ตอนที่ 396

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 396: ยอมรับเจ้านาย

 

“ติ๊ง!”

 

จอกเหล้าทั้งสองกระทบกัน จากนั้นก็ยกมันเทเข้าปาก เพื่อแสดงว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันอย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันแม้แต่น้อย แต่พวกเขาก็มีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง ที่จะช่วยสนับสนุนกันชั่วกาลนาน

 

“น้องอี้!”

 

“พี่เริ่น!”

 

อี้เทียนหยุนเด็กกว่า แน่นอนว่าต้องเป็นน้องชาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีพี่ชาย เริ่นหลงเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงมาก คุ้มค่าแล้วที่เหมาะจะเป็นสหายด้วย

 

“เอาล่ะ ท่านพี่ทั้งสอง หรือว่าพวกท่านลืมข้าแล้ว?” เริ่นจื่อโหรวเทเหล้าเติมให้กับพวกเขา จากนั้นก็เทให้ตัวเองหนึ่งจอก แล้วยกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะไม่ได้ร่วมสาบานด้วย แต่ว่าข้าต้องขอแสดงความยินดีด้วยอย่างสุดซึ้ง!”

 

“ใช่แล้ว จากนั้นพวกเราจะร่วมกันต้านการรุกรานของอัครเสนาบดีหลงด้วยกัน!” เริ่นหลงหัวเราะ

 

“มาเท่าไหร่ สังหารไม่เว้น!” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมหัวเราะออกมา

 

“ใช่ พวกเราทั้งสามจะเป็นคนปกป้องอาณาจักรเทียนหลงนี้เอง!” เริ่นจื่อโหรวพูด

 

จากนั้นพวกเขาก็พากันชนจอกกันอีกครั้ง แล้วดื่มมันลงไป พร้อมกับใบหน้าที่มากไปด้วยความสุข

 

“เวลาไม่มากแล้ว ไม่รู้ว่าได้เตรียมการตอบโต้อะไรไว้บ้างไหม?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“ไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้ข้าได้เรียกทุกตระกูลและเหล่าแม่ทัพนายกองมาเตรียมตัวไว้แล้ว” สายตาเริ่นหลงเป็นประกายแวววาว “และยังได้แยกผู้ที่สนับสนุนอัครเสนาบดีหลงไปขังเอาไว้ เพื่อป้องกันพวกเขากบฏ!”

 

หลังจากเริ่นหลงพูดเสร็จ เขาก็ได้ไปเตรียมการ นี่ไม่มีเรื่องอะไรของพวกเขา เริ่นหลงกลับมาแล้ว เรื่องทั้งหมดต้องให้เขาเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง วิธีจัดการของเขานั้น ย่อมฉลาดกว่าของเริ่นจื่อโหรวอยู่แล้ว ถึงยังไงตัวเขาก็เป็นจักรพรรดิที่แท้จริง ในอดีตก็เคยบริหารจัดการอาณาจักรเทียนหลงนี้มาเป็นอย่างดี

 

การบริหารจัดการของอาณาจักรเทียนหลงนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์แบบมาก ดังนั้นพ่อแม่ของพวกเขาจึงเลือกที่จะจากไป หากว่าที่นี่เต็มไปด้วยสงคราม พวกเขาย่อมไม่กล้าจากไปอย่างแน่นอน และก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้ให้อัครเสนาบดีหลงคอยเป็นผู้ช่วยลูกๆ ของพวกเขา แต่ใครจะรู้ว่าตัวอัครเสนาบดีหลงนั้น จะกลายมาเป็นหัวหน้าเหล่ากบฏเอง

 

“แล้วอีกอย่าง ไอ้สมบัติลับเทียนหลงอะไรนั่นมันคืออะไรกันแน่?” อี้เทียนหยุนถามขึ้น

 

เมื่ออยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีอะไรให้ทำ ทำให้เขาคิดถึงเรื่องสมบัติลับเทียนหลงนี้ออกมา

 

“เรื่องนี้ไม่ยาก ท่านพี่ตามข้ามา ข้าจะพาท่านไปดู” เริ่นจื่อโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ได้ด้วยเหรอ?” อี้เทียนหยุนสงสัยว่าทำอย่างนี้ก็ได้เหรอ

