“เธอสองคนเป็นใคร” เฟิงหลินจ้องหญิงสาวทั้งสองคน เขาถามด้วยความกดดันอย่างหนัก น้ำเสียงของเขาแข็งเหมือนน้ำแข็ง หัวใจของเขาไม่ได้หวั่นไหวไปกับความงามของพวกเธอเลย
หญิงสาวที่ดูดุดันไม่ตอบ ร่างกายของเธอโค้งงอเหมือนธนู กลิ่นอายมุ่งร้ายปะทุออกมาจากเธอ เธอจ้องมองเฟิงหลินอย่างระมัดระวัง
เหมือนกับว่าหากเฟิงหลินทำอะไรผิดปกติเมื่อไหร่ เธอจะพุ่งเข้าหาและฉีกเขาเป็นชิ้นๆทันที
“อืมม?” เฟิงหลินกดดันหนักขึ้น จริงๆแล้วหญิงสาวที่ดูดุร้ายนี้ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เขารู้สึกตกใจและกังวล
เขาอดไม่ได้ที่จะสำรวจทั้งสองคนอย่างจริงจัง
หญิงสาวที่มีผิวสีบลอนด์ ร่างกายของเธอมีกล้ามเนื้อและแข็งแรง แต่ไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่และความผันผวนของพลังชีวิตของเธอก็น่าตกใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงและไม่ใช่คนที่เพิ่งจะได้เป็น สถานะพลังของเธอสูงเกิน 100 และอาจเกิน 200 ทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าเฟิงหลิน ถ้าไม่เช่นนั้นเธอจะไม่สามารถทำให้เฟิงหลินรู้สึกกดดันเช่นนี้
เธอมีคุณสมบัติที่กล้าหาญและมีลักษณะคล้ายกับรูปปั้นกรีก ใบหน้าดูเด็ก เธอยังไม่แก่มากนัก แต่ทว่ายอดเขาทั้งสองที่หน้าอกของเธออาจอธิบายได้ว่าเป็นอาวุธทำลายล้างขั้นสูง แม้แต่เฟิงหลินก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และแอบมองมัน
ในอ้อมแขนของเธอมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ดูนุ่มนวลและบอบบางมาก หญิงสาวคนนี้สวยงาม แต่สีหน้าของเธอซีดขาวราวกับว่าเธอป่วยเป็นโรค เธอดูเหมือนตุ๊กตาพอร์ซเลนที่บอบบางมาก
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรตัดสินคนจากภายนอก!
ไม่มีคนอ่อนแอที่สามารถผ่านการสอบรอบแรกของมหาวิทยาลัยเอกภพและมาที่นี่เพื่อการทดสอบรอบสองเด็ดขาด
เมื่อเธอรู้ว่าเฟิงหลินกำลังจ้องมองอยู่ ดวงตาของหญิงสาวที่ดูดุร้ายก็เบิกกว้าง ตาเล็กเบิกกว้าง เธอส่งเสียงคำรามคล้ายกับเสือตัวเมีย กลิ่นอายดุร้ายเปล่งประกายชัดเจนมาก
ความเป็นปรปักษ์เย็นชาของเธอไม่ใช่ของปลอมเพราะเฟิงหลินรู้สึกว่าการจ้องมองของเธอทิ่มแทงเขาเหมือนเข็ม ในทางกลับกันดวงตาของเขาก็เย็นชามาก พวกเขายืนเผชิญหน้ากัน กลิ่นอายของพวกเขาปะทะกัน บรรยากาศเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าพวกเขาจะปะทุความขัดแย้งในเวลาใดก็ได้
“พวกเธอคือพวกเดียวกันกับสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์หรือเปล่า?” เฟิงหลินจับกระบองเหล็กแน่นขณะที่ถาม
หญิงสาวที่ดูดุร้ายเปล่งประกายความเกลียดชัง “นายเป็นฆาตกร ทำไมเราต้องบอกนายด้วย?”
เมื่อเฟิงหลินได้ยินดวงตาของเขาหรี่แคบลงอย่างเป็นอันตราย
แค่ก แค่ก แค่ก …
หญิงสาวผู้บอบบางเริ่มไออย่างจริงจัง ทำให้ความตึงเครียดในอากาศจางลงเล็กน้อย “น้อง อย่าสร้างปัญหาสิ”
หลังจากนั้นเธอก็หันมาพูดเบา ๆ กับเฟิงหลิน“ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ เราแค่มาที่นี่เพื่อมาหาน้ำดื่มและจะออกจากที่นี่ทันทีหลังจากที่เราได้น้ำแล้ว”
เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะไม่โกหก ท่าทางของเฟิงหลินก็เบาลงบ้างเช่นกัน
ท้ายที่สุดถ้าทั้งสองนี้มาจากสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ พวกเธอจะไม่ยืนมองจากด้านข้างและเวลาที่พวกเขาต่อสู้กันก่อนหน้านี้ก็ใช้เวลาตั้งนาน ทำไมพวกเธอจะต้องรอจนถึงตอนนี้
เขามีความมั่นใจประมาณ 80% ถึง 90% ว่าทั้งสองนี้เป็นผู้สมัครสอบและพวกเธอผ่านมาที่นี่โดยบังเอิญ
“เธอไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” เฟิงหลินมองไปที่พวกเธอก่อนที่จะหันหลังและออกไป หัวใจของเขาไม่ได้อ่อนลงเลยแม้จะได้เจอกับสาวสวยทั้งสองคนอย่างพวกเธอ
“นาย… ”หญิงสาวหน้าตาดุร้ายขมวดคิ้วขณะโกรธในใจ อย่างไรก็ตามเธอโดนหญิงสาวบอบบางหยุดเอาไว้ “พี่กำลังทำอะไร?ชายคนนั้นเป็นฆาตกรและเขาก็แสดงความหยิ่งยโส ถ้าฉันไม่สั่งสอนเขา เขาจะไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และโลก”
หญิงสาวที่ดูบอบบางส่ายหัว “น้องควรเปลี่ยนอารมณ์ เรามาที่นี่เพื่อสอบและไม่ควรมีปัญหาอะไร ความขัดแย้งของชายคนนั้นกับคนอื่นเกี่ยวข้องอะไรกับเรา เขาเป็นคนโหดเหี้ยมมาก หักกระดูกของคนเหล่านั้นทั้งหมด พวกเขาจะไม่ตายอย่างรวดเร็ว แต่ชะตากรรมของพวกเขาถูกปิดผนึก พวกเขาจะไม่สามารถได้รับโอกาสใดๆบนดาวอสุรานี่ และรอความตายกลายเป็นอาหารสำหรับสัตว์ผิดปกติที่แย่กว่าความตายอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเลือกที่จะทำเช่นนี้เพื่อให้ไม่ถูกพิจารณาว่าผิดกฎของการทดสอบ มันจะนำมาซึ่งปัญหาไม่สิ้นสุดเนื่องจากผลกำไรไม่ได้ชดเชยความสูญเสีย “
“เราต้องกลัวอะไร?” หญิงสาวที่ดูดุดันไม่เห็นด้วย “ในระบบสุริยะทั้งหมดมีคนไม่เกินสิบคนที่สามารถสู้กับน้องได้ มีเพียงอัจฉริยะที่แท้จริงจากจักรวาลเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับน้องได้ น้องไม่เชื่อว่าเด็กเหลือขอนี่มีความสามารถ! “
การแสดงออกของหญิงสาวบอบบางเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม “ น้องไม่สามารถมีความคิดเช่นนี้ได้ ผู้ที่สามารถกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวได้ย่อมมีไพ่ตายอยู่เสมอและมีความสามารถทางพันธุกรรมทุกประเภท ชายคนนั้นอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน้อง แต่ถ้าเขาเลือกที่จะหลบหนี และกลับมาแก้แค้นในอนาคตมันจะมีปัญหาไม่รู้จบ! “
เมื่อมองพี่สาวของเธอ แม้เธอจะไม่พอใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่เม้มปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เมื่อรับรู้ถึงการทะเลาะวิวาทระหว่างพี่น้อง เฟิงหลินไม่ได้สนใจอะไรพวกเธอ
