ตอนที่ 362 ข้าจะไม่แต่งกับคนอื่น / ตอนที่ 363 โชคดีขี้หมาติด

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 362 ข้าจะไม่แต่งกับคนอื่น

 

 

“เขายังเกลียดชังข้าไม่มากพออีกหรือ ข้าไม่สนใจถ้ามันจะมากขึ้นอีกหน่อย ข้าอยากให้เขาตัดใจจากเจ้าโดยสิ้นเชิง นี่เป็นเงื่อนไขที่ข้าจะช่วยเขา ข้าอยากให้เขาเห็นคนรักแต่งงานกับชายอื่นด้วยตาของตนเอง ให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดนี้ให้ดี”

 

 

เรื่องที่เซียวเหยี่ยนหลอกใช้ตน เฟิงอิ๋นยังย้ำคิดอยู่ในใจ

 

 

เมื่อรู้ความจริงแล้ว ตอนแรกนางก็อยากฆ่าเซียวเหยี่ยนเสีย ภายหลังนางค้นพบว่าตนเองทำใจให้เซียวเหยี่ยนตายไม่ได้ และทำไม่ลงด้วย มิเช่นนั้นวันก่อนคงจะไม่ห้ามมู่หรงกวานเสวี่ยไว้เพราะห้ามใจไม่ไหว

 

 

ในเมื่อเอาชีวิตเขาไม่ได้ ก็ใช้วิธีอื่นลงโทษเขา มิเช่นนั้นใจนางคงรู้สึกจุกแค้น

 

 

“อาเหยี่ยนไม่เคยทำผิดต่อเจ้า เจ้าจะแก้แค้นเขาทำไม

 

 

เฟิงอิ๋น ตอนนั้นเจ้ามุ่งมาดปรารถนาตามจีบเขาเอง พออาเหยี่ยนปฏิเสธ เจ้าก็วางยาพิษโฉมงามกับเขา คราวนี้เจ้าก็คิดจะวางยาเขาอีก ตั้งแต่ต้นจนจบเจ้าไม่เคยให้เกียรติอาเหยี่ยนเลย ทำเหมือนเขาเป็นสิ่งของ ยอมตามข้าจะได้ดี ไม่ยอมตามข้าจะล่มจม

 

 

เขาไม่เคยทำอะไรผิดเลยตั้งแต่ต้น คนที่ผิดเรื่อยมาคือเจ้าทั้งนั้น

 

 

หากมีผู้ชายคนหนึ่งชอบเจ้า แต่เจ้าไม่ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย เขาใช้ทุกวิธีก็ยังไม่ได้ใจเจ้า เมื่อเขาโกรธเพราะเสียหน้าก็จะกำจัดเจ้า เจ้าจะรู้สึกหรือไม่ว่าเขาเหมือนคนบ้า ไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง ตนเองต้องเคราะห์ร้ายเพียงใดถึงได้เจอคนเช่นนี้

 

 

หากอาเหยี่ยนกับเจ้าเคยรักจริงใจต่อกันมา แล้วทำผิดต่อเจ้าด้วยเหตุผลบางอย่าง เจ้าจะเกลียดเขาก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

 

 

เขาบอกกับเจ้าชัดเจนแจ่มแจ้งตั้งแต่แรกเริ่ม ว่าเขาไม่ได้คิดเช่นนั้นกับเจ้า เจ้าก็ตามเกาะแกะเขาไม่ปล่อย ซ้ำยังรังเกียจที่เขารับไม่ได้ ข้าหาผู้ชายสักคนมาทำเช่นนี้กับเจ้า ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะรับได้หรือไม่”

 

 

“เจ้าหุบปาก ไม่ใช่หน้าที่เจ้ามาสั่งสอนข้า”

 

 

เฟิงอิ๋นทำหน้าดุขณะตำหนิหลิงอวี้จื้อ

 

 

“ข้าไม่ใช่พวกว่างยุ่งเรื่องชาวบ้านเสียหน่อย ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าเพื่ออะไร เราต่างก็เป็นผู้หญิง บนโลกนี้ผู้ชายก็ไม่ใช่มีแค่เซียวเหยี่ยนคนเดียว เขาดีมากจริงๆ แต่ต่อให้ดีเพียงใด หากใจเขาไม่มีเจ้าก็เปล่าประโยชน์

 

 

ความรักเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจกัน เช่นนี้ถึงจะมีความสุข บังคับให้คนอื่นยอมรับเจ้าจะมีความหมายตรงไหน อยู่กันนานไปนานปีไม่เคยทำหน้าดีๆ ใส่เจ้า เจ้าจะไม่รู้สึกหรือว่าชีวิตนี้แสนหดหู่ เจ้าสวยเพียงนี้ ที่สำนักอู๋จี๋ก็มีอนาคตสดใส เหตุใดต้องทำให้ตัวเองลำบากด้วย”

 

 

