ตอนที่ 321 ใกล้ชิดมากขึ้น

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 321

ใกล้ชิดมากขึ้น

“อะไรนะ…”จักรพรรดิอาณาจักรอินที่กำลังเตรียมพลออกไปช่วยอาณาจักรหลิวเพื่อเอาความดีความชอบชะงักค้างไปทันทีเมื่อมีข่าวจากลูกน้องตนเองว่ากองทัพของอาณาจักรหลิวแตกพ่ายไปแล้ว

“พวกเจ้าเล่นตลกอะไรกัน กองทัพของอาณาจักรหลิวจะแพ้ง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร”จักรพรรดิอาณาจักรอินมือสั่นขึ้นมาทันที กองทัพของอาณาจักรหลิวเหนือกว่ากองทัพของอาณาจักรมันเสียอีก หากโดนทำลายในการปะทะเดียวไม่เท่ากับว่ากองทัพของอาณาจักรไป๋ที่เคยคิดว่าอ่อนแอนั้นแข็งแกร่งอย่างมากงั้นหรือ แถมจากข่าวที่องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวเขียนมา อาณาจักรไป๋พากองทัพมาแค่ 300 คนเท่านั้นไม่ใช่หรืออย่างไร

“เป็นความจริงขอรับ พวกเราที่เดินทางไปส่งสารได้เห็นมากับตา”ลูกน้องของมันรายงานพลางก้มหัวจนติดพื้น หากมองดีๆจะเห็นว่าตัวของมันยังสั่นไม่หาย

“อสูรที่เหมือนดวงจันทร์..เจ้านั่นโจมตีทีเดียวทัพของอาณาจักรหลิวก็หายไปเกือบหมด ส่วนพวกที่เหลือก็ได้แต่ยอมแพ้แล้วให้อีกฝั่งจับเป็นเชลยเท่านั้นขอรับ”คนส่งสารรายงานด้วยดวงตาที่ยังเบิกกว้าง มันรีบเดินทางกลับมายังอาณาจักรอินเพื่อห้ามองค์จักรพรรดิเอาไว้ไม่ให้เข้าร่วมสงคราม ไม่อย่างนั้นกองทัพของอาณาจักรอินคงโดนเป่าทิ้งแบบนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย นับว่าโชคดีจริงๆที่มันกลับมาทันก่อนที่กองทัพของอาณาจักรอินจะออกเดินทางพอดี

.

.

“จริงงั้นหรือ…”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูทิ้งตัวนั่งลงบนบัลลังก์พลางฟังข่าวจากลูกน้องของตนเช่นเดียวกัน แม้จะทราบอยู่แล้วว่าอาณาจักรหลิวไม่สามารถเอาชนะอาณาจักรไป๋ได้แน่ๆ แต่มันก็เดาเอาว่าอาณาจักรอู๋น่าจะให้การช่วยเหลือ แต่นี่อะไร เพียงทหาร 300 คนของอาณาจักรไป๋ก็จัดการกองทหารเต็มกำลังของอาณาจักรหลิวลงได้

“ไม่นึกเลยว่าแค่ 300 คน…”เหล่าขุนนางอาณาจักรชูอึ้งไปตามๆกัน แน่นอนว่ายังมีขุนนางบางส่วนไม่เห็นด้วยที่องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูก้มหัวให้อาณาจักรไป๋อย่างเสียเกียรติ ถึงขั้นยอมให้ลงโทษบุตรชายได้ตามใจ แต่เมื่อเห็นผลลัพธ์ของอาณาจักรหลิวที่คิดจะต่อต้านแล้ว พวกมันกลับโล่งใจเสียมากกว่าที่องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูทำเช่นนั้นลงไป

“ผิดแล้วขอรับ”คนส่งสารพูดพลางกำหมัดแน่น ระยะห่างของอาณาจักรชูและอินมีระยะพอๆกัน ทำให้คนส่งสารของทั้ง 2 อาณาจักรไปถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน เพียงแต่คนหนึ่งมาเพื่อตอบตกลงเข้าร่วมศึก อีกคนหนึ่งมาเพื่อปฏิเสธเท่านั้น แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ทันได้รายานอะไรก็ได้เห็นภาพกระสุนวายุของอสูรปักเป้าทำลายกองทัพเสียก่อน

