DC บทที่ 328: ความลับของพี่น้อง

 

ครั้นเมื่อพวกเขากลับคืนไปยังโรงเตี๊ยม ซูหยางก็นำซูหยินไปยังห้องว่าง

 

“ผู้นำนิกาย ข้าต้องการให้ท่านอยู่ในห้องกับพวกเราด้วย” ซูหยางกล่าวกับเธอก่อนที่จะเข้าไปในห้อง

 

“…”

 

โหลวหลานจีไม่ได้พูดอะไรและติดตามเขาเข้าไปในห้อง

 

ครั้นเมื่อทุกคนอยู่ในห้องและนั่งลงแล้ว ซูหยินก็พูดขึ้นว่า “เช่นนั้น… พี่ชาย ท่านสามารถบอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านพลันสูญเสียความทรงจำ และท่านไปอยู่ไหนมาตลอดทั้งปี เกิดอะไรขึ้นที่ประตูศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่ท่านเข้าไปในประตูมิติแล้ว ผู้หญิงที่ตามท่านคนนั้นเป็นใครกัน”

 

เมื่อถูกถล่มด้วยคำถามมากมาย ซูหยางก็ยกมือขึ้นกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน ก่อนที่ข้าจะตอบคำถามเจ้า… ท่านผู้นำนิกาย ท่านมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลซู”

 

เขามองดูเธอด้วยสายตาที่เรียบเฉยแต่ทิ่มทะลวง ส่งความรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งหลังเธอ

 

“ฮาาา… ถึงจุดที่มิอาจปิดบังมันแล้วในตอนนี้ในเมื่อความทรงจำเจ้าได้กลับคืนมาแล้ว” เธอถอนหายใจ

 

“เมื่อหนึ่งปีก่อนพ่อของเจ้า ผู้นำตระกูลซูมาหาข้าพร้อมกับข้อเสนอ ข้อเสนอนั้นก็คือ ถ้าข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยและป้องกันเจ้ามิให้กลับไปยังภาคตะวันออกหรือพบกับผู้คนจากตระกูลซู ตระกูลซูจักจัดหาทรัพยากรให้กับนิกายเราทุกเดือน แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลสำหรับข้าที่จะปฏิเสธ ในเมื่อข้าเห็นว่าเป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงในเวลานั้น” โหลวหลานจีเปิดเผยความจริงต่อเขา

 

“อะไรกัน นั่นเป็นไปมิได้ ทำไมพ่อของข้า…”

 

เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ซูหยินยืนขึ้น

 

“ใจเย็น” ซูหยางกล่าว

 

“มีแค่นั้นรึ” เขามองดูโหลวหลานจี ซึ่งพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

 

“ความทรงจำของเจ้ามิคงอยู่แล้วในเวลาที่เจ้ามาถึงนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย” เธอเสริม

 

ซูหยางพยักหน้าและหันไปมองซูหยิน ซึ่งยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าสับสน

 

“เจ้าก็เห็นแล้วซูหยิน ข้ามิเคย “สูญหาย” ไป ทั้งหมดนั้นล้วนโกหก ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยพ่อของพวกเราด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ตามจริงแล้วเขาเป็นคนคนที่ปิดกั้นความทรงจำของข้าตั้งแต่แรก”

 

“แต่… ทำไมเขาต้องทำเช่นนั้น ปกติเรานั้นใกล้ชิดกันมาก มิมีเหตุผลสำหรับเขาที่จะทำสิ่งเหล่านั้นกับท่าน”

 

“บางทีอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำไมเขาจึงทิ้งข้า จากที่ข้าจำได้ ปกติเราจะอยู่ด้วยกันเสมอจนมีผลกระทบต่อการฝึกวิชาของเจ้า” ซูหยางยักไหล่อย่างปลอดโปร่ง “ข้าเป็นคนไร้พรสวรรค์ขณะที่เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ตระกูลเคยพบเจอ และเมื่อคนอย่างข้าต้องมีผลกระทบต่อการฝึกวิชาของเจ้า นั่นต้องทำให้เขาโกรธ โกรธจนกระทั่งปิดกั้นความทรงจำของข้าและโยนข้าออกจากประตู”

 

“มิมีทาง…”

 

“แน่นอนว่ายังมีเหตุผลอื่นที่ทำไมเขาจึงทำอะไรสุดโต่งเช่นนี้” ซูหยางพูดต่อ

 

“อะไรรึ”

 

“เขาพบเห็นความลับของเรา” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

 

“!!!” ดวงตาซูหยินพลันเบิกกว้าง ใบหน้าของเธอเริ่มแดง

 

“ความลับรึ ความลับประเภทไหนกันจึงทำให้พ่อถึงกับละทิ้งลูกชายของตนเอง” โหลวหลานจีครุ่นคิดอยู่ในใจ

 

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ซูหยินก็กล่าวขึ้น “ถ้าเขารับรู้เรื่องนี้จริงๆ… ทุกสิ่งย่อมสมเหตุผล… ฮ่า..” เธอถอนใจหลังจากนั้น

 

“ท่านผู้นำนิกาย ถ้าท่านมิถือข้าต้องการพูดกับน้องสาวของข้าแบบเป็นส่วนตัวในตอนนี้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลเมื่อกี้นี้” ซูหยางพลันกล่าวขึ้น

