CLS ตอนที่ 383: หยวนชิงหลง!
อี้เทียนหยุนระมัดระวังถึงขีดสุด แม้ว่าระดับของเขาจะไม่ใช่ต่ำๆ แต่ถึงยังไงก็ต้องไม่ประมาท ไม่อย่างนั้นอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว เขาไม่สามารถปล่อยตัวปล่อยใจได้ เพราะหากประมาทเพียงนิด ก็อาจจะตายได้ในพริบตา
เขาเดินตรงไปทีละก้าว แต่ละก้าวเขาสามารถสัมผัสได้ถึงหินอย่างชัดเจน แต่ละก้าวที่เหยียบ เป็นตัวยืนยันว่าเขาไม่ได้เดินในความว่างเปล่า ผลึกสีฟ้านี้ไม่ใช่สมบัติ เป็นสิ่งที่สามารถหาได้จากทุกที่
เขาทำการก้าวเดินไปอย่างต่อเนื่อง อย่างรวดเร็วก็มาถึงจุดสิ้นสุด ตรงหน้าเขาไม่ได้มีอะไรอยู่ มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
เขาทำการใช้ดวงตาประเมินสำรวจดูรอบๆ แต่ก็พบเพียงคำว่าว่างเปล่าสองตัวอักษร รอบๆ มีแต่กลุ่มก้อนของความว่างเปล่า ไม่มีหนทางให้เดินต่อ
“ไม่มีทางให้ไปต่อแล้วเหรอ?”
อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว พร้อมกับหยิบอาวุธออกมาจากช่องเก็บไอเทม จากนั้นก็โยนเข้าไปในความว่างเปล่า อาวุธที่โยนออกไปตกลงเป็นเส้นตรง สุดท้ายก็หายไปจากเส้นสายตา เป็นที่แน่นอนแล้วว่าตรงหน้าไม่มีทางอยู่ เมื่อไม่มีทางอยู่ เขาก็ไม่คิดว่าหากตนก้าวออกไปแล้วจะปรากฏเส้นทางขึ้น
นี่ไม่ใช่การทดสอบความกล้า หากว่าใครกล้าก้าวออกไปก็จะปรากฏเส้นทางขึ้น แต่หากว่ากล้าที่จะก้าวออกไปจริงๆ ก็จะร่วงหล่นจนไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีก ที่นี่การบินถือเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ อี้เทียนหยุนรู้สึกว่าตัวเองถูกพลังบางอย่างสะกดอยู่ ทำให้ไม่สามารถบินได้
“รู้สึกแปลกจัง….”
อี้เทียนหยุนหันกลับไปมองด้านหน้า ประตูที่ด้านหลังไม่สามารถกลับไปได้แล้ว มีแต่ต้องตายอยู่ในนี้ นั่นหมายความว่าจำเป็นต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น คิดจะถอยเป็นไปไม่ได้ จำเป็นต้องเดินไปบนเส้นทางหินสีฟ้านี้อย่างเดียว
“เส้นทางหินสีฟ้า…..”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้นก็เดินกลับไปยังเส้นทางหินสีฟ้าที่เข้ามาในตอนแรก พร้อมกับก้มตัวลงหยิบหินสีฟ้านี้ขึ้นมา แล้วก็พบว่าเขาสามารถหยิบมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย หลังจากหยิบขึ้นมา เขาก็พบว่าตรงที่เขาหยิบหินขึ้นมา ได้กลายเป็นความว่างเปล่าไป
เขาทำการนำหินที่หยิบขึ้นมาเดินไปยังปลายทาง จากนั้นก็วางหินลงไปตรงรอยต่อ พร้อมกับลองเหยียบดู และก็พบว่าเขาสามารถยืนอยู่บนนั้นได้อย่างมั่นคง โดยที่ไม่ร่วงลงไป
“เป็นอย่างนี้จริงๆ ด้วย ที่แท้แล้วก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ ถ้าหากคิดว่าก้าวออกไปแล้วจะมีเส้นทางปรากฏ งั้นคนๆ นั้นก็คงเป็นคนโง่จริงๆ…..”