“อาณาจักรไป๋ใช้แค่อสูรตนเดียวเท่านั้นขอรับ มันเป็นอสูรที่มีรูปร่างเหมือนลูกบอลขอรับ เป็นเจ้าตัวที่ลอยตามองค์จักรพรรดิอาณาจักรไป๋อยู่บ่อยๆขอรับ”อาณาจักรชูมีความสัมพันธ์กับอาณาจักรอู๋ ทำให้ใกล้ชิดกับไป๋จูเหวินที่แต่เดิมเป็นคนสำคัญของอาณาจักรอู๋ไปด้วย ทำให้คนของอาณาจักรชูชินตากับอสูรปักเป้าที่ลอยตุบป่องตามไป๋จูเหวินเป็นประจำดี ตอนแรกพวกมันเห็นว่ามันเป็นอสูรที่ซื่อบื้อและน่ารักดี ไม่นึกว่าวันนี้ได้เห็นตัวจริงของมันจะทำให้หวาดกลัวขนาดนี้ มิน่าเล่าหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูถึงได้กลัวเจ้าลูกบอลนั้นนัก

“อสูรตนเดียว”เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึงออกมาทันที หากหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูอยู่ที่นี่มันคงยืนขึ้นแล้วบอกพวกมันทันทีว่า เจ้านั่นล่ะที่ทำลายเมืองของมันคราวก่อน

“โชคดี…..โชคดีจริงๆ”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูสั่นไปทั้งตัว เกือบไปแล้ว เกือบไปจริงๆ หากวันนั้นมันต่อต้านไป๋จูเหวินเข้า ตอนนี้อาณาจักรชูคงไม่เหลือแล้วแน่ๆ เช่นเดียวกับอาณาจักรหลิวที่คงโดนบุกถึงเมืองหลวงแล้ว

.

.

โครม!! เป็นอย่างที่องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูคิด ตอนนี้ไป๋จูเหวินมาถึงเมืองหลวงของอาณาจักรหลิวแล้ว แถมยังอยู่ในวังหลวงอีกต่างหาก

พรึบ…. ธงของอาณาจักรหลิวโดนปลดลงจากเสาและกำแพง ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยธงแมงมุมขาวของไป๋จูเหวินในทันที กองทัพและยอดฝีมือของอาณาจักรหลิวโดนอสูรปักเป้าเป่าหายไปในครั้งเดียว ทำให้ทหารที่เหลือไม่พอจะต้านกองทัพของอาณาจักรไป๋เสียด้วยซ้ำ

ตูม!! กองทัพอสูรที่เดินทางมาจากทางใต้ทำลายกำแพงทางใต้เข้ามา ทำเอาเหล่าทหารขวัญหนีดีฝ่อกันหมด นอกจากจะแพ้สงครามแล้ว พวกมันยังโดนอสูรบุกอีกงั้นหรือ

“หยุด”เสียงประกาศจากมังกรธรณีดังขึ้นเมื่อมันเห็นแล้วว่าธงของอาณาจักรหลิวโดนปลดไปแล้ว

“โอ้ จูเอ๋อมาถึงก่อนพวกเราอีกงั้นเหรอ”พยัคฆ์อัสนียิ้มออกมาพลางตรงไปยังวังหลวงของอาณาจักรหลิวในทันทีโดยไม่ได้โจมตีเหล่าทหารต่อเลย เพราะพวกมันได้วางอาวุธยอมตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“องค์จักรพรรดิ มีอสูรแปลกหน้าเข้ามาขอรับ”อสูรกวางหิมะที่บุกมาพร้อมไป๋จูเหวินพูดเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอสูรของเหล่าอสูรแห่งเขตอสูรผาไร้ก้น

“ไม่เป็นไร พวกท่านเป็นครอบครัวของข้าเอง”ไป๋จูเหวินตอบเมื่อเห็นเหล่าอสูรข้างกายตนเองมีท่าทีเกร็งอย่างมาก เพราะตรงหน้ามันคืออสูรระดับบรรพกาลถึง 5 ตน

“ท่านพ่อ”ไป๋ไป่สัมผัสพลังของบิดาได้ก็วิ่งเข้าไปหาก่อนใครเพื่อน ทำเอาเหล่าขุนนางผ่อนคลายท่าทีกดดันลงมาก มันคือบิดาของคุณหนูไป๋ไป่งั้นหรือ เช่นนั้นก็เป็นครอบครัวอย่างที่จักรพรรดิบอกจริงๆ

“ความจริงพวกข้าไม่ต้องมาช่วยก็ได้มั้ง”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางมองไปรอบๆ กว่าพวกมันจะมาถึงเมืองหลวงพวกไป๋จูเหวินก็ยึดครองวังหลวงได้แล้ว แบบนี้ต่อให้พวกมันไม่มาผลก็ไม่ต่างอะไร

“จูเอ๋อขอความช่วยเหลือทั้งที ไม่มาได้ยังไง”จิ้งจอกเหมันต์ค้อนไก่ฟ้าหงอนทองไปทีหนึ่งเมื่อมันพูดเหมือนจะไม่มาช่วยไป๋จูเหวินเสียอย่างนั้น

“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่มาสักหน่อย”ไก่ฟ้าหงอนทองบ่นพลางเดินเข้าไปหาไป๋จูเหวินในทันที

“แล้วหลินเอ๋อล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามเพราะยังไม่เห็นวี่แววของหลานสาวเลย

“คราวนี้เป็นสงครามขอรับ ข้าเลยให้นางอยู่กับเหม่ยหลินที่อาณาจักรไป๋”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ นี่พวกท่านเดินทางสบายจนลืมไปหรือเปล่าว่านี่เป็นสงคราม แม้จะมีกองทัพอสูรมากมาย แต่ไป๋จูเหวินก็ไม่สามารถทราบอนาคตได้หากดวงตาสีเงินไม่ทำงาน หากอาณาจักรหลิวมีอาวุธลับขึ้นมา ต่อให้มีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยไป๋จูเหวินก็ไม่อยากให้ไป๋หลินมาเสี่ยงด้วย

“อืม”มังกรธรณีตอบรับ แม้จะเสียดายที่ไม่ได้เจอไป๋หลินก็ตาม แต่พวกมันพึ่งจากกันไม่กี่วันจะบอกว่าคิดถึงจนทนไม่ไหวก็ไม่ได้

“ท่านน้าอยากเจอไป๋หรือหรือขอรับ”ไป๋จูเหวินถามพลางยิ้มบางๆ

“แน่นอน”ราชสีห์เพลิงตอบออกมาตามตรง แน่นอนมันอยากเจอไป๋จูเหวินและไป๋หลินตลอดนั่นล่ะ

“เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกท่านมาหาข้ากับไป๋หลินได้ตลอดเวลาดีหรือไม่”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางมองพวกท่านน้าอย่างรู้ทัน

“เจ้าก็รู้นี่ว่าพวกเราเดินทางออกมาไกลมากไม่ได้”มังกรธรณีท้วง เพราะหากพวกมันออกมานานเกินไปพวกมันจะเปลี่ยนที่ๆมันอยู่ให้กลายเป็นเขตอสูร

“ข้ามีแผนจะขยายเขตอสูรของข้าอยู่ขอรับ ถ้าทั้งอาณาจักรเป็นเขตอสูรพวกท่านก็ไม่ต้องห่วงเรื่องพลังอสูรแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบ ในเมื่อพวกท่านห่วงเรื่องเผลอสร้างเขตอสูร ก็เปลี่ยนทั้งอาณาจักรให้เป็นเขตอสูรเสียก็หมดเรื่อง เท่านี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เป็นเขตอสูร ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป

“เจ้า..จะเปลี่ยนทั้งอาณาจักรเป็นเขตอสูรงั้นเหรอ”ไก่ฟ้าหงอนทองอึ้งไปครู่หนึ่ง หารทำเช่นนั้นจำเป็นต้องใช้ราชาอสูรจำนวนมากเพื่อสร้างเขตเชื่อมต่อกันตลอดทั้งอาณาจักร ไหนจะเขตอาศัยของมนุษย์ที่ไม่มีทางยอมให้พวกมันเข้าไปแทรกอีก

“ถ้าเป็นจูเอ๋อละก็ทำได้แน่”มังกรธรณีคำนวณอยู่พักหนึ่งก็สรุปออกมา หากเป็นจูเอ๋อของพวกมันย่อมสามารถเกลี่ยกล่อมเหล่าอสูรให้แยกย้ายกันสร้างเขตอสูรได้ไม่ยาก และฐานะจักรพรรดิของมันยังสั่งเหล่ามนุษย์ให้ยอมทำตามได้อีกต่างหาก และด้วยความจริงที่ว่าอาณาจักรหลิวติดต่อกับทางใต้ของเขตอสูรผาไร้ก้น เพียงพวกมันยอมให้เขตอสูรของไป๋จูเหวินเข้ามาต่อกับเขตอสูรผาไร้กัน เท่านี้ก็เท่ากับพวกมันอยู่ในเขตอสูรเดียวกันแล้ว

“ยอดเยี่ยม แบบนี้พวกเราก็เหมือนอยู่ด้วยกันตลอดเลยมิใช่หรือ”ราชสีห์เพลิงตะโกนออกมาด้วยท่าทีดีอกดีใจ

“แล้ว พวกเราต้องทำอะไรบ้าง”พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน เหมือนจูเอ๋อของมันจะคิดเรื่องนี้เอาไว้แต่แรกแล้วถึงได้ขอให้พวกมันบุกมาที่นี่ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น

