ตอนที่ 798 : โลงศพยักษ์ในภูเขาน้ําแข็ง

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 798 : โลงศพยักษ์ในภูเขาน้ําแข็ง

 

ใบหน้าเจี้ยนสือเทียนแปรเปลี่ยน เขาบอกกล่าวกับเปาเฉิงโจ่ว “เหล่าเปา เจ้าคุ้มกันผู้เยาว์ข้าไปช่วยจัดการเอง!”

 

หลันซูเหยาสบถเสียงเบา “ใครใช้ให้พวกมันกินโดยขาดความระวัง! เรื่องราวเช่นนี้ถึงกับเกิดขึ้น!”

 

ฉินหยุนพลันคิด ว่าเรื่องนี้ชวนยินดีไม่น้อย! ทันทีที่ผู้ฝึกตนอสูรและมนุษย์สัตว์ลงมาถึงพวกเขาคล้ายจอมสวาปามกลับชาติมาเกิด พวกเขาขาดสติเข้ากัดกินเนื้อยักษ์เหล่านั้นประหนึ่งฝูงหมาปาหิวกระหาย ครานี้จึงเกิดเรื่องขึ้น

 

เป็นที่ทราบกัน ว่าภายในกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรและชนเผ่ายุคโบราณ ล้วนมีทั้งจักรพรรดิยุ ทธ์และครึ่งเซียนตอนนี้พวกเขาล้วนแปรเปลี่ยนเป็นอสูรกายยักษ์อันชั่วร้าย ร่างของคนกลุ่มนี้ระเบิดออกกลับกลายเป็นยักษ์ เลือดชโลมตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้ได้รับชมล้วนเกิดนึกหวาดกลัว

 

เจี้ยนสือเทียนเรียกดาบต้นกําเนิดออกมา จากนั้นจึงปล่อยดาบทะยานออกในระยะไกลเขาควบคุมดาบเพื่อเข้าสังหารยักษ์เหล่านี้

 

“ให้ข้าจัดการเอง!” ดวงตาหลันซูเหยาเดิมเผยแสงสีขาว เวลานี้ยิงออกซึ่งลําแสงสีน้ําเงิน

 

ยามเมื่อผู้อื่นพบเห็น พวกเขาเร่งรีบหลบซ่อนที่ด้านหลังนาง ด้วยเพราะเป็นกังวลว่าจะถูกลูกหลงของนางเข้า

 

เนตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองของหลันซูเหยาทรงพลังชวนสะพรึง ดวงตาทั้งสองของนางเวลานี้ยิงออกซึ่งลําแสงสีน้ําเงินเข้มข้นพุ่งทะยานทั่วโถงทางเดินเบื้องหน้า บรรดายักษ์ที่พุ่งเข้าหายามต้อง ถูกลําแสงสีน้ําเงินเหล่านั้น ความเร็วพวกมันกลับกลายเป็นเชื่องช้าพวกมันไม่ได้แปรเปลี่ยนเป็นหินโดยทันที

 

“ราชินีซูเหยา หากรับมือไม่ไหว เช่นนั้นบอกกล่าว พวกเราจะร่วมมือกันจัดการเจ้าพวกนี้!” ฉินหยุนพลันตะโกนขึ้น

 

“เจ้าคิดว่าขวางพวกมันเอาไว้ไหวหรือ?” หลันซูเหยาเผยเสียงเย็นเยียบ “พวกมันเวลานี้กลับได้ครอบครองร่างอสูรที่แข็งแกร่งอย่างกะทันหัน!”

 

“ถูกต้องแล้ว ครั้งข้าโจมตีพวกมันด้วยดาบเมื่อครู่ พบว่าร่างกายพวกมันแข็งแกร่งยิ่ง!” เจี้ยนสือเทียนเผยสีหน้าหนักอึ้ง “ความจริงที่ว่าทําให้พวกมันเชื่อช้าลงได้เพียงนี้ก็ถือว่าดียิ่งแล้ว!”

