ตอนที่ 389

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 389: มีชีวิต!

 

เมื่ออี้เทียนหยุนเตรียมตัวเสร็จ เขาก็เดินไปตรงหน้าโครงกระดูกมังกรสวรรค์ แต่ว่าเพิ่งจะวางมือลงไป ก็พลันรู้สึกถึงแรงดูดที่น่าสะพรึงที่กำลังดูดเอาพลังวิญญาณและแกนโลหิตในร่างของเขาออกไป ถือเป็นแรงดูดที่แข็งแกร่งมาก!

 

“เคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬ!”

 

“มหาเวทดูดดาว!”

 

สองเคล็ดวิชาถูกเปิดใช้งานพร้อมกัน พริบตา แรงดูดก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า แต่ไม่คาดว่าจะยังด้อยไปกว่าแรงดูดของโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ มันพยายามดึงเอาแกนโลหิตในร่างเขาออกไป ภายใต้แรงดูดของทั้งสอง กลายเป็นว่าแรงดูดของเขาด้อยกว่าเล็กน้อย

 

“ไม่ดีแล้ว…. สวมใส่ชุดเกราะมังกรมาร!”

 

ภายใต้ชุดเกราะมังกรมาร ทำให้ในพริบตานี้ แรงดูดของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นจนน่ากลัว ในมือของเขาดูคล้ายกับหลุมดำ ก่อเกิดเป็นแรงดูดที่แข็งแกร่ง จนในที่สุดก็ทำให้โครงกระดูกมังกรสวรรค์ไม่สามารถดูดแกนโลหิตไปจากร่างของเขาได้ กลับกัน พลังงานในร่างของโครงกระดูกมังกรสวรรค์กลับถูกเขาดูดมาแทน พร้อมกับหลอมรวมเข้ากับร่างของเขา

 

ยังไงก็ตาม พลังที่ดูดมาได้นี้กลับไม่ได้เปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ แต่กลับเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับสายเลือดเทพมังกรแทน!

 

“สายเลือดเทพมังกรเพิ่มขึ้น 500 แต้ม, เพิ่มขึ้น 800 แต้ม, เพิ่มขึ้น 700 แต้ม….”

 

หากในสภาพปกติ สายเลือดเทพมังกรจำต้องใช้ค่าความคลั่งเพื่อยกระดับ แต่ตอนนี้กลับเริ่มแข็งแกร่งขึ้น เพียงแต่ว่าตัวเลขออกจะต่ำไปสักหน่อย สูงสุดก็ไม่เกินหลักร้อย แต่สายเลือดเทพมังกรชั้นที่ 4 ของเขาในปัจจุบัน จำเป็นต้องใช้ค่าความคลั่งถึง 1 ล้านแต้ม ดังนั้น การดูดกลืนจึงต้องใช้เวลาที่นานมาก

 

หากว่าโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ไม่มีพลังดูดกลืนนี้ล่ะก็ ความเร็วในการดูดของเขาแน่นอนว่าต้องเร็วยิ่งกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้สามารถดูดกลืนได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว อย่าว่าแต่พลังงานจำนวนมากที่รอให้เขาดูดออกมานี้เลย

 

สายเลือดเทพมังกรแต่ก่อนจำต้องพึ่งแต่ค่าความคลั่งเพื่อเพิ่มระดับ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าความคลั่งอะไร เพียงแค่ดูดกลืนพลังงานบริสุทธิ์ตรงหน้าก็สามารถเพิ่มขีดจำกัดให้กับสายเลือดเทพมังกรได้แล้ว นี่จึงทำให้เขารู้สึกพอใจอย่างมาก

 

หากยังสามารถดูดกลืนอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ สายเลือดเทพมังกรของเขาจะต้องยกระดับขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนที่ปลดปล่อยพลังออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องน่าสะพรึงยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน

 

“ดูเหมือนว่าการดูดกลืนพลังงานที่แตกต่าง จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน…..”

 

ก่อนหน้านี้เขาดูดกลืนพลังวิญญาณ ทำให้ได้รับเพียงค่าประสบการณ์ แต่ตอนนี้เขาดูดกลืนพลังมังกร ทำให้สายเลือดเทพมังกรของเขาเพิ่มขึ้น นี่ทำให้เขาเกิดความคิดมากมายขึ้นมา หรือว่าเจ้าสิ่งนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับสายเลือดเทพมังกร?

 

แล้วมังกรสวรรค์กับเทพมังกรใครร้ายกาจกว่ากัน? แน่นอนว่าต้องเป็นเทพมังกรอย่างไม่ต้องสงสัย หากเทพมังกรปรากฏตัว มังกรสวรรค์ตนนี้คงหงอเหมือนกับแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่ง

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง แค่สามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับสายเลือดเทพมังกรได้ แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

 

เริ่นหลงที่มองดูอยู่ใกล้ๆ ถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

“ไม่เป็นไร ยังพอทนได้ ตราบเท่าที่ยังสามารถดูดกลืนพลังอีกฝ่ายได้ถือเป็นเรื่องดี ท่านจะลองมาดูดด้วยกันไหม” อี้เทียนหยุนถาม

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกมันดูดจนแห้ง การที่คิดจะดูดพลังงานจากโครงกระดูกมังกรสวรรค์เข้าสู่ร่างถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ก่อนหน้านี้ข้าเคยลองแต่ก็เปล่าประโยชน์…. แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำได้ดี งั้นเรื่องนี้คงต้องพึ่งเจ้าแล้ว!” ในสายตาของเริ่นหลงมากไปด้วยแสงแห่งความหวัง ตราบเท่าที่ทำได้ ต่อให้จะช้าหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา

 

เขาถูกขังอยู่ที่นี่มาหลายปี ไม่รังเกียจหากจะช้าอีกแค่ไม่กี่วัน

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับดูดกลืนต่ออย่างบ้าคลั่ง ถ้าบอกว่านี่คือสมบัติ ก็ต้องบอกว่ามันยังคงห่างไกลนัก เป็นได้แค่พลังงานในร่างเท่านั้น โดยทั่วไป เมื่อผู้ฝึกตนได้รับโครงกระดูกมังกรแบบนี้มา พวกเขาสามารถนำมันไปทำเป็นวัตถุดิบปรุงยา หรือทำการดูดกลืนแกนพลังมังกรที่อยู่ด้านในโดยตรง นี่จึงจะเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มระดับของพวกเขา

 

แต่การที่เขาสามารถเพิ่มระดับให้กับสายเลือดเทพมังกรอย่างปัจจุบันนี้นั้น ถือเป็นอะไรที่มหัศจรรย์โดยแท้จริง

 

“ถ้าเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬนี้เพิ่มระดับขึ้นล่ะก็ ผลลัพธ์คงจะต่างออกไป….”

 

ชุดเกราะมังกรมารไม่สามารถเพิ่มระดับได้อีก แต่ว่าเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬนั้นสามารถยกระดับได้ แต่ว่าความชำนาญที่ต้องการกลับมากมายมหาศาล ทั้งก่อนหน้านี้มีโอกาสมากมายแต่เขาก็พลาดที่จะใช้มัน ทำให้ค่าความชำนาญที่ต้องการยังขาด ตอนนี้ดูแล้วคงได้แต่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ทีละน้อยเท่านั้น

 

ภายใต้สถานการณ์ที่คงที่อย่างตอนนี้ อี้เทียนหยุนก็ทำการดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง หลังจากดูดกลืนมาได้หลายแสน อยู่ๆ โครงกระดูกมังกรสวรรค์ก็ได้เกิดการเคลื่อนไหว ทำให้เริ่นหลงที่อยู่ใกล้ๆ ตกใจ

 

“โครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้ขยับได้ด้วย?” เริ่นหลงพูดด้วยน้ำเสียงแตกตื่น

 

“ใช่ ขยับอยู่จริงๆ” อี้เทียนหยุนแหงนหน้ามองไปยังหัวส่วนบนของโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้ ด้านรูปลักษณ์ไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่ก็เกิดการเคลื่อนไหวอยู่นิดหน่อยจริงๆ

 

แต่ในขณะที่เขาคิดว่าไม่มีอะไรอยู่นั้น โครงกระดูกมังกรสวรรค์ก็พลันเกิดเสียง “แกรก แกรก” ดังมา ตัวของมันส่งเสียงคำรามออกมาคำหนึ่งว่า “มนุษย์น่าโง่ กล้าดูดกลืนพลังของข้า ช่างรนหาที่ตาย!”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ไม่เร็วมาก แต่ก็มั่นคง จากนั้น ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันก็ค่อยๆ เร็วขึ้น

 

อี้เทียนหยุนรีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อโครงกระดูกมังกรสวรรค์ยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว โครงกระดูกทั่วร่างของมันก็ส่งเสียงแหลมออกมา ราวกับจะทะลวงเข้าไปในหู

 

“เคลื่อนไหวได้จริงๆ ด้วย หรือว่ามันจะยังไม่ตาย?” เริ่นหลงตกใจ กระทั่งอี้เทียนหยุนเองก็รู้สึกตกใจอย่างมากเช่นกัน สีหน้าตกใจของเขาเป็นหลักฐานชั้นดี

 

หลังจากที่โครงกระดูกมังกรสวรรค์ตัวนี้ลุกขึ้นมา มันก็ได้ทำการฟาดหางมังกรขนาดใหญ่ลงมาที่นี่อย่างแรง “ตู้ม” จนก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น พร้อมกับพื้นที่หางมังกรฟาดลงไปกลายเป็นหลุมใหญ่ เห็นได้ชัดว่าพลังของมังกรสวรรค์ตนนี้ร้ายกาจแค่ไหน!

 

“รีบหลบเร็ว!”

 

อี้เทียนหยุนรีบหลบ แต่เพราะว่าอยู่ใกล้เกินไป ในตาของเขามองเห็นหางที่ฟาดเข้ามาอย่างชัดเจน แต่อยู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งมาดึงร่างเขาไว้ ดึงร่างของเขาหลบออกไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว!

 

และมือคู่นี้ก็ไม่ใช่ของใครอื่น คือมือของเริ่นหลงนั่นเอง! เขาทำการดึงอี้เทียนหยุนหลบออกไปให้พ้นทาง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ให้ข้าจัดการเอง!”

 

อี้เทียนหยุนหลบพ้นแล้ว แต่ว่าเริ่นหลงยังติดอยู่ในระยะโจมตี บนใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มประดับอยู่ ราวกับไม่ได้คิดอะไร

 

ดวงตาของอี้เทียนหยุนหดลง ไม่คิดว่าเพื่อเขาแล้ว เริ่นหลงจะเลือกที่จะรับการโจมตีด้วยตัวเอง!

 

และในจังหวะนี้เอง เขาได้จับแขนเริ่นหลงไว้ จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เป็นประกาย พร้อมกับหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ในพริบตา อึดใจต่อมา พวกเขาทั้งสองก็ไปโผล่ที่ชายขอบ หลบการโจมตีของหางมังกรได้สำเร็จ แต่พลังที่เกิดจากการวาดหางของมังกรสวรรค์นี้ก็ทำให้สีหน้าของพวกเขาจมลง รีบทำการต้านรับอย่างรวดเร็ว “เปรี้ยง” พวกเขาพากันถูกคลื่นพลังซัดจนปลิวกระเด็นออกไป

 

ทางด้านอี้เทียนหยุนนั้นดีหน่อย แต่มือทั้งสองข้างของเริ่นหลงกลับสั่นไม่หยุด พลังของมังกรสวรรค์ตนนี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก แม้จะหลบหางที่ฟาดออกมาพ้นแล้ว แต่เพียงแค่คลื่นพลังที่ไล่ตามมาก็ซัดจนพวกเขาปลิวกระเด็นได้อยู่ดี

 

“โครงกระดูกนี่ แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว…..”

 

อี้เทียนหยุนเงยหน้ามอง จากนั้น ข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นในตาเขา

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์ : ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 4, กระดูกทั่วทั้งร่างเทียบได้กับศาสตราศักดิสิทธิ์ระดับสูงสุด, ก่อนตายถือว่าร้ายกาจมาก, พลังรบ 31 ล้าน! จุดอ่อน : ไม่มี, วิชายุทธ์ : ไม่มี, หลังจากสังหารจะได้รับ วิญญาณมังกรสวรรค์, กระดูกมังกรสวรรค์, สายเลือดเทพมังกร!

 

ไม่ว่าก่อนหน้านี้โครงกระดูกมังกรสวรรค์จะมีวิชาอะไร แต่ว่าหลังจากที่ตายไป มันสามารถใช้ได้เพียงพลังกายเพียงเท่านั้น ถ้าหากว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แค่การฟาดหางเมื่อกี้นี้เพียงอย่างเดียว พวกเขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องไปคาดหวังว่าจะต้านรับไว้ได้เลย

 

“พี่เริ่น ทำไมท่านถึงเลือกที่จะเสียสละเพื่อช่วยข้า?” อี้เทียนหยุนตกใจ ในใจรู้สึกตื้นตันอย่างมาก

 

แม้ว่าเขาจะมีหลายวิธีเพื่อใช้หลบ แต่ในขณะที่กำลังจะใช้ออกมานั้น เริ่นหลงกลับเข้ามาช่วยเขาเอาไว้ก่อน

 

“ข้ารู้สึกว่าเจ้าสามารถจัดการมันได้ ต่อให้ข้ารับการโจมตีนี้เข้าไปก็คงไม่ถึงตาย…. แต่ต่อให้ตาย อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เหรอไง? กระทั่งเมื่อกี้หลบมาแล้วก็ยังไม่พ้น” เริ่นหลงหัวเราะออกมาเบาๆ “แล้วอีกอย่าง เมื่อกี้มันอะไรกัน ทำไมอยู่ๆ ถึงมาโผล่ตรงนี้ได้?”

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้ ตอนนี้โครงกระดูกนั่นบ้าไปแล้ว” สายตาอี้เทียนหยุนจับจ้องไปยังโครงกระดูกมังกรสวรรค์ที่กำลังพุ่งเข้าใส่พวกเขา

 

“ท่านบรรพบุรุษมังกรสวรรค์ ข้าคือเชื้อสายของท่าน!” เริ่นหลงตะโกนเสียงดัง “ขอให้ท่านบรรพบุรุษโปรดปล่อยพวกเราออกไปด้วย พวกเราไม่ได้ต้องการรบกวนความสงบของท่านจริงๆ!”

 

“เชื้อสาย? เผ่ามนุษย์ที่กลืนกินสายเลือดมังกรสวรรค์ของพวกเรา กล้าบอกว่าเป็นเชื้อสายมังกรสวรรค์ของข้าอย่างงั้นเหรอ!” โครงกระดูกมังกรสวรรค์ร้องคำรามออกมาเสียงดัง “ตายไปซะ ไอ้พวกมนุษย์บัดซบ!”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์แหงนหน้ากู่ร้อง เสียงคำรามของมังกรดังสะท้านไปทั่วทั้งห้องแห่งนี้ ดังจนทำให้หูดับ เพียงแค่คลื่นเสียงที่ปลดปล่อยออกมา ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขากดดันอย่างมากแล้ว นี่มันความน่าสะพรึงแบบไหนกัน?