ตอนที่ 1952

 

“ไอ้มนุษย์สารเลว!”

 

เดม่อนตัวหนึ่งตะโกนต่อว่าออกมา มันโมโหอย่างมาก ปรารถนาที่จะกระโจนเข้าไปฉีกร่างกายของเชียปิงให้เป็นพันๆชิ้นทันที ถลกหนังออกมา

 

พวกมันเข้าใจแล้วว่าทําไมเจ้ามนุษย์นี่ถึงได้เข้ามาหาพวกมันอย่างกะทันหัน เป้าหมายก็เพื่อให้พวกมันช่วยแบ่งเบาพลังอานาจของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ ต้องการใช้พวกมันเป็นโล่ก่าบังเพื่อให้ตนเองผ่านพ้นกา รลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้ไปได้

 

เพราะพวกมันคือเดม่อน ภายในร่างกายมีพลังฉีเดม่อนซึ่งเป็นพลังหยินที่บริสุทธิ์ ทว่าการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์แอบแฝงไปด้วยพลังหยางที่บริสุทธิ์ ทั้งสองส่งผลกระทบเชื่อมโยงเป็นสายระโยงระยา ดึงดูดซึ่งกันและกัน

 

หากพูดให้เข้าใจง่าย พวกมันก็คือสายล่อฟ้าดีๆนี่เอง

 

หากเซียปิงไม่ใช่เป็นผู้ที่เผชิญกับการลงทัณฑ์สายฟ้านี้ บางทีเมื่อการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้ปรากฏขึ้นมา ก็อาจจะผ่าพวกมันเป็นอันดับแรก

 

ต่อให้ตอนนี้เขาจะเป็นบุคคลที่เผชิญกับการลงทัณฑ์สายฟ้านี้ ทว่าเมื่อสายฟ้าผ่าลงมาในแต่ละครั้ง การลงทัณฑ์สายฟ้าก็ยังคงถูกดึงดูดไปหาพวกมันเดม่อน ผ่าลงมาที่พวกมันเช่นกัน

 

จากสิ่งนี้ ก็สามารถเห็นได้ว่าพวกมันกําลังช่วยเซียปิงแบ่งเบาพลังอํานาจของหายนะนี้

 

อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือแผนการของเจ้ามนุษย์นี้ตั้งแต่แรก ต้องการใช้พวกมันเป็นแพะรับบาป!

 

บางทีการที่เจ้ามนุษย์นี่เข้ามาในโลกอบสอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังมุ่งหน้าเข้ามาในสํานักงานใหญ่ของพวกมัน เป้าหมายแรกเริ่มของเขาก็อาจจะเป็นการมองหาพวกมันเดม่อนเพื่อเป็นโล่กําบังให้กับเขา

 

“เจ้ามนุษย์ที่ไร้ยางอายและน่ารังเกียจ ไม่คาดคิดว่าจะต้องการใช้พวกเราเป็นแพะรับบาป เจ้าบัดซบเอ๊ย ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย!”

 

“แม้แต่เดม่อนอย่างพวกเราก็ไม่ได้น่ารังเกียจได้เท่ากับเจ้า ไม่ได้ชั่วร้ายเหมือนอย่างเจ้า ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก”

 

“ในฐานะยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ไม่คาดคิดว่าจะกล้าใช้แผนการที่ชั่วช้าเช่นนี้ นี่เจ้ายังมีความเป็นมนุษย์อีกหรือไม่?!”

 

“หากพวกเราถูกฆ่าตายไปเพราะเจ้า พวกเราจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปจะกลายเป็นวิญญาณอาฆาต คืบคลานออกมาจากขุมนรก จะต้องตามจองล้างจองผลาญเจ้าไปตลอดชีวิต”

 

เดม่อนจํานวนมากก็ต่อว่าออกมา พวกมันเคียดแค้นเซียปิงอย่างถึงที่สุด หากเป็นไปได้ พวกมันปรารถนาที่ จะฉีกเจ้ามนุษย์นี้ให้เป็นชิ้นๆในทันที

 

“จะยึดติดกับชีวิตไปทําไมกัน เหตุใดจะต้องกลัวความตาย?”

 

เซียปิงก็มีสีหน้าที่เกิดความเศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับชะตากรรมของโลก “ตอนนี้การที่พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ มันคือชีวิตจริงๆหรือการที่เจ้าตายไป มันจะเป็นการตายไปจริงๆรี? เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากตายไป ในตอนนี้ นี่จะไม่ใช่การเริ่มต้นเส้นทางชีวิตใหม่ ?!”

 

“สหายเดม่อนเหล่านี้อาจจะดูเหมือนว่าพวกมันถูกการลงทัณฑ์สายฟ้าผ่าและสังหารไป ทว่าในความเป็นจริง พวกมันกลับคืนสู่อ้อมอกของธรรมชาติเท่านั้น รอให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”

 

“การที่ข้าทําเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการสังหารพวกมัน ทว่าเป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับพวกมัน ให้ตัวเลือกพวกมันในการเริ่มต้นใหม่ เหตุใดพวกเจ้าจะต้องดื้อรั้นกันเช่นนี้? นี่พวกเจ้าไม่เข้าใจถึงวัฏจักรความเป็นความตายของธรรมชาติอย่างนั้นรึ?”

 

แสงพระพุทธที่ไร้ที่สิ้นสุดก็สาดส่องออกมาจากร่างของเขาเป็นแสงแห่งปัญญาธรรม มีกลิ่นอายของการโปรดสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์

 

“เวรเอ๊ย เจ้ามนุษย์นี้กําลังพูดพล่ามอะไรกัน?!”

 

“บัดซบ ปากของเจ้ามนุษย์นี่สามารถเปลี่ยนดําให้กลายเป็นขาวบอกว่าความตายเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่”

 

“หึหึ เจ้ากําลังจะบอกว่าพวกเราต้องขอบคุณเจ้าที่ทําให้พวกเราตายอย่างนั้นรี?”

 

“กลับคืนสู่อ้อมอกของธรรมชาติ? ทําไมเจ้าไม่กลับไปก่อนล่ะ?!”

 

“เริ่มต้นชีวิตตูดข้าสิ เจ้ามนุษย์บัดซบ ถ้าอย่างนั้นข้าจะส่งเจ้าไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เช่นกัน”

 

กลุ่มของเดม่อนก็โมโหขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าสังหารพวกพ้องเดม่อนของพวกมันไป ทว่าเจ้ามนุษย์นี้กลับเอ่ยออกมาบอกว่าตนเองไม่ได้สังหาร ทว่าเป็นการมอบชีวิตใหม่ให้

 

อีกทั้งพวกพ้องเดม่อนที่ตายไปของพวกมันก็จะต้องขอบคุณเขา พวกมันไม่เคยเห็นมนุษย์ที่ไหนที่จะไร้ยางอายจนถึงขั้นนี้มาก่อน

 

ทันใดนั้นเดม่อนจํานวนมากก็โมโหขึ้นมา พุ่งกระโจนเข้าไปหาเซียปิงในทันที

 

ทว่าเมื่อพวกมันก้าวไปได้เพียงหนึ่งก้าว สายฟ้าพิโรธก็ผ่าลงมาจากบนท้องฟ้าอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ก็ยังน่าสะพรึงกลัวกว่าครั้งก่อนถึงหนึ่งเท่า ครอบคลุมระยะรัศมีที่มากกว่าเดิมถึงหนึ่งเท่า ปกคลุมพื้นที่ในระยะหกพันกิโลเมตร

 

จํานวนสายฟ้าก็เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าเช่นกัน สายฟ้าพิโรธผ่าลงมาถึงสองหมื่นเส้น

 

ทว่านี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

 

เพราะว่านี่คือการที่เซี่ยปิงเผชิญกับการลงทัณฑ์สายฟ้า81ขั้น การลงทัณฑ์สายฟ้าแต่ละขั้นจะน่าสะพรึงกลัวขึ้นกว่าเดิม เมื่อไปถึงการลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นที่ 81 พลังอํานาจของมันจะไม่สามารถจินตนาการได้

 

ดีบ ตีบ ตีบ!!!

 

เดม่อนจํานวนหลายพันตัวที่พยายามจะเข้าไปใกล้กับเซียปิง พวกมันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สายฟ้าสีแดงผ่าลงใส่ตัวพวกมันอย่างกะทันหัน

 

“อ้ากกก!!!”

 

พวกมันก็อดที่จะส่งเสียงร้องตะโกนอย่างน่าสมเพชไม่ได้ สายฟ้าพิโรธที่น่าสะพรึงกลัวได้ลุกลามเข้าไปในร่างของพวกมัน

 

ภายในระยะเวลาอันสั้น เดม่อนเหล่านี้ก็ถูกสังหารไป เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มของเถ้าธุลทั้งหมด

 

ทว่าเซียปิงก็ยังคงยืนอยู่ในใจกลางของทะเลสายฟ้าโดยที่ไร้รอยขีดข่วน อีกทั้งออร่าของเขาก็เหมือนจะทรงพลังมากขึ้นเล็กน้อย เพราะเขาได้ดูดกลืนแก่นแท้พลังงานสายฟ้าเข้าไปภายในร่างกาย ราวกับมีงูสายฟ้าจ่านวนนับไม่ถ้วนที่กําลังโลดแล่นไปทั่วทุกซอกทุกมุม

 

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเซียปิงที่ดูไม่ทุกข์ร้อนใดๆ เดม่อนเหล่านี้ก็ยิ่งโมโหมากขึ้นกว่าเดิม โมโหจนเจียนตาย

 

