ตอนที่ 214

Legend of the mythological genes

แหมะ แหมะ..

น้ำลายเหม็นหยดลงบนพื้นทำให้เกิดเสียงดัง ควันสีดำฟุ้งออกมา

มีพวกผิดแปลกอยู่สี่ตน เขี้ยวของพวกมันเปล่งประกายน่าสะอิดสะเอียน พวกมันก้มหน้าก้มตาล้อมรอบเฟิงหลินทุกทาง ดวงตายาวเหยียดของพวกมันมองอย่างน่ารังเกียจ สายตาเต็มไปด้วยความโลภและมุ่งร้าย กลิ่นอายแข็งแกร่งเปล่งประกายออกมาจากพวกมัน สัตว์ประหลาดคล้ายปลาหมึกนับว่าน่ากลัวสุด

เกรดระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างกันชัดเจน เมื่อมันเจอสิ่งที่เหนือกว่าในห่วงโซ่อาหารพวกมันจะหนีไปเร็วที่สุด

กรี้ดดด!

สัตว์ประหลาดทั้งสี่ขยับเข้ามาใกล้ไม่สามารถระงับความหิวได้อีกต่อไป ภายใต้แรงกระตุ้นจากธรรมชาติที่โหดร้ายพวกมันคลุ้มคลั่ง

กรงเล็บเหมือนตะขอ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นเงาดำที่ไหลผ่านป่าเข้าหาเฟิงหลิน

ปากของพวกมันเปิดกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวเรียงแถวข้างใน แต่ที่น่ากลัวที่สุดอาจเป็นลิ้นแปลกๆ ดูอันตราย พวกมันเหมือนหอกคมสามารถเจาะทะลุร่างเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย

สัตว์ประหลาดทั้งสี่สมกับเป็นสัตว์ประหลาดทางชีวเคมีสุดอันตราย พลังต่อสู้พวกมันสูงมาก พลังโจมตีของพวกมันระเบิดจนน่ากลัว หากมนุษย์ธรรมดาเผชิญกับการโจมตีนี้จะต้องถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ทันทีและถูกมันกลืนกินจนหมดทั้งตัว

ตอนนี้ปาดของพวกมันอยู่ใกล้เฟิงหลินมาก เขาได้กลิ่นน้ำลายได้อย่างชัดเจน

 

“ไปซะ!” เขายืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมและคำรามอย่างโกรธเคือง แสงสีเงินปะทุออกมาจากกึ่งกลางคิ้ว พลังวิญญาณของเขาพุ่งทะลักออกมาราวกับสายน้ำทำให้เกิดคลื่นพลังลูกใหญ่

กลิ่นอายของเขาก็พุ่งออกมาทุกทิศทาง เมฆฝุ่นรูปเห็ดก่อตัวจากแรงกระแทก

สัตว์ประหลาดทั้งสี่กระเด็นลอยไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง

ในฐานะที่เป็นสัตว์ประหลาด โครงกระดูกภายนอกพวกมันแข็งแรงเหมือนโลหะ มันป้องกันอวัยวะภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันส่ายหัวเพื่อสะบัดความมึนก่อนที่จะรีบพุ่งกลับไปหาเฟิงหลินพร้อมกับเปล่งเสียงโหยหวน เหมือนพวกมันไม่รู้จักเหนื่อยและไม่กลัวอะไร

สัตว์ประหลาดสองตัวเร่งความเร็วบนพื้นดินในขณะที่อีกสองตัวกระโดดบนต้นไม้และหมุนจากกิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่ง กรงเล็บของพวกมันคมมากทำให้หินแตกได้ และความเร็วก็สูงมาก

กลิ่นอายของพวกมันคุกคาม ความมุ่งร้ายบนใบหน้าไม่จางหายไป หางที่หนาของพวกมันกวาดไปซ้ายและขวาไม่หยุดเหมือนแส้เหล็ก สัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นเหมือนอสูรที่คลานออกมาจากส่วนลึกสุดของนรกต้องการที่จะกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

พลังวิญญาณทรงพลังของเฟิงหลินยังคงพุ่งออกไปอย่างต่อเนื่องเปลี่ยนเป็นหมัดวิญญาณกระแทกเข้ากับสัตว์ประหลาด

อย่างไรก็ตาม พวกมันเหมือนเป็นแมลงสาบที่ไม่สามารถฆ่าได้

หากเสือไม่ได้ปลดปล่อยพลังของมัน มันจะไปต่างอะไรกับแมวป่วย?

