พินอินตื่นมาก็เห็นไกรภพนอนอยู่ข้างกายเธอ ทั้งยังเอามือข้างหนึ่งโอบเอวเธอด้วย ช่างชิดใกล้ดีแท้
พินอินขยับกาย ความเจ็บระบมทั่วร่างก็ผุดขึ้นมา เธอรู้ว่าเป็นอาการหลังจากร่วมหลับนอนกับผู้ชาย ทว่าเธอครุ่นคิดโดยละเอียดแล้ว ภาพในสมองการเผด็จศึกบนเตียงกับไกรภพนั้นว่างเปล่า
ไม่ใช่มั้ง ทำไมเธอจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ?
ไกรภพก็ตื่นพอดี พินอินรีบถามเขาว่า“ทำไมฉันถึงจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยล่ะ?”
ทันใดนั้นใบหน้าไกรภพเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ“พินอิน คุณพูดแบบนี้ผมเสียใจนะ ผมทุ่มเทมาก คุณก็ส่งเสียงครางอย่างชอบใจและเพลิดเพลินมากด้วย ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าจำอะไรไม่ได้ล่ะ?”
อาจเป็นเพราะไกรภพแสดงสีหน้าเด่นชัดมาก พินอินจึงรู้สึกผิดในบัดดล
เธอพูดหน้าเจื่อนว่า“อาจ……อาจเป็นเพราะความจำฉันไม่ดีมั้ง”
เธอพยายามระลึกเหตุการณ์ คล้ายกับว่ามีคนโอบเอวเธอแล้วเขย่าแรง ๆ
ใบหน้าไกรภพจึงดีขึ้นหลายส่วน เขาลุกขึ้นใส่เสื้อ พินอินเห็นแผ่นหลังเขามีรอยเล็บข่วนสีแดง ทันใดนั้นก็ไม่สงสัยอะไรเลยเ รู้ว่าต้องเป็นฝีมือเธอแน่
ไกรภพใส่เสื้อเสร็จพลันยื่นมือถือของเธอให้เธอ“ตอนคุณหลับพี่ชายคุณโทรมา คุณตื่นแล้วก็โทรกลับหาเขาหน่อยเถอะ”
ไกรภพไม่บอกว่าเขากับเทาเท่คุยอะไรกันในสายบ้าง ยิ่งไม่พูดถึงเรื่องที่เขาโมโหเทาเท่จนปล่อยระเบิดอารมณ์แบบไม่ยั้ง
ทว่าตอนที่พินอินรับมือถือเขาเอ่ยหนึ่งประโยคอย่างเศร้าสลด“พี่ชายคุณไม่ค่อยชอบผมมากนัก เดี๋ยวคุณคุยกับเขาก็อย่าทะเลาะกับเขานะ เพราะยังไงเขาก็เป็นพี่ชายคุณ”
พินอินมีอคติต่อเทาเท่อยู่แล้ว เมื่อไกรภพพูดยั่วยุเช่นนี้ก็รู้สึกเดือดดาล
“เขาทำอะไรกับคุณหรือเปล่า? เขาด่าคุณหรือเหยียบหยามคุณหรือไม่?”พินอินพูดแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างโกรธเคือง “เขาเหิมเกิรมเพราะเป็นผู้กุมอำนาจของตระกูลฟอเรนา ชอบยุ่งแต่เรื่องของฉัน คิดว่าตัวเองเป็นลูกพี่ใหญ่”
พินอินพูดไปพลาง โทรหาเทาเท่ไปพลาง เธอนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งวางไว้ที่เอว ท่าทางราวกับจะทะเลาะวิวาทกับเทาเท่ยกใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
ไกรภพยืนมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ในใจรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น
พี่ชายกับน้องสาวแตกคอกัน เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก แล้วเขาจะไม่ดีใจได้หรือไร?
ทว่าเมื่อเบอร์ของเทาเท่รับสาย กลับเป็นเสียงกดต่ำของหลินจือ ทั้งยังเจือความเย็นชาที่ทำให้พินอินรู้สึกเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง “พี่ชายเธอหลับแล้ว มีธุระอะไรหรือเปล่า?”
เดิมทีพินอินเกลียดหลินจือเข้ากระดูก ตอนนี้กำลังโกรธอยู่ จึงตะโกนด่าหลินจือทันที “เธอเป็นใครมาจากไหน?มีสิทธิ์อะไรมารับสายแทนพี่ชายของฉัน?”
หลินจือในสายเงียบงัน จากนั้นก็กล่าวเสียงดุดันทีละคำว่า“พินอิน เธอตาย ฉันก็ไม่มีทางเสียน้ำตาเด็ดขาด”
จากนั้นเธอก็วางสาย พินอินโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม
เธอไม่พอใจที่โดนหลินจือด่าแช่งแบบนี้ โทรกลับไปใหม่อีกครั้ง ทว่าหลินจือกลับปิดเครื่อง พินอินที่ไม่ได้ระบายอารมณ์เกรี้ยวโกรธ จึงเขวี้ยงมือถือทิ้งทันที
“นังสารเลว นังสาระเลว” พินอินก่นด่าหลินจือด้วยความโมโหอย่างยิ่งยวด
หลินจือแช่งให้เธอตาย มันรังแกเกินไปแล้ว
แต่เธอจะรู้ได้อย่างไร ตอนนี้เธออยู่กับปีศาจร้ายที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา เธอจึงสามารถจบชีวิตได้ทุกเมื่อ อันที่จริงหลินจือไม่ได้สาปแช่งเธอ แต่โกรธที่เธอทำตัวไม่ดี จึงได้พูดความจริงออกมา และถือว่าเป็นการตักเตือนอีกด้วย
แต่เสียดายที่พินอินฟังคำตักเตือนของหลินจือไม่ออก ทางกลับกันยังคิดว่าหลินจือพูดจากเชิงรังแกเธอ
ไกรภพเดินเข้าไปหยิบมือถือขึ้นมาอย่างเหลืออด เดินเข้าไปปลอบใจเธอเสียงอ่อนโยน “ทำไมโมโหหนักขนาดนี้?ปามือถือตัวเองพังแล้วจะคุ้มไหม?”
