ตอนที่ 426: โกรธแค้น
การเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฉินฆ่าคนของนิกายหยางจิด้วยการแทงทะลุคอของผู้ชาย 20 คนอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ชายที่เหลือทั้งหมดตกตะลึง ชายสองสามคนที่เหลือคิดว่าตัวเองโชคดีที่พวกเขาไม่ได้พุ่งไปหาเจี้ยนเฉิน มิฉะนั้นพวกเขาคงเป็นคนที่ต้องนอนตายอยู่กับพื้น.
หลายคนจากนิกายหยางจิตกใจอย่างที่สุดและพยายามซ่อนความกลัวในสายตาของพวกเขา แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะอายุน้อยกว่าพวกเขาหลายปี แต่วิธีการที่เขาใช้ฆ่าคน 20 คนนั้นทำให้พวกเขาตกใจ
“ท่านเป็นใคร ? ” ชายคนแรกพูด น้ำเสียงของเขาเริ่มนุ่มนวลและให้ความเคารพมากขึ้น
“เรียกผู้นำของพวกเจ้าทันที มิฉะนั้นจ้าจะฆ่าพวกเจ้าหมด” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา
“เจ้า..” ชายวัยกลางคนร้องครวญคราง นิกายหยางจิเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจในอาณาจักรฉินกาน แม้แต่องค์ชายแห่งอาณาจักรก็ไม่สามารถหนีไปได้อย่างง่ายดายหากล้อเลียนพวกเขา ดังนั้นท่าทางของเจี้ยนเฉินที่มีต่อนิกายหยางจิจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ชายคนนั้นโกรธแค้น แต่เขาไม่กล้าทำอะไรเนื่องจากความอ่อนแอ
“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมจึงมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมา ? ” ในขณะนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ยินเสียงที่ดังกึกก้อง ชายเสื้อคลุมสีดำที่มีผมยาวเดินเข้ามาในสนาม ใบหน้าของชายผู้นั้นแน่วแน่และดูจะอายุประมาณ 50 ปี เจี้ยนเฉินมองเห็นแสงแวววาวในสายตาของเขา
“อาจารย์สาม ! “
” อาจารย์สาม ! “
……..
เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ ทุกคนก้มลงคำนับด้วยความเคารพต่อเขา
อาจารย์สามเดินไปที่กลุ่มและได้รับแจ้งข่าวจากชายวัยกลางคนทันทีว่า “อาจารย์สาม ท่านมาทันเวลาพอดี ! เขาสร้างปัญหาและเขาได้ฆ่าสาวกของเราไป 20 คน นี่เป็นความผิดที่ไม่อาจยกโทษให้ได้ ! “
ชายที่มาใหม่ไม่สนใจสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูด เขามองเจี้ยนเฉินอยู่ครู่หนึ่ง ชายผู้นั้นมีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อสังเกตเห็นว่าเจี้ยนเฉินที่ดูอายุ 20 ปี แต่กลับไม่เหมือนคนทั่วไป
“ท่าน ท่านเป็นใครและทำไมท่านถึงโกรธเคืองนิกายหยางจิ ? ” ชายผู้นั้นพูดด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
“อาจารย์สาม ทำไมต้องเสียเวลาพูดกับผู้ชายคนนี้ด้วย ? เขาฆ่าสาวก 20 คน เราจะให้อภัยเขาได้อย่างไร ? ” ชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างอาจารย์สามกัดฟันด้วยความโกรธเพื่อพยายามโน้มน้าวเขา
อาจารย์สามยกมือขึ้นเพื่อเป็นเชิงให้ผู้ชายคนนั้นสงบลงก่อนที่จะหันหลังกลับไปรอคำตอบจากเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังยืนกอดอกและไม่สนใจอาจารย์สาม มีพียงผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉินที่ทำท่าหวาดกลัว แต่นางก็ยังคงเงียบ
“ช่วงเช้าของวันนี้นิกายหยางจิของเจ้าลักพาตัวใครบางคนมา พาเขาออกมาที่นี่ทันที มิฉะนั้นอย่าโทษข้าที่ไร้ความเมตตา” เจี้ยนเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทันใดนั้นการแสดงออกของอาจารย์สามเปลี่ยนไป เมื่อเขาพูดว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าคำพูดของท่านอาจทำให้ท่านมีปัญหา ? นิกายหยางจิของข้าไม่ใช่สิ่งที่ท่านสามารถล่วงเกินได้ง่าย ๆ “
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าอยู่นิกายไหน คืนเด็กคนนั้นกลับมาให้ข้าและคุกเข่าขอโทษ ไม่เช่นนั้นเจ้าและคนของเจ้าจะไม่มีชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้” เจี้ยนเฉินพูด เนื่องจากพวกเขาได้พาลูกชายของลุงเคนดัลไป มันจึงไม่มีทางที่เขาจะให้อภัยการกระทำเช่นนี้
