ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของหลิงหยุนก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า หลิงหยุนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู ก็เห็นว่าเป็นข้อความส่งมาจากถังเมิ่ง

 

พี่หยุน ให้ฉันเดานะตอนนี้พี่กําลังนอนอยู่บนเตียงใช่มั้ยล่ะ? ฮ่าๆ เป็นยังไงบ้าง? มีสาวๆแนบซ้ายแนบขวาแบบนั้น?

 

ถังเมิ่งนั้นยิ่งกว่าพยาธิในท้องของหลิงหยุน เมื่อเห็นหลิงหยุนประคองซูปิงหยาน กับเยี่ยนจื่อออกไป เขาก็เดาได้ทันทีว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?

 

หลิงหยุนกดโทรศัพท์หาลังเพิ่งทันที และประโยคแรกที่เขาพูดก็คือ “ถังเมิ่ง สองสามวันนี้ นายคงครั่นเนื้อครั่นตัวมากสินะ?”

 

ถังเมิ่งยิ้มพร้อมกับร้องขอความเมตตา จากนั้นจึงพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง “พี่หยุน ไอ้ห้าคนที่ เที่ยวไปเล่นตามบ่อนของแก๊งมังกรเขียวจนพวกเราหมดตัวไปมากนั้น พวกมันกลับมาอีกแล้ว! พี่ จะไม่ไปจัดการกับพวกมันหน่อยเหรอ?”

 

หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า “พวกมันมาอีกแล้วเหรอ? รนหาที่ตายแท้ๆ!”

 

เซียนพนันทั้งห้าคนที่ใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์ก็สามารถกวาดเงินไปจากแก๊งมังกรเขียวได้ มากกว่าแปดสิบล้าน แต่เมื่อหลิงหยุนว่างที่จะเข้าไปจัดการ พวกมันกลับหายหัวไป แต่แล้วจู่ๆก็มา ปรากฏตัวอีกครั้ง

 

ในเมื่อพวกมันมาปรากฏตัวแล้ว หากหลิงหยุนไม่จัดการกับพวกมันตอนนี้ แล้ วจะจัดการกับพวกมันตอนใหนล่ะ? หลิงหยุนจึงสั่งถังเพิ่งให้ไปรอเขาอยู่ที่หน้าคลินิกสามัญชน และเขาจะรีบไปโดยเร็ว

หลังจากวางสายไปแล้ว หลิงหยุนก็บอกกับซูปิงหยานที่อยู่บนเตียงว่า “คุณซู.. ตอนนี้มีคนมา ป่วนแก๊งมังกรเขียว ผมต้องรีบออกไปจัดการ!”

 

เมื่อซูปิงหยานได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของหลิงหยุนดังขึ้นนั้น เธอยังคิดว่าคงจะเป็นหญิง สาวคนให้นของหลิงหยุนสักคนโทรเข้ามา ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องงาน เธอจึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร

 

“ตามสบาย เธอไปทําธุระของเธอได้ตามสบาย ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว..”

 

หลิงหยุนพยักหน้า “เรื่องร้านคุณไม่ต้องห่วง ผมจะให้ถังเมิ่งไปจัดการให้ คุณไม่ต้องกังวลอะไร..”

 

ตอนนี้ชูปิงหยานยังต้องกังวลอะไรอีก ในเมื่อร้านของเธอมีคนคุ้มครองแล้ว ยังจะมีใครกล้า มาก่อกวนอีก? หากจะมีก็คงมีแต่พวกที่มีตาแต่ไร้แววเท่านั้นล่ะ!

