ซือหยูสูดหายใจเข้าลึก
นี่เป็นอสูรงั้นรึ? มันต่างจากคนที่บ่มเพาะวิชาอสูรแบบพลิกฝ่ามือ!
ซือหยูหันไปเจอกับเนตรสีม่วงของชายแก่ที่ตอนนี้ร่างกายมีเกล็ด ดวงตาของเขาปะทุไปมาราวกับสายฟ้า เขามองซือหยูกับราชาปีศาจไม่ละสายตา ซือหยูตัวสั่นเมื่อเห็นดวงตานั้น เขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย
จากนั้นพลังวิญญาณและพลังชีวิตทั้งหมดของซือหยูจึงติดขัด เขาใช้พลังไม่ได้เลย เช่นเดียวกับราชาปีศาจที่มีความกลัวเขียนอยู่บนใบหน้า ราชาปีศาจเองก็ใช้พลังไม่ได้เช่นกัน
“อสูรตื่นแล้ว! ไอ้แก่บัดซบนั่นปลดปล่อยอสูรออกจากดวงวิญญาณก่อนตาย”
ราชาปีศาจเสียงสั่น
“ฮ่าๆๆๆๆ!…”
ชายแก่ที่มีเกล็ดทมิฬเริ่มหัวเราะ เสียงหัวเราะนั้นดูชั่วร้ายไม่น่าฟังไม่อย่างยิ่ง
“ข้าควรจะขอบคุณเพราะพวกเจ้าทำให้ไอ้แก่นั่นปลดปล่อยข้าออกมาก่อนมันตาย และเพราะเสี้ยววิญญาณที่กระจัดกระจายของมันรวมตัวกัน ข้าเลยมีรูปลักษณ์อยู่บนโลกนี้ได้”
เสียงของอสูรแหบพร่า ดวงตาชั่วร้ายสีม่วงเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง
ราชาปีศาจจ้องไม่ละสายตา
“ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าไม่ปล่อยพวกข้าไปเล่า? ฆ่าพวกข้าไปเจ้าก็ไม่ได้สิ่งใดอยู่ดี”
อสูรหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“เจ้าที่เป็นคนตระกูลกุยไม่รู้รึว่าเผ่าพันธุ์อสูรจะแข็งแกร่งขึ้นจากการกลืนกินคนอื่นน่ะ?”
“เจ้าจะกลายเป็นอาหารแรกของข้าหลังจากที่ข้าตื่น จงภูมิใจซะเถอะ”
อสูรหัวเราะอย่างเยือกเย็น
กลืนกินเพื่อเพิ่มพลังรึ?
ซือหยูใจหาย เขายิ้มอย่างขมขื่น ในทีแรก หุ่นเชิดสีเงินไล่ล่าเขา และตอนนี้กลับเป็นอสูร! เขารำคาญกับเหล่าภัยร้ายที่หล่นทับใส่เขาไม่ขาดสาย
แต่ซือหยูไม่คิดจะยอมแพ้ เขาบินหนีไปหลายลี้ในพริบตาเดียว
อย่างไรก็ตาม อสูรเพียงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เกล็ดทมิฬหลุดลอยออกจากร่างและพุ่งเข้าใส่ซือหยูกับราชาปีศาจ เกล็ดเหล่านั้นเคลื่อนที่ไปได้หลายลี้ในทันที มันจะไปถึงแผ่นหลังของซือหยูในอีกไม่นาน
ซือหยูใจเต้นแรง เขารีบอัดพลังชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายลงในลำดับห้าธาตุอย่างบ้าคลั่ง แสงห้าสีได้ระเบิดออกเป็นลำแสงอันตระการตาอีกครั้ง
แต่ซือหยูกลับเห็นว่าลำดับห้าธาตุมิอาจต้านทานการโจมตีนี้ได้เลย ม่านแสงระเบิดเป็นเสี่ยงๆ! เกล็ดทมิฬพุ่งเข้าใส่อกของซือหยู
แต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่คาด เกล็ดนั้นติดกับตัวซือหยูและเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ไม่นานร่างของซือหยูเต็มไปด้วยเกล็ด!
