บทที่ 1337 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งความมืด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1337 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งความมืด

แปลโดย iPAT

ภาคใต้ อาณาจักรแห่งความฝัน

‘จ้าวเย่ฮุ้ย!?’ เมื่อได้ยินชื่อของสัตว์ประหลาดตัวนี้ หัวใจของฟางหยวนสั่นไหวอย่างรุนแรง

นี่คือสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีต้นกำเนิดที่ลึกลับ มันคงอยู่มาตั้งแต่หนึ่งล้านปีก่อน

ทุกครั้งที่มันปรากฏตัวจะเกิดการต่อสู้อย่างไม่รู้จบสิ้น หากเปรียบเทียบในแง่ของความอาวุโส พังพอนหางสุนัขของภาคเหนือยังถือเป็นเด็กน้อยที่มีอายุเพียงสามแสนปี

จ้าวเย่ฮุ้ย โหย่วเทียนกวง ทั้งสองชื่อนี้เป็นฝันร้ายของมวลมนุษยชาติมาตลอด

พวกมันเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่พวกมันมีร่างกายของมนุษย์

กระทั่งวังสวรรค์ของภาคกลางก็ไม่สามารถทำลายล้างพวกมัน

พวกมันมีสติปัญญาและทำงานร่วมกัน เมื่อใดก็ตามที่เทพอมตะหรือเทพปีศาจถือกำเนิดขึ้น พวกมันจะซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ

โชคดีที่เทพอมตะสวรรค์พิภพมุ่งมั่นที่จะกำจัดความชั่วร้ายเหล่านี้ เขาใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก ในที่สุดเขาก็พบที่ซ่อนตัวของสัตว์อสูรในตำนานทั้งสอง

หลังการต่อสู้ที่ดุเดือด โหย่วเทียนกวงเสียชีวิตขณะที่จ้าวเย่ฮุ้ยได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถหลบหนี

‘จ้าวเย่ฮุ้ย…ข้าได้พบกับสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่เป็นตำนานในอาณาจักรแห่งความฝันจริงๆ’ ฟางหยวนตะลึง

จ้าวเย่ฮุ้ยกำลังกินซากศพทั้งหมดที่อยู่รอบๆอย่างตะกละตะกลาม กองซากศพถูกดูดเข้าไปในปากของมันด้วยความเร็วสูง

ท่าไม้ตายอมตะ!

เห็นได้ชัดว่ามันคือท่าไม้ตายอมตะ

การเคี้ยวทั่วไปไม่อนุญาตให้มันกินด้วยความเร็วสูงถึงระดับนี้

ฟางหยวนกำลังพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วนัก ความเร็วในการหลบหนีของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับแรงดูดของมัน นั่นทำให้ฟางหยวนถูกลากดึงเข้าไป

สุดท้ายร่างของฟางหยวนก็ถูกดูดเข้าไปในปากของจ้าวเย่ฮุ้ย

มันกัดกินฟางหยวนด้วยคมเขี้ยมอันแหลมคม

‘ข้าตายอีกแล้ว!’ ฟางหยวนกลับสู่โลกของความจริงด้วยอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณ

‘ข้าจะผ่านอาณาจักรแห่งความฝันนี้ได้อย่างไร?’ ปัญหานี้เหมือนหินขนาดใหญ่ที่กีดขวางเส้นทางของเขาเอาไว้

เขาครุ่นคิด

ขณะที่เขาถูกนำขึ้นไปบนภูเขาโดยมนุษย์อสูรหัวหมูป่า ฟางหยวนพยายามหลายวิธีแต่ยังไม่สามารถหลบหนี

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอาณาจักรแห่งความฝันกำลังบังคับให้เขาไปหุบเหว แต่หุบเหวนี้อันตรายกว่ามนุษย์อสูรหัวหมูป่าเพราะมีสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานอยู่ที่นั่น

สัตว์อสูรแรกกำเนิดมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดแต่พวกมันมีสติปัญญาต่ำกว่า

อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้นสำหรับทุกสิ่ง ท่ามกลางสัตว์อสูรแรกกำเนิด มีหลายตัวที่ได้รับสติปัญญาและสามารถเรียนรู้การใช้ท่าไม้ตายอมตะ

สัตว์อสูรแรกกำเนิดลักษณะนี้ถือเป็นสัตว์อสูรในตำนานและมักมีชื่อเป็นของตนเอง

เช่นเดียวกับพังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวของภาคเหนือ มังกรปีศาจไต่เจิ้งเฉิงของภาคกลาง ตลอดไปถึงจ้าวเย่ฮุ้ย และโหย่วเทียนกวง

ตัวตนเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่

นี่สามารถเห็นได้จากวิธีที่พังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวสามารถสังหารสองผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