เฟิงหลินพูดอย่างเฉยเมยในใจ

หลังจากการโจมตีระยะสั้น  เฟินหลินก็เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ผิดปกติพวกนี้มากขึ้น มันคล้ายกับสิ่งที่เขาเข้าใจก่อนหน้านี้มาก สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ แต่พวกมันคือยอดนักล่า พวกมันน่ากลัวกว่าเมื่อเทียบกับทีเร็กซ์, แมมมอธ, ไดโนซูซุส …

พวกมันมีความแข็งแกร่งและความเร็วที่น่าตกใจ ร่างกายของพวกมันแข็งเหมือนโลหะ นอกเหนือจากความจริงที่ว่าสติปัญญาของพวกมันนั้นต่ำ พวกมันอาจถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อบกพร่องอื่น

พลังวิญญาณของเฟิงหลินสามารถยกหินได้สิบหมื่นตัน แต่เขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงกับพวกมันได้

และจากสิ่งที่เขารู้ เมื่อสัตว์ผิดปกติเหล่านี้เข้าใกล้ร่างกายมนุษย์ พวกมันสามารถวางไข่ในร่างมนุษย์ได้ เมื่อวางไข่แล้วพวกมันจะใช้พันธุกรรมของมนุษย์เป็นวัตถุและรวมยีนของพวกมันเข้ากับเจ้าของร่าง เพื่อช่วยในการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว มันน่ากลัวมาก

แม้ว่าเฟิงหลินจะไม่กลัวพวกมัน แต่เขาก็ไม่ต้องการเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากปรสิต ใครจะรู้ว่าความสามารถอื่น ๆ ของสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีอะไรบ้าง?

 

“เปลี่ยน!” เมื่อเห็นว่าพลังวิญญาณของเขาไม่สามารถทำร้ายสัตว์ผิดปกติเหล่านี้ได้อย่างร้ายแรง เฟิงหลินก็ตะโกนเสียงดัง แหวนที่นิ้วของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ค่อยๆยาวขึ้นและยังคงยาวขึ้น หนาขึ้นกลายเป็นกระบองโลหะที่สมบูรณ์แบบในมือของเขา

วู วู วู!

ในอดีตก่อนที่มหาเทพเทียมฟ้าจะฟื้นขึ้นมา เฟิงหลินได้เรียนชุดวิชากระบองมหาเทพเทียมฟ้าผ่านความทรงจำของเขา เขาโบกมือรอบโดยสัญชาตญาณทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเงาพลังดุร้าย

สัตว์ผิดปกติรีบพุ่งไปข้างหน้า

เฟิงหลินกระโดดและทุบด้วยกระบองศักดิ์สิทธิ์ ไม่ยอมให้มันหลบหนี

ปัง!

สมองของสัตว์ถูกขยี้เหมือนแตงโมสาดน้ำไปทุกทิศทาง กลิ่นของของเหลวในสมองฟุ้งอยู่ในอากาศและเมื่อของเหลวสัมผัสกับพื้นดิน ควันดำก็กระจายออกมาพร้อมเสียงซู่ซ่าจากความร้อน

สัตว์ผิดปกติที่เหลืออยู่ทั้งสามตัวแผดเสียงเมื่อเห็นเพื่อนกำลังจะตาย พวกมันเกรี้ยวกราดมากขึ้น ไม่กลัวอะไรเลย

สัตว์ประหลาดคือสัตว์ประหลาด พวกมันเทียบสัตว์ป่าไม่ได้!