 

พูดจบ.. หลิงหยุนก็เดินออกจากบ้านของซูปิงหยานไป

 

หลิงหยุนรีบขับรถตรงไปยังคลินนิกสามัญชน ถังเมิ่งได้ไปรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว และเมื่อหลิงห ยุนไปถึง รถทั้งสองคันต่างก็พากันขับออกนอกเมืองไป

 

ในเมื่อเป็นบ่อนขนาดใหญ่ แน่นอนว่าต้องไปเปิดอยู่แถวชานเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่นักพนันต่างก็ รู้กันดี

 

บริเวณลานที่เงียบสงบขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในแถบชานเมืองด้านตะวันตก แสงไฟส่องสว่าง มีรถจอดเรียงรายอยู่เต็มไปหมด รถที่จอดอยู่นั้นมีตั้งแต่รถธรรมดาไปจนถึงรถหรูหราราคาแพง แม้แต่จักรยานยนต์ก็มี เรียกได้ว่ามีคนทุกชนชั้นเลยก็ว่าได้

 

และนี่คือบ่อนคาสินโนที่ใหญ่ที่สุดของแก๊งมังกรเขียว และเป็นที่รู้จักดีของบรรดานักพนันทั้งหลาย..

 

หลิงหยุนกับถังเมิ่งขับเข้าไปหาที่จอดรถ และก็พบว่าตี้เสียวอู่กับอาบึงมารออยู่ที่หน้าประตูแล้ว และมีชายวัยกลางคนอายุราวสามสิบปีอีกหนึ่งคนมารออยู่ด้วย ลักษณะท่าทางของเขานั้นดูไม่ แตกต่างไปจากคนธรรมดาทั่วไป แต่แววตานั้นช่างเยือกเย็นสงบนิ่ง และยากที่จะคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกได้

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ชื่อว่ากงหงกวง อยู่ในส่วนของโถงพี่น้องในแก๊งมังกรเขียว ประ กอบธุรกิจเปิดบ่อนคาสิโนกับไนต์คลับ มีรายได้อย่างน้อยๆก็สามร้อยล้านหยวน และบ่อนคาสิโน แห่งนี้ก็คือของเขาเอง

 

“พี่หยุน!”

 

เมื่อเห็นหลิงหยุนกับถังเมิ่งมา ตี้เสี่ยวอู๋กับอาปิงก็รีบออกมารับพร้อมกับแนะนกงหงกวงให้รู้ จักกับหลิงหยุน

 

“เรียกผมว่าหลิงหยุน” หลิงหยุนเห็นกงหงกวงอ้าปากแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกเขาว่าอะไรดี หลิงหยุนจึงได้แต่ยิ้มพร้อมกับสั่งให้เรียกชื่อของเขาได้เลย

 

สิ่งที่หลิงหยุนสังเกตเห็นนั้น แม้กงหงกวงจะมีลักษณะท่าทางที่ดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ กลับดูคล่องแคล่วว่องไว ภาพภายนอกที่ดูเหมือนไม่มีความเก่งกาจอะไรนั้น ความจริงแล้วมีเขี้ยว เล็บไม่ต่างจากเสือ เขาแสร้งทําเป็นถ่อมตัว แต่ความจริงแล้วก็มีดีไม่เบาเลยทีเดียว และหากดูจาก เล็บและนิ้วที่สะอาดสะอ้านนั้น ก็บ่งบอกได้ว่าเขาคือเซียนพนันที่เก่งกาจคนหนึ่งเลยทีเดียว!

 

“แต่.. นั่นไม่ถูกต้องตามกฏ” กงหงกวงพูดเสียงเบา

 

เขาเรียกเสี่ยวลู่ว่าท่านหัวหน้า แต่ดูเหมือนว่าหลิงหยุนจะเป็นลูกพี่ของตี้เสียวตู้อีกที ดังนั้นกงหงกวงจึงไม่กล้าที่จะเรียกชื่อหลิงหยุนตามที่เขาบอก

 

อาปิงจึงพูดออกไปว่า “ในแก๊งมังกรเขียวของเรามีท่านหัวหน้าเพียงแค่คนเดียวคือพี่หยุนเท่านั้น

 

กงหงกวงจึงรีบเรียกหลิงหยุนด้วยความเคารพ “ท่านหัวหน้า!”

 

หลิงหยุนพยักหน้า แล้วเดินนาทุกคนเข้าไปด้านใน ระหว่างทางก็ถามขึ้นว่า

 

“การพนันในคืนนนี้เป็นยังไงบ้าง?” หลิงหยุนถามด้วยท่าทางสบายๆ

 

“พวกมันกินเรียบทุกตา…”

 

“พวกมันชนะการพนันทุกประเภทเลยงั้นรึ?”