ยิ่งไปกว่านั้น ฐานพลังและเลือดเนื้อของซือหยูกำลังถูกเกล็ดเหล่านี้ดูดซับเข้าไป เกล็ดดูดพลังของซือหยูราวกับหนอนปรสิต เพียงมองดูเขาก็ขนลุก
ซือหยูตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อสัมผัสได้ว่าฐานพลังกับเลือดเนื้อของตัวเองกำลังถูกดูดกลืนอย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดอะไรอีกแล้ว สายฟ้าฉาบทั่วร่าง เขากลายเป็นสายฟ้ายักย้ายตัวเองออกไป เขาใช้เลี่ยงสายฟ้า!
เมื่อสายฟ้าปรากฏ เหล่าเกล็ดทมิฬก็ราวกับได้เจอปรปักษ์ พวกมันหนีจากซือหยู แต่เกล็ดเดียวที่ออกมาจากร่างของอสูรนั้นยังติดอยู่ในร่างซือหยู มันยังดูดซับฐานพลังและเลือดเนื้อซือหยูไม่หยุด!
ซือหยูใจหายเมื่อพบว่าเขายักย้ายตัวเองไม่ได้ไกลนักแม้ว่าเลี่ยงสายฟ้าจะทำให้เขายักย้ายตัวเองไปได้เป็นแสนลี้ก็ตาม! พลังอสูรได้ทำให้เขาพลังลดน้อยลงไปมาก
เขามองราชาปีศาจและพบว่าราชาปีศาจตัวสูงกว่าเดิมมาก เขาทั้งตกใจและโกรธแค้น เขาพยายามจะกำจัดเกล็ดออกจากร่างกาย
แต่เกล็ดเหล่านี้ยึดติดกับร่างของเขาแน่นและกลืนกินเขาไม่หยุดหย่อน ร่างที่สูงตระหง่านเริ่มเหี่ยวแห้งลง แค่เกล็ดเดียวก็ทำให้ทั้งซือหยูกับราชาปีศาจทำอะไรไม่ได้แล้ว
อสูรตะคอกขึ้นมา
“เจ้ายังคิดจะหนีอีกรึ? สายไปแล้ว”
ร่างอสูรสั่น เกล็ดสิบเกล็ดหลุดออกมาและพุ่งเป็นสายไปไกล
ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า ร่างนั้นสวมชุดสีเงินและหล่อเหลา เป็นใครไปไม่ได้นอกจากหุ่นเชิดสีเงิน!
มือของมันกำลังจับร่างเทียมของซือหยูเอาไว้ มันจับตำแหน่งของซือหยูโดยใช้ร่างเทียม หมายความว่ามันอาจจะมาถึงที่นี่แล้วในตอนที่ซือหยูสู้กับชายแก่ก่อนตาย! แต่ไม่มีใครรับรู้ถึงมันที่ซ่อนตัวอยู่เลย
หุ่นเชิดสีเงินไม่ได้ยิ้มอย่างเยือกเย็นเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว มันเผยใบหน้ากังวลออกมาเป็นครั้งแรก มันถอยกลับและรีบบินขึ้นสู่ภายนอก มันบินไปยังรอยเปิดที่จะนำพาไปจิวโจว
มันเลือกที่จะทิ้งซือหยูและหนี แต่เกล็ดทั้งสิบนั้นเร็วกว่าที่มันคิด มันถูกเกล็ดปกคลุมก่อนที่จะถึงทางออก
ในตอนนั้นหุ่นเชิดสีเงินเป็นผู้ที่เสียฐานพลังไปมากที่สุด มันที่เคยมีพลังใกล้เคียงจ้าวเทวะกลับมีพลังเหลืออยู่ในขอบเขตภูติระดับกลาง
หุ่นเชิดสีเงินหวาดกลัวมาก มันตะโกนเสียงแหลม
“ไม่มีเรื่องบาดหมางระหว่างเจ้ากับข้า เจ้าจะฆ่าข้าไปทำไม?”
ความตื่นตระหนกและความกลัวฉาบแววตาเมื่อจู่ๆอสูรได้ปรากฏตัว!