สัตว์ป่าจะมีสัญชาตญาณในการหลีกเลี่ยงอันตราย แต่สัตว์ผิดปกติเหล่านี้ไม่รู้สึกถึงอันตราย

เฟิงหลินหัวเราะเยาะ นี่เป็นไปตามที่เขาคิดจริงๆ

เขากระโดดข้าม กระบองโลหะของเขาเคลื่อนไหวในอากาศ ก่อตัวเป็นลมพายุทำลายล้างและบดขยี้ทุกสิ่งที่มันสัมผัส

ไม่ว่าร่างของความสัตว์ประหลาดทั้งสามจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกมันจะทนแรงกระแทกจากกระะบองโลหะนี้ที่มีน้ำหนักมากกว่าหมื่นชั่งได้ยังไง พวกมันถูกบดเป็นชิ้นๆทันที

 

เฟิงหลินพับเก็บกระบองโลหะ กระบองโลหะนั้นหดตัวและกลายเป็นแหวนรอบนิ้วของเขา

มีกองกระดูกแหลกและเนื้อที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเขา กลิ่นกรดฟุ้งกระจาย

เฟิงหลินเก็บรักษากระดูกนิ้วหัวแม่มือของสัตว์ผิดปกติทั้งสี่อย่างระมัดระวัง นี่เป็นของที่จะได้รับคะแนนในการสอบรอบสองนี้ มันน่าเสียดายถ้าเขาทำมันหาย

เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยเนื่องจากมีสัตว์ผิดปกติน้อยเกินไป

หลังจากสัตว์ผิดปกติทั้งสี่ถูกฆ่าตายป่าก็กลับสู่ความเงียบเหมือนเดิมทันที

หลังจากจัดการทุกอย่างเขาก็เดินทางต่ออย่างรวดเร็ว

สภาพแวดล้อมบนดาวเคราะห์อสุรานั้นเลวร้ายเกินไป ไม่มีทรัพยากรเช่นอาหารและน้ำ มันเป็นเรื่องยากมากที่คนจะอยู่รอด

ถ้าเขาต้องการที่จะอยู่ให้ถึงสิบวัน เขาต้องจัดการความต้องการทางร่างกายของเขาก่อน เขาต้องพักใจให้สบาย และมุ่งเน้นไปที่การตามล่าสัตว์ประหลาดทางชีวเคมี

ภายใต้การสแกนของพลังวิญญาณ เขาสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบ หลังจากยีนวิญญาณของเขาแข็งแกร่งถึง 10 ระยะการสแกนของเขาเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 10 กม. ความผิดปกติแม้เล็กน้อยไม่สามารถหลบหนีจากการรับรู้ของเขา

ประสาทสัมผัสที่คมชัดของเฟิงหลินบอกเขาว่าไอน้ำในทิศทางตะวันตกเฉียงใต้นั้นเข้มข้นกว่าปกติ ในทันทีต่อมาเขาก็ไปที่นั่นอย่างมุ่งมั่น

เขาเดินทางประมาณ 50 กม.ภายในระยะเวลาชั่วขณะ ตอนนี้ตรงหน้าเขามีทะเลสาบที่สวยงาม ความเย็นและความชื้นกับสายลมที่พัดเบา ๆ ทำให้เขารู้สึกสบายมาก อุณหภูมิในพื้นที่ก็ลดลงประมาณ 10 องศาเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้

ความใสของน้ำในทะเลสาบทำให้เห็นปลาว่ายอยู่ในนั้น แสดงว่าคุณภาพน้ำดีมาก อาหารและน้ำสามารถหาได้ง่ายที่นี่

หลังจากใช้เวลาภายใต้อุณหภูมิที่ร้อนจัดรวมถึงการออกแรงอย่างหนักก่อนหน้านี้ เฟิงหลินก็รู้สึกว่าคอแห้ง ความปรารถนาที่จะดื่มน้ำสะอาดของทะเลสาบเพิ่มขึ้นในใจของเขา

แต่ทันใดนั้นคิ้วของเขาก็ขมวด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่มีศัตรู แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นจาง ๆ ของศัตรูที่แทรกซึมอยู่ในอากาศ สิ่งนี้ไม่ตรงกับภาพบรรยากาศที่เงียบสงบเลย

 

“ใคร?ออกมา!” เฟิงหลินตะโกนออกมาพร้อมกับต่อยหมัด แรงหมัดอันทรงพลังดูเหมือนจะทะลุผ่านสิ่งกีดขวางที่ไม่มีรูปร่าง เมื่อสิ่งกีดขวางหายไปเงา11ร่างก็ปรากฏออกมา พวกมันซุ่มโจมตีอยู่

เมื่อเห็นว่าภาพลวงของพวกมันถูกจับได้ พวกมันก็ไม่ปิดบังความตั้งใจ พุ่งมาล้อมรอบเฟิงหลินอย่างรวดเร็ว!