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำแห่งเดียวใน 100 กิโลเมตรดังนั้นผู้สมัครสอบคนอื่น ๆ จะพบว่ามีที่นี่ไม่ช้าก็เร็ว เขาไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป
เฟิงหลินเอาสิ่งของทั้งหมดมาจากสมาชิกของสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ไป น่าเศร้าที่ไม่มีใครสามารถนำสิ่งของมามากมายมในการทดสอบรอบสองนี้ นอกเหนือจากแคปซูลน้ำแล้วเขาไม่ได้อะไรอีกเลย
นอกเหนือจากของของเขาเองตอนนี้เขามีเพียงยี่สิบแคปซูลน้ำ สิ่งเหล่านี้คือน้ำในรูปแบบที่ควบแน่น มีน้ำมากพอที่จะอยู่ได้ยี่สิบวัน
แน่นอนคนๆหนึ่งจะไม่สามารถรวยได้หากไม่มีโชคลาภ!
เฟิงหลินพยักหน้าสมาชิกเหล่านี้จากสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์เป็นคนดีจริงๆ พวกมันได้แก้ไขความต้องการเร่งด่วนที่สุดสำหรับเฟิงหลินแล้ว
ต่อไปเขาสามารถสบายใจขึ้นและตามล่าสัตว์ประหลาดทางชีวเคมีเหล่านั้น
ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว อุณหภูมิร้อนแรงถึง 80 องศาและอากาศระเหยอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เฟิงหลินก็ทนไม่ไหว
เฟิงหลินออกไปด้วยความเร็วสูง เขากำลังเตรียมที่จะหาที่ซ่อนตัวจากความร้อนของดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันก่อน
เขาเคลื่อนไหวไปในทิศทางของทิวเขาทิ้งคู่พี่น้องที่เขาพบก่อนหน้านี้ไว้ข้างหลัง
ภูเขาที่นี่เชื่อมต่อกัน ความแตกต่างของความสูงทำให้ยอดเขาดูเหมือนคลื่นเมื่อมองจากระยะไกล นอกจากนี้พวกมันยังให้ร่มเงาจากดวงอาทิตย์ที่ปราศจากความเมตตา
เฟิงหลินเข้าลึกไปในหุบเขา แต่ยิ่งเขาเข้าไปลึกเท่าไรเขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากเท่านั้น ความเงียบมีอยู่ทั่วไป บรรยากาศยังคงเป็นอันตรายถึงุตาย มีบางอย่างผิดปกติกับความรู้สึกของเขา
กระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ ถูกฝังอยู่ในโคลน กระดูกที่เป็นของมนุษย์กับสัตว์ประหลาดและสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักบางชนิดสามารถพบได้ในภูเขานี้
“ช่วยด้วย! ฉันเป็นผู้สอบจากมหาวิทยาลัยเอกภพมีใครบ้างที่สามารถช่วยฉันได้ ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม!” เสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังล่องลอยมาจากระยะไกล
รอยยิ้มเย็น ปรากฎบนริมฝีปากของเฟิงหลิน เขาไม่ได้พูดอะไรและหันไปรอบ ๆ เร่งความเร็วไปในทิศทางที่ต่างออกไปโดยไม่สนใจเสียงที่ขอความช่วยเหลือ
“ หัวหน้าเด็กน้อยนั่นไม่หลงกล” ในร่มเงาของหุบเขาแห่งหนึ่งมีคนราวๆสามสิบคนเดินออกมา พวกเขาเปลือยกายครึ่งหนึ่งและมีเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์คลุมอยู่รอบตัว รอยสักของสัตว์ป่าสามารถมองเห็นได้ทั่วร่างกาย พวกมันคล้ายกับมนุษย์ดึกดำบรรพ์