“ข้าอยากให้ท่านราชินีมังกรและอสูรระดับมายาในเขตอสูรผาไร้ก้นขึ้นมาสร้างเขตอสูรที่ดินแดนทางใต้ของอาณาจักรหลิว”ไป๋จูเหวินตอบ ในเขตอสูรผาไร้ก้นมีอสูรที่มีพลังพอจะเป็นราชาของเขตอสูรเป็นจำนวนมาก แต่เพราะพลังของพวกท่านน้ามากเกินไปพวกมันเลยเป็นได้แค่ลูกน้องเท่านั้น อย่างเช่นราชินีมังกรภรรยาของมังกรธรณีที่เพิ่มพลังขึ้นมาจนอยู่ระดับมายาขั้น 10 แล้ว รวมถึงพยัคฆ์เมฆาที่กลายเป็นภรรยาของท่านน้าพยัคฆ์ไปแล้วด้วยเช่นกัน

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”พวกท่านน้าตอบพลางแบ่งกันออกคำสั่งให้เหล่าอสูรที่มีพลังพอจะสร้างเขตอสูรเข้าไปทำงานทันที โดยพวกท่านน้าจะแบ่งกันไปเจรจากับราชาเขตอสูรเก่าในอาณาจักรหลิวเอง โดยไม่ต้องให้ไป๋จูเหวินเดินทางไปทีละเขตอสูร ทำให้งานของไป๋จูเหวินลดลงมาก

.

.

“ท่านเพิร์ลขอรับ มีจดหมายจากองค์จักรพรรดิมาหาท่านขอรับ”ทางด้านอาณาจักรไป๋นั้นระหว่างที่ไป๋จูเหวินกำลังออกรบและยึดครองอาณาจักรหลิว เพิร์ลก็รับหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนดูแลและแก้ไขปัญหาแทนไปก่อน แต่เพราะไป๋จูเหวินวางรากฐานเอาไว้แล้วปัญหาจึงไม่มากเท่าไหร่

“โอ้ ชนะแล้วงั้นเหรอ”เพิร์ลพูดพลางอ่านจดหมายของไป๋จูเหวิน จริงๆมันไม่แปลกใจเสียเท่าไหร่ ก็มันทราบกำลังของอาณาจักรตนเองดีนี่นะ

“รูบี้”หลังจากได้รับจดหมาย เพิร์ลก็เดินออกไปจากท้องพระโรงเพื่อไปหารูบี้ที่อาคารพิเศษที่ไป๋จูเหวินสร้างขึ้นให้รูบี้สำหรับประดิษฐ์รถไฟ

“มีอะไรเหรอ”รูบี้ถามขณะควบคุมเหล่าอสูรให้สร้างหัวรถจักรอย่างละเอียด เรื่องการขึ้นรูปเหล็กรวมทั้งสร้างชิ้นส่วนต่างๆรูบี้ยกให้เป็นหน้าที่ของอสูรทั้งหมด เพราะพวกมันมีแรงมหาศาล แถมหลายๆตัวยังมีทักษะพิเศษทำให้ได้โลหะรูปร่างที่นางต้องการได้อย่างง่ายดายอีกต่างหาก ทำเอาลูกมือที่อาณาจักรไชน์ดูไร้ฝีมือไปเลย แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะพวกมันเป็นมนุษย์ที่มีพลังวิญญาณไม่มากมาแต่แรกนี่นา คนงานอสูรเหล่านี้มันเหมือนเอายอดฝีมือมาใช้แรงงานชัดๆ

“ไป๋จูเหวินส่งข้อความมาให้เจ้า”เพิร์ลพูดพลางครี่จดหมายออก

“เหรอ มันส่งมาว่าอย่างไร”รูบี้ถามพลางประกอบเครื่องหัวรถจักรอย่างช้าๆ แร่ที่เหล่าอสูรหามาได้ทนทานไฟกว่าที่ตนเองคิดเอาไว้เสียอีก หากทำสำเร็จอาจจะได้รถไฟที่เร็วกว่าที่คิดก็ได้

“มันบอกว่าอยากจะสร้างเส้นทางไปอาณาจักรหลิวและเขตอสูรผาไร้ก้นด้วย เพิ่มขบวนรถเป็น 3 ขบวน และเพิ่มการผลิตรางรถไฟเป็น 5 เท่าด้วย”

เคร๊ง!! ได้ยินคำสั่งของไป๋จูเหวิน ชิ้นส่วนโลหะในมือของรูบี้ก็ร่วงลงพื้นทันที

“หะ….”รูบี้สะท้านวาบ แค่ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็กินเวลาเป็นปีๆแล้ว นี่เจ้าไป๋จูเหวินจะให้นางสร้างอีก 3 เท่า 5 เท่าเลยงั้นเหรอ

“อ่อ ไป๋จูเหวินบอกมาว่ามันจะส่งคนมาช่วยเพิ่ม แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินและวัตถุดิบ มันบอกว่ามีนายทุนรายใหม่มาช่วยอีก”เพิร์ลพูดด้วยท่าทีสบายๆ แน่สิมันไม่ได้เข้ามาช่วยงานรูบี้นี่นะ