พินอินตวาดเสียงพูดว่า“ฉันเกลียดมันมาก ทำไมมันไม่ไปตายซะที”
ไกรภพยกมือโอบเอวเธอไว้“เด็กดีไม่โกรธนะ ผมทำอาหารอร่อย ๆ ไว้ พวกเราไปกินกันเถอะ”
ไกรภพกล่อมเสียงอ่อนนุ่ม พินอินจึงอารมณ์ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับพินอิน แต่หากใครใช้ไม้แข็งกับเธอ เธอก็ยิ่งไม่ยอม ยิ่งปะทะกับคนนั้น อย่างเช่นพี่ชายอย่างเทาเท่เป็นต้น
หลังจากหลินจือกลับจากต่างประเทศ เทาเท่ก็คุยกับน้องสาวอย่างเธอด้วยท่าทางย่ำแย่ ถ้าไม่ใช่พูดกระทบกระทั่งก็ชอบใช้อำนาจกดขี่เธอ พินอินโกรธจะตายอยู่แล้ว จะให้เชื่อฟังคำพูดของเทาเท่ได้อย่างไร
ตอนนี้สมองของเธอมีแต่ความคิดว่าจะทำอย่างไรให้เทาเท่กับหลินจือโกรธจนตาย พวกเขายิ่งให้เธอทำอะไร เธอยิ่งไม่ทำอย่างนั้น
ตอนพินอินโทรมา เทาเท่ก็หลับแล้ว ตั้งแต่เขารู้สึกปวดหัวกะทันหัน หลินจือก็ค่อยเฝ้าสังเกตให้เขานอนพักผ่อนเยอะ ๆ ต้องนอนกลางวันด้วย และตอนกลางคืนก็ต้องนอนเร็ว ๆ
เดิมทีเห็นว่าเป็นสายจากพินอิน หลินจือก็ไม่อยากรับ
แต่หลินจือนึกได้ว่าตอนนี้พินอินอยู่กับจอมมารอย่างไกรภพ จึงอาจจะโทรมาเพราะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้ หากขอความช่วยเหลือ แล้วเธอไม่รับสาย มันไม่เท่ากับเธอทำร้ายพินอินหรอกเหรอ?
ดังนั้นเธอลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็เอาออกไปรับสายนอกห้องคนไข้ ใครจะไปรู้ว่าพินอินเอะอะก็เอาแต่ด่าทอ หลินจือที่เป็นห่วงพินอินก็รู้สึกเสียความรู้สึกทันที
เธอไม่ควรสงสารอะไรพินอินทั้งนั้น เพราะพินอินไม่คู่ควรเลยสักนิด
ครั้งนี้ถือพินอินจะเสียชีวิตก็เป็นเพราะเธอแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง
ดังนั้นเมื่อความกริ้วโกรธครอบงำจิตใจของหลินจือ เธอจึงพูดคำแรง ๆ กับพินอิน เธอหวังว่าคำนี้จะทำให้พินอินมีสติ ทว่าเธอก็คิดอย่างสิ้นหวังว่า ซูซียังหลงไกรภพหัวปักหัวปำเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพินอินคนนี้?
ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาให้พินอินเอาตัวรอดให้ได้
คุณท่านโอธนินพร้อมพ่อบ้านมาถึงก็เห็นหลินจือยืนอยู่หน้าระเบียงห้องของเทาเท่ด้วยดวงตาแดงก่ำ
คุณท่านมองปราดเดียวก็ดูออกว่าเธอมีความเศร้า รีบเข้าไปถามว่า“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมถึงอยู่ข้างนอกคนเดียว?”
หลินจือเห็นคุณท่านโอธนินก็รีบเก็บอารมณ์ไร้ที่พึ่งพวกนั้น “หนูไม่เป็นอะไรค่ะคุณปู่ ทำไมถึงมาเหรอคะ?”
คุณท่านกล่าวเสียงเคร่งขรึม“พ่อของเทาเท่ก็เกิดเรื่องนิดหน่อย ปู่จะมาหารือกับเขาหน่อย”
ทว่าต่อมาคุณท่านก็กล่าวว่า“เทาเท่หลับแล้วเหรอ?”
มิฉะนั้นเธอคงไม่แอบมาเสียใจข้างนอกคนเดียวหรอก
หลินจือพยักหน้า“ใช่ค่ะ พึ่งนอน”
ดังนั้นคุณท่านจึงกล่าวว่า“งั้นพวกเรายังไม่ต้องรบกวนเขา ไปกันเถอะ พวกเราไปคุยกันในห้องทำงานของเด็กตระกูลเสนาธี”
“ค่ะ” หลินจือตกปากรับคำ จากนั้นก็ไปยังห้องทำงานของหมอไวท์
คุณท่านถามก่อนว่าทำไมเมื่อกี้หลินจือจึงหลบมารับสายด้านนอก หลินจือจึงได้แต่บอกเรื่องที่พินอินโทรมาให้ทราบ
คุณท่านจึงกระทุ้งไม้เท้าบนพื้นดังตึง ๆ “ตอนแรกปู่คิดว่าต้องหาทางช่วยเธอออกมาให้ได้ ตอนนี้ดูจากนิสัยเธอแล้ว ถึงตายก็สมควรแล้ว”
คุณท่านก็โกรธพินอินจึงลั่นวาจาดุร้ายออกมา