 

“พวกเจ้าไปก่อน ข้าจะรั้งพวกมันไว้ให้เคลื่อนที่ช้าลง!” หลันซูเหยาเร่งรีบตะโกน “ด้วยระดับการฝึกฝนตอนนี้ ตัวข้าไม่อาจแปรเปลี่ยนพวกมันเป็นหินได้”

 

“เมื่อครูได้รับดวงตาสี่เหลี่ยมมาหรือไม่ใช่? เร่งรีบนํามันออกมาใช้แล้ว!” ฉินหยุนตะโกนดัง

 

หลันซูเหยาเร่งรีบนําออกมา ดวงตาสี่เหลี่ยมเหล่านี้ยังคงดูสดใหม่ หลันซูเหยานําโล่ทรงกลมขนาดใหญ่ออกมา ใส่ดวงตาเหล่านั้นเอาไว้พร้อมถือโล่ในมือ นางร้องตะโกนเสียงเบา ดวงตาสี่เหลี่ยมบนโล่ มันเผยแสงสีแดงยิงออก ลําแสงทั้งสีแดงและสีน้ําเงินผสานรวมเป็นหนึ่งโลหิตจํานวน มากเริ่มหลั่งออกจากร่างยักษ์จนสลายพวกมันกลายเป็นแอ่งเลือด

 

ครีน!

 

หลังจากที่ยักษ์เหล่านั้นเริ่มถูกย้อมด้วยเลือด พวกมันกลับกลายเป็นสายธารโลหิตไหลในโถงทางเดินสายยาว ผู้คนต่างสะท้านในหัวใจ รับชมแอ่งเลือดหนาเบื้องล่าง เวลานี้ภายในใจมีเพียงแต่ความหวาดกลัว

 

หลันซูเหยาเก็บดวงตาสี่เหลี่ยมกลับคืน

 

“ดวงตานี้ของดีนัก!” ฉินหยุนอุทานชื่นชม

 

บรรดายักษ์ไว้เศียรและหัวใจที่นั่งสองฟากข้างของโถงทางเดินยาว เวลานี้เริ่มดูดกลืนเลือดพร้อมขยับทีละน้อย

 

“พวกเราควรเร่งรีบมุ่งหน้าไปได้แล้ว!” ได้เห็นพวกมันคิดเคลื่อนไหว หลันซูเหยาจึงตะโกนดังเร่งร้อน

 

เวลานี้เหลือผู้คนเพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น ผู้ฝึกตนอสูรและชนเผ่ายุคโบ ราณส่วนใหญ่กลับกลายเป็นยักษ์และจึงถูกหลันซูเหยาสังหาร หลังบรรดายักษ์ไร้เศียรและหัวใจ ได้ดูดกลืนเลือด พวกมันคล้ายเผยท่าที่คิดตื่นขึ้น

 

“เป็นความผิดข้าเอง ข้าไม่ควรบอกให้ใช้ดวงตาพวกนั้น!” ฉินหยุนมองทางยักษ์ทั้งหลายที่เริ่มขยับพร้อมกล่าวโทษตนเอง

 

“หากข้าไม่ใช้ พวกเราก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพวกมันโดยง่าย ที่ควรทํา คือนําพวกเราออกจากที่นี้อย่างปลอดภัย!” หลันซูเหยากล่าว

 

กลุ่มคนเร่งรีบบินผ่านอากาศเบื้องบนโถงทางเดินยาว ฝูงยักษ์ไร้เศียรต่างตื่นขึ้นตัวแล้วตัวเล่าและตอนนี้ พวกเขาก็มาถึงสุดปลายของโถงทางเดิน มันเป็นประตูหยกทองคําขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน

 

“เจ้าปีศาจน้อย เปิดมันได้หรือไม่?” เซียนเฒ่าเต่าเร่งรีบเอ่ยถาม ฝูงยักษ์กําลังเคลื่อนกายเชื่องช้ามาทางด้านหลังแล้ว

 

ชนเผ่าเต่าของเซียนเฒ่าเต่า มีแต่เขาที่เหลือรอด ผู้อื่นล้วนเข้าไปกัดกิน เนื้อยักษ์จนแปรเปลี่ยนสภาพร่างกายอาจารย์จารึกเต่หลายคนตอนนี้ต่างกําลังสํารวจอักข ระบนประตูหยกทองคํา

 

“ไม่มีอักขระใด และไม่น่าเป็นไปได้หากคิดใช้ระเบิดเปิดมันออก!” เจี้ยนหลิงหลงร้อนรน “ฉินหยุนเจ้ามีวิธีการใดหรือไม่?”