” ช่างบังอาจ ! ” อาจารย์สามคำรามด้วยความโกรธ ” เจ้าคงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ! ทำไมเจ้าไม่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเจ้าในตอนนี้ล่ะ ! ” จากนั้นชายคนนั้นก็เรียกมีดยาวสีฟ้าออกมาแล้วพุ่งไปทางเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
เจี้ยนเฉินเปิดเผยรอยยิ้มเย็นยะเยือกเมื่อเขาชี้ไปที่ชายคนนั้น ทันใดนั้นเองปราณกระบี่สีฟ้าและสีม่วงก็พุ่งจากนิ้วของเขาไปยังอาจารย์สามที่ทะยานเข้ามา
“ติ๊ง ! “
เสียงแตกดังขึ้นเมื่อปราณกระบี่สีฟ้าและสีม่วงแทงเข้าไปที่มีดยาวของอาจารย์สาม พลังในการโจมตีด้วยนิ้วนั้นแข็งแกร่งมากจนทำให้อาจารย์สามหยุดชะงัก เขาตีลังกาลอยกลับไป หล่นลงมาจากตำแหน่งเดิมหลายเมตร
เขาพยายามยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก สีหน้าของเขาในเวลาต่อมามีความกังวลอย่างมากเมื่อเขามองเจี้ยนเฉิน ความแข็งแกร่งของเขานั้นพอ ๆ กับเซียนปฐพี เขาจึงไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกผลักกลับด้วยการยิงปราณกระบี่เพียงครั้งเดียว
จากนั้นอาจารย์สามก็ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างและอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “เจ้า..เจ้าเป็นเซียนสวรรค์”
ทันทีที่ทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ตกตะลึงด้วยความหวาดกลัว ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“ข้าจะนับถึงสาม ถ้าข้าไม่เห็นคนที่เจ้าจับไป อย่าคิดว่าจะหลบหนีไปแล้วจะรอดชีวิต” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเยือกเย็นโดยไม่มีความอดทนอีกต่อไป
“ปปป….ไปนำเด็กคนนั้นออกมาเร็ว” คราวนี้ เสียงของอาจารย์สามไม่มั่นคงเหมือนเมื่อก่อน เขาตะโกนออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
แม้แต่คนอื่น ๆ จากนิกายหยางจิก็ไม่เคยมีความองอาจเหมือนเมื่อก่อน เมื่อผู้ชายหลายคนมองเจี้ยนเฉินด้วยความหวาดกลัว พวกเขากุลีกุจอรีบไปหาคนที่เขากำลังตามหา
เด็กหนุ่มร่างโชกเลือดถูกนำตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ผมของเขารุ่ยร่ายและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลจากแส้ แม้แต่เสื้อผ้าของเขาก็เกือบจะฉีกขาด
เมื่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉินเห็นร่างที่เปื้อนเลือด นางก็ส่งเสียงร้องสยองขวัญและพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างกล้าหาญและส่งเสียงร้องว่า “ซานของข้า ! ลูกชายที่รักของข้า ทำไมเจ้ามีสภาพเช่นนี้ ! โอ้ ลูกที่น่าสงสารของข้า..! “
อาจารย์สามหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของเด็กคนนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าของโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งจะรู้จักเซียนสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงลงโทษเขาอย่างไม่สนใจใยดี แต่ตอนนี้เด็กคนนี้อยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาก็ประหม่าและรอดูว่าเจี้ยนเฉินจะโกรธหรือไม่
นิกายหยางจิปล่อยเด็กหนุ่มไป และด้วยความกลัวพวกเขาหันไปมองเจี้ยนเฉินก่อนที่จะเดินกลับไปอย่างเงียบ ๆ
ใบหน้าที่มืดมนของเจี้ยนเฉินมองดูสภาพของเด็กหนุ่มและก้มตัวลงมองดูบาดแผลของเขา ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็ได้ระเบิดออกจากเจี้ยนเฉินและทำให้ทั่วทั้งลานเต็มไปด้วยแสงจ้า
ดวงตาของเจี้ยนเฉินแข็งทื่อเพราะความตั้งใจในการฆ่าของเขาพุ่งสูงขึ้น “นิกายหยางจิ ข้า เจี้ยนเฉินจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน”