ตอนที่ 1960

 

“กลืนกิน!”

 

เซียปิงก็ไม่ได้ลังเล ทันใดนั้นก็ทําการกลั่นกรองและดูดกลืนเมล็ดเดม่อนนี้อักขระแห่งความมืดมิดจํานวนนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้าไปในส่วนลึกของจิตใต้สํานึกทันทีนี่คือประสบการณ์การบ่มเพาะทั้งชีวิตของเดม่อนหัวใจสวรรค์ครอบครองกฎที่ลึกลับต่างๆของโลกอบิสนี่คือปริศนาของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเดม่อนหัวใจสวรรค์ล้ําลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้

 

เขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้เกิดใหม่กลายเป็นเดม่อนหัวใจสวรรค์มีประสบการณ์ทุกอย่างของเดม่อนหัวใจสวรรค์มีความเชี่ยวชาญในทักษะต่างๆของมันอีกทั้งการควบคุมจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เหมือนจะบรรลุในระดับใหม่

 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดส่วนลึกของทะเลจิตใต้สํานึกก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาพลังงานวิญญาณนับไม่ถ้วนเข้ามารวมตัวกัน เมล็ดเดม่อนนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นตราบางอย่าง

 

ตรานี้ก็มีอักขระจําานวนนับไม่ถ้วนที่จารึกอยู่รอบๆ เหมือนว่าจะแอบแฝงไปด้วยลายลักษณ์อักษรของความมีดมิดแผ่ออร่าที่ลึกลับและไม่อาจเอื้อมออกมาราวกับเป็นหลุมด่าก็ว่าได้กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง

 

“ตราเดม่อนหัวใจ!”

 

เซียปิงก็รู้ทันทีว่าหลังจากที่ตนเองได้ดูดกลืนแหล่งพลังงานของเดม่อนหัวใจสวรรค์มาเขาก็ได้ครอบครองความสามารถศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งนี้ก็คือตราเดม่อนหัวใจที่มีชื่อเสียงเลื่องลือของโลกอบิสนั้นเอง

 

หลังจากที่ตราแห่งความมืดนี้ควบแน่นขึ้นมาสําเร็จเขาก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสิ่งต่างๆรอบตัวทั้งหมดและอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนผ่านทางตรานี้สัมผัสได้ถึงความโมโหความสุขความโศกเศร้าและความทุกข์ของพวกมัน

 

นี่ก็เป็นหนึ่งในพลังอํานาจของเดม่อนหัวใจสวรรค์สามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตได้ตั้งแต่กําเนิดอาจกล่าวได้ว่านี่เป็นความสามารถที่ทรงอํานาจยิ่งกว่าการอ่านจิตใจของพระพุทธศาสนาเสียอีก

 

“ช่างมหัศจรรย์จริงๆ”

 

จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเชียปิงก็แผ่เข้าไปในพื้นที่ของลูกปัดพิภพ เขาสัมผัสได้ถึงพื้นที่อันกว้างใหญ่ของลูกปัดพิภพมีสิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ มีสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญมีสัตว์ป่ามีต้นไม้หญ้าสวนสมุนไพรวิญญาณและอื่นๆ

 

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็มีหลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความสุขความโมโหความเบื่อหน่ายความสับสนความหดหูและอารมณ์อื่นๆเขาสามารถสัมผัสอารมณ์เหล่านี้ได้อย่างชัดเจนรับรู้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งของอีกฝ่ายได้

 

อีกทั้งอารมณ์เหล่านี้ก็เหมือนจะมีสีเป็นของตนเองเช่นกัน เป็นสีสันที่งดงาม

 

ผู้คนปกติธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้ทว่าหลังจากที่ครอบครองตราหัวใจเดม่อนมาเขากลับมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนเหมือนว่ามุมมองต่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงบางทีนี่อาจจะเป็นโลกที่เดม่อนหัวใจสวรรค์มองเห็นมาตลอด

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าทักษะภาพลวงตาเสมือนจริงของเขาได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่ราวกับว่าตราเดม่อนหัวใจนี้มีส่วนช่วยเสริมสร้างทักษะภาพลวงตาได้อย่างมากท่าให้มันทรงพลังมากขึ้นขั้นสมบูรณ์!