มันตะโกนพร้อมกับด้ายโลหิตที่พุ่งปกคลุมท้องนภา มันเข้าปะทะกับเกล็ดทั้งสิบ แต่กลับมีหนวดนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากเกล็ดทั้งสิบและเจาะผ่านรูขุมขนของหุ่นเชิดสีเงิน มันกลืนกินหุ่นเชิดต่อไป
ด้ายโลหิตในร่างกายระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟ ทะเลโลหิตที่ปกคลุมท้องนภาพุ่งทะยานไปหาทางออก
ท้องนภาย้อมไปด้วยเกล็ดทมิฬและด้ายโลหิตไปครู่หนึ่ง เมื่อเกล็ดทั้งสิบถูกสลัดออกมันก็กลับไปยังร่างของอสูร
อสูรยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ฮื่ม! เป็นแค่หุ่นเชิดแค่กล้าหนีออกจากมือข้าเรอะ?”
ร่างของอสูรหายลับไป
ไม่พบตัวของหุ่นเชิดสีเงินเพราะมันซ่อนตัวอยู่ในทะเลด้ายโลหิตที่พุ่งไปยังทางออก มันใช้พลังทั้งหมดที่มีในการหนีออกไปยังจิวโจว
แต่ลำแสงทมิฬกลับแล่นผ่านเข้ามา อสูรยืนมือไพล่หลังขวางทางออกเอาไว้ หุ่นเชิดสีเงินตกตะลึง แต่มันก็กัดฟันและควบคุมทะเลโลหิตต่อไปเพราะมันในตอนนี้อยู่ใกล้กับทางออกอย่างมาก
อสูรตะคอกอย่างเยือกเย็น
“เจ้ารู้จักแต่กระบวนท่าที่น่าเวทนานั่นรึ?
อสูรยื่นมือไปหาทะเลด้ายโลหิตและกำมือ ทะเลโลหิตที่ย้อมนภาราวกับถูกมือยักษ์ที่มองไม่เห็นกำเอาไว้ ด้ายโลหิตเหล่านั้นเริ่มถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือยักษ์
ทะเลโลหิตหายไปในไม่นานเหลือแค่เพียงหุ่นเชิดสีเงินที่อยู่ในมือยักษ์ ดวงตาของหุ่นเชิดสีเงินทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว
ซือหยูมองสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับขนลุก เขาตกใจที่สิ่งที่แข็งแกร่งอย่างหุ่นเชิดสีเงินพ่ายแพ้อย่างง่ายดายจากอสูรตนนี้! เขาใจหายหนักยิ่งกว่าเดิม
ฟึ่บ!
ลำแสงแล่นผ่านพร้อมกับอสูรที่ถือหุ่นเชิดสีเงินราวกับกำลังจับคนอ่อนแอกลับมายังที่เดิม
เขาจับตัวหุ่นเชิดเอาไว้และพยักหน้า
“พลังเจ้านับว่าใช้ได้ ถึงการดูดซับพลังของเจ้าจะด้อยไปมาก ข้าก็ยังพอที่จะใช้มันได้”
หุ่นเชิดสีเงินหวาดกลัวมาก มันอาจจะตอบโต้ขัดขืน แต่มันก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย
หุ่นเชิดสีเงินราวกับของเล่นต่อหน้าอสูรตนนี้ มันสู้กลับไม่ได้เลย หุ่นเชิดสีเงินทั้งโศกเศร้า ตกใจ และสำนึกผิด
หุ่นเชิดสีเงินในก่อนหน้านี้มีโอกาสมากมายให้หลบหนีแต่มันก็ยังดื้อดึงที่จะไล่ล่าสังหารซือหยู นั่นทำให้มันต้องพบเจอกับอสูรที่น่ากลัวกว่าตัวมันเอง! แม้แต่สติของมันเองก็อาจจะถูกอสูรพัดพาหายไป!
