ตอนที่ 573

The Divine Nine Dragon Cauldron

ในพื้นที่คับแคบของลำดับห้าธาตุ ราชาปีศาจถูกวิญญาณชายแก่ควบคุม เขาไม่มีทางเลือกนอกจากจู่โจมซือหยู

 

ซือหยูนั้นแอบติดต่อกับราชาปีศาจเมื่อมีโอกาส นั่นจึงเป็นเหตุให้เรื่องนี้เกิดขึ้นสำเร็จ

 

พลังภูติกระจายทั่ววิญญาณชายแก่อย่างรวดเร็ว เขากำลังถูกเพลิงทมิฬแผดเผาไปทั้งร่าง

 

ชายแก่กลับมาได้สติและโกรธแค้น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

“เจ้ากล้าหักหลังข้างั้นเรอะ?”

 

ราชาปีศาจถอยหลังหัวเราะอย่างเยือกเย็น

 

“หักหลังรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะเป็นทาสเจ้าแล้วทำตามที่เจ้าบอกทุกอย่างรึ?”

 

“เจ้าก็แค่รนหาที่ตายเท่านั้น!”

 

ชายแก่ตะโกนด้วยความโกรธ

 

จากนั้นเขาก็คิดจะควบคุมสมบัติอรหันต์ในร่างราชาปีศาจ! มันคือของที่ชายแก่ใช้กุมชะตาชีวิตของราชาปีศาจ

 

แต่สิ่งภาพราชาปีศาจที่กำลังจะตายกลับไม่ได้เกิดขึ้น ราชาปีศาจเพียงแค่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ข้าไม่ใช่ภูติผีกระจอกๆ กลไม้เล็กๆของเจ้าควบคุมข้าได้แค่ช่วงหนึ่ง ไม่ใช่ตลอดกาล! เจ้ามันไร้เดียงสาเกินไป! ตายซะไอ้แก่โง่!”

 

ชายแก่ตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่รู้เลยว่าราชาปีศาจรอดพ้นจากการควบคุมของเขาได้อย่างไร! พลังภูติแผ่กระจายทั่ววิญญาณ ชายแก่ตัวสั่นและใช้วิชาเดิมเพื่อแยกส่วนวิญญาณ

 

ดวงตาของเขาหม่นหมอง

 

“ย่อมได้! เจ้าสองคนบังอาจหลอกข้า! แต่ข้าขอสาบานกับป้ายหลุมศพว่าเจ้าสองคนจะต้องตายวันนี้!”

 

“หึหึ อย่างนั้นรึ? ข้าว่าเจ้าเองจะไม่รอดเสียมากกว่า!”

 

ซือหยูโต้กลับอย่างเยือกเย็น เขาฟื้นฟูจากเพลิงวิญญาณเยือกแข็งแล้ว

 

วิญญาณชายแก่บาดเจ็บหนัก การโจมตีทางวิญญาณจึงอ่อนแอลงพร้อมกับซือหยูที่รอดชีวิต ซือหยูมองราชาปีศาจและแสยะยิ้ม

 

“ฮื่ม คิดว่าเจ้าสองคนจะทำอะไรข้าได้รึ? ร่างวิญญาณของข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะรับมือได้หรอก!”

 

ชายแก่พูดอย่างเยือกเย็น

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ก็เกิดวายุหมุนขึ้นมา มันหมุนวนที่ท้องของราชาปีศาจ! แสงสีแดงดั่งโลหิตเปล่งประกายออกมาจากวายุนั้น จากนั้นมันจึงรวมตัวกันเป็นใบหน้าของภูติผี จากนั้นมันก็เข้าไปกัดเข้าที่วิญญาณชายแก่!

 

ชายแก่กรีดร้องโหยหวน เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ!

 

ร่างกายของเขากำลังถูกใบหน้าภูติฉีกกระชาก! มันเคี้ยววิญญาณอย่างโลภโมโทสันราวกับกำลังเอร็ดอร่อยกับดวงวิญญาณ

 

ร่างชายแก่สั่นเครือเมื่อส่วนหนึ่งของวิญญาณหายไป ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นสัญญาณว่าร่างของเขากำลังจะระเบิด!

 

“ตัวกัดกินวิญญาณ! เจ้าเป็นใครกันแน่?”

 

ชายแก่โกรธจัด!

 

ซู่ม

 

เสียงสั่นสะเทือนดังมาจากวายุที่ท้องราชาปีศาจ แสงเงาเริ่มขยายขนาดเท่ากับมนุษย์ ร่างนั้นมีแสงโลหิตรอบกาย

 

ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยปรากฏต่อหน้าทุกคน ใบหน้าที่ดูแข็งแกร่ง จมูกแหลมริมฝีปากหนา ผิวสีแดงก่ำดั่งโลหิต ที่หน้าผากมีรอยสักจันทร์เสี้ยว

 

“สายเลือดปีศาจรึ?”

 

ชายแก่ตกตะลึง

 

เขาหันไปถามราชาปีศาจ

 

“นั่นไม่ใช่ลูกหลานของเจ้าเรอะ? ทำไมมันอยู่ที่ท้องของเจ้ากัน?”

 

ชายแก่ไม่เข้าใจว่าทำไมราชาปีศาจถึงซ่อนคนอื่นไว้ในท้องของตัวเอง!

 

“ท้องข้ามีอยู่สองสิ่ง หนึ่งคือท้องของร่างกายข้า ส่วนอีกที่คือลูกหลานของข้า! เจ้าจะถามอะไรอีกหรือไม่?”

 

ราชาปีศาจหัวเราะอย่างเยือกเย็น

 

ราชาปีศาจบ่มเพาะพลังของตัวเองจนทำให้ท้องเก็บสมบัติมิติได้ ดังนั้นเขาจึงมีวิธีการต่อสู้ที่ไม่เหมือนผู้ใด ชายแก่ไม่คิดเลยว่าราชาปีศาจจะมีพลังในระดับนี้!

 

“เจ้าจะบอกว่าของที่ข้าใช้ควบคุมเจ้าถูกเอาออกไปตั้งนานแล้วเรอะ?”

 

ชายแก่ตื่นตกใจ

 

ราชาปีศาจพยักหน้าเบาๆ

 

“ข้าเอามันออกไปนานแล้ว ลูกหลานของข้าเอามันให้ตระกูลปีศาจในทวีปเฉินหลง!”

 

“ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าไม่จู่โจมใส่ข้าตั้งแต่ก่อนหน้านั้นเล่า?”

 

ร่างของชายแก่ขยายเร็วขึ้นอีกเมื่อเขาพูด วิญญาณของเขากำลังจะถูกทำลายสิ้นซาก

 

ราชาปีศาจหัวเราะ

 

“ถ้าข้าไม่รอจนเจ้าเผลิ เจ้าคิดว่าข้าจะมีโอกาสฆ่าเจ้าได้แบบนี้รึ?”

 

ชายแก่มีวิญญาณระดับจ้าวเทวะ ราชาปีศาจจึงไม่คิดจะประมาท

 

ชายแก่โกรธยิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาจ้องซือหยูกับราชาปีศาจตาเขม็ง

 

“ถึงข้าจะเป็นผีก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป!”

 

เขาตะโกนพร้อมชี้หน้าซือหยู เพราะซือหยูคือคนที่ชายแก่ชิงชังที่สุด!

 

ถ้าไม่ใช่เพราะอุบายหลายต่อของซือหยู ราชาปีศาจก็อาจจะไม่มีโอกาสได้จู่โจมเขา

 

“ถ้างั้นเจ้าก็ตายไปเป็นผีซะเถอะ!”

 

เขาพูดจบพร้อมกับลำแสงเพลิงวิญญาณที่พุ่งออกจากดวงตา เพลิงวิญญาณลุกไหม้ทั่วร่างชายแก่ ร่างของวิญญาณชายแก่ที่ขยายขนาดอย่างรวดเร็วกลายเป็นควันสีขาวทันที เขาล้มลงกับพื้นและแตกละเอียดเป็นแก้วนับล้านชิ้นส่วน

 

เสี้ยววิญญาณซึมลงสู่พื้น ซือหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อชายแก่ตาย

 

เขารู้ตัวว่าเพิ่งจะผ่านสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งมา! โดยเฉพาะเรื่องเพลิงวิญญาณเยือกแข็งที่ชายแก่ใช้ นั่นเป็นภัยคุกคามแก่เขาของจริง!

 

เขาต้องยอมรับว่าโชคดีที่เขากับราชาปีศาจร่วมมือกับเอาชนะชายแก่ ถ้าหากชายแก่สงสัยราชาปีศาจในทางใดทางหนึ่ง คนที่ตายในวันนี้ก็อาจจะเป็นเขาทั้งสองคน!