เห็นได้ชัดว่าการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้เล็งเป้าหมายไปที่เจ้ามนุษย์บัดซบน ทว่าเจ้านี่กลับไร้รอยขีดข่วน ทว่าพวกมันเดม่อนกลับเผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรง ไม่รู้ว่าตายไปมากแค่ไหน

 

เรื่องเช่นนี้ทําให้พวกมันไม่สบอารมณ์อย่างมาก รู้สึกเกลียดชังเซียปิงอย่างถึงที่สุด

 

ทว่าพวกมันก็ไม่มีเวลาที่จะด่าทอเจ้ามนุษย์ที่ไร้ยางอายนี่ เพราะพวกมันสัมผัสได้ว่าการลงทัณฑ์สายฟ้ากําลังจะผ่าลงมาอีกครั้ง แทบที่จะไม่มีเวลาให้พวกมันได้คิดอะไร

 

“ล่าถอย ล่าถอยทันที อย่าเข้าไปใกล้เจ้ามนุษย์นี้เด็ดขาด”

 

“พูดถูก การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี่เพ่งเล็งเพียงแค่เจ้ามนุษย์น ตราบใดที่พวกเราหลบหนีออกไปจากระยะของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้ แน่นอนว่าเจ้าเด็กนี้จะถูกสายฟ้าผ่าจนตายไปเองตายไปโดยที่ไร้ซากศพ”

 

“ใช่ ไม่จําเป็นที่พวกเราจะต้องต่อสู้กับเจ้าเด็กนี้จนตายกันไปข้างหนึ่ง นําชีวิตของตนเองไปเสี่ยง

 

เดม่อนจํานวนมากก็ตัดสินใจในทันที พวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่รักตัวกลัวตายเช่นกัน เมื่อเห็นชะตากรรมขอ งบรรดาเดม่อนที่ตายไปก่อนหน้านี้ พวกมันก็ตัดสินใจที่จะหลบหนีออกไปทันที

 

ซูซู ซู่!!!

 

ทันใดนั้นเดม่อนเหล่านี้ก็หลบหนีแตกกระเจิงกันออกไป หลบหนีออกไปสู่ทุกทิศทาง มีความเร็วที่รวดเร็วอย่างสุดขีด

 

“ต้องการที่จะหลบหนีรี?!”

 

เป็นไปไม่ได้ที่เซียปิงจะปล่อยให้เดม่อนเหล่านี้หลบหนีไป ถึงอย่างไรเขาก็ต้องการใช้พวกมันเป็นโล่กําบัง หากพวกมันหลบหนีออกไปกันหมด จะมีใครที่ช่วยตนเองแบ่งเบาพลังอํานาจของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้อีก

 

ลูกประคําวังวนออกมา

 

เห็นเพียงแค่ว่าเขาเคลื่อนไหวความคิด ทันใดนั้นก็ได้นําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นต่ําจากร่างกาย!

 

เซียปิงก็ไหลเวียนพลังเวทมนตร์ พลังเวทมนตร์ปริมาณมหาศาลหลั่งไหลเข้าไปในส่วนลึกของลูกประคําวังวนนี้ ทันใดนั้นก็กระตุ้นค่ายกลที่ลึกลับภายในส่วนลึกของลูกประค่าวังวนออกมา

 

ปัง!

 

อดใจต่อมา อาณาเขตของพระพุทธศาสนาก็ปรากฏขึ้นมา ปกคลุมพื้นที่ในระยะกว่าหนึ่งพันล้านกิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด

 

แสงสีทองก็ส่องสว่างออกมาและครอบคลุมออกไปราวกับเป็นเปลือกไข่ พื้นที่ในระยะนับพันล้านกิโลเมตรเปลี่ยนกลายเป็นอาณาเขตของพระพุทธศาสนา อักขระพระพุทธศาสนาจํานวนนับไม่ถ้วนกําลังสั่นไหว มีอักขระสีทองอยู่ในทุกหนแห่ง

 

ชั้นพลังงานสีทองเหล่านี้ก็แข็งแกร่งและเหนียวแน่นอย่างมาก เหมือนว่าจะก่อตัวกลายเป็นโดมก็ว่าได้

 

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

 

พวกเดม่อนที่พยายามจะหลบหนีเหล่านี้ก็พุ่งชนกับชั้นพลังงานสีทองอย่างกะทันหัน นี่ราวกับเป็นการพุ่งชนเข้ากับป้อมปราการก็ว่าได้ ทันใดนั้นก็กระแทกเข้าอย่างรุนแรง ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช

 

แม้แต่เดม่อนบางตัวที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างมากก็ยังรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

 

เพราะว่าความเร็วที่พวกมันหลบหนีออกไปก็รวดเร็วอย่างสุดขีด การปรากฏของชั้นพลังงานสีทองนี้ก็กะทันหันเกินไปมันราวกับเป็นรถซิ่งที่พุ่งไปด้วยอัตราความเร็วเต็มพิกัด และพุ่งชนกับกําแพงเหล็กอย่างกะทันหันก็ว่าได้