หลิงอวี้จื้อรู้สึกว่าเฟิงอิ๋นยังไม่ร้ายถึงขั้นเสียสติ เมื่อเทียบกันแล้ว นางยังดีกว่ามู่หรงกวานเย่ว์เล็กน้อย มู่หรงกวานเย่ว์เจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่เฟิงอิ๋นไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน นิสัยค่อนข้างตรง เป็นแค่คนหัวดื้อคนหนึ่ง

 

 

เห็นนางรำคาญเช่นนี้ หลิงอวี้จื้อก็ยังหวังว่าจะพูดโน้มน้าวเฟิงอิ๋นได้

 

 

ได้ยินหลิงอวี้จื้อพูดเช่นนี้ สีหน้าของเฟิงอิ๋นเอาแน่เอานอนไม่ได้

 

 

“เจ้าไม่ต้องพูดจาไร้สาระ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเซียวเหยี่ยนไว้ได้ เจ้าจะยอมหรือไม่”

 

 

“ข้าไม่ยอม เจ้าให้ข้าไปจากเซียวเหยี่ยนได้ แต่ข้าไม่มีทางแต่งงานกับคนอื่น”

 

 

หลิงอวี้จื้อปฏิเสธโดยพลัน

 

 

“เช่นนั้นเจ้าก็รอดูเซียวเหยี่ยนตายเสียเถอะ!”

 

 

“หากเจ้าอยากให้อาเหยี่ยนตาย เจ้าคงไม่มาที่นี่หรอก ข้ายังยืนยันคำเดิม ข้าไปจากเขาได้ แต่ข้าจะไม่แต่งกับคนอื่น นี่อวิ๋นเป็นเพื่อนของข้า ข้าไม่อยากให้เขามาเกี่ยวข้องด้วย”

 

 

เฟิงอิ๋นหัวเราะเยือกเย็นหนึ่งครั้ง

 

 

“เกรงว่าเพื่อนเจ้าจะคงอยากแต่งใจจะขาด”

 

 

หลิงอวี้จื้อยื่นกรานหนักแน่น ไม่เหลือที่ไว้เปลี่ยนใจ

 

 

คลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งหลายปี พอจะมีความสามารถในการสังเกตสีหน้าและคำพูดของผู้อื่น นางมั่นใจว่าพูดโน้มน้าวใจเฟิงอิ๋นได้ หากเธอยังยืนยันจะไม่ยินยอม เฟิงอิ๋นก็จะถอย วันนี้นางมา ก็เพราะอยากช่วยเซียวเหยี่ยน เพียงแต่ไม่ได้พูดความในใจนั้นออกมา

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 363 โชคดีขี้หมาติด

 

 

“หลิงอวี้จื้อ เจ้าต้องคุกเข่าขอร้องข้า”

 

 

หลิงอวี้จื้อเริ่มงง เฟิงอิ๋นไม่พูดเรื่องให้เธอแต่งงานกับมู่หรงนี่อวิ๋นอีก หากแต่คิดจะฉวยโอกาสหยามเกียรติเธอ ขอเพียงไม่ต้องแต่งงานกับมู่หรงนี่อวิ๋น เรื่องอื่นได้หมด เธอจะไม่ทำให้เฟิงอิ๋นขุ่นเคืองใจในเวลานี้

 

 

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงจะรู้สึกว่าคุกเข่าลงเช่นนี้เสียเกียรติอย่างยิ่ง แต่หลิงอวี้จื้อเป็นนักแสดง สามารถมองเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นละครฉากหนึ่ง

 

 

มั่วชิงที่อยู่ข้างหลังเห็นเฟิงอิ๋นจงใจหยามเกียรติหลิงอวี้จื้อ ก็เริ่มจะทนไม่ไหว เมื่อครู่คิดจะเอ่ยปากพูด แต่หลิงอวี้จื้อมองนางและส่ายหน้า เป็นสัญญาณให้นางไม่ต้องพูดอะไร

 

 

มั่วชิงรู้ว่าหลิงอวี้จื้อมีหัวคิดมากมาย จึงไม่ส่งเสียงอะไร ยืนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ

 

 

หลิงอวี้จื้อเห็นว่าไม่ไกลมีสิ่งปฏิกูล คงจะเป็นสิ่งปฏิกูลของหมาป่าผี มีความคิดในใจแล้ว เธอคุกเข่าได้ แต่จะไม่ปล่อยให้เฟิงอิ๋นมาเอาเปรียบเปล่าๆ

 

 

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ทำหน้าตึงเครียดพูดกับเฟิงอิ๋นว่า

 

 

“ขอเพียงเจ้ายอมช่วยอาเหยี่ยน ข้าคุกเข่าได้ ตรงนี้เป็นมุมอับ คนอื่นมองไม่เห็น พวกเราไปทางนั้น ให้ชาวบ้านเห็นว่าข้าคุกเข่าต่อหน้าเจ้า เช่นนี้ เจ้าคงจะพอใจใช่หรือไม่”

 

 

“เจ้านี่หน้าไม่อายจริง ๆ”