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ตอนนี้ท่านเป็นพี่ชายของข้าแล้ว ยังต้องมีความลับอะไรต่อกันอีก? ยิ่งกว่านั้น นี่ยังไม่ใช่ความลับอะไร คนทั่วไปยังดูได้เลย ตราบใดที่ท่านควบคุมมันได้ ท่านก็จะเป็นเจ้านายของมัน!” เริ่นจื่อโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม “ทั่วทั้งอาณาจักรเทียนหลงแห่งนี้ถูกพวกเราปกครองมานานมาก มีเพียงผู้ที่มีสายเลือดมังกรสวรรค์ที่บริสุทธิ์มากเท่านั้นถึงจะสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงนี้”

 

“ในเมื่อเจ้าไม่สนใจ งั้นในขณะที่กำลังว่างอยู่ ช่วยพาข้าไปดูหน่อย ว่าสมบัติลับเทียนหลงนี้มันมีหน้าตายังไง” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

จากนั้น เริ่นจื่อโหรวก็พาเขาไปยังที่แห่งหนึ่ง เป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่านทางใต้ดิน เห็นได้ชัดว่าสมบัติลับเทียนหลงนี้ถูกเก็บไว้ใต้พระราชวังแห่งนี้ ที่นี่ไม่มียามคอยคุ้มกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ที่ที่เปิดให้คนภายนอกเข้ามา

 

ยังไงก็ตาม ตำแหน่งที่ตั้งของสมบัติลับเทียนหลงตั้งอยู่ในพระราชวังส่วนใน หากไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีทางเข้ามาได้

 

หลังจากที่เดินลึกลงมาเรื่อยๆ อี้เทียนหยุนก็สัมผัสได้ถึงพลังของมังกรสวรรค์ที่ส่งออกมาจากใต้ดิน พลังที่สัมผัสได้นี้สุดยอดยิ่งกว่าที่สัมผัสได้จากโครงกระดูกมังกรสวรรค์เสียอีก ทั้งยังให้ความรู้สึกที่ต่างกันเล็กน้อย เขาคิดว่าน่าจะมีโครงกระดูกมังกรสวรรค์อีกตัวอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ

 

หลังจากเดินลงบันไดมา ที่ปรากฏต่อสายตาของเขาไม่ใช่โครงกระดูกมังกรสวรรค์อะไรนั่น แต่กลับเป็นเหมือนไข่มุกล้ำค่าขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับพลังที่โหมขึ้นมาจากพื้น หลอมรวมเข้าไปในไข่มุกนี้อย่างต่อเนื่อง มองด้วยตาเปล่ายังเห็นเลยว่าที่ใต้ดินนี้มีเส้นชีพจรจำนวนมาก ที่เหมือนกำลังเชื่อมต่อกับไข่มุกนี้

 

แม้ว่าจะมองไม่เห็นทั้งหมด แต่อี้เทียนหยุนเชื่อว่าเส้นเลือดที่อยู่ใต้ดินนี้ จะต้องครอบคลุมทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่บอกว่า ตราบเท่าที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ ก็จะสามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงปกป้องตัวเอง ป้องกันเมืองหลวงนี้ได้

 

และเมื่อสังเกตดูที่ไข่มุกนี้อย่างละเอียด ก็จะพบว่าบนนั้นเหมือนกับมีเส้นเลือดที่กำลังเต้นตุบๆ อยู่

 

อี้เทียนหยุนทำการใช้ดวงตาประเมินทำการวิเคราะห์ไข่มุกนี้อย่างรวดเร็ว

 

สมบัติลับเทียนหลง : อุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ, สามารถกลายร่างเป็นวิญญาณมังกรสวรรค์, โครงกระดูกมังกรสวรรค์ และ หยดโลหิตมังกรสวรรค์เพื่อตีอาวุธ(ต้องการนักหลอมโอสถระดับจงซือเป็นขั้นต่ำเพื่อหลอมมัน), สามารถแสดงพลังของมังกรสวรรค์, อัญเชิญมังกรสวรรค์ระดับวิญญาณเที่ยงแท้เพื่อจัดการศัตรู, หากใช้เป็นเครื่องประดับป้องกันตนเอง จะสามารถต้านรับการโจมตีได้

 

อุปกรณ์ระดับเทวะ ไม่แปลกจริงๆ นี่มันสมบัติที่เหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์เสียอีก หากว่าตามระดับแล้วจะเป็น เหล็ก, วิญญาณ, จิตวิญญาณ, ศักดิ์สิทธิ์, เทวะ!

