ตอนที่ 216

Legend of the mythological genes

ผู้ที่ทำให้ฉันวุ่นวายใจ ฆ่า!

ผู้ที่ทำให้ฉันกังวลใจ ฆ่า!

ผู้ที่ขัดใจฉัน ฆ่า!

เมื่อเสาศํกดิ์สิทธิ์พุ่งลงมา มันมีน้ำหนักถึงหนึ่งหมื่นชั่งสามารถทำลายทุกอย่างได้

ดาวอสุราเป็นสถานที่ที่อาชญากรถูกส่งตัวไป ไม่มีอารยธรรมหรือความสงบเรียบร้อยที่นี่ กฎหมายที่โหดร้ายของป่าคือทุกสิ่ง คนอ่อนแอเป็นอาหารสำหรับคนเข้มแข็ง

ในเวลานี้เฟิงหลินเลือกที่จะละทิ้งเหตุผลและศีลธรรมของเขา ไม่มีสิ่งรบกวนในใจเขาเข้าสู่สภาวะที่สมบูรณ์แบบ

กฎถูกกำหนดโดยผู้ที่แข็งแกร่ง ผู้อ่อนแอทำได้เพียงทำตาม

เขาจะฆ่ามนุษย์แล้วยังไง?

ผู้เชี่ยวชาญคืออะไร?

ผู้เชี่ยวชาญไม่เพียงแต่มีอำนาจอยู่ยงคงกระพัน แต่ยังต้องมีสถานะที่อยู่ยงคงกระพันด้วย

ตราบใดที่สภาพจิตใจของเขาไม่ถูกรบกวน จะมีศัตรูในโลกได้ยังไง?

เมื่อเสาโลหะตกลงมาผู้คนในสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ก็รู้สึกราวกับว่าวันโลกาวินาศมาถึงแล้ว จิตสังหารที่ออกมาจากเฟิงหลินกลืนพวกเขาด้วยความเย็นที่ซึมเข้ากระดูก พวกเขาไม่มีทางต้านทาน

 

“แกสมควรตาย!” ชายหนุ่มหน้ากลมที่มีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด สะบัดตัวออกเป็นอิสระจากพลังจิตของเฟิงหลิน ใบหน้าของเขาดุร้ายและคำราม “ส่งพลังทั้งหมดของพวกแกมาให้ฉัน!”

 

คนที่อยู่ข้างหลังขยับ ถ่ายโอนพลังงานไปยังร่างกายของเขา พลังพันธุกรรมจากพวกเขาทั้งหมดได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน สถานะพลังชีวิตของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความผันผวนทำให้เกิดแสงที่โค้งงอและทำให้พื้นที่รอบตัวเขามีประกายระยิบระยับ

สถานะ 110, 120, 130 … การรวมพลังทำให้สถานะพลังของเขาทะลุขีดจำกัด 100 สำหรับผู้บ่มเพาะหว่างดวงดาว มันยังคงเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่แม้แต่เฟิงหลินยังรู้สึกกดดัน เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความสามารถนี้คืออะไร

 

“เชิงเทินจักรวรรดิเทวะ!” ชายหนุ่มหน้ากลมคำราม ฝ่ามือของเขาแผ่ออกไปด้านข้าง คลื่นพลังงานหมุนตัวออกมาเผยให้เห็นเชิงเทินรูปพระจันทร์เสี้ยวที่อยู่เหนือพวกเขา

บูมม!

กำแพงดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เสาโลหะกระแทกอย่างหนักและการโจมตีครั้งนี้ของเฟิงหลินก็ล้มเหลว ไม่สามารถแยกกำแพงออกจากกัน ความสามารถนี้เปรียบเหมือนกำแพงที่แท้จริงของจักรวรรดิเทวะที่อยู่เหนือดวงดาว มนุษย์จะสร้างความเสียหายกับมันได้ยังไง?

 

“เฟิงหลินก่อนหน้านี้ที่แกโจมตีเราได้สำเร็จเพราะการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แกคิดว่าแกจะยังมีโอกาสครั้งที่สองอีกหรือไง?ต่อหน้าสิ่งนี้ การโจมตีทั้งหมดของแกจะเปล่าประโยชน์ จะดีกว่าถ้าแกเลิกพยายาม…” ชายหนุ่มหน้ากลมพึงพอใจราวกับว่าเขาชนะการต่อสู้ไปแล้ว

“โอ้?” เฟิงหลินยิ้มอย่างเย็นชา เขาไม่สามารถฟังคนพูดจาไร้สาระได้อีกต่อไป เขาคว้าเสาศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น และตะโกนว่า “ขยาย!”

 

ในขณะที่เสียงของเขาดังขึ้น เสาโลหะก็ขยายขนาด เฟิงหลินส่งพลังวิญญาณออกไป ตัดสินรูปแบบและขนาดของเสา

มันสามารถกลายเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาที่หนุนทั้งทวีปหรืออาจเป็นเพียงเข็มปักขนาดเล็กราวกับเส้นผมบางซ่อนอยู่ในหูของเขา

ยิ่งรูปแบบยิ่งใหญ่เฟิงหลินยิ่งต้องพลังวิญญาณมากนั้น

เมื่อพิจารณาจากพลังวิญญาณของเฟิงหลินในปัจจุบัน เขาจึงไม่สามารถทำให้เสาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในรูปแบบของเสาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นได้ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนมันเป็นกระบองที่หนาและยาวกว่าสิบเมตรก็ยังเป็นไปได้ พลัง20ตันบดขยี้ลงมาอย่างเผด็จการ การกระทำมักหนักกว่าคำพูด

แคร่ก แคร่กก ~

กระบองเหล็กบดขยี้เข้ากับเชิงเทินจนเกิดเสียงแตก

สีหน้าของชายหนุ่มหน้ากลมบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง รอยร้าวเหมือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นบนกำแพง รอยแตกขยายอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วเท่าระเบิด

การโจมตีนี้จากเฟิงหลินล้วนอัดแน่นในกระบองเหล็ก ไม่มีอะไรรั่วไหลมาแม้แต่น้อย

 

“หนีเร็ว!” โชคดีที่กำแพงกันไว้ได้ชั่วครู่ ทำให้พวกเขารีบหนีไปคนละทิศคนละทางได้ทัน

 

“ค่ายกลรังสีหกเหลี่ยม!” กลุ่มของศัตรูยืนอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน มือของพวกมันก่อเป็นท่าทาง พลังงานพันธุกรรมที่ไหลออกมาจากร่างกายเชื่อมต่อถึงกันในหกจุดที่แตกต่าง

รังสีแสงทั้งหกจากหกมม สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่แตกต่างกันหกชนิด – แสง ความมืด ดิน ไฟ ลมและน้ำ!

แสงศักดิ์สิทธิ์สามารถชำระล้าง ความมืดสามารถกลืนกิน ดินคือแรงโน้มถ่วง ไฟที่ลุกโชติช่วง น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ลมสามารถกัดกร่อน … พลังงานที่แตกต่างกันเหล่านี้ผสมเข้าด้วยกันเป็นวังวนพลังงานยักษ์ที่ให้ความรู้สึกโกลาหล

เฟิงหลินเข้าไปใกล้ช้าๆ ในทันทีพลังงานจากวังวนก็สาดใส่เขา เขารู้สึกราวกับว่ามีเข็มหนึ่งพันเล่มแทงผิวหนังด้วยพลังที่สามารถเจาะกระดูกของเขาได้

พลังงานเหล่านี้ไม่ธรรมดา มีสัญญาณของพลังศักดิ์สิทธิ์ภายใน แม้ว่าเฟิงหลินจะมีความสามารถของยีนลิงหิน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานสิ่งนี้ได้เป็นเวลานาน

สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือความจริงที่ว่ายีนในตำนานที่พวกมันปลุกขึ้นมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และแต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญในพลังงานชนิดเดียวเท่านั้น กระนั้นพวกเขากลับสามารถหลอมรวมพลังงานเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบอันศักดิ์สิทธิ์บีบอัดมันไว้เป็นหนึ่งเดียว

พลังเช่นนั้นเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะระดับสูงขั้นกลางที่มีพลังชีวิตกว่า500 มันสามารถข่มเฟิงหลินได้

เสาโลหะของเฟิงหลินหมุนตัวในอากาศปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนา ในขณะที่พลังงานแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

มันไม่รู้ว่ากระบองเหล็กไร้ขอบเขตนี้คือสมบัติเกรดใด แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตกค้างมาจากอารยธรรมโบราณ มันย่อมไม่อ่อนแอ

มีความลับที่ลึกซึ้งยิ่งซ่อนอยู่ข้างใน แต่เฟิงหลินไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากพลังในปัจจุบันของเขา

เสาโลหะดูเหมือนจะคงกระพันต่อความเสียหายทุกรูปแบบ พลังของกระบองเขาก่อตัวเป็นสิ่งคุ้มกายรอบเขา พลังงานเหล่านี้ไม่อาจเข้าใกล้เขาได้เลย

 

“เป็นฐานการบ่มเพาะที่ทรงพลังนัก ดูเหมือนว่าพลังของแกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ขโมยข้อมูลของสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์เรา!” ดวงตาของชายหนุ่มหน้ากลมเต็มไปด้วยความระวัง

 

อัตราการเติบโตของเฟิงหลินเร็วเกินไป ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากในบันทึกของ บริษัทยาไจแอนท์ มันเหมือนกับว่าเฟิงหลินเป็นคนละคน อย่างน้อยที่สุดสถานะพลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า

ภายในระยะเวลาอันสั้นเฟิงหลินทำได้ยังไง?

หากพวกเขาไม่สามารถจัดการเฟิงหลินได้ในวันนี้ มันจะเท่ากับพวกเขาปล่อยเสือกลับภูเขา การจัดการเขาในอนาคตคงยากยิ่งขึ้น

 

“หอกราชาเทพ!” เขาตะโกนอีกครั้ง กระแสพลังงานวนก่อตัวเปลี่ยนไป คนอื่นติดตามการเรียกของเขาและรวมพลังงานไว้ในจุดเดียว ทำให้พวกเขาสามารถสร้างและปราบซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นครู่หนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น พลังงานควบแน่นเป็นหอกสีดำ

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าดังลั่นไปทั่วหอก แหวกบริเวณนั้น เฟิงหลินยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมไม่ขยับ ผิวของเขาไหม้เกรียมและร่างกายมีบาดแผล แม้แต่เสื้อผ้าของเขาก็ถูกเผาไหม้เป็นถ่าน

 

“กองกำลังของเราเป็นสิ่งที่แกไม่อาจจินตนาการได้ หลังจากผ่านพิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์ ยีนของเราก็คล้ายคลึงกันและพลังงานที่เราผลิตออกมาก็สามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ ด้วยการสนับสนุนของค่ายกลรังสีหกเหลี่ยม เราเทียบเท่ากับพระเจ้า! แกเป็นเพียงมนุษย์และแกต้องการที่จะกบฏต่อพระเจ้า ถ้าแกยอมจำนนต่อเราอย่างเชื่อฟังเราก็จะไว้ชีวิตแก “ชายหนุ่มหน้ากลมพูดอย่างสุขุมราวกับเป็นเทพผู้สูงส่ง จ้องมองมนุษย์ที่ไม่สำคัญ

“แกบอกว่าพวกแกคือพระเจ้าเหรอ?” เฟิงหลินหัวเราะเยาะเย้ย เขาเอียงศีรษะและจ้องมองที่หอก จากนั้นเขาก็ถามคำถามแปลก ๆ ว่า “ค่ายกลเต่าหัวหดนี้เทียบกับสวรรค์ได้ด้วย?”

 

“หือ?” สายตาของชายหน้ากลมหรี่แคบลง เขาไม่รู้ว่าเฟิงหลินหมายถึงอะไร แต่ความรู้สึกไม่สบายใจกลับเกิดขึ้นในใจของเขา

เฟิงหลินฝังเสาของเขาลงบนพื้น จากนั้นเขาก็รวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดลงไป ทำให้มันพุ่งออกมาเหมือนกระแสน้ำ

 

“ขยาย ขยาย ขยาย!” เสาโลหะเป็นเหมือนหน่อไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่เจอฝนและขยายตัวเร็วมาก

20 เมตร, 30 เมตร, 40 เมตร …

ขณะที่เสาโลหะขยายตัว ค่ายกลที่กังขังเฟิงหลินไว้ก็ไม่อาจแบกรับวัตถุขนาดใหญ่นี้ได้ แรงกดดันที่เกิดจากการขยายตัวของกระบองเลห็กบังคับให้พื้นที่ในค่ายกลต้องเปลีย่น

เสาโลหะเป็นเหมือนเสาหลักสวรรค์ที่สามารถยกสวรรค์ได้

บูม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ค่ายกลแตกเหมือนกระจก

ท้องฟ้า…

ถึงกับแยก!

 

ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/Sbb-translate-101441104822023/?modal=admin_todo_tour