ดวงตาของพวกมันส่องประกายรุนแรงขณะที่จ้องมองด้านหลังของเฟิงหลิน ลิ้นสีแดงของพวกมันเลียริมฝีปากราวกับว่ากำลังมองอาหารแสนอร่อยและไม่สามารถทนต่อความหิวได้
ผู้ชายที่เป็นผู้นำคือผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อใส่หมวก เขาสูงประมาณสามเมตรและเปล่งกลิ่นอายดุร้าย เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักหน่วง “ปล่อยมันไป”
“หัวหน้า มันน่าจะอร่อยมาก นานแล้วที่เราไม่ได้เจอผู้บ่มเพาะ เราจะปล่อยให้มันหนีไปได้ยังไง” คนเหล่านั้นงงงวย
“ทำไมถึงต้องรีบร้อนนัก? มีผู้สมัครสอบประมาณ 10,000 คน มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเปิดเผยตัวเราเองเพื่อจับมันด้วย?” หัวหน้าพูดด้วยเสียงหนัก “ ฉันสามารถบอกได้ว่าเด็กเหลือขอนี่เป็นตที่โหดเหี้ยม เพียงแค่มองเขาเขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตาและยังมีความจริงที่ว่าเขาทิ้งมนุษย์พิการหลายคนไว้ก่อนหน้านี้ มนุษย์พิการพวกนั้นเป็นอาหารของเรา เราจำเป็นต้องทำให้มันลำบากทำไม ถ้าเราทำให้เกิดความปั่นป่วนมากเกินไปผู้สมัครสอบคนอื่น ๆ ก็อาจจะรู้ตัว และมันยากกว่าที่เราจะได้เหยื่อของพวกมัน ผลประโยชน์ไม่ได้ชดเชยความสูญเสีย! “
“หัวหน้าท่านพูดถูก!” คนอื่นหัวเราะอย่างดูถูกหลังจากได้ยิน
เฟิงหลินรักษาความเร็วของเขา เขาชะลอตัวลงหลังจากที่เขาค้นพบว่าอาชญากรเหล่านั้นไม่ได้ไล่ล่าเขา ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเปลืองกำลังในการเร่งความเร็ว7
ใครจะถูกหลอกด้วยเทคนิคขั้นต่ำเช่นนี้?
เขาชัดเจนมากว่านั่นไม่ใช่แค่ความผิดปกติทางชีวเคมีและผู้สมัครสอบในดาวอสุรา นอกจากนี้ยังมีอาชญากรต้องโทษประหารที่ถูกส่งตัวมาที่นี่ อาชญากรเหล่านั้นเป็นปีศาจในหมู่มนุษย์และนี่อาจเป็นกับดักที่พวกเขาตั้งไว้
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโง่เขลามากจนต้องเดินเข้าไปในกับดักที่เขาเห็นได้
ทุกอย่างจะดีถ้าสนใจแต่เรื่องของตัวเอง!
ตราบใดที่อาชญากรเหล่านี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเขา เฟิงหลินก็จะไม่ไปเป็นศัตรูด้วย
เขาพบถ้ำที่ห่างไกลและเข้าไปในถ้ำเพื่อหลบความร้อน ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มบ่มเพาะ
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 18%, + 18%, +18% … เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็ปะทุออกมาจากด้านนอกถ้ำทำให้เขาตกใจ พลังวิญญาณของเขาพุ่งออกมา เขาค้นพบว่าหญิงสาวสองคนที่เขาพบก่อนหน้านี้กำลังต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรโทษประหาร หญิงสาวสองคนถูกล้อมและอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายอย่างมาก
เฟิงหลินหลับตาอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(ฮีโร่ที่ช่วยหญิงสาวซึ่มตกอยู่ในความทุกข์?)
(สิ่งนั้นไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งความจริง!)