อี้เทียนหยุนส่ายหัว จากนั้นก็เดินกลับไปหยิบหินจากข้างหลัง พร้อมกับนำมาสร้างเป็นทาง ต่อออกไปข้างหน้าทีละน้อย มุ่งหน้าไปทีละนิด ที่นี่ไม่มีทางลัด จำเป็นต้องค่อยๆ สร้างทางไปอย่างช้าๆ ยิ่งหยิบหินมาได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะสามารถสร้างทางได้เร็วเท่านั้น
นี่เหมือนกับต้องการให้คนอยู่ในระเบียบ ทำให้เขาต้องทำตามทีละน้อย ไร้ซึ่งรสชาติอย่างมาก ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้เท่านั้น ต้องค่อยๆ เคลื่อนที่ไปทีละน้อยอย่างช้าๆ จนสุดท้ายเขาก็มองเห็นแสงที่สาดส่องจากประตูตรงหน้า “ดูเหมือนว่าจะมาถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด……”
เขาถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ก้าวเดินไปยังด้านหน้า อย่างรวดเร็ว เขาก็ไปปรากฏขึ้นตรงหน้าแสงประตูบานนั้น พร้อมกับก้าวเข้าไปด้านใน ขณะที่หายไปจากความว่างเปล่านี้
เมื่อเขาออกมาจากแสงประตูนั้น ที่ปรากฏตรงหน้าก็คือพื้นที่โล่งกว้าง บนพื้นเต็มไปด้วยเศษหิน ดูแล้วกว้างขวางสุดๆ ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เมื่อเขามองสำรวจรอบๆ ทันใดนั้นก็ปรากฏเงาของคนขึ้น ร่างที่ปรากฏนั้นเป็นรูปร่างของหนุ่มหล่อ ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ทั้งร่างปกคลุมไว้ด้วยชุดเกราะเกล็ดมังกร ดูแล้วอหังการอย่างมาก
“มนุษย์ ยินดีด้วยที่มาถึงที่นี่” ชายคนนั้นเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แล้วพูดขึ้นว่า “นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครสามารถผ่านเส้นทางผลึกฟ้าได้สำเร็จ แต่ละคนล้วนแต่ขาดความอดทน สุดท้ายก็ร่วงหล่นลงไปในความว่างเปล่า ตกลงไปยังขุมนรกที่ไร้ก้น ไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีก”
มนุษย์อย่างงั้นเหรอ เพียงคำพูดนี้ก็ทำให้อี้เทียนหยุนรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เผ่ามนุษย์ ดูแล้วน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญของเผ่ามังกร
“งั้นก็ไม่มีใครเคยมาถึงที่นี่เลยอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนหรี่ตาพร้อมกับถามขึ้น
“แน่นอนว่าย่อมมีคนสามารถผ่านมาถึงที่นี่ แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าก็จำไม่ค่อยได้ นานมาแล้วเคยมีคนผ่านไปได้สำเร็จสองคน ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าจะเป็นคนที่สามหรือเปล่า?” ชายร่างกำยำคนนั้นเผยรอยยิ้มออกมา
“มีคนผ่านแค่สองคน?” อี้เทียนหยุนไม่แปลกใจ ด้านนอกลือกันว่าไม่มีใครสามารถผ่านที่นี่ไปได้ บางทีอาจจะไม่รู้มากกว่า ตอนที่คนที่ผ่านสำเร็จเดินออกไป ดังนั้นข่าวลือที่ด้านนอกจึงไม่สามารถเชื่อได้หมดทุกอย่าง
ยังไงก็ตาม ความยากของมันก็ได้รับการยืนยันแล้ว ผ่านมานานยังมีคนผ่านสำเร็จได้แค่สองคน นั่นก็แสดงถึงความยากของด่านนี้ว่ามหาศาลแค่ไหน
“มา จัดการข้า แล้วเจ้าก็จะสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ นำความรุ่งโรจน์มาด้วยตัวเจ้าเอง!” ชายร่างกำยำพูดกลั้วหัวเราะ
คำพูดเพิ่งจะจบ ชายคนนี้ก็พลันปลดปล่อยความอหังการของมังกรออกมา ด้านหลังปรากฏร่างเงามังกรขึ้น พร้อมกับส่งแรงกดดันออกมาตรงหน้า
ชายลึกลับ : ร่างเงา ไม่สามารถตายได้ ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 8 ในร่างมีพลังมังกรที่แข็งแกร่งน่าสะพรึงบรรจุอยู่ สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้ สวมใส่ชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง พลังรบ 12 ล้าน, จุดอ่อน : ไม่มี, ใช้วิชา : ไม่รู้, เมื่อสังหารมีโอกาสได้รับ : ไม่รู้
ชายลึกลับคนนี้ไม่มีชีวิต เป็นเช่นเดียวกับเหล่าเซวียน เป็นร่างที่เกิดมาจากพลัง ยังไงก็ตาม ระดับของเขานับว่าน่ากลัวมาก ไม่คิดว่าจะมีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 8 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเขา
“วางใจได้ ระดับของข้าเท่ากันกับเจ้านั่นล่ะ ยิ่งเจ้าแข็งแกร่ง ข้าก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปด้วย!”