 

แม้ว่าจะเป็นเพียงระดับเทวะขั้นต่ำ แต่ถึงยังไงก็เป็นสมบัติระดับสุดยอด ขนาดระดับศักดิ์สิทธิ์ยังหายาก อย่าเอ่ยถึงระดับเทวะเลย ภายใต้การผสานกันกับค่ายกล ทำให้สามารถใช้งานสมบัติลับเทียนหลงนี้ได้ทั่วทั้งเมืองหลวง

 

“วิญญาณมังกรสวรรค์, โครงกระดูกมังกรสวรรค์….. อันนี้ข้ามีแล้ว ยังเหลือก็แต่หยดโลหิตมังกรสวรรค์ที่ใช้ตีอาวุธ ยังไงก็ตาม ระดับของข้ายังไม่ถึง ยังห่างจากระดับจงซืออยู่ นี่นับว่ายากมาก…..”

 

อี้เทียนหยุนส่ายหัว แม้จะเห็นวัตถุดิบส่องแสงอยู่ตรงหน้า แต่ว่าพลังของตนเองยังไม่พอ ก็ไร้ความหมาย

 

“สมบัติลับเทียนหลงนี้คืออุปกรณ์ระดับเทวะ….” อี้เทียนหยุนพูดหลังจากที่ถอนหายใจ

 

“ใช่แล้ว สมบัติลับเทียนหลงคืออุปกรณ์ระดับเทวะ! ขนาดอาณาจักรใต้พิภพยังไม่มีอุปกรณ์ระดับเทวะ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการโจมตีและยึดครองอาณาจักรเทียนหลงของพวกเรา ทั้งหมดก็เพราะอุปกรณ์ระดับเทวะชิ้นนี้” เริ่นจื่อโหรวตอบออกมา

 

“อืม ไม่แปลกที่จะไม่สามารถควบคุมได้ตามใจ เจ้าสิ่งนี้คงจะทำงานได้เองใช่ไหม? ได้ยินว่าสมบัติระดับเทวะส่วนใหญ่ล้วนแต่มีจิตวิญญาณอยู่ข้างใน สามารถเลือกที่จะปฏิเสธเจ้านายได้” อี้เทียนหยุนพูด

 

“ใช่แล้ว วิธีใช้ก็คือต้องหยดเลือดลงไป ถ้าผ่าน ก็จะสามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงชิ้นนี้ได้ ซึ่งข้อนี้ไม่มีการจำกัดจำนวน ตราบเท่าที่มันยอมรับก็พอ” นัยน์ตาที่งดงามของเริ่นจื่อโหรวเป็นประกายยามพูด “ตอนแรกที่อัครเสนาบดีหลงหยดเลือดลงไป ก็ได้ถูกสมบัติลับเทียนหลงนี้ต่อต้าน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเป็นจักรพรรดิ ถ้าไม่สามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงนี้ได้ แล้วจะปกป้องอาณาจักรเทียนหลงได้ยังไง?”

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า นี่ก็เหมือนการทดสอบเล็กๆ ถ้าการทดสอบล้มเหลว เขาก็ย่อมต้องพลาดตำแหน่งจักรพรรดิเช่นกัน

 

น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งและบารมีของเขาล้วนแต่มีมากพอ เสียก็แต่สายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้ถูกต่อต้าน

 

อี้เทียนหยุนเดินเข้าไป ยิ่งเข้าไปใกล้สมบัติลับเทียนหลงนี้เท่าไหร่ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังงานที่หนาแน่นขึ้นไปเท่านั้น

 

“ข้าสามารถขยับมันได้ไหม?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“แน่นอน แต่ต้องเบาๆ นะ หากฝืนโจมตีใส่มัน เดี๋ยวจะถูกพลังตีกลับบาดเจ็บเอาได้” เริ่นจื่อโหรวพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “หลายคนอยากจะขโมยสมบัติลับเทียนหลงนี้ แต่สุดท้ายต้องถูกพลังตีกลับจนบาดเจ็บหนักแทน ของชิ้นนี้ ต่อให้อยากขโมยก็เอาไปไม่ได้!”

 

ภายใต้การพยักหน้าของอี้เทียนหยุน เขาได้วางมือลงบนสมบัติลับเทียนหลงนี้ จากนั้นก็โคจรพลังส่งเข้าไป ดูว่าพอจะสัมผัสอะไรได้บ้างไหม

 

และในขณะที่เขาส่งพลังเข้าไปนั้น จู่ๆ สมบัติลับเทียนหลงก็เปล่งแสงออกมา พร้อมกับครอบตัวอี้เทียนหยุนไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้เริ่นจื่อโหรวต้องเหม่อมองอย่างตกตะลึง!

 

“ยอมรับ ยอมรับเจ้านาย?!” เริ่นจื่อโหรวตกตะลึง