 

“ตั้งแต่ที่พวกมันปรากฏตัวในจิงฉู ก็ยังไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง”

 

“พวกมันโกงหรือเปล่า?”

 

“ไม่เลย.. พวกมันทั้งห้าคนล้วนแล้วแต่มีความชํานาญกันคนละด้าน ไม่ว่าจะเป็นไฮโล ไพ่นกก ระจอก ไพโกว โป๊กเกอร์ เฮ้อ… ช่างโชคร้ายที่พวกเราในบ่อนไม่มีใครเก่งเท่ากับพวกมันเลย!”

 

“น่าสนใจ! คืนนี้พวกมันกวาดไปทั้งหมดเท่าไหร่แล้วล่ะ?” หลิงหยุนถามยิ้มๆ

 

“พวกมันเล่นไปแค่เดี๋ยวเดียวก็กวาดไปถึงหกล้านแล้ว…”

 

กงหงกวงกัดฟันกรอด แม้ว่าเขาจะมีเงินมากมาย แต่ก็ไม่ต้องการพ่ายแพ้ให้แก่ใคร หากแม้แต่ คนของแก๊งมังกรเขียวยังไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะพวกมันได้แล้วล่ะก็ เขาก็คงได้ แต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้

 

หลิงหยุนตอบกลับไปว่า “ปล่อยให้พวกมันได้จนพอใจไปก่อน แล้วผมจะเอาทุกอย่างกลับคืน ให้คุณเอง!”

 

“ไม่ต้องกังวลใจไป.. รับรองว่าพวกมันจะต้องคืนกลับมาอีกหลายร้อยเท่า!” น้ำเสียงของหลิง หยุนสงบนิ่ง

 

หลังจากเดินเข้าบ่อนคาสินโนไปแล้ว กงหงกวงก็เดินนําหลิงหยุนไปที่โต๊ะของเซียนพนันทั้งห้า คน เมื่อไปถึงหลิงหยุนก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างทันที

 

หลิงหยุนนั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุราวยี่สิบหกปี ผิวขาว หูสองข้างกางออก และสีหน้าท่าทางดูสงบนิ่งอย่างมาก ข้างตัวมีชิปกองอยู่จํานวนมาก

 

ด้านหลังของเขานั้นมีคนยืนอยู่สี่คน และที่ดึงดูดสายตาที่สุดดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวหน้าตา สวยงามที่ดูมีเสน่ห์ร้อนแรง ริมฝีปากของเธอเหยียดออกอย่างดูถูกดูแคลนในขณะที่จ้องมองไป ทางหลิงหยุน

 

ภายในบ่อนคาสินโนนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีลูกค้าหน้าเดิมๆ และต่างก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่เมื่อมีนักพนันหน้าใหม่เข้ามา อีกทั้งยังมีคนของแก๊งมังกรเขียวมาด้วย ทําให้นักพนันคนอื่นๆต่างก็ พากันมารุมล้อมด้วยความตื่นเต้น

 

ก่อนที่หลิงหยุนจะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะพนันนั้น นักพนันที่อยู่ในบ่อนต่างก็เห็นว่าชายผู้นี้เป็นฝ่ายชนะทุกครั้งไป หลายคนอยากจะตามชายผู้นี้ แต่ก็เกรงกลัวคนของแก๊งมังกรเขียว จึงไม่มี ใครกล้าตาม และได้แต่ยืนมองด้วยความอัศจรรย์ใจ

 

ทันทีที่หลิงหยุนนั่งลงบนเก้าอี้ เขาก็กวาดสายตามองเซียนพนันทั้งห้าคน ก่อนจะมาหยุดนิ่งอยู่ที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า

 

“สหาย ในเมื่อได้ไปไม่น้อย ก็ควรจะหยุดได้แล้ว! อย่าทําให้ถึงกับต้องปิดบ่อนเลย!”

