แดนนิรมิตเทพ บทที่ 637
คนแรกของแถวแรกจากด้านซ้าย คือเซี่ยไห่หลงซึ่งเป็นคนที่ได้รับคำสั่งให้รวมทีมเมื่อสักครู่

“รายงาน สมาชิกหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีทั้งหมดสามสิบหกคน ควรจะสามสิบหก มาจริงสามสิบหกคน! เชิญชี้แนะด้วย!”

พลังของคนกลุ่มนี้แข็งแกร่ง ทำให้เฉินโม่รู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนหัวแข็งดื้อรั้น ท่าทางของพวกเขาจริงจัง ดวงตาเย็นชา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดหรือกระทำใด ๆ แต่เฉินโม่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความดูหมิ่น

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเซี่ยไห่หลงจะรายงานให้เขาทราบ แต่ตอนที่เขารายงาน เขาไม่ได้เพิ่มคำว่าหัวหน้า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ยอมรับหัวหน้าคนใหม่อย่างเฉินโม่

เจียงเหอซานพูดถูก คนกลุ่มนี้คบหาค่อนข้างยาก

เพียงแต่เฉินโม่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว แต่กลับมีความสนใจเล็กน้อย สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษลึกลับที่สุดของทางการ ชาติที่แล้วเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนด้วยซ้ำ แต่ชาตินี้เขากลับกลายเป็นหัวหน้าของหน่วยลึกลับนี้ ทำให้เฉินโม่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เฉินโม่กวาดมองทุกคน ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพลังความกล้าหาญที่แพร่ซ่านออกมาจากร่างกายของทหารเหล็กพวกนั้น ทำให้เสียงของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น “ผมชื่อเฉิน โม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะเป็นหัวหน้าของพวกคุณ”

“รายงาน!” หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากกลางฝูงชน

เฉินโม่กล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “พูด!”

“หัวหน้าของพวกเราชื่อฮั่วตงหมิง เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรมาเป็นหัวหน้าของพวกเรา?”

“หัวหน้าของพวกเราเป็นวีรบุรุษที่จิตใจเด็ดเดี่ยว เขาใช้ชีวิตตนเองเพื่อแลกข่าวสำคัญ นายสามารถเทียบเขาได้เหรอ?”

“หัวหน้าของพวกเรา นำพวกเราฝ่ากระสุนปืนฆ่าศัตรู แล้วพาพวกเราร่วมฟันฝ่าบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยซากศพ และออกมาได้อย่างปลอดภัย ความกังวลใหญ่ที่สุดของนักเรียนอย่างนายก็คือหน้าเป็นสิวอีกแล้ว แล้วนายสามารถเทียบเขาได้เหรอ?”

สมาชิกหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีสามสิบหกคน มองเฉินโม่พร้อมเพรียงกัน ไม่มีความเหยียดหยามใด ๆ เพียงแค่มองเฉินโม่อยู่แบบนั้น

เพียงแต่เฉินโม่รู้สึกได้ถึงความสงสัยและความเหยียดหยามอย่างรุนแรงของพวกเขา ซึ่งมันรุนแรงกว่าการเหยียดหยามใด ๆ

การมองแบบนี้ แม้แต่ทหารแข็งแกร่งที่อยู่ในสมรภูมิรบมายาวนาน เกรงว่าคงจะถูกทหารหัวกะทิที่เย่อหยิ่งเหล่าใช้พลังกดขี่จนต้องยอมสยบ

สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีสามสิบหกคน มองเฉินโม่อย่างเงียบ ๆ และกำลังรอคำตอบจากเฉินโม่

สีหน้าของเฉินโม่ยังคงราบเรียบ เขามองทหารหัวกะทิที่หัวแข็งดื้อรั้นกลุ่มนี้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมไม่ปฏิเสธว่าฮั่วตงหมิงเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง”

“แต่ผมจะไม่ใช้ชีวิตตนเองไปแลกข่าว เพราะผมไม่เคยไปถึงจุดนั้น!”

“ผมจะไม่พาพวกคุณฝ่ากระสุนปืน และไม่ให้พวกคุณร่วมฟันฝ่าบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยซากศพ เพราะถ้าเรื่องที่แม้แต่ผมก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ต่อให้ลากพวกคุณเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย มันก็ไร้ประโยชน์!”

คำพูดของเฉินโม่สงบมาก ไม่มีพลังใด ๆ ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงความเป็นจริง

เพียงแต่คำพูดของเฉินโม่มีแรงกระตุ้นจนทำให้พวกเขาอยากจะบดขยี้เขา จองหองมาก ดูถูกเหยียดหยามคนมากเกินไปแล้ว

ตอนแรกสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีไม่แสดงท่าทางใด ๆ แต่ตอนนี้สายตาที่พวกเขามองเฉินโม่เต็มไปด้วยความโกรธและความขุ่นเคือง

ถึงแม้เฉินโม่จะยอมรับว่าฮั่วตงหมิงเป็นวีรบุรุษ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ปฏิเสธความสำเร็จที่ฮั่วตงหมิงแลกมาด้วยชีวิต เท่ากับเป็นการปฏิเสธเกียรติยศของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีทางอ้อม

ยังมีอีกหนึ่งประเด็น ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเฉินโม่จะสงบมาก แต่ความจองหองที่อยู่ในคำพูดของเขา ทำให้สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีแทบอยากจะลงมือบดขยี้เขาทันที

อะไรที่เรียกว่าเขาไม่เคยไปถึงจุดนั้น? เขาพูดว่าตนเองราวกับจูเก่อเลี่ยงกำลังวางกลยุทธ์เพื่อจะเอาชนะซึ่งอยู่ห่างไกลมาก

อะไรที่เรียกว่าเรื่องที่เขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต่อให้ลากพวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย มันก็ไร้ประโยชน์!”

นี่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการดูถูกเหยียดหยามสมาชิกทั้งหมดของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี!