หัวใจของ SpyingBlade
อาซูและคนอื่นๆจ้องมองนิตยสารแฟชั่นทุกสำพักพิมพ์และทุกช่องข่าวดารา ที่เต็มไปด้วยภาพของคนอื่นๆที่ไม่ใช่พวกเธอ ‘พวกเราเป็นเจ้าของงานไม่ใช่หรือ!?’
กลุ่มเย่ฉางเดินไปที่ตลาดนัดกลางคืนเพื่อกินราเม็ง จากนั้นก็กลับไปเล่นเกมด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างมาก
เมื่อ SpyingBlade เห็นว่าเย่ฉางและคนอื่นๆออนไลน์ เขาจึงถามขึ้น “ได้ลายเซ็นไหม?”
“ได้แล้ว อยู่ที่บ้านของฉัน” เย่ฉางตอบอย่างมีความสุข
“ถ้ามีโอกาสฉันจะไปแวะไปเอา ขอที่อยู่ด้วย?” SpyingBlade พยักหน้า เย่ฉางให้ที่อยู่บ้านพักริมชายทะเลของเขาโดยไม่ต้องมีข้อสงสัยใดๆ หลังจาก SpyingBlade ได้ที่อยู่ไป เขาก็พูดว่า “เอาล่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ … เออ! ฉันเห็นการออกอากาศก่อนหน้านี้ ลุงฟรอสเลอร์และลุงแพนตี้มีชื่อเสียงในเมืองหลินไห่มากจริงๆ…”
FrozenCloud เช็ดเหงื่อเย็นของเธอ ‘นายเอาตาไปไว้ที่ไหน!? แน่นอนว่าลุงแพนตี้นั้นหล่อมากๆ จนฉันยังไม่กล้ามองหน้าตรงๆเลย จะหาลุงที่หล่อขนาดนี้ได้จากที่ไหนอีก?’
ขณะที่อูนารู้สึกกดดันมาก เพราะเร็วๆนี้ก็จะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตของเธอ โดยเธอตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องมีแฟนคลับเกิน 10,000 คน! แต่ตอนนี้เย่ฉางกลับมีแฟนคลับเกิน 500,000 คนไปแล้ว และเขายังมีท่าทางไม่แยแสกับเรื่องนี้อีก
ตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน และภูเขาดูเหมือนจะอันตรายเป็นพิเศษ มันมักจะมีสัตว์ร้ายประเภทหมาป่าที่ชอบออกล่าเป็นฝูง แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับปาร์ตี้ของเย่ฉางที่มีอาวุธระดับ Dark Gold กันแทบทั้งหมด ซึ่งมันมีพลังโจมตีที่สูงมาก และสามารถฝ่าพลังป้องกันของพวกหมาป่าได้อย่าง่ายดาย ทำให้ฝูงหมาป่าพวกนี้เหมือนเป็นค่า Exp เดินได้
หอกของเย่ฉางแทงทะลุผ่านร่างของหมาป่าภูเขา เขาเริ่มใช้ [Flame Blade] แล้วตามด้วย [Flame Lotus] จากนั้นเขาก็ใช้ [Multiple Straight Thrust] ทิ่มแทงหมาป่าภูเขาอย่างรวดเร็ว 4 ครั้ง สามการโจมตีแรกทำให้เกิดบัวเพลิง 3 ดอกระเบิดออกมา ส่วนการโจมตีสุดท้ายเกิดผลทะลุเกราะ จากนั้นเขาก็หมุนตัว 180 องศาพร้อมกับดึงคันธนูออกมาและยิงออกไป ฟางชิมองเขาด้วยความตื่นตระหนก เขานั้นรู้จักอาชีพแรนเจอร์ดี อาชีพนี้ใช้เวทมนตร์สู้นักเวทไม่ได้ การต่อสู้ระยะประชิดก็สู้พวกไฟท์เตอร์ไม่ได้ ส่วนการโจมตีระยะไกลก็ยังแพ้พวกฮันเตอร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หัวหน้าทีมใช้เวทมนตร์ได้ดีกว่านักเวทอย่างมาก อีกทั้งยังมีพลังโจมตีที่รุนแรงกว่าอีกด้วย SpyingBlade ผู้ซึ่งตระหนักรู้ความสามารถของเย่ฉางมาตั้งนานก็ยังอดพยักหน้าชื่นชมไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีระยะประชิดที่สุดยอด ที่สำคัญคือฝีมือการยิงธนูของเขานั้นล้ำเลิศอย่างมาก มันเหมือนว่าเขานั้นเป็นยอดฝีมือด้านธนูตัวฉกาจคนหนึ่ง ความยากลำบากในการยิงธนูนั้นสูงมาก กว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ขนาดนี้ เขาต้องทนฝึกฝนมาเป็นเวลานานแค่ไหนกัน มันยากจะบอกได้ว่าเขาอายุแค่ไหนแต่กลับมีฝีมือการยิงธนูร้ายกาจมาก
ฟางชิใช้แคโรไลน์บาลี่ร่ายเวทความกลัวใส่พวกหมาป่าและสั่งเธอให้ฆ่าพวกมัน เขายังสั่งให้เธอร่ายเวทคำสาปที่เป็นการโจมตีวงกว้างใส่พวกหมาป่าอีกด้วย แม้แต่ SpyingBlade ยังต้องยอมรับว่าคำสาปของพวกเนโครแมนเซอร์มีประโยชน์อย่างมาก แม้ว่าบอสอาจไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบกับมอนเตอร์ทั่วไปเหล่านี้แล้ว เวทคำสาปสามารถสร้างความเสียหายแบบวงกว้างได้เป็นอย่างดี สำหรับจางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ พวกเขาต่างดูแคลนพวกหมาป่าเหล่านี้ ด้วยพลังป้องกันที่สูงของจางเจิ้งเฉียง ทำให้เขาสามารถรับมือกับหมาป่า 5 ตัวได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หลินหลี่เหวี่ยงดาบสับพวกมันเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายๆ
FrozenCloud แทงกรงเล็บใส่หมาป่าจนตายลงไป เธอสังเกตเห็นว่าพลังชีวิตของเธอแทบจะไม่ลดลงเลย เพราะมีลำแสงแห่งการรักษาไหลผ่านเธอไปยังเจ้าหมียักษ์ การสนับสนุนของเย่เทียนเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เธอได้ใช้ประโยชน์จากข้อดีในฐานะพาลาดิน และความเข้าใจในจังหวะเวลาของเธอก็ไร้ที่ติ
หลังจากการต่อสู้จบลงแล้ว เย่ฉางกลายเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลคอยทำความสะอาดสนามรบที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด ฉากนี้ทำให้ทุกคนขนลุกมาก
หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน แม้แต่ SpyingBlade ก็เริ่มที่จะเบื่อหน่ายกับภูเขานี้แล้ว พวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดเขาอีกครั้งและมองไปที่ดวงจันทร์ขนาดมหึมา หลินหลี่จึงเสนอขึ้นว่าให้ทุกคนถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน ทุกคนยืนชิดกันแล้วหันหลังให้กับดวงจันทร์พร้อมกับโพสท่าทาง SpyingBlade ไม่สามารถหุบยิ้มได้ ‘ถ่ายรูป เฮ้อ!?’ เขานึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในทะเลสาบแห่งหนึ่ง มีภาพของชายและหญิงกอดกันในน้ำ เขาหันหน้ามามองดวงจันทร์ นี่มันก็ผ่านมานานแล้ว ชีวิตมันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและดราม่า และเขาก็เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เขาเริ่มคิด ‘มันเหมือนกับ CloudDragon พูดไว้ไม่มีผิด ฉันมันเป็นแค่คนขี้ขลาด แต่ฉันยอมตายได้ถ้าผู้หญิงที่ฉันรักนั้นจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข และฉันหวังว่าเธอจะลืมฉันได้ ฉันมันก็เหมือนคนที่ได้เหยียบขาข้างหนึ่งเข้าสู่ประตูแห่งความตายไปแล้ว’
ทุกคนออกเกมเพื่อมาพักผ่อนอีกครั้ง
ณ.มหาวิทยาลัยเมืองหลวง เขตราชินีในเมืองหลวง
ผู้ชายผมสั้นที่มีใบหน้าซีดเซียว เขาดูเหมือนผู้ชายทั่วๆไป กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งบนริมชายหาดเขาเฝ้ามองขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นจากขอบทะเล จากนั้นเขาก็มีการเคลื่อนไหวที่แปลกๆ เขาเดินโซซัดโซเซไปที่เครื่องขายน้ำอัตโนมัติและซื้อขวดน้ำแร่ เขาถือขวดน้ำด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาเปิดฝาขวด แต่เขาไม่สามารถเปิดฝาได้ น้ำกระเซ็นรอบๆฝาขวดเนื่องจากความพยายามของเขาที่จะเปิดมัน แต่เขาก็ไม่สามารถเปิดมันได้อยู่ดี ในที่สุดเขาใช้ปากกัดฝาและเปิดมันด้วยความยากลำบาก เขายกน้ำดื่มและมองไปที่ดวงอาทิตย์ด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ “มือขวาฉันเริ่มใช้การไม่ได้แล้ว? ถัดไปก็ควรจะเป็นขาของฉัน”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก มีหยดน้ำอุ่นๆไหลลงบนแก้มเขา เขายื่นมือไปข้างหน้าราวกับคว้าจับแสงไว้ แต่เขาแทบไม่สามารถจะกำมือได้ เขามองดูแสงพระอาทิตย์ที่พุ่งผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือของเขา “ฉันเหลือเวลาอีกแค่ไหน!”
ดวงอาทิตย์ยามเช้าเป็นตัวแทนของความหวังและตัวแทนของวันพรุ่งนี้ แต่ชายที่นั่งอยู่บนม้านั่งอยู่ในสภาพนี้ เขาเอนหลังอย่างเงียบๆเหมือนคนชรา เขามองท้องทะเลอย่างเหม่อลอย ในที่สุดเขาก็ยิ้มขึ้น แต่มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตา “ขอโทษนะ ไม่ใช่ว่าฉันต้องการทำร้ายคุณ ฉันขอโทษจริงๆ…”
…
นี่คือ SpyingBlade ในโลกแห่งความเป็นจริง เขาเป็นคนธรรมดามากๆ ทั้งรูปร่าง หน้าตา การศึกษา ทั้งหมดอยู่ในระดับกลางๆทั่วไป เขาเติบโตในครอบครัวที่ธรรมดามากๆ เขาไม่มีความปรารถนาใดๆ เขาเพียงแค่ต้องการที่จะหาผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่งงานและก็มีลูกด้วยกัน ชื่อจริงเขาคือโจวยี่เฟิง ตอนแรกเขามีความตั้งใจที่จะมีชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วๆไป แต่ในปีแรกเขาก็ได้รับข่าวร้ายว่าป่วยเป็นโรค ALS2 ซึ่งมันเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาหายได้ เขาเพียงแต่ยิ้มรับกับชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ โรคนี้จะทำให้เขาค่อยๆสูญเสียความแข็งแกร่งของร่างกายไป กล้ามเนื้อของเขาจะค่อยๆเหี่ยวแห้งลง แขนขาทั้งสี่ของเขาจะค่อยๆสูญเสียเรี่ยวแรงที่จะเคลื่อนไหว แม้กระทั่งการหายใจก็ยังยากลำบาก และในที่สุดสมองของเขาจะฝ่อ เขาจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และเมื่อเขาสูญเสียความสามารถในการหายใจ มันก็เท่ากับว่าเขารอวันตายเพียงอย่างเดียว แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่ายินดีก็คือ ช่วงเวลาจนกว่าที่โรคนี้จะกลายเป็นอันตรายถึงชีวิต ถือว่ายาวนานพอสมควร ตามที่แพทย์บอกมันยังคงมีเวลาอยู่ได้ถึง 4-5 ปี ดังนั้นในห้องมืดๆที่เขารักษาอยู่ โจวยี่เฟิงหรือ SpyingBlade หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ และตัดสินใจว่าในช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิต เขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ธรรมดาอีกต่อไป
SpyingBlade คิดย้อนกลับไปเมื่อตอนเขาอายุตั้งแต่ 20 เขามีหนี้แค้นหรือติดหนี้บุญคุณกับใครหรือไม่? แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ เขาได้ตอบแทนพระคุณหรือยัง? แน่นอนว่าเขาต้องตอบแทนพระคุณท่าน นอกเหนือจากนั้น ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ ตอนนี้เขาได้ป่วยเป็นโรคนี้แล้ว เมื่อนึกถึงชีวิตปกติธรรมดาที่ผ่านมาของเขา ทำให้เขารู้สึกสมเพชตัวเอง เขาไม่มีแม้แต่ความทรงจำที่มีค่า, ไม่ได้มีมิตรภาพที่น่าจดจำหรือศัตรูคู่แค้นใดๆเลย
จู่ๆเขาก็นึกถึงความทรงจำหนึ่งเดียวที่ยังตราตรึงอยู่ในจิตใจลึกๆของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาหลงลืมไปเกือบหมดแล้ว ตอนนั้นเขาอยู่ชั้นปีหนึ่ง มีสาวที่สวยที่สุดในชั้นเรียนซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง เธอมีใบหน้าที่สวยงามและดูเหมือนจะมาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งเขาได้สารภาพรักกับเธอ แต่เธอกลับเพียงกรอกตาไปมาและหัวเราะเยาะ “นายคิดว่าคู่ควรกับฉันงั้นหรือ? ถ้านายจริงใจกับฉันมากขนาดนั้น ก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านายมีความมุ่งมั่นที่จะไล่ตามฉัน …”
ด้วยคำพูดนั้นของเธอ ทำให้เขาได้สติขึ้นมาและเข้าใจความแตกต่างระหว่างพวกเขา แม้น้ำเสียงที่ถากถางและแฝงไปด้วยการเยาะเย้ยของเธอจะทำให้เขาเจ็บ แต่เขารู้ตัวเองดีว่า เขาเป็นเพียงคนธรรมดาจริงๆ ในขณะที่เธอเป็นคนที่แสนจะเฟอร์เฟคและอยู่ในตระกูลที่มีอิทธิพล ชีวิตของเขาและเธอแตกต่างกันสุดขั้ว พอคิดได้เช่นนี้ เขาก็เลิกชอบเธอและหันกลับไปใช้ชีวิตอย่างธรรมดาในแต่ล่ะวัน ในขณะที่เขานึกถึงเรื่องนี้ในห้องมืด SpyingBlade เปล่งรอยยิ้มที่ดูหนักแน่น “ฉันจะทำให้เธอเป็นของฉัน แล้วจากนั้นฉันจะทิ้งเธอไป! นี่เป็นความปรารถนาครั้งสุดท้ายของฉัน …”
จากนั้น SpyingBlade ก็นึกถึงข้อมูลที่เขาได้รู้มา ในอดีตเธอเป็นเทพธิดาของมหาวิทยาลัย และตอนนี้เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดกิลด์ Falling Star Pavilion จากนั้นเธอได้จ้างผู้เล่นมืออาชีพให้ทำงานเพื่อเธอ ดังนั้นเขาจึงสมัครเข้ากิลด์ของเธอ และเขาก็ค่อยๆได้รับการยอมรับจากเธอ SpyingBlade เริ่มเข้าใกล้เธอซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเทพธิดาของเขา เขาเดิมพันทุกอย่างด้วยชีวิตของเขา เขาพยายามดิ้นรนและกระเสือกกระสนอย่างหนักเพื่อพิชิตหัวใจของ CompassionateStar และแล้วเธอก็ตกหลุมรักเขา แต่แล้ว SpyingBlade ที่ตอนแรกตั้งใจจะมาแก้แค้น เขากลับหลงรักเธออย่างจริงจัง เพราะเขาได้รับรู้ถึงความอ่อนโยนของเธอ และเคยได้ยินจากปากของเธอว่า ในมหาวิทยาลัยเธอมีประทับใจและรู้สึกชอบพอกับผู้ชายคนแรกที่กล้าสารภาพรักกับเธอ เขาคนนั้นเป็นแค่คนที่แสนธรรมดาๆ แม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดา แต่เขาก็กล้าสารภาพรักกับเธอ เขายังได้กระทำบางอย่างที่ไม่ธรรมดาและกล้าหาญ SpyingBlade ตกตะลึง ในเวลานั้นเธอไม่ได้ตั้งใจจะปฏิเสธเขา แต่เธอกำลังทดสอบความตั้งใจจริงของเขามากกว่า
ในคืนแรกของพวกเขา SpyingBlade ได้เฝ้าดู CompassionateStar ถอดเสื้อผ้าของเธอ เธอนอนรอเขาอยู่บนเตียง และพร้อมยอมมอบกายให้เขาด้วยความรัก เขามองตัวเองในกระจกด้วยความตกใจและเป็นกังวลใจ เขาเหลือเวลาอีกเท่าไหร่กันนะ? 2 ปี? บางทีอาจ 3 ปี? นิ้วมือ 3 นิ้วข้างซ้ายของเขามีปัญหาในการเคลื่อนไหว ร่างกายของเขาก็ค่อยๆสูญเสียความสมดุลไปด้วย ถ้าเขานอนกับเธอในตอนนี้ เขาจะมอบอะไรให้เธอได้? สิ่งนี้จะกลายเป็นแผลเป็นที่ติดตัวเธอไปตลอดและจะคอยหลอกหลอนเธอ? เมื่อคิดถึงความอ่อนโยนของเธอ และความรู้สึกที่เธอยอมรับที่เขาเป็นแค่คนธรรมดา หัวใจของเขาก็ปวดร้าวขึ้นมา เขาเดินมาที่เตียงและเยาะเย้ยเธออย่างไร้ความปราณี “ฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จแล้ว! เธอคิดว่าฉันอยากจะนอนกับเธอจริงๆหรือ? ฝันไปเถอะ เธอเป็นเพียงแค่ของเล่นของฉันเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ! ฉันโจวยี่เฟิงคนนี้ คนที่สารภาพกับเธอในปีนั้น คนที่ถูกเธอปฏิเสธ อ่า ~~ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย เมื่อเห็นร่างกายสกปรกของเธอ ฮ่าๆๆ การแก้แค้นมันช่างดีเช่นนี้เอง! ฮ่าๆๆ!”
“DarkBlade นายอย่ามาล้อเล่นนะ เรากำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้าแล้ว ถ้าขืนนายยังคงพูดเล่นอยู่ ฉันจะโกรธนายจริงๆด้วย …” CompassionateStar ตกตะลึงแต่ก็ยิ้มให้เขา เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าของเธอ เธอมองไปที่ SpyingBlade และพบว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น ท่าทางของ CompassionateStar ค่อยๆกลายเป็นกังวล “อย่ามาล้อเล่นกับฉัน! ฉัน … ฉัน …”
SpyingBlade ไม่ได้พูดอะไรสักคำ หัวใจของเขาปวดร้าวเหมือนโดนมีดกรีดนับพันนับหมื่นแผล และเขาก็ขอโทษเธออย่างจริงจังในใจของเขา เมื่อมองเห็นความสิ้นหวัง, ความอัปยศน่าอับอาย และความเกลียดชังของ CompassionateStar เขาฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาและกัดฟันพูด “ล้อเล่น? ช่างน่าเบื่อเสียจริง ฉันหมดความสนใจในตัวเธอแล้ว และแทบไม่รู้สึกอยากนอนกับเธอเลย หัวหน้ากิลด์ที่ไร้เดียงสา ลาก่อน!!”
SpyingBlade ใส่เสื้อผ้าและเดินไปตามท้องถนนเหมือนซากศพ ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยน้ำตา แต่เขาก็ยิ้มอย่างเศร้าๆ สำหรับ CompassionateStar เธอกอดร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอและร้องไห้อย่างขมขื่น การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความเศร้าโศก