 

เมื่อซือหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาก็รับรู้ถึงสายตาคนสองคนตรงหน้า ซือหยูเงยหน้ามองและพบว่าแม้ราชาปีศาจจะยิ้มอย่างโล่งใจ แววตานั้นก็ยังมีความซับซ้อนและลังเล

 

ส่วนอีกคนที่จ้องมองซือหยูคือคนตัวใหญ่ที่ไม่เป็นมิตร…

 

“ดูเหมือนเจ้าจะรู้มานานแล้วว่าข้าอยู่ในตัวราชาปีศาจ…”

 

ชายร่างใหญ่พูดอย่างเยือกเย็น เขาจับจ้องมาที่ซือหยู

 

ซือหยูพยักหน้า

 

“ใช่ ข้ารู้”

 

ราชาปีศาจตกใจอย่างประหลาด ตอนที่เขาแอบติดต่อกับซือหยู เขาได้รักษาคำพูดให้สั้นเพื่อที่ชายแก่จะได้ไม่รับรู้ แต่เขาไม่เคยบอกซือหยูถึงเรื่องลูกหลานที่ซ่อนอยู่ในท้องของเขา

 

“เจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่? รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”

 

น้ำเสียงของชายร่างใหญ่ไม่เป็นมิตรยิ่งขึ้น

 

ซือหยูพูดอย่างเฉยเมย

 

“ข้ารู้ตั้งแต่โจวฉีหมิงตายแล้ว”

 

ในที่เก็บสมบัติโอสถ ซือหยูได้มาเจอกับโจวฉีหมิง ส่วนโจวฉีหมิงเองก็ถูกสถานการณ์บังคับให้ออกมารอซุ่มโจมตีซือหยูจากภายนอก!

 

แต่เมื่อซือหยูออกมาเขาก็พบว่าโจวฉีหมิงตายไปแล้ว! ในตอนนั้นเขาบอกได้เลยว่าคนที่เป็นมือสังหารจะต้องเป็นคนอย่างชายร่างใหญ่ที่มีสายโลหิตปีศาจ

 

แต่เขาก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ เขากลับบอกกับหุ่นเชิดสีเงินว่าเขาเป็นคนลงมือเอง ตอนนั้นเขาจึงรู้ถึงตัวตนของผู้มีสายโลหิตปีศาจ!

 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตระกูลกุยจากแปดตระกูลโบราณได้อยู่ในกระโจมเทพสวรรค์ชั้นแปด เมื่อผู้มีความสามารถจากแปดตระกูลมาถึง ตระกูลกุยได้นิ่งเฉยมาโดยตลอด ดังนั้นแล้วจึงดูเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้มาที่กระโจมเทพสวรรค์เลย!

 

ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีมิติลับอยู่ในท้องของราชาปีศาจ วันนี้มันพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง!

 

“ถ้าเจ้ารู้ว่าข้ามาจากไหน เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะรู้ว่าข้าจะทำยังไงกับเจ้าสินะ?”

 

ชายร่างใหญ่พูดอย่างเยือกเย็น

 

“แน่ล่ะ ยังไงเจ้าก็เป็นผู้นำตระกูลกุย!”

 

“เจ้ากลายเป็นราชาปีศาจหิมะทมิฬแล้วแสร้งว่าเป็นคนตระกูลกุย เรื่องนี้จริงหรือไม่?”

 

เจ้าตระกูลกุยถามอย่างเยือกเย็น

 

ซือหยูไม่แก้ตัว เขาพยักหน้า

 

“ใช่แล้ว ทุกคนเชื่อว่าข้าเป็นตระกูลกุย แล้วมันจะยังไงรึ? ชื่อเสียงตระกูลกุยเสียหายหรือไงกัน? เจ้าจะแก้แค้นรึ?”

 

แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าตระกูลกุยจะส่ายหน้า

 

“ตระกูลกุยของข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องชื่อเสียง เจ้าแสร้งทำเป็นคนตระกูลข้าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่มีสิ่งเดียวที่เจ้าทำผิด…และข้าจะไม่อภัยให้เจ้า!”

 

ซือหยูสับสน เขาถามออกไปทันที

 

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องสายเลือดปีศาจที่ข้าได้มาจากเจ้าตำหนักหลิงรึ?”

 

“แสดงว่าเจ้าได้สืบสายโลหิตจากหลิงเสี่ยวเทียนมาจริงๆสินะ…”

 

เจ้าตระกูลกุยหายใจเข้าลึก

 

ซือหยูก้าวถอยหลังไปหลายก้าว เขาเตรียมจะโจมตี เขาถามเบาๆ

 

“แล้วมีเรื่องอะไรกัน? เจ้าอยากจะเอาสายโลหิตกลับไปงั้นรึ?”

 

แต่ซือหยูก็ต้องตกใจเมื่อเจ้าตระกูลกุยตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะอันเย็นชา

 

“สายโลหิตปีศาจรึ? ใครบอกเจ้ากันว่าเลือดของหลิงเสี่ยวเทียนเป็นสายเลือดปีศาจ? มันคงเก็บความลับนี้กับเจ้าด้วย! ถึงจะเพื่อความปลอดภัยของเจ้า แต่ตอนนี้มันกำลังจะย้อนคืนมาหาเจ้าแล้ว!”