 

“ข้าเข้าใจ ตามสบาย”

 

โหลวหลานจีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

 

“ตอนนี้พวกเราอยู่ตามลำพังแล้ว เจ้าสามารถพูดได้อิสระ” เขากล่าว

 

“พ่อของเรา… ท่านคิดจริงหรือว่าเขารู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา” เธอถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

 

“เป็นไปได้อย่างสูง แต่มิยืนยัน”

 

“…”

 

ซูหยินเงียบลง

 

“บอกเจ้าตามตรง ข้าบอกเจ้าทั้งหมดนี้เพราะว่าข้าเห็นว่าเจ้าควรรู้ความจริง ส่วนสำหรับตัวข้านั้น ข้ามิได้สนใจมากนักเกี่ยวกับอดีตของข้าหรือตระกูลอีกต่อไป พูดให้ถูกต้องข้ามิถือว่าตัวข้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซูอีกต่อไป ดังเช่นที่ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนนี้ ข้ามิได้เป็นพี่ชายที่เจ้ารู้จักอีกต่อไป ถึงแม้ว่าข้าได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้วก็ตาม”

 

“เช่นนั้นความสัมพันธ์ของเราก่อนหน้านั้น…”

 

“เป็นธรรมดาที่มันจักต้องหยุดลงเช่นกัน”

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ซูหยินก็เริ่มร้องไห้

 

ซูหยางมองดูเธอร้องไห้อย่างเงียบๆ

 

เขาได้กลับมาเกิดในโลกนี้โดยไม่มีความทรงจำของเซียนเหลืออยู่ อย่างไรก็ตามธรรมชาติและสัญชาติญาณในฐานะนักรักระดับเทพในชีวิตก่อนของเขาฝังลึกลงไปในจิตสำนึก มีผลต่อบุคลิกของเขาโดยไม่รู้ตัว

 

และเพราะบุคลิกนักรักตามธรรมชาติของเขา เขาได้สร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดซึ่งพี่น้องไม่กล้าที่จะจินตนาการกับซูหยิน น้องสาวของตนเอง

 

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ข้ามเส้นจนมีเพศสัมพันธ์ ในเมื่อนั่นเป็นข้อห้ามที่ร้ายแรงในสายตาของคนทั่วไปในโลกนี้ กล่าวไปแล้วพวกเขาได้ทำหลายสิ่งร่วมกันอย่างลับๆซึ่งย่อมทำให้โลกตื่นตระหนกถ้าถูกล่วงรู้

 

“เรา… เราควรทำอย่างไรดีตอนนี้ พี่ชาย” ซูหยินกล้ำกลืนน้ำตาถามเขา

 

“นั่นยังมิชัดเจนอีกรึ เราจักดำรงชีวิตของเราต่อไป เจ้าจักยังคงเป็นอัจฉริยะของตระกูลซู และข้าก็จักมีชีวิตต่อไปในฐานะคนที่มิมีความสัมพันธ์กับตระกูลซู จะเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าลืมข้าเสีย… ทุกสิ่งทุกอย่าง”

 

“ข้ามิอาจรับผลลัพธ์แบบนี้ได้ ต่อให้ท่านมิสนใจเรื่องตระกูลซู ข้าก็มิอาจลืมท่าน นั่นเป็นไปมิได้” ซูหยินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าจักพยายามที่จะโน้มน้าวพ่อของเราให้ยอมให้ท่านกลับไป และถ้าเขายังคงปฏิเสธ ข้าจักออกจากตระกูลติดตามท่าน”

 

หลังจากที่เห็นความหลงไหลอย่างหัวปักหัวปำต่อตนเอง ซูหยางก็ต้องนึกถอนใจ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดและรับผิดชอบต่อตัวเธอ ในเมื่อเขาอาจจะมีผลทำลายอนาคตของเด็กคนนี้

 

“ส่วนสำหรับความสัมพันธ์ของเรา… ข้ายังคงมิสามารถที่จะหยุดรักท่าน…”

 

ซูหยินพลันตรงเข้าไปหาซูหยางและกอดเขาไว้ในทันที

 

“ได้โปรด พี่ชาย… ต่อให้โลกนี้ปฏิเสธ ต่อให้พวกเขาเห็นว่านั่นเป็นสิ่งน่าสะอิดสะเอียน ข้าต้องการที่จะรักท่านต่อไป…”

 

“…”

 

ซูหยางจนคำพูด ต่อให้หลังจากผ่านชีวิตมาหลายพันปี เขาก็ไม่เคยพบกับสถานการณ์น่าสับสนงงงันเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าเขาเคยอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่เป็นน้องที่แท้จริงของตนเอง

 

ขณะที่ซูหยางครุ่นคิดว่าหาคำตอบ ซูหยินก็พลันเคลื่อนไหว จูบปากซูหยางอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ ซูหยางก็ไม่ได้ผลักเธอออกไปในทันที

 

หลังจากนั้นชั่วขณะ หลังจากที่จูบซูหยางด้วยความเสน่หา ซูหยินก็ถามเขา

 

“พี่ชาย… ท่านคิดว่ายังไง เปรียบกับแต่ก่อนแล้ว ข้าพัฒนาขึ้นมาบ้างหรือไม่”