 

แต่ชายหนุ่มตรงหน้าหลิงหยุนกลับตอบอย่างไม่ใส่ใจ “อย่าไร้สาระไปหน่อยเลย! ในเมื่อพวก นายเปิดบ่อน ก็ควรต้องยินยอมให้เราเล่นพนัน แต่ถ้าใจไม่ถึงก็ปิดบ่อนไปซะ!”

 

ดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็คงจะรู้เช่นกันว่าเซียนพนันตัวจริงได้มาถึงแล้ว เขามองตาหลิงหยุน แต่ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าหลิงหยุนเป็นคนประเภทใหนกันแน่?!

 

หลิงหยุนถึงกับหัวเราะร่วน แล้วตอบกลับไปยิ้มๆ “ฮ่า ฮ่า.. แล้วพวกนายแลกชิปมามากพอ หรือยัง? ฉันกลัวแต่ว่านายจะมีชิปไม่พอที่จ่ายให้กับฉันน่ะสิ!”

 

“ร้อยล้าน! ถ้านายมีความสามารถพอ และคิดว่าจะเอาชนะฉันได้ก็เชิญเลย!” ชายหนุ่มพูดอ ย่างมั่นอกมั่นใจเผยให้เห็นฟันที่เรียงกันเป็นระเบียบสวยงาม

 

“ร้อยล้านนี้นะ?! พวกนายมากันตั้งห้าคน กล้าๆกว่านี้หน่อย สองร้อยล้านเลยเป็นไง?” หลิง หยุนถามยิ้มๆอย่างนึกสนุก

 

“ใจกล้าไม่เบาเลยนี่! ได้ สองร้อยล้านก็สองร้อยล้าน!” ชายหนุ่มยังคงตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

 

หลิงหยุนพยักหน้า “เยี่ยมมาก! สองร้อยล้าน เอาเป็นว่าถ้าฉันเป็นฝ่ายแพ้ นายกเอาเงินไป ได้เลย!”

 

ชายหนุ่มตรงหน้าหลิงหยุนที่ ถึงกับชะงักทันที เขาสังเกตเห็นความพิเศษในตัวหลิงหยุนตั้งแต่แรก แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะมั่นอกมั่นใจถึงขนาดกล้าเดิมพันว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะ!

 

เซียนพนันทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที จากนั้นจึงหันไปกระ ซิบกระซาบกัน

 

หลิงหยุนหันไปมองกงหงกวง “เถ้าแก่กง กล้าเดิมพันสองร้อยล้านกับพวกเขามั้ย?” หลิงหยุนถามยิ้มๆ

 

“ด้วยความยินดี.. ผมยังมีทรัพย์สินอื่นๆอีก รวมทั้งหมดก็หกร้อยล้าน!” กงหงกวงตอบกลับตรงๆ

 

หลิงหยุนหันไปยิ้มให้กับเซียนพนันทั้งห้าคนพร้อมกับผายมือออก และพูดขึ้นว่า “ได้ยินชัดแล้ วใช่มั้ย? พวกเรามีถึงหกร้อยล้านที่พร้อมจะเล่นกับพวกนาย…”

 

“เอาล่ะ.. กล้าเดิมพันกับฉันมั้ยล่ะ? ถ้ากล้าก็วางเงินเดิมพันมา แต่ถ้าไม่กล้าก็หอบเงินแปดสิ บล้านออกไปจากที่นี้ซะ! มาทางใหนก็เชิญกลับทางนั้น แต่ก่อนไปพวกนายต้องแก้ผ้าคลานออกไป ล่ะ!”

 

หลิงหยุนไม่จําเป็นต้องพูดดีด้วย เขาจงใจยั่วยุเซียนพนันทั้งห้าคน และแล้วหญิงสาวหน้าตา สะสวยก็พูดขึ้นว่า

 

“เชอะ! เดิมพันว่านายเป็นฝ่ายชนะงั้นเหรอ? เสี่ยวอู่ เดิมพันกับมันไปเลย!”

 

แน่นอนว่าคําพูดของหลิงหยุนเมื่อครู่ได้สร้างความทุ่มเคืองใจให้กับหญิงสาวอย่างมาก จน เธอถึงกับตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่พอใจ