 

ฉินหยุนทดลองสารพัดวิธี เขาใช้ทั้งความสามารถเทวะทะลุทะลวง กระทั่งเลือดประหลาดทั้งหมดล้วนไม่ได้ผล ด้วยไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขาจึงได้ต้องต้องลักลอบปล่อยโมโมออกมาให้นางซ่อนในแขนเสื้อ

 

“พี่ชาย ประตูนี้มีอักขระอยู่มาก ตราบเท่าที่ข้าทําความเสียหายแก่มันได้แม้เพียงนิด พวกเราย่อมเปิดมันออกได้!” โมโมกล่าว พร้อมกันนี้ นางได้ปลดปล่อยพลังประหลาดออกมา

 

ฉินหยุนกดมือลงที่ประตูยักษ์ เขาหันไปกล่าวกับทุกผู้คน “ทุกคนถอยห่างออกไป ข้าสามารถเปิดประตูนี้ ยื้อเวลาให้ข้า!”

 

ทุกคนเร่งรีบเว้นระยะ สาเหตุที่ฉินหยุนบอกกล่าวให้พวกเขาถอยไป ก็เพื่อไม่ ให้ตรวจพบพลังของโมโม

 

หลันซูเหยาปลดปล่อยลําแสงสีน้ําเงินจากดวงตา โจมตีใส่บรรดายักษ์ไร้เศียรและหัวใจ กระนั้น ที่ทําได้ก็เพียงทําให้เชื่องช้าลง

 

“ยักษ์เหล่านี้สมควรเป็นผู้ก่อสร้างเมืองภูตผีต้องห้ามแห่งนี้ หลังจบสิ้นการก่อสร้าง พวกมันจึงถูกสังหารสิ้นเพื่อเก็บความลับ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว อดีตชาติของนางย่อมได้ยินเรื่องราวพวกนี้มามาก

 

ฉินหยุนยิ่งร้อนรน เขาไม่ทราบว่าเบื้องหลังประตูบานยักษ์นี้คืออันใด หากเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า เช่นนั้นพวกเขาก็จบสิ้นกันแน่แล้ว!

 

“ราชินีซูเหยา รบกวนลากถ่วงเวลาพวกมันอีกสักระยะ!” ฉินหยุนกล่าว

 

กระทั่งลําแสงสีน้ําเงินของหลันซูเหยา ก็ยังไม่อาจแปรเปลี่ยนยักษ์เหล่านี้สู่ความตาย ทําได้เพียงแต่ชะลอความเร็วพวกมันลงเล็กน้อย ดังนั้นเวลานี้เหตุการณ์จึงยิ่งร้อนรน

 

เจี้ยนสือเทียน เปาเฉิงโฉ่ว รวมถึงครึ่งเซียนจากเขตแดนลึกล้ํา และจักรพรรดิยุทธ์ทั้งหลายต่างระดมโจมตีออกอย่างรุนแรง เพื่อทําให้ยักษ์ไร้เศียรและหัวใจเหล่านั้นต้องถอยร่น

 

ร่างกายพวกมันมีรยางค์จํานวนมาก กระทั่งว่าถูกครึ่งเซียนโจมตีดุดัน ตัวพวกมันกลับไม่คล้ายได้รับความเสียหาย

 

ยักษ์จํานวนนับไม่ถ้วนเวลานี้กําลังผลักดันเข้ามาเชื่องช้าอย่างอาจหาญ ยักษ์เหล่านี้ร่างสูงหลายเมตร ทั่วทั้งโถงทางเดินมีพวกมันนับหมื่นตน

 

ตอนนี้ ฝ่ายหนึ่งโจมตีจนถอยร่น ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งรุกคืบ แรงกดดันมหาศาลกดทับผู้คนหากไม่ใช่เพราะหลันซูเหยาและบรรดาครึ่งเซียนร่วมมือกัน พวกมันคงมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

“นี่มันบ้าอะไรกันแน่? เหตุใดพวกมันน่าสะพรึงเพียงนี้กัน?” ในจิตใจฉินหยุนเวลานี้ยิ่งหวาดกลัว

 

กระทั่งผู้ปกครองแพะภูตผี ตอนนี้ยังหวาดกลัวจนถึงขั้นใบหน้าหล่อเหลาหลั่งเหงื่อกาฬท่วมขานั้นต้องสั่นเทิ้ม ต้องทราบว่าผู้คนที่เขานํามาล้วนล้มตายกันจนสิ้นแล้ว!