มนุษย์มีร่างกายที่อ่อนแอและไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตอื่น หากพวกเขาไม่ได้ใช้วิญญาณ ความสามารถทางกายภาพของพวกเขาจะอ่อนด้อยกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอย่างมาก

สัตว์อสูรแรกกำเนิดมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจำนวนมากอยู่บนร่างกาย พวกมันมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัว ความแข็งแกร่ง และอื่นๆ พวกมันล้วนเหนือกว่ามนุษย์ทั้งสิ้น เมื่อพวกมันมีสิติปัญญาเหมือนมนุษย์และสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะ ความแข็งแกร่งของพวกมันจึงเหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดโดยธรรมชาติ

‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้ต้องการให้ข้าหลบหนีจากการถูกจ้าวเย่ฮุ้ยกินงั้นหรือ?’

ฟางหยวนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันตลอดทางและหลบอยู่ใต้กองซากศพ

จ้าวเย่ฮุ้ยเริ่มดูดกลืนซากศพขณะที่ฟางหยวนพยายามหลบหนี

แต่ในไม่ช้าเขาก็ยังถูกดูดเข้าไปในปากของจ้าวเย่ฮุ้ยอีกครั้ง

‘บัดซบ!’ สิ่งสุดท้ายที่ฟางหยวนมองเห็นคือคมเขี้ยวของจ้าวเย่ฮุ้ยที่แทงเข้าไปในร่างกายของเขา

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

‘ข้าต้องขุดลงไปให้ลึกมากขึ้น’ ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเพื่อค้นหาตำแหน่งที่ดีที่สุด

จ้าวเย่ฮุ้ยดูดกลืนซากศพอยู่เป็นเวลานานก่อนจะหยุดลง

ฟางหยวนยังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกองซากศพ

‘ในที่สุดข้าก็ผ่านมาได้’ ในขณะที่ฟางหยวนกำลังยินดี หนึ่งในสองผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เปิดปากกล่าว “จ้าวเย่ฮุ้ย เจ้าช่างกินจุนัก”

ยักษ์ดำกล่าว “น้อยเกินไป ข้าต้องการกินมนุษย์มากกว่านี้ ยิ่งข้ากินมนุษย์มากเท่าใด ข้าก็ยิ่งเข้าใกล้การเป็นมนุษย์มากเท่านั้น!”

“อย่ากังวล ยังมีอีก” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรหัวเราะและนำซากศพของผู้ใช้วิญญาณออกมาจากมิติช่องว่างของเขา

‘บัดซบ!’ ฟางหยวนลอบสาปแช่ง

ในเวลาต่อมา เขาถูกกองซากศพทับตาย

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

ฟางหยวนขุดลงไปในกองซากศพแต่คราวนี้เขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด

หลังจากการดูดกลืนจบลง เขาก็อยู่ชั้นบนสุดของกองซากศพ

ศพจำนวนมากร่วงหล่นลงมาขณะที่ฟางหยวนพยายามปีนขึ้นไปด้านบน

‘ข้าควรทำอย่างไรต่อไป?’ ฟางหยวนมองกองซากศพที่อยู่ข้างหน้าและคิดอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันเขายังถูกฝังอยู่ในกองซากศพ เขาอยู่ห่างจากชั้นบนสุดประมาณหกเมตร

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาเริ่มรู้สึกชาที่หน้าอก

เขาใช้มือสัมผัสและรู้สึกว่ามันเหมือนอสรพิษหรือตะขาบ

‘ข้าตายอีกแล้วงั้นหรือ?’ คำถามนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขาเมื่อเขาถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

‘ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นวิญญาณ?’ ฟางหยวนคิด

‘มีซากศพของผู้ใช้วิญญาณจำนวนมาก ดูเหมือนพวกเขาจะผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่ขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์บางดวงยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นเรื่องปกติ แม้ผู้อมตะจะพบพวกมัน แต่วิญญาณระดับมนุษย์ไร้นัยสำคัญสำหรับพวกเขา’

‘แน่นอนว่าในสภาพแวดล้อมเช่นทะเลซากศพ วิญญาณป่าอาจถือกำเนิดขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก’

ฟางหยวนตระหนักอย่างชัดเจนว่าวิญญาณดวงนี้เป็นโอกาสของเขา

หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณ เขาก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

การปรับแต่งวิญญาณล้มเหลวเพราะการแทรกแซงของจ้าวเย่ฮุ้ย เขาเสียชีวิต

ในความพยายามครั้งต่อมาเขาสามารถปรับแต่งวิญญาณดวงนี้และตระหนักว่ามันเป็นวิญญาณระดับสองที่ใช้โจมตี ฟางหยวนสาปแช่งอีกครั้ง เขาตาย

อีกครั้ง เขาเสียชีวิต

และเสียชีวิต

และเสียชีวิต

‘อาณาจักรแห่งความฝันบัดซบอันใด!?’

สิ้นหวัง

ในอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนอ่อนแอเกินไป

อุบัติเหตุเล็กๆก็สามารถมอบความตายให้เขาได้ทันที

‘ข้าควรทิ้งอาณาจักรแห่งความฝันนี้หรือไม่?’ ความคิดนี้ปรากฏขึ้นหลังจากล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง

ฟางหยวนลงทุนกับอาณาจักรแห่งความฝันนี้ไปมากแต่เขายังไม่เห็นโอกาสประสบความสำเร็จ

อาณาจักรแห่งความฝันนี้ยากเกินไป!

‘มาลองอีกครั้ง!’

‘ข้าสามารถอดทนได้อีกครั้ง’

‘ข้าตายอีกแล้ว…ข้าควรยอมแพ้หรือไม่?’

ฟางหยวนลงทุนไปมากแล้ว เขาไม่ต้องการยอมแพ้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาไม่เคยพบอาณาจักรแห่งความฝันเช่นนี้มาก่อน หากเขาประสบความสำเร็จ เขาอาจได้รับผลประโยชน์มหาศาล

ฟางหยวนกัดฟันอดทน

เหลือซากศพอยู่ประมาณหกสิบศพ ฟางหยวนดิ้นรนรักษาชีวิตมาจนถึงเวลานี้

ค่ายกลวิญญาณปรากฏขึ้น

ฟางหยวนค้นพบว่าจ้าวเย่ฮุ้ยติดอยู่ในค่ายกลวิญญาณนี้ ร่างกายส่วนล่างของมันถูกฝังอยู่ใต้ดิน มีเพียงส่วนบนเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหว

‘ค่ายกลสี่ธาตุ ข้าจะทำลายเจ้า!’ จ้าวเย่ฮุ้ยคำรามและระเบิดแสงสีเทาออกมาจากร่างกาย

“โอ้ ไม่ นี่คือท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทา! ถอย!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรทั้งสองรีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

ค่ายกลสี่ธาตุสะกดข่มแสงสีเทาเอาไว้และทำให้จ้าวเย่ฮุ้ยคำรามด้วยความโกรธ

‘อันใด ข้าจะหลบมันได้อย่างไร?’ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรสามารถบินหนีแต่ฟางหยวนไม่สามารถ

เขาถูกแสงสีเทากลืนกินเข้าไป

ฟางหยวนตกอยู่ในความสิ้นหวัง ‘นี่คืออาณาจักรแห่งความฝันที่ไม่สามารถคลี่คลาย! แสงสีเทาไม่สามารถหลบเลี่ยง! หากข้ารู้เช่นนี้ ข้าคงยอมแพ้ไปนานแล้ว นั่นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดกว่า!’

ฟางหยวนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งขณะถูกส่งออกมา

อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณของเขารุนแรงกว่าทุกครั้ง

แต่…

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนมีความสุขและประหลาดใจก็คือความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดของเขาพุ่งขึ้นสู่ระดับปรมาจารย์ในครั้งเดียว

‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’ ฟางหยวนเร่งตรวจสอบ

เขาตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าอาณาจักรแห่งความฝันนี้หายไปแล้ว

‘ข้าประสบความสำเร็จ! มันคืออาณาจักรแห่งความฝันที่ต้องเอาตัวรอดจนถึงที่สุด’

‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้มีเพียงฉากเดียว แต่หลังจากผ่านมาได้ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดระดับสามัญของข้าก็ก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ทันที!’

‘นี่เป็นเพราะการดำรงอยู่ของจ้าวเย่ฮุ้ยงั้นหรือ?’

คำถามมากมายถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับคำตอบ

หลังจากทั้งหมดความรู้เกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันของฟางหยวนยังตื้นเขินเกินไป

ในเวลาเดียวกันไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันก็เต็มไปด้วยคำถาม

“ที่นี่ที่ใด?” ไห่ลั่วหลันมองโลกที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ

“นี่คือสวรรค์ของมนุษย์เห็ด” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ปรากฏตัวขึ้น

“ผู้อมตะเผ่ามนุษย์เห็ด?” รูม่านตาของไป่หนิงปิงหดเล็กลง

มนุษย์เห็ดเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ประเภทหนึ่ง พวกเขามีร่างกายของมนุษย์แต่มีหมวกเหมือนเห็ดอยู่บนศีรษะ

“สวรรค์…มนุษย์เห็ด?” ไห่ลั่วหลันพึมพำสองคำนี้ “อย่าบอกว่านี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพอมตะสวรรค์พิภพ…”

—————