**CLS ตอนที่ 394:**ไฟสงครามเริ่มก่อตัว
หลังจากพวกเขาเดินจากมาแล้ว สวี่เฟยก็ได้บอกลาอี้เทียนหยุน จากนั้นก็แยกออกไปอย่างรวดเร็ว
“น้องอี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนใจเขามากเลยนะ?” เริ่นหลงถามอย่างสงสัย
“ใช่ เขาเป็นคนที่นิสัยดีทีเดียว ทั้งยังมีความมุ่งมั่นและกล้าหาญ ข้าอยากจะรับเขามาเป็นขุนพล คอยช่วยบัญชาการคนของข้า” อี้เทียนหยุนไม่ปกปิด
“เหมือนว่าน้องอี้จะมีขุมอำนาจอยู่ใช่ไหม ไม่ทราบว่าเป็นขุมอำนาจอะไร?” เริ่นหลงถาม
“เป็นขุมอำนาจชั้น 3 ที่เพิ่งจะมีขึ้นมาน่ะ หลายคนยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้บอกไปก็เปล่าประโยชน์” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ขุมอำนาจชั้น 3? แค่ขุมอำนาจชั้น 3 ก็มีคนระดับน้องอี้แล้ว ข้าว่าอีกไม่นานจะต้องกลายเป็นขุมอำนาจชั้น 4 อย่างแน่นอน” เริ่นหลงพูดด้วยรอยยิ้ม “เขาเป็นคนตระกูลสวี่ ทั้งตระกูลสวี่ยังเป็นตระกูลที่สนับสนุนตระกูลเริ่นเรา ส่วนตระกูลฉินนั้นเป็นตระกูลที่เห็นผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเขาอ่อนแอจึงไม่ยินยอมให้แต่งกับบุตรสาวของตน”
แม้ว่าเริ่นหลงจะหายตัวไปหลายปี แต่ก่อนหน้านี้เขาก็มีความประทับใจอยู่มาก เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลใหญ่จะถูกทำลายทิ้งโดยสมบูรณ์เพียงเวลาไม่กี่ปี?
“นั่นมันแน่นอน อันดับแรกคงต้องให้เขาไปก่อน แล้วข้าจะตามไปทีหลัง ในอนาคตเขาจะเป็นหนึ่งในขุนพลใต้บังคับบัญชาของข้า แน่นอนว่าต้องช่วย ยิ่งกว่านั้น หากว่าเขาต้องการแต่งกับบุตรสาวตระกูลฉิน งั้นก็ให้เขาแต่ง!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“งั้นน้องอี้ต้องการให้ข้าช่วยอะไรไหม?” เริ่นหลงคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของอี้เทียนหยุน เขาคงไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร
“ไม่ต้อง ถ้าเรื่องนี้ยังต้องให้คนอื่นช่วย นั่นคงจะเป็นการดูหมิ่นความแข็งแกร่งของตนแล้ว” อี้เทียนหยุนมองเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นจื่อโหรวจะเป็นกังวล”
“นั่นสินะ ในที่สุดก็ได้เวลา อัครเสนาบดีหลง…… ข้าจะต้องให้เขาชดใช้อย่างสาสม!” สายตาของเริ่นหลงแวววับไปด้วยจิตสังหาร!
“ติ๊ง ท่านทำภารกิจพิเศษ “ช่วยเหลือเริ่นหลงออกมาให้สำเร็จ” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 10 ล้าน, ค่าความคลั่ง 50,000, ค่าความชอบของเริ่นหลงเพิ่มขึ้น 100”
และในตอนนี้ ภารกิจพิเศษก็สำเร็จ ค่าประสบการณ์ที่ได้ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างพอใจ
พวกเขาพากันบินไปยังเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังหวังว่าระหว่างนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมืองหลวงเทียนหลงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่หลายวันนี้ ทางฝั่งอัครเสนาบดีหลงยังไม่ได้รับข่าวอะไรเกี่ยวกับหกพี่น้องมังกรเฟิง นี่จึงทำให้พวกเขารู้สึกแปลกอย่างมาก หากให้พูดล่ะก็ ดูท่าคงจะไม่ดีแล้ว
“หรือว่าหกพี่น้องมังกรเฟิงจะทำไม่สำเร็จ?” อัครเสนาบดีหลงขมวดคิ้ว ตอนแรกหกพี่น้องมังกรเฟิงพวกนี้ถึงกับโอบล้อมจนนำจักรพรรดิเริ่นเข้าสู่ความตายได้ แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่จะจัดการคนแค่สองคนไม่ได้
ในขณะที่อัครเสนาบดีหลงยังคงสงสัยอยู่นั้น ก็ได้มียามพุ่งเข้ามาจากด้านนอก พร้อมกับเอ่ยรายงานอย่างรีบร้อน
“รายงาน รายงานท่านอัครเสนาบดีหลง…..” เมื่อยามคนนั้นเขามาก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นในทันที
“มีเรื่องอะไร?” อัครเสนาบดีหลงขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน
“จักร จักรพรรดิเริ่นหลง…. เขา” หลังจากยามคนนี้รายงาน พลังในร่างของอัครเสนาบดีหลงก็ระเบิดออกมาในทันที
“คำราม!”
พลังแสนอหังการของมังกรสวรรค์ถูกปลดปล่อย กวาดซัดยามคนนั้นจนกระเด็นออกไป พร้อมกับกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับบาดเจ็บภายในโดยตรง
“นี่มัน ไม่ใช่บอกว่าเริ่นหลงตายอยู่ในประตูบานที่สี่แล้วหรอกเหรอ? นั่นเป็นเส้นทางแห่งความตายชัดๆ แล้วทำไมมันถึงยังมีชีวิตอยู่!!” สายตาของอัครเสนาบดีหลงเต็มไปด้วยความตกใจ ทั้งยังมากไปด้วยความเดือดดาล เขาวางแผนมาเป็นอย่างดี อยู่ๆ ก็รู้สึกราวกับก้อนหิมะที่พังทลาย
“เจ้าพวกหกพี่น้องมังกรเฟิงบัดซบ ต่อให้พวกเจ้ายังไม่ตาย ข้าก็จะฆ่าพวกเจ้า!!”
อัครเสนาบดีหลงเดือดดาลถึงขีดสุด ความพิโรธของเขากวาดซัดออกไปทุกทิศทาง แม้กระทั่งของล้ำค่าที่ประดับตกแต่งอยู่ในห้องยังถูกทำลายด้วยพลังมังกรสวรรค์ในร่างของเขา กระทั่งกำแพงในห้องยังแตกร้าว ก่อนที่ห้องจะพังทลายลงด้วยเสียงคำรามของมังกร
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายที่อยู่รอบๆ พากันรีบเข้ามา เมื่อเห็นห้องรับรองที่อัครเสนาบดีหลงอาศัยอยู่พังทลายลง ก็พลันหน้าเปลี่ยนสี อยู่ๆ ห้องก็พังเละไม่เป็นท่า หรือว่าจะมีคนลอบโจมตีอย่างงั้นเหรอ? แต่ดูแล้วก็ไม่น่าใช่ ด้วยความแข็งแกร่งของอัครเสนาบดีหลง ใครกันจะกล้าลอบโจมตีเขา?
และหลังจากที่อัครเสนาบดีหลงทำลายห้องจนราบคาบ สายตาของเขาก็มองมายังผู้คน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าสวรรค์จะบังคับให้ข้าต้องใช้กำลัง ไปเรียกกองกำลังทั้งหมดมา เตรียมตัวโจมตีและยึดครองเมืองหลวง!”