 

 

“ข้าขอเพียงให้อาเหยี่ยนยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่หน้าก็ไม่สำคัญแล้ว”

 

 

เฟิงอิ๋นไม่ได้ปฏิเสธ เดินตามหลิงอวี้จื้อไป กองสิ่งปฏิกูลนั้นอยู่ข้างหลังเฟิงอิ๋นแล้ว นางถอยหลังเพียงก้าวเดียวก็จะเหยียบโดน

 

 

หลิงอวี้จื้อเล่นใหญ่มาก ไม่เพียงแต่คุกเข่ากับพื้น แต่ยังหมอบลงกับพื้นด้วย พูดเสียงดังว่า

 

 

“เจ้าช่วยอาเหยี่ยนหน่อยเถิด เฟิงอิ๋น ข้าขอร้อง”

 

 

เห็นได้ชัดว่าเฟิงอิ๋นนึกไม่ถึง ว่าหลิงอวี้จื้อจะทำเช่นนี้ ซ้ำยังโขกหัวคำนับนางอีกด้วย นางตกใจถอยหลังหนึ่งก้าว เหยียบลงบนกองปฏิกูลพอดี

 

 

สีหน้าของเฟิงอิ๋นเปลี่ยนทันที หลิงอวี้จื้อเงยหน้า ทำท่าทางไม่รู้อิโหน่อิเหน่

 

 

“หากยังไม่พอ ข้าโขกหัวคำนับอีกครั้งก็ได้”

 

 

มั่วชิงอยู่กับหลิงอวี้จื้อมาสักพักแล้ว ย่อมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว แต่ก็ฝืนกลั้นเอาไว้

 

 

นางเห็นเฟิงอิ๋นยังไม่รู้ตัวว่าหลิงอวี้จื้อจงใจแกล้งนาง เรื่องนี้ไม่โทษนาง เฟิงอิ๋นไม่ใช่คนประเภทมีแผนการอะไรในใจอยู่แล้ว ประกอบกับฝีมือการแสดงของหลิงอวี้จื้อที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบด้วย

 

 

เฟิงอิ๋นเห็นว่ารองเท้าโดนสิ่งปฏิกูลไปเต็มๆ ก็ทำหน้ารังเกียจขณะถอดรองเท้าออก

 

 

หลิงอวี้จื้ออุทานอุ๊ยตาย จากนั้นก็ปลอบใจเฟิงอิ๋น

 

 

“เจ้าจะมีโชคแล้ว ที่บ้านเกิดข้าเขาเรียกโชคดีขี้หมาติด คนทั่วไปอยากจะเหยียบก็เหยียบไม่ได้”

 

 

เห็นสีหน้าเฟิงอิ๋นยิ่งดูไม่จืด หลิงอวี้จื้อก็รีบสั่งการมั่วชิงทันที

 

 

“มั่วชิง เจ้ากลับไปดูสิว่าข้ามีรองเท้าสะอาดๆ หรือไม่ ข้างนอกหนาวเช่นนี้ พื้นก็ล้วนเป็นหิน แขกมาทั้งที ต้องดูแลผู้คุมกฎเฟิงมิให้บกพร่อง”

 

 

“คุณหนู เท้าของคุณหนูเล็กกว่าเฟิงอิ๋นมาก เกรงว่าเฟิงอิ๋นจะใส่รองเท้าของคุณหนูไม่ได้เจ้าค่ะ”

 

 

“ไม่จำเป็น รองเท้าของเจ้าไม่คู่ควรกับข้า”

 

 

หลิงอวี้จื้อลุกขึ้นแล้ว

 

 

“แน่นอน เจ้าเป็นคน เจ้าจะคู่กับรองเท้าคู่หนึ่งได้อย่างไร มันย่อมไม่คู่ควรกับเจ้าอยู่แล้ว”

 

 

“เจ้า…”

 

 

เฟิงอิ๋นโมโหเพราะหลิงอวี้จื้ออีกแล้ว ไม่รู้เลยว่าคนๆ นี้โตมาอย่างไร ปากคอถึงได้เราะร้ายถึงเพียงนี้

 

 

“ข้าแค่เกรงว่าเจ้าจะเย็นเท้า ในเมื่อไม่ต้องการ ก็ช่างมันเถิด”

 

 

หลิงอวี้จื้อก้มหน้าสีหน้าน้อยใจ

 

 

“ข้าทำตามความต้องการของเจ้า ขอร้องเจ้าเช่นนี้แล้ว เฟิงอิ๋น เจ้าช่วยอาเหยี่ยนเถิด!”

 

 

เฟิงอิ๋นถอดรองเท้าอีกคู่ออกไปด้วย ยืนเท้าเปล่ากับพื้น อย่างไรเสียนางก็มีวิทยายุทธ์ ไม่ได้กลัวหนาวขนาดนั้น

 

 

“เจ้าไม่แต่งกับมู่หรงนี่อวิ๋นก็ได้ แต่ต้องไสหัวไปทันที”