 

“เจ้าปีศาจน้อย นี่ยังไม่เสร็จอีกหรือ? เร็วเข้า!” เซียนเฒ่าเต่ากล่าวเร่ง

 

“ขอเวลาข้าอีกนิด! กลุ่มอาจารย์จารึกเต๋ต่างทราบว่าประตูนี้ไม่ง่ายเปิดออก ระดับ การฝึกฝนข้ายังต่ําดังนั้นต้องใช้เวลา พวกท่านอยู่กันมากมาย รบกวนถ่วงเวลาแล้ว!”

 

ฉินหยุนเองก็ร้อนใจ เพราะพลังของโมโมถึงขีดจํากัดแล้ว นางจําเป็นต้องทําลายอักข ระจํานวนหนึ่งเพื่อที่จะได้ทําลายการไหลเวียนผนึกของประตู

 

หลันซูเหยากล่าวคําเบา “อย่าได้เร่งเขาแล้ว ให้เขาลงมือต่อไป พวกเราทําได้เพียงหยุดยักษ์พวกนี้เอาไว้!”

 

เปาเฉิงโจ่วจึงตะโกนดัง “มิตรสหายเขตแดนลึกล้ํา อย่าได้เก็บซ่อนแล้ว เร่งรีบเผยความสามารถแท้จริง ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่!”

 

ผู้คนจากเขตแดนลึกล้ําสบถก่นด่าในใจ กระนั้นด้วยสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาได้แต่ต้องยอมกล้ํากลืน ยามนี้นําเอายันต์ออกมาจํานวนหนึ่ง เหล่านี้คือยันต์ราชันอันแข็งแกร่งพวกเขาขว้างปายันต์ราชันเหล่านี้ใส่ฝูงยักษ์เบื้องหน้า

 

ต้ม ตุ้ม ตุ้ม!

 

เสียงสนั่นหวั่นไหวรุนแรงบังเกิด พวกมันก่อให้เกิดคลื่นพลังกระจายทั่วทั้งโถงทางเดิน ฉินหยุนและผู้อื่นข้างกายได้รับพลังจากครึ่งเซียนเข้าคุ้มกัน ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบใดหลังจากที่ฝูงยักษ์ถูกยันต์ราชันเล่นงาน พวกมันหลายตัวต่างต้องถอยกลับห่างออกไป

 

“พวกเราใช้หมดแล้ว ถึงคราวพวกเจ้า!” ผู้คนของเขตแดนลึกล้ําตะโกนดัง

 

เจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่วต่างมองหน้ากันเอง พวกเขานําเอายันต์ราชันออกมาจํานวนหนึ่งขว้างปาพวกมันออก ยอดฝีมือฝ่ายอื่นต่างก็นําเอายันต์ราชันออกมาขว้างปาออกไปเช่นเดียวกวัน

 

ตู้ม  ตู้ม!

 

แรงระเบิดเกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า ยักษ์ทั้งหลายถูกระเบิดโหมกระหน่ําโจมตีร่า งแหลกสลายทว่ามันคล้ายส่งผลได้เพียงน้อยนิด เพราะยังเหลือยักษอีกมากที่เบื้องหลัง แรงระเบิดเมื่อเลือนหายพวกมันจึงเคลื่อนทัพบุกขึ้นหน้าได้อีกครั้ง ไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าร่างกายยักษ์เหล่านี้แข็งแกร่งมหาศาลชวนสะพรึง กระทั่งครึ่งเซียนก็ยังไม่อาจทําลายพวกมันโดยง่าย

 

มีแต่เจี้ยนสือเทียนและคณะผู้ฝึกตนดาบครึ่งเซียนจึงสามารถสับฟันขายักษ์เหล่านั้นออกโดยง่าย และที่นี้ ก็มีผู้ฝึกตนดาบครึ่งเซียนจากตําหนักเซียนดาบเพียงน้อยนิด พวกเขาควบคุมดาบต้นกําเนิดของตนจากระยะไกล เข้าบุกโจมตีใส่ต้นขาของยักษ์เหล่านั้น นี่เป็นการช่วงถ่วงเวลาให้พวกมันเคลื่อนไหวได้ช้าลง