แม่ทัพทุกคนหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับเอ่ยแย้งขึ้นมาว่า “หากว่าตระกูลที่สนับสนุนตระกูลเริ่นต่อต้าน มันจะไม่เป็นการบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายหรอกเหรอ”
พลังของทุกคนที่นี่ไม่อ่อนแอ แต่ฝั่งตรงข้ามก็ไม่อ่อนด้อยเช่นกัน ไม่อย่างงั้นตอนเริ่มพวกเขาคงไม่ใช้แผนการ แล้วให้เพียงไม่กี่ตระกูลออกหน้า ทั้งยังแอบทำการจับกุมองค์หญิงอย่างเงียบๆ เพื่อสร้างโศกนาฏกรรมเหมือนกับเริ่นหลง
และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะสามารถควบคุมตระกูลอื่นๆ ที่เหลือโดยที่ไม่ต้องเสียดินปืนแม้แต่นัดเดียว นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่ว่าตอนนี้เริ่นหลงกลับมาแล้ว ความยากของมันจึงเพิ่มขึ้นมหาศาล
“เริ่นหลงยังมีชีวิตอยู่ เจ้าคิดว่าข้าอยากจะทำอย่างนี้หรือไง?” อัครเสนาบดีหลงพูดอย่างเย็นชา
พวกเขาพากันเงียบไปในทันที ข่าวนี้พวกเขาก็เพิ่งจะได้รู้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าอัครเสนาบดีหลงจะรีบร้อนขนาดนี้ แต่พวกเขาก็เข้าใจในความรีบร้อนนี้ของอัครเสนาบดีหลงดี เขาหมายปองตำแหน่งจักรพรรดิมาเป็นเวลานาน พูดได้ว่าหากเริ่นหลงยังอยู่ สำหรับเขาแล้วก็หมายความว่าจะไม่มีสิทธิ์นั่งในตำแหน่งนี้ได้ตลอดไป
“แต่….”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ราชครูของทางฝั่งอาณาจักรใต้พิภพได้มาถึงที่นี่แล้ว พร้อมกับนำกองกำลังมาด้วยมากมาย ไม่ว่ายังไงก็ต้องยึดครองเมืองหลวงให้ได้ ต่อให้มีสมบัติลับเทียนหลง แต่ด้วยความช่วยเหลือของราชครู พวกเราก็ยังสามารถทำลายมันได้อยู่ดี!” อัครเสนาบดีหลงพูดอย่างดูหมิ่น
“ราชครูของอาณาจักรใต้พิภพมาที่นี่แล้ว…..”
พวกเขาพากันเงียบ เรื่องที่อัครเสนาบดีหลงลักลอบติดต่อกับอาณาจักรใต้พิภพพวกเขาล้วนรู้ดี แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะดำเนินมาถึงขั้นนี้ได้เร็วขนาดนี้ ตอนนี้เข้าสู่ช่วงสงครามตัดสินแล้ว เมื่อไหร่ที่อาณาจักรเทียนหลงถูกจับ เมื่อนั้น อาณาจักรเทียนหลงก็จะถูกทำลาย
นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาอยากจะเห็น อุตส่าห์วางแผนการมามากมาย สุดท้ายแล้วก็ต้องใช้กำลังตัดสิน
“ข้าบอกให้ไปเตรียมตัวไม่ใช่หรือไง รีบไปเตรียมกองกำลังได้แล้ว!” อัครเสนาบดีหลงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ดังสนั่นอีกครั้ง
“ครับ!”
พวกเขาพากันขานรับ พร้อมกับไปเตรียมการตามคำบัญชาของอัครเสนาบดีหลง
อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็เริ่มไปจัดเตรียมกองทหาร เพื่อทำการโจมตีและยึดครองเมืองหลวง นี่เป็นการต่อสู้ที่รุนแรง ยังไงก็ตาม พวกเขาที่มีอาณาจักรใต้พิภพคอยช่วย ชัยชนะย่อมต้องตกเป็นของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
อัครเสนาบดีหลงแหงนหน้ามองฟ้า ในท้องฟ้าใสไร้ซึ่งหมู่เมฆ “ในเมื่อสวรรค์ไม่ต้องการให้ข้าได้ครองบัลลังก์ ข้าก็จะทำลายมันทิ้งซะ นี่เป็นพวกเจ้าบังคับข้าเอง!”
“หลานเริ่นหลง ให้เราลุงหลานได้เผชิญหน้ากันเถอะ ดูสิว่าเจ้าจะยังรักษาตำแหน่งนี้ได้ต่อ หรือจะเป็นข้าที่ได้ไป!” สายตาของอัครเสนาบดีหลงแวววับไปด้วยจิตสังหาร “ตำแหน่งจักรพรรดิจะต้องเป็นของข้า แผ่นดินนี้ต้องเป็นของข้า ไม่มีใครเอาชนะข้าได้ ต่อให้เป็นสมบัติลับเทียนหลงก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้!”
ไฟสงครามเริ่มก่อตัวแล้ว