ที่แท้ก็มีพลังตามระดับของเขา ไม่มีสถานการณ์ที่จะมีระดับสูงกว่า ยังไงก็ตาม นี่ก็ถือเป็นเรื่องยากเช่นกัน เพราะหากระดับเท่ากัน ความสามารถก็ย่อมท้าทายสวรรค์เช่นกันด้วย
“จัดการเจ้า งั้นมาเริ่มกันเลย!” ดวงตาอี้เทียนหยุนจดจ่อ พร้อมกับเรียกคันศรน้ำค้างแข็งเทวะออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเล็งไปยังชายกำยำผู้นี้ พร้อมกับน้าวสายธนูอย่างเหี้ยมโหด ดวงตาของเขาปรากฏแสงสีฟ้าขึ้นในพริบตา “น้ำค้างแข็งพิโรธ!”
“!”
ลูกศรถูกควบกลั่นออกมาในพริบตา พร้อมกับยิงตรงเข้าใส่เขา ทุกที่ที่ดอกศรเคลื่อนผ่าน ล้วนแต่กลายเป็นน้ำแข็ง เกิดน้ำแข็งขึ้นปกคลุมพื้นดินหนึ่งชั้น
หลังจากชายร่างกำยำได้เห็นก็พลันหัวเราะออกมา ร่างกายของเขาปรากฏเกล็ดมังกรแน่นขนัด ฝ่ามือธรรมดากลายเป็นกรงเล็บมังกรที่ทั้งแข็งและแหลมคม เทียบได้กับศาสตราระดับศักดิ์สิทธิ์ ข้อมูลในดวงตาประเมินของเขาก็พลันเกิดการเปลี่ยนแปลง : กรงเล็บมังกรลวงตา มีคุณสมบัติเทียบเท่าอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง!
หลังจากกลายเป็นกรงเล็บมังกร มันก็ได้ทำการตบเข้าใส่ลูกศรอย่างแรง นิ้วทั้งห้าเปรียบได้ดั่งกรงเล็บมังกร ทำการฟาดเข้าใส่ศรน้ำค้างแข็งพิโรธ
“เปรี้ยง!”
พลังทั้งสองปะทะกัน ก่อให้เกิดเป็นระเบิดที่รุนแรง ลูกศรน้ำแข็งทุกทำให้ระเบิดออก สร้างเป็นคลื่นความเย็นเข้าปกคลุมร่างของเขา จากนั้น ชายร่างกำยำก็ถูกคลื่นความเย็นนี้ทำให้ร่างกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง
พร้อมๆ กับจังหวะที่เขากำลังเดิน อยู่ๆ น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของเขาก็แตกออก
“ดี ดีมาก เป็นพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ ดีว่าข้าแข็งแกร่งพอ ไม่อย่างนั้นคงแพ้ให้เจ้าแล้วจริงๆ” ดวงตาของชายกำยำกลายเป็นดวงตาของมังกร พูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้ามีคุณสมบัติที่จะรู้ชื่อของข้า โปรดจำไว้ ชื่อของข้าคือ หยวนชิงหลง!”