บทที่ 1547 – ความตายของฉินหยิง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1547 – ความตายของฉินหยิง

 

ชิงสุ่ยและฉินชิงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร ชิงสุ่ยมั่นใจว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือฉินหยิงได้ด้วยตัวเอง เขาคิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้คือตระกูลกู๋และตระกูลเลิง นอกเหนือจากทั้งสองตระกูล พวกเราไม่มีศัตรูอื่น

 

เมื่อมองไปที่เกาะหมาป่าจันทรา ชิงสุ่ยรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นได้เปรียบ เนื่องจากศัตรูมาถึงก่อนแล้ว การที่ผู้อื่นเข้ามายังเกาะย่อมง่ายสำหรับการสังเกตเห็นของพวกเขา พวกเขาหลบซ่อนอยู่ในเงามืด เช่นนั้นผู้ที่จะลงมือได้ก่อนเป็นพวกเขา

 

ภายในเกาะปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์ ภูเขา หิน และป่าไม้ การมองหาใครถือเป็นเรื่องยาก เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงเกาะ พวกเขาไม่ได้เร่งรีบออกควานหาตัวฉินหยิง ไม่นานศัตรูของพวกเขาจะปรากฏตัวออกมาเอง

 

อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครึ่งวันผ่านไป ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ชิงสุ่ยรู้สึกว่าอีกฝ่ายตั้งใจที่จะทดสอบความอดทนของพวกเขา พวกเขาร้องตะโกนเรียกอยู่ 2-3 ครั้ง แต่มันก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ

 

“พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?” ฉินชิงขมวดคิ้ว เธอรู้สึกวิตกเป็นอย่างยิ่ง มันเป็นเพราะน้องสาวของเธอถูกลักพาตัวไป

 

ด้วยความเฉลียวฉลาดที่พุ่งขึ้นมา ชิงสุ่ยเรียกราชินีผึ้งหยกจักรพรรดิออกมาและใช้มันเพื่อสอดส่อง เขาแทบจะลืมเจ้าตัวน้อยตัวนี้

 

ฟุ่บ…

 

ทันใดนั้นลูกศรพุ่งผ่าอากาศมาด้วยความเร็ว ชิงสุ่ยสังเกตเห็นที่หัวของลูกศรมีเศษกระดาษติดอยู่ขณะที่มันปักลงบนต้นไม้ เขาหยิบกระดาษออกมาและอ่านคำสั้นที่เขียนอยู่ข้างใน

 

เดินไปทางทิศใต้ 100 ลี้!

 

หลังจากอ่าน การรับรู้ทางจิตวิญญาณของชิงสุ่ยก็แผ่ขยายออกมา เขาสำรวจพื้นที่โดยรอบอย่างรวดเร็ว เขาค้นพบสถานที่หนึ่งตามทางที่กระดาษเขียนไว้ มันอยู่ในหุบเขาไม่ไกลนักจากที่พวกเขาอยู่

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะซุ่มโจมตีผู้ฝึกตน โดยเฉพาะคนที่แข็งแกร่งระดับชิงสุ่ย การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขานั้นน่ากลัวมาก

 

“ออกมาซะ พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว” หลังจากที่พวกเขามาถึงทางเข้าหุบเขา ชิงสุ่ยหยุดและไม่ได้ขยับตัวไปได้

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที เสียงฝีเท้าของผู้ฝึกตนมากกว่า 10 คนก็ดังขึ้นออกมาจากทางหุบเขา ผู้นำของพวกมันเป็นชายชราที่มีสายตาแหลมคม

 

ชิงสุ่ยจ้องมองชายชรา ชายชรามีผมสีขาวโพลนเต็มหัว แต่กลับไม่ได้ดูชราภาพอย่างที่ควรจะเป็น เขาสวมเครื่องแต่งกายที่ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา

 

จากเสื้อคลุมที่ใส่ทับอยู่ของชายชรา ใครๆก็สามารถบอกได้ว่าเขามาจากตระกูลเลิง อย่างไรก็ตามทั้งสองคนไม่รู้ว่าตระกูลกู๋มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องในครั้งนี้ด้วยหรือไม่

 

“น้องสาวของข้าอยู่ที่ไหน?” ฉินชิงจ้องไปที่ชายชราและถามอย่างเย็นชา

 

“ข้าแค่อยากจะรู้ว่าทำไมพวกเจ้าถึงต้องฆ่าคนของตระกูลเลิง พวกเจ้าเคยฆ่าคนมาแล้วกี่คน?” สายตาของชายชราเย็นชาเช่นกันขณะที่เขาจ้องมองฉินชิงและชิงสุ่ย

 

“ข้าฆ่าคนที่สมควรตายเท่านั้น เป็นไปได้หรือที่เจ้าไม่รู้ว่าคนของตระกูลตัวเองเป็นเช่นไร?” ฉินชิงเลี่ยงตอบคำถาม เธอจ้องมองชายชราและกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า

 

“ไม่มีใครสามารถฆ่าคนของตระกูลเลิงได้” ชายชราตอบอย่างเย็นชา

 

“ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ปล่อยน้อยสาวของข้าซะ เจ้าอยากทำอะไรก็มาลงมือกับข้า เจ้าควรจะรู้ว่าต้องจัดการกับใคร เจ้าไม่รู้สึกวิธีการที่เจ้าใช้มันน่ารังเกียจมากหรือ?” ฉินชิงขมวดคิ้วขณะกล่าว

 

“ในเมื่อเจ้ากล้าฆ่าคนของตระกูลเลิง ทำไมข้าจะฆ่าคนของเจ้าบ้างไม่ได้?” ชายชราหัวเราะอย่างเลือดเย็น มันทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความหนาวเหน็บได้

 

“เจ้าไม่คิดว่าพวกจ้ากำลังใช้วิธีที่ไร้ยางอายงั้นหรือ? ไม่ว่าอย่างไรตระกูลเลิงก็เป็นตระกูลใหญ่ ถ้าหากผู้อื่นรู้ว่าพวกเจ้าใช้วิธีเช่นนี้ มันก็มีแต่จะทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะ” ฉินชิงกล่าวด้วยความโกรธ เธอเตรียมตัวที่จะพุ่งเข้าไปแต่ก็ถูกชิงสุ่ยดึงตัวไว้

 

“น่าอายและน่ารังเกียจหรือ? มันไม่เกี่ยวว่าจะด้วยวิธีใด ผลลัพธ์ย่อมสำคัญเสมอ หากเจ้าต้องการตัวน้องสาวคืน เจ้าต้องสัญญากับข้าข้อหนึ่ง หากไม่แล้ว เจ้าก็รอรับศพของนางได้เลย!” ชายชราหัวเราะร่า

 

“ข้าต้องการพบกับน้องสาวของข้าก่อน ไม่เช่นนั้นข้าไม่มีทางเชื่อคำพูดของเจ้า” ฉินชิงยังคงกล่าวด้วยเหตุผล

 

ชายชรายิ้มและโบกมือ “นำตัวนางออกมา!”

 

ไม่นานนักชายสองคนก็นำตัวฉินหยิงออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อชิงสุ่ยและฉินชิงเห็นชิงหยิง พวกเขาก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ

 

ชิงสุ่ย ไม่ได้คาดหวังว่าแม้หลังจากสองวันหญิงสาวสวยคนหนึ่งจะถูกทารุณกรรมต่อรัฐเช่นนี้ เธอมีประสบการณ์อะไร .. ?

 

“หยิงเอ๋อ…” ฉินชิงกล่าวออกไปในขณะที่ร่างกายของเธอสั่นเครือ

 

ฉินหยิงเอียงศีรษะหันมาและเดิน ดวงตาของเธอจ้องมองมาที่ชิงสุ่ยและฉินชิงอย่างฉับพลัน ไม่มีร่องรอยของความสุขปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอเลย หลังจากนั้นเธอก็จ้องไปยังผู้คนโดยรอบขณะกระซิบ “พี่สาวล้างแค้นให้ข้าด้วย ท่านต้องล้างแค้นให้ข้า พวกมันทั้งหมดเป็นสัตว์นรก!”

 

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของฉินหยิง เธอเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเอง ตาของเธอยังคงเปิดกว้างในตอนที่ตายและจ้องมองตรงมาหาฉินชิง

 

นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่แม้แต่คนของตระกูลเลิง ตอนแรกพวกเขาเพียงใช้ฉินหยิงเพื่อข่มขู่ ใครจะคิดว่าฉินชิงทำลายแผนทั้งหมดของพวกเขาด้วยการเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเอง

 

ร่างกายของฉินชิงสั่นสะท้าน มือของชิงสุ่ยที่จับเธอไว้ก่อนหน้าสั่นระรัว ตาของเธอแดงก่ำ บรรดาผู้ที่เห็นมันต่างก็รู้สึกหวาดกลัว

 

“ชิงฉิง!”

 

ชิงสุ่ยโกรธมากเช่นกัน ฉินหยิงเป็นน้องสาวของฉินชิงและเหมือนเป็นน้องสาวของเขา เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเมื่อเห็นสภาพของฉินชิงในปัจจุบัน

 

มันราวกับว่าชิงสุ่ยถูกจิตอสูรของเธอจู่โจมและบดขยี้

 

ฉินชิงพุ่งตรงออกไป พลังเอ่อล้นไปทั่วร่างของเธอ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าพลังของเธอกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระบี่ในมือของเธอหั่นศัตรูที่ขว้างหน้าออกเป็นสองส่วนด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว

 

ชิงสุ่ยตามติดฉินชิงไป เขาเรียกสัตว์อสูรออกมาขณะหยิบง้าวทองทะลวงศัตรู

 

คนเหล่านี้สมควรตาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชิงสุ่ยร่วมต่อสู้กับฉินชิง ตอนแรกเธอกล่าวว่าจะฆ่าคนที่สมควรฆ่าเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอกำลังฆ่าพวกเขาอย่างเลือดเย็นหากคนผู้นั้นมีสายเลือดของตระกูลเลิงไหลเวียนอยู่

 

“ฆ่านางซะ!” ชายชรากวัดแกว่งกระบี่และวิ่งไปหาฉินชิง

 

ปัง!

 

ชายชราตระกูลเลิงนับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่ง เมื่อชิงสุ่ยสัมผัสถึงพลังของชายชรา เขาไม่ลังเลและเข้าไปขัดขวางกระบี่ของชายชราเพื่อฉินชิง

 

ฉินชิงฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง เมื่อชิงสุ่ยเข้ามารับการโจมตีของชายชรา เช่นนั้นกระบี่ของฉินชิงจึงแทงเข้าใส่ชายชราได้สำเร็จ

 

อสูรสยบมังกรและสัตว์อสูรตัวอื่นๆที่อยู่โดยรอบสังหารผู้ฝึกตนที่เหลือของตระกูลเลิง พวกเขามีจำนวนเพียงหยิบมือ ชายชราเป็นพี่ชายของเลิงเยว่และมีสถานะที่ค่อนข้างสูงในตระกูลเลิง เขาไม่คิดว่ามันจำเป็นที่ต้องพาคนมาด้วยจำนวนมากเพื่อจัดการคนรุ่นเยาว์ 2 คน

 

กระบี่ของฉินชิงกระหน่ำแทงอย่างไม่หยุดยั้ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชาด้วยเจตนาฆ่าฟัน

 

“ตายซะ ตระกูลเลิงทั้งหมดจะต้องตาย”

 

น้ำเสียงของฉินชิงแหบแห้ง กระบี่ของเธอปรากฏร่างของหงส์เพลิงสีฟ้าหลายตัวพุ่งตรงไปยังชายชรา

 

“หยุดก่อน!”

 

หงส์เพลิงสีฟ้าหลายสิบตัวบินอยู่รอบชายชรา มันแผ่รัศมีความเจิดจรัสออกมา แสงเหล่านั้นล้วนเป็นอันตรายถึงชีวิตหากสัมผัสมัน มันเป็นแสงอันเจิดจ้าที่น่ากลัวและแปลกประหลาด มันเป็นความงดงามที่สามารถเผาไหม้จิตวิญญาณของคนผู้หนึ่งได้