 

เซียปิงก็ล่วงรู้ในทันทีว่าทักษะทักษะภาพลวงตาเสมือนจริงระดับแรกของเขาได้รับการพัฒนาจากขั้นสูงขึ้นไปสู่ขั้นสมบูรณ์ในที่สุดก็พัฒนาขึ้นมาจนอยู่ในจุดที่ไม่สามารถจินตนาการได้กลายเป็นปรมาจารย์ด้านทักษะภาพลวงตาที่แท้จริง

 

นี่ก็เป็นระดับสูงสุดของทักษะภาพลวงตาที่สิ่งมีชีวิตสามารถบรรลุได้นี่คือระดับที่ผู้ใช้ภาพลวงตาทุกๆคนต่างก็ใฝ่ฝัน

 

เมื่อบรรลุขั้นสมบูรณ์นี้ ภายใต้ความคิดของเขา ทันใดนั้นจะสามารถสร้างโลกแห่งภาพลวงตาขึ้นมาได้นี่คือโลกแห่งภาพลวงตาที่ดูสมจริงอย่างที่สุดแทบที่จะไม่มีช่องโหว่ใดๆ

 

โลกนี้จะมีประวัติศาสตร์ของตนเอง สิ่งมีชีวิตแต่ละประเภทจะมีเส้นทางการเติบโตมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนต่อกันอีกทั้งสิ่งมีชีวิตภาพลวงตาก็จะมีสติสัมปชัญญะเป็นของตนเองสามารถพูดคุยกันได้อย่างอิสระมีอารมณ์เป็นของตนเองไม่ว่าจะเป็นความสุข ความโมโหความโศกเศร้านราวกับเป็นโลกแห่งความจริงก็ว่าได้

 

ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้ครอบครองตราเดม่อนหัวใจมา เขาก็ไม่สามารถสร้างโลกแห่งภาพลวงตาที่สมจริงเช่นนี้ได้

 

ทว่าเมื่อได้ครอบครองตราเดม่อนหัวใจมา หลังจากที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเขาก็สามารถบรรลุระดับนี้ได้ในทันทีสร้างสถานการณ์ที่ซับซ้อนให้กับสิ่งมีชีวิตลวงตาจํานวนนับไม่ถ้วนได้

 

นี่ดูเหมือนกับเป็นการที่เขาจุติกลายเป็นเดม่อนหัวใจสวรรค์ นี่คือพลังอํานาจของสัญชาตญาณเป็นการเรียนรู้ความรู้แขนงใหม่ได้ด้วยตนเองโดยไม่มีอาจารย์คอยสอนชี้แนะ

 

“หนึ่งความคิด หนึ่งโลก!”

 

เซียปิงก็เคลื่อนไหวความคิด ทันใดนั้นก็มีคลื่นผันผวนที่ไร้เสียงไร้ร่องรอยครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ในระยะหนึ่งพันล้านกิโลเมตร ทันใดนั้นโลกที่เสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นมาในทวีปเดม่อนผืนนี้

 

ในพื้นที่บริเวณนี้ เหมือนว่าจะปรากฏโลกมนุษย์ขึ้นมามีอาณาจักรของมนุษย์มากกว่าสิบแห่งแต่ละอาณาจักรต่างก็มีประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไปวัฒนธรรมก็แตกต่างกันอีกทั้งยังเกิดสงครามขึ้นมาเป็นครั้งคราว

 

สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตในโลกนี้ก็เหมือนว่าจะมีกิจวัตรประจําวันเป็นของตนเองมีสถานที่ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นท้องถนนบ้านพักตลาดพระราชวังทุกสิ่งทุกอย่างดูสมจริงมากและมีชีวิตชีวามากราวกับเป็นตัวตนที่มีอยู่จริงๆทุกๆคนมีบุคลิกเป็นของตนเอง

 

อีกทั้งก็ยังสามารถได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาจากท้องถนนเสียงของประตูบ้านที่เปิดตลอดเวลาเสียงเดินของผู้คนรวมถึงเสียงอื่นๆที่เหมือนกับธรรมชาติ

 

“เหนือจินตนาการจริงๆ”

 

เชียปิงก็ยืนอยู่บนท้องถนนไม่ได้รู้สึกถึงข้อบกพร่องใดๆก้าวเดินไปอย่างสบายๆ

ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนก็เดินผ่านไปรอบๆตัวเขามีการจราจรที่ติดขัดบางคนก็เดินไม่ระวังและชนเข้ากับตัวเขาทว่าก็ยังหันกลับมาขอโทษขอโพยบางคนก็เดินเข้ามาชนแต่กลับส่งเสียงด่าทอต่อว่าออกมา โวยวายอยู่กลางถนนโดยที่ไม่ยอมหยุดมีปากคอที่เราะร้าย

 

แม้แต่บางคนก็ออกไปแจ้งตํารวจ ต้องการที่จะให้ตํารวจออกมาจับผู้ที่สร้างความวุ่นวายผู้นี้

 

หากเขาไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างโลกนี้ขึ้นมาเอง บางทีเขาก็คงจะคิดว่านี่เป็นโลกที่แท้จริง

 

ถึงแม้ว่าโลกแห่งภาพลวงตานี้จะเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา ทว่าหลังจากที่สร้างขึ้นมาสําเร็จ มันก็เหมือนกับว่าโลกนี้จะโคจรไปด้วยตนเองไม่สามารถที่จะแทรกแซงได้ เหมือนว่าจะไหลเวียนไปด้วยกฎของมันเองนับตั้งแต่ที่ถูกสร้างขึ้นมา

 

หากกฎเหล่านี้ถูกทําลายไปทั่วทั้งโลกแห่งภาพลวงตาก็จะแหลกสลาย

 

“ลึกลับเกินไป”

 

เซียปิงก็ยิ่งคิดว่าทักษะภาพลวงตาเสมือนจริงนี้ช่างเป็นทักษะที่ลึกซึ้งล้ําลึกและไม่อาจหยั่งถึงแอบแฝงไปด้วยปริศนาและความลับมากมายดูเหมือนว่าเป็นการใช้ที่ยิ่งใหญ่โดยตรงไม่รู้ว่านี่เป็นทักษะที่ตัวตนสูงส่งในขุมนรกใดกันที่คิดค้นขึ้นมา

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นเพียงแค่ทักษะภาพลวงตาระดับแรกเท่านั้นหากบรรลุถึงระดับที่สองหรือแม้กระทั้งระดับที่สามทักษะภาพลวงตาเช่นนี้คาดการณ์ได้ว่าจะไม่ใช่ทักษะภาพลวงตาอีกทว่าจะเป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์

 

ดั้ง ดั้ง!!

 

ในตอนนี้ เสียงของระบบก็ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นดึงดูดความเกลียดชังมาจากกลุ่มของเดม่อนจํานวนมหาศาลได้ครั้งนี้ได้รับคริสตัลความเกลียดชังไปทั้งหมดหนึ่งร้อยหน่วยหวังว่าผู้เล่นจะพยายามต่อไป”

 

ในช่วงเวลานี้เซียปิงก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างกะทันหันและแยกตัวออกจากโลกแห่งภาพลวงตาเขาไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ตนเองทําลายกลุ่มของเดม่อนเหล่านั้นไปจะได้ครอบครองคริสตัลความเกลียดชังมามากมายเพียงนี้

 

หากรวมเข้ากับคริสตัลความเกลียดชังที่มีอยู่แล้วตอนนี้เขาก็จะมีคริสตัลความเกลียดชังอยู่ทั้งหมด560หน่วยการที่จะครอบครองคริสตัลความเกลียดชังหนึ่งพันหน่วยดูเหมือนว่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม

 

“เอาล่ะ ถึงเวลากลับไป”

 

เซียปิงก็ทําการคํานวณการเก็บเกี่ยวในครั้งนี้ รู้สึกว่าการที่ข้ามผ่านการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ในครั้งนี้ประสบความสําเร็จไปด้วยดีไม่ใช่แค่ผ่านการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ไปได้อย่างราบรื่นเท่านั้นทว่าก็ยังได้รับคริสตัลวิญญาณมามากมายเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

 

ในเมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว การอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ควรที่จะกลับไปทําหน้าที่ผู้สังเกตการณ์เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ผู้อาวุโสคนอื่นๆจะเป็นกังวลและคิดว่าตนเองตายไปในทวีปเดม่อนแล้ว

 

เขาก็มองโลกแห่งภาพลวงตานี้ครู่หนึ่ง เหมือนว่าจะก่อตัวกลายเป็นสสารที่แท้จริง หากปราศจากปัจจัยภายนอกที่ทําลายมันคาดการณ์ได้ว่าจะโลกแห่งภาพลวงตานี้จะคงอยู่ได้นานถึงนับแสนปีวิซ!

 

ร่างของเขาก็กะพริบหายไป ไม่ได้ทําลายโลกแห่งภาพลวงตานี้ทันใดนั้นก็บินกลับไปสู่ตําแหน่งเดิมที่จากมา

 

ทว่ารอให้เขาบินออกไปได้ระยะหนึ่งเขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าของคนกลุ่มหนึ่งก่อนที่จะหยุดลง

 

“หืม? นี่มันกลุ่มของเจียงยารุไม่ใช่รี?”

 

เซียปิงก็สังเกตเห็นยวีซีซีเจียงยารุซูจีและอู่หลงทั้งสี่คนที่ปรากฏอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งพวกเธอเหมือนจะกําลังไล่ล่าสังหารพวกเดม่อนเป็นจํานวนมาก