แต่อสูรก็ไม่ได้กลืนกินหุ่นเชิดในทันที มันกลับหันมามองซือหยูกับราชาปีศาจด้วยสายตาเย็นชา
ร่างสูงตระหง่านของราชาปีศาจในตอนนี้เหลือเพียงกองกระดูก พลังของเขาอ่อนแอจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ ส่วนซือหยูนั้นมีเพียงเกล็ดเดียวที่ติดอยู่กับตัวและใช้สายฟ้าปกคลุมเอาไว้ เขาจึงไม่ได้บาดเจ็บมากนัก
“ข้าจะจัดการเจ้าก่อนทรมานหุ่นเชิดนี่!”
อสูรเหวี่ยงมือไปทางราชาปีศาจ
ปั้ง!
เสียงดังก้อง ราชาปีศาจกรีดร้องเมื่อเลือดเนื้อของตัวเองกระจัดกระจายไปทั่ว ราชาปีศาจตายแล้ว!
เหล่าเกล็ดที่ปกคลุมอสูรพุ่งเข้าใส่เลือดเนื้อที่กระจัดกระจายอย่างบ้าคลั่ง มันกลืนกินซากราชาปีศาจจนเกลี้ยงและกลับมาที่ร่างของอสูร พลังของอสูรเพิ่มขึ้นมาทันที
“ต่อไปก็เจ้า”
อสูรจ้องมองซือหยูและยกมือไปทางซือหยู
ซือหยูรู้สึกถึงร่างกายที่ทรมานและแรงกดดันมหาศาลที่กำลังจะทำให้เขาระเบิด หัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัสได้ว่าความตายกำลังใกล้เข้ามา
เขาตะโกนเรียกกระบี่สายฟ้าออกมา กระบี่สายฟ้ากลายเป็นสายฟ้าโค้งจู่โจมเกล็ดที่เหลือบนร่างซือหยู
กระบี่สายฟ้ามีพลังสายฟ้ามหาศาลที่เทียบไม่ได้เลยกับที่ซือหยูบ่มเพาะมา เกล็ดทมิฬที่เจอกับสายฟ้าทรงพลังหลุดร่วงจากร่างกายจากนั้นจึงหมดพลังนิ่งลงกับพื้น ราวกับว่ามันเป็นเกล็ดที่มีชีวิตและเพิ่งจะตายไป!
ซือหยูฟันกระบี่และถอยหนีหลังจากที่กำจัดเกล็ดออกได้ เขาหนีจากแรงกดดันมหาศาลได้ทัน!
อสูรยิ้มอย่างเยือกเย็น
“สมบัติอัสนีกึ่งวิญญาณ! ปรปักษ์ต่ออสูร! แต่ก็อ่อนแอเกินไป!”
มันพูดพร้อมกับยกมือขึ้น กระบี่สายฟ้าที่อยู่ในมือซือหยูถูกดึงไปที่ฝ่ามือของอสูรในทันที!
เสียงสายฟ้าลั่นดังจากภายในกระบี่สายฟ้าเมื่อสัมผัสกับเกล็ดอสูร พลังอสูรทมิฬพวยพุ่งออกมา! อสูรยิ้มและกำหมัดแน่น…
ปั้ง!
กระบี่สายฟ้าระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ซือหยูหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นกระบี่สายฟ้าถูกทำลาย
“เจ้ามีสมบัติสายฟ้าอื่นอีกหรือไม่? ไม่เอามาใช้กับข้าให้หมดจะดีรึ?”
อสูรยกมือขึ้นอีกครั้งและฟันไปทางซือหยู
ซือหยูใจเย็นอย่างน่าประหลาดในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อยอมรับในโชคชะตา เขาเพียงตอบอย่างเยือกเย็น
“มันยังไม่จบหรอก จงเปิดออกมา ภาพทัณฑ์ภูติสุริยา!”
ซือหยูตะโกนพร้อมกับผสานมือ เขาขยับมือไปมา แต่กระนั้นก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
อสูรขมวดคิ้วเล็กน้อย มันสับสนในท่าทางของซือหยู แต่ในตอนนั้นเองมังก็ก้มลงมองที่ใต้เท้าของตัวเองและพบว่ามีบางอย่างอยู่ในซากปรักหักพังที่ซ่อนเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ!
มีม้วนคัมภีร์สีดำพุ่งออกมาจากพื้นใต้ดิน ม้วนคัมภีร์ค่อยๆเริ่มคลายออก…