด้วยความชั่วร้ายและโหดเหี้ยม

 

“ฉินหยุน ข้าจะให้โอกาสเจ้า คืนนี้ให้นําหยางฉีเย่ว์มาที่ห้องข้า!” หลงเฉิ่งขวงเผย เสียงแหบห้าว มันราวกับเป็นเสียงคนสองคนที่กล่าวออกพร้อมกัน

 

ฉินหยุนทราบ ว่านี่คือเสียงของเทพมารที่ครอบงําหลงเฉิ่งขวง

 

“ฝันไปเถอะ!” ฉินหยุนเผยเสียงกราดเกรี้ยว

 

“ฉินหยุน หยางฉีเย่ว์ครอบครองร่างศักดิ์สิทธิ์จันทราทมิฬที่หาได้ยากยิ่ง หากเจ้านํานางมาให้ข้าได้ร่วมสนุก เช่นนั้นข้าจะมอบพลังเทพมารให้แก่เจ้า และเจ้าจะได้เป็นผู้ที่เลิศล้ำกว่าทุกสรรพสิ่งในแดนวิญญาณอ้างว้างแห่งนี้!” หลงเฉิ่งขวงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

 

ฉินหยุนกําหมัดแน่น น้ำเสียงนี้มีแต่ความพิโรธโกรธแค้น “เจ้ามีเจตนาร้ายต่อพี่หยาง ข้าย่อมไม่สนว่าเจ้าเป็นเทพมารหรือภูตผี เพียงทราบว่าต้องกําจัดเจ้า!”

 

“ฉินหยุน เจ้าไม่ได้ดีดังเช่นที่เห็น ข้าสัมผัสได้ถึงพลังอสูรอันชั่วร้ายในกายเจ้า เป็นตัวเจ้าที่วางแผนกับตนเอง คิดเก็บหยางฉีเย่ว์ไว้ให้ตนเองหรือไม่ใช่?” หลงเฉิ่งขวงแสยะยิ้ม “จงเชื่อข้า เจ้าไม่อาจได้รับอันใดจากร่างของหยางฉีเย่ว์ ส่งมอบมันให้แก่ข้า แล้วเจ้าจะได้รับพลังเทพมารอันเลิศล้ำไปครอง!”

 

หลงเฉิ่งขวงกล่าวคําจบ สายฟ้าอสนีบาตสีดําจึงร่วงหล่นลงมา มันนําพามาพร้อมออร่าชั่วร้ายชวนสะพรึง หลังจากที่พลังชั่วร้ายปรากฏอย่างกะทันหัน ทั้งเวทีประลองกลับกลายเป็นสันสะเทือนรุนแรง ราวกับม่านพลังของเวทีประลองพร้อมจะแตกออกได้ทุกเมื่อ

 

“เจ้าควรหยุดฝันเฟื่องได้แล้ว!”

 

ฉินหยุนเกิดหวาดกลัวต่อพลังชั่วร้ายอันรุนแรงที่หลงเฉิ่งขวงปล่อยออกมา ทว่า ความโกรธของเขาก็แทบไร้ก้นบึง ความหวาดกลัวที่เกาะกุมมันแทบไม่มีผลอันใดต่อเขาแล้ว

 

ฟู ฟู ฟู!

 

ร่างกายของฉินหยุนเริ่มมีมวลอากาศสั่นไหวปรากฏโดยรอบ พลังชั่วร้ายซึ่งอยู่รอบกายเขา พวกมันเริ่มสลายไปทีละน้อย

 

“ฉินหยุน ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว เป็นเจ้าไม่คิดรับ เช่นนั้นก็อย่าได้ร้องขอความเมตตาจากข้า!”

 

หลงเฉิ่งขวงหัวเราะเย็นเยียบ “อย่าได้กังวล ข้าจะผนึกจิตวิญญาณเจ้าเอาไว้ เพื่อให้เจ้าได้รับชม ว่าข้าจะสําราญกับร่างศักดิ์สิทธิ์จันทราทมิฬอย่างไร ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“ตัวบัดซบ ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น! เทพมารงั้นหรือ? ไม่ช้าหรอก ข้าจะหาร่างหลักของเจ้าพร้อมทําลายให้สิ้นซาก!”

 

ความโกรธในใจฉินหยุนที่สุมอัดเกิดเดือดพล่าน! วิญญาณยุทธ์แห่งความเที่ยงธรรมซึ่งอยู่ในตะวันทมิฬพลันพิโรธคํารามร้อง มันปลดปล่อยพลังแห่งความเที่ยงธรรมออกมา!

 

พลังชั่วร้ายที่หลงเฉิ่งขวงปลดปล่อยไว้รอบด้าน เวลานี้ถูกสลายหายหมดสิ้น ฉินหยุนลงมือเคลื่อนไหวแล้ว! หลงเฉิ่งขวงเกิดหวาดกลัวต่อพลังแห่งความเที่ยงธรรมที่ฉินหยุนปลดปล่อยจากร่างฝีเท้านั้นก้าวถอย

 

“เจ้า… นี่เจ้าเป็นขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับกลาง?”

 

หลงเฉิ่งขวงพบว่าเรื่องราวยากเกินเชื่อได้ ฉินหยุนเพิ่งก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กระนั้นเวลานี้กลับอยู่ระดับกลาง ความเร็วการเลื่อนระดับเช่นนี้ แม้กระทั่งในเขตแดนลึกล้ำก็แทบไม่อาจเป็นไปได้

 

“ดี ดี วิเศษนัก… เช่นนั้นวันนี้ ข้าจะชิงจารึกวิญญาณจากเจ้า! วันนี้ ข้าจะจัดพิธีศพและฝังเจ้าไว้ที่นี่! ไม่ว่าพรสวรรค์เจ้ามากล้นเพียงใด หลังเจ้าตาย มันก็เป็นได้เพียงเศษธุลี!”

 

ร่างกายหลงเฉิ่งขวงพลันขยายตัวพร้อมปรากฏเกล็ดสีดํา เหล่านี้คือเกล็ดมังกรชั่วร้ายที่ชวนตระการตา มันพร้อมทําให้ผู้พบเห็นเกิดความหวาดกลัว เวลานี้ กลุ่มก้อนพลังงานสีดําเริ่มปรากฏเด่นชัด

 

“เสี่ยวหยุน” หยางฉีเย่ว์กําหมัดของนางไว้แน่น เพราะนางกําลังห่วงหาฉินหยุนเป็นอย่างยิ่ง

 

เวลานี้ฝูงชนที่รับชมต่างได้เห็น ว่าหลงเฉิ่งขวงเกิดความผิดปกติขึ้นอย่างรุนแรง กระนั้นผู้คนของเขตแดนลึกล้ำกลับยินดีไม่รู้จบ พวกเขาทราบดีว่านี้หมายความถึงมีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณเทพมารในกายของหลงเฉิ่งขวง นี่ถือเป็นการที่เทพมารได้เลือกแล้ว! ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้น คือเขาที่ศีรษะของหลงเฉิ่งขวง มันทั้งยาวขึ้น และใหญ่มากยิ่งขึ้นทั้งยังมีอักขระจํานวนมากปรากฏ!

 

“เป็นโทเทมมารอสูร!” อาจารย์จารึกตระกูลเจี้ยนเผยดวงตาเป็นประกายประหนึ่งคบเพลิงสายตาของเขาจับจ้องที่สายฟ้าสีดําซึ่งถูกยิงออกจากเขาใหญ่ น้ำเสียงของเขาอัดแน่นด้วยความตื่นตะลึง

 

“เป็นโทเทมระดับเต๋า!”

 

“เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับหลงเฉิ่งขวงได้อย่างไรกัน?”

 

“เขาฝึกฝนโทเทมมารอสูรจิ้นหรือ?”

 

กระทั่งว่าเป็นอาจารย์จารึกเตที่มีชื่อเสียงเลิศล้ำ ยังต้องริษยาปรารถนาต่อโทเทมเต๋าอสูรเช่นนี้!

 

การแปรเปลี่ยนร่างของหลงเฉิ่งขวงอย่างกะทันหัน เป็นผลให้บรรดาผู้ชมโห่ร้องอย่างเดือดพล่านพร้อมตะโกนดัง!

 

กระนั้นสิ่งที่พวกเขาไม่ทราบ ก็คือหลงเฉิ่งขวงเป็นร่างจําแลงของเทพมาร!

 

ฉินหยุนเวลานี้โจมตีออกด้วยฝ่ามือมังกรสมบูรณ์ กระนั้นเกล็ดมังกรสีดําเหล่านั้นกลับสะท้าน สลัดการโจมตีพ้น

 

“ฉินหยุน จงรับความตาย!”

 

น้ำเสียงหลงเฉิ่งขวงแหบห้าว เขาใหญ่ที่หน้าผากฉับพลันยิ่งเอาลําแสงสีดําออกและทะลวงเข้าใส่หน้าอกฉินหยุนในพริบตา!

 

“อึก!” ฉินหยุนรับแรงปะทะรวดร้าวพร้อมร่างกระเด็น

 

หลงเฉิ่งขวงเร่งรีบทะยานร่างตามติด ฝ่ามือเสื้อขึ้นสับฟันลงที่ลําคอของฉินหยุน

 

ฉินหยุนที่ร่างกระเด็นลิว ฉับพลันได้พลิกกลับพร้อมหลบเลี้ยงกรงเล็บสีดําขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา! พร้อมกันนี้ เขายังเผยเสียงคํารามราชสีห์สวรรค์ แขนข้างหนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บใหญ่พร้อมประกายแสงเปรียบดังเกล็ดน้ำแข็งต้องแสงอาทิตย์ สิ่งนี้คือกรงเล็บราชสีห์สวรรค์!

 

ฉัวะ!

 

กรงเล็บฉินหยุนตวัดออก ฝากทิ้งรอยแผลกรงเล็บไว้ที่เกล็ดสีดําบนร่างของหลงเฉิ่งขวง หลังจากที่ฉินหยุนเผยกรงเล็บราชสีห์สวรรค์ นี่ไม่ใช่ภาพจําแลงอีกต่อไป ทว่าเป็นกรงเล็บราชสีห์ของจริง! มันเปรียบดังอาวุธที่คมกล้า!

 

ได้เห็นฉินหยุนเผยกรงเล็บออก หลายคนต่างคิดว่าเขานําอาวุธออกมา ทว่าจากที่เห็นพวกเขาค่อยตระหนักได้ว่าสิ่งนั้นคือวิชายุทธ์โทเทมราชสีห์สวรรค์ มันคือโทเทมโบราณที่สูญหายและผู้ที่เชี่ยวชาญวิชายุทธ์โทเทมราชสีห์สวรรค์ กล่าวได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน!

 

เกล็ดของหลงเฉิ่งขวงครานี้ถูกทําลาย กระนั้นก็ฟื้นคืนกลับรวดเร็ว ตัวเขาแตกตื่น เขาไม่คิดว่ามนุษย์ตัวจ้อยจากแดนวิญญาณอ้างว้าง จะถึงขั้นสามารถเชี่ยวชาญพลังสัตว์สวรรค์ระดับชวนสะพรึงนี้ได้