 

ยักษ์ทั้งหลายที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีน้ําเงิน แม้พวกมันเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลง กระนั้นก็ยังสามารถรุกคืบ ตอนนี้พวกมันอยู่ห่างจากประตูหยกทองคําเพียงกว่าร้อยเมตรเท่านั้น

 

“เย่ว์เหม่ย อีกครู่เจ้าติดตามซูเหยาให้ดี!” ฉินหยุนพลันส่งเสียงสื่อสารบอกต่อเซี่ยวเย่ว์เหม่ย

 

“พี่ชาย ข้าย่อมตามท่าน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอบกลับ

 

“ได้!” ฉินหยุนรู้สึก ว่าที่นี้หลันซูเหยาแข็งแกร่งที่สุด ติดตามนางย่อมมีโอกาสสูงที่จะปลอดภัย

 

ฝูงยักษ์อยู่ห่างอีกเพียงไม่ถึงร้อยเมตรก็ใกล้มาถึงแล้ว!

 

“เบิดได้แล้ว!” ฉินหยุนพลันตะโกนดัง พร้อมเก็บโมโมเข้าสู่ด้านในไข่มุกเม็ดแรกของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน

 

ตอนนี้เอง จักรพรรดิยุทธ์ทั้งหลายต่างพร้อมใจกันช่วยผลักประตูหยกทองคําให้เปิดออก ประตูเมื่อเปิดกว้าง แสงสีขาวจึงทะลักล้นออกมา

 

“เร่งรีบเข้าไป!” หลันซูเหยาตะโกนก่อนจะพุ่งเข้าประตู

 

หลายคนต่างเร่งรีบมุ่งไปประหนึ่งฝูงผึ้ง เมื่อเข้ามาแล้ว พวกเขาจึงค่อยร่วมมือกันปิดประตู

 

ภายในประตู มันเป็นห้องโถงกว้างใหญ่ซึ่งมีแต่น้ําแข็ง และยังมีดวงตามากมายที่ปลดปล่อยแสงสีขาวออกมา!

 

ฉินหยุนพลันนึกถึงปิงชิงขึ้นมา ครั้งที่เขาปลดปล่อยปิงชิง มันก็เป็นเช่นนี้ หรือก็คือ บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวได้ถูกผนึกเอาไว้ในที่แห่งนี้

 

“มีบางสิ่งอยู่ในภูเขาน้ําแข็งน้อยนั่น!” ผู้หนึ่งร้องตะโกน

 

มันมีภูเขาน้ําแข็งขนาดเล็กอยู่ที่นี่ แม้เป็นสีขาวล้วน หลังพิจารณาให้ดี จะพบว่ามันมีเงาดําคงอยู่ที่ภายใน เงาดํานั้นขนาดใหญ่ รูปลักษณ์ชัดเจนว่าเป็นโลงศพสีดํา มันเป็นโลงศพขนาดใหญ่ยักษ์สีดําสูงหลายเมตร ราวกับมันได้ถูกสร้างเอาไว้สําหรับยักษ์พวกนั้น!

 

“อย่าได้เปิดมันออก!” ฉินหยุนเร่งร้อนตะโกน

 

“มันต้องมีอะไรที่ภายในสิ?” เซียนเฒ่าเต่าเร่งรีบไปรับชม

 

“พวกเจ้าดวงตามืดบอดกันหมดหรือไร? ไม่เห็นหรือว่านั่นเป็นโลงศพยักษ์? ยักษ์ที่ภายนอกนั้นชวนสะพรึงเพียงใด ที่อยู่ในโลงนั่นย่อมต้องยิ่งสะพรึงกว่านั้น!” ฉินหยุนตะโกนด้วยน้ําเสียงอันดัง “พวกเจ้า อย่าได้นําภัยพิบัติมาสู่ตัว!”

 

เซียนเฒ่าเต่าและผู้อื่นหาได้ฟังคําของฉินหยุน พวกเขาไม่คิดว่ามันคือโลงศพ แต่เป็นกล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุสมบัติเอาไว้มากมาย!