ตอนที่ 660 เหมือนสาหร่ายทะเล

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ตอนที่ 660 เหมือนสาหร่ายทะเล 

 

 

เมื่อกระโดดลงมาในทะเล ฟรานเชสโก้ก็รู้สึกราวกับตัวเองกำลังนั่งอยู่บนโรลเลอร์โคสเตอร์ ก่อนที่เขาจะกระโดดลงมา เขาคิดว่าหลี่ว์ซู่คงจะหลอกให้พวกเขากระโดดตามลงไป แต่พอกระโดดลงมาแล้วก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครซุ่มโจมตีอยู่อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย 

 

 

ทว่าต่อมากลับกลายเป็นว่าเขาถูกกระบี่แสงเล่นงานเสียอย่างนั้น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว 

 

 

ระหว่างการต่อสู้กับยอดฝีมือคนนั้น เขาขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้เลย แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าไม่ได้มีแต่พวกเขาห้าคนเท่านั้นที่ติดกับ ยอดฝีมือคนนั้นก็ติดกับตัวเองด้วยเหมือนกัน… 

 

 

ทั้งหกคนรวมหลี่ว์ซู่ล้วนตกอยู่ในความสิ้นหวัง ช่างเป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดอะไรแบบนี้ ฟรานเชสโก้ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาอยากจะปลิดชีพอีกฝ่ายให้มันจบๆ ไป แต่ ‘ฮาเวิร์ด’ คนนี้เหลือเกินไปมาก เขาหมดหวังจนทำอะไรเลยเถิดไปมาก 

 

 

หลี่ว์ซู่เองก็หมดหวังแล้วเหมือนกัน เขาเป็นผู้มีพลังสายธาตุน้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวน้ำอยู่แล้ว และผู้มีพลังสายธาตุไฟก็ไม่ควรกลัวไฟ เมื่อได้แตะต้องธาตุที่ตัวเองมีพลังก็ไม่ควรเป็นอะไร 

 

 

เมื่อก่อนหลี่ว์ซู่คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นผู้มีพลังธาตุสายฟ้า เพราะเขาสามารถจับสายฟ้าได้ แต่สายฟ้าอันนี้ดูเหมือนจะไม่รับรู้ตัวตนของเขาเลย มันกลับเข้าโจมตีเขาโดยไม่มีการแบ่งแยกใดๆ 

 

 

หลี่ว์ซู่งงไปหมด ผู้มีพลังสายธาตุน้ำควบธาตุสายฟ้ามีแค่ในความฝันของเขาเท่านั้นเหรอ ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ เขาก็คงใช้พลังน้ำออกไปก่อนแล้วค่อยปล่อยกระบี่แสงแล้ว 

 

 

ทุกคนร่างกายสั่นไหวอยู่ใต้น้ำ อสนีบาตสวรรค์นี่แข็งแกร่งมากเกินไป หลี่ว์ซู่รู้ว่าอาการสั่นนี้คงหยุดไม่ได้ไปอีกสักพัก พวกเขาสั่นกันเหมือนกับสาหร่ายทะเลเลย… 

 

 

ตอนนี้หลี่ว์ซู่ไม่ได้ห่วงว่าพวกเขาจะไม่หยุดตัวสั่นกันหรือเปล่า แต่ห่วงว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ นั้นจะมากกว่าเขาหรือเปล่า ถ้าพวกเขาหายตัวสั่นก่อนเขา แล้วเขาจะทำยังไงล่ะ 

 

 

นี่เป็นไปได้ทั้งนัน ถ้าฟรานเชสโก้ได้เคลื่อนไหวก่อนละก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น แต่โชคดีที่เขาใช้กระบี่แสงไปแค่หนึ่งในสามของที่มีอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องนอนจมอยู่ในทะเลแน่ๆ 

 

 

เหมือนสำนวนที่บอกว่าฆ่าไปหนึ่งพันแต่เสียกำลังคนไปแปดร้อย น่าขำสิ้นดี ถ้าเป็นแบบนั้นจริงหลี่ว์ซู่ก็คงฆ่าหกร้อยหกสิบหก แต่เสียไปเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแน่ๆ 

 

 

คลื่นใต้น้ำยังคงซัดหน้าผาต่อไปไม่หยุดหย่อน พวกเขาโดนคลื่นใหญ่ซัดเข้าไป มันซัดเข้าหาหินและหายไปจากนั้นก็กลับมาใหม่เรื่อยๆ อยู่อย่างนี้ จะว่าไปก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ 

 

 

ตอนแรกหลี่ว์ซู่ก็ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ แต่คลื่นที่พัดไปพัดมาทำให้หลี่ว์ซู่มาอยู่ตรงกลางของกลุ่มเสียอย่างนั้น เขาชนเข้ากับฟรานเชสโก้ และภาพที่เห็นก็เหมือนกับหุ่นขี้ผึ้งของเขาทั้งสองคนกำลังทักทายกันในขณะที่ตัวสั่นแหง็กๆ 

 

 

เขาเริ่มอารมณ์เสียแล้ว ทีนี้เขาก็เสียโอกาสเหมาะที่จะซ่อนตัวอย่างลึกลับแล้วกลับกลายมาอยู่ตรงกลางของกลุ่มเฉยเลย… 

 

 

หลี่ว์ซู่พุ่งเข้าใส่ฟรานเชสโก้แล้วยิ้มให้ แต่หน้าของฟรานเชสโก้กลับไม่ญาติดีด้วย เพราะเขาขยับไปไหนไม่ได้และทำได้แค่เพียงปล่อยให้ตัวเองถูกคลื่นพัดไปพัดมาเท่านั้น จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็เผลอไปเตะหน้าของฟรานเชสโก้เข้าอิท่าไหนก็ไม่รู้… 

 

 

พอร่างของฟรานเชสโก้ลอยเข้ามา หลี่ว์ซู่ก็เตะหน้าเขาเข้าให้อีกรอบ 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากฟรานเชสโก้ รุสโซ่ +999!] 

 

 

ฟรานเชสโก้คิดว่านี่เป็นวันที่น่าอัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของเขาแล้วล่ะ! 

 

 

หลังจากผ่านไปห้านาที ความชาหนึบก็เริ่มบรรเทาลง หลี่ว์ซู่เดาไว้ว่าความชาจากกระบี่แสงนี้คงจะอยู่ประมาณสิบนาทีได้ 

 

 

ถ้านี่มันโจมตีเข้ากับแค่คนอื่นแล้วหลี่ว์ซู่ก็ชนะไปจากการใช้ท่าไม้ตายไปแล้วล่ะ 

 

 

เดี๋ยวก่อนนะ หลี่ว์ซู่เห็นปัญหาหนึ่งแล้ว เขาเพิ่งจะดูดซับพลังสายฟ้าจากกระบี่แสงไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะเป็นเหมือนกับตอนที่เขาโดนด่านเคราะห์สวรรค์ไหมล่ะเนี่ย เขาจะใช้อสนีบาตสีม่วงนี้เพื่อเพิ่มกระบี่สายฟ้าต้นแบบได้ไหมนะ 

 

 

ถึงตอนนี้เขาจะมีกระบี่ต้นแบบอยู่หกร้อยยี่สิบสี่เล่มแล้ว แต่เขาก็ยังให้กำเนิดวิญญาณดาบได้อีก เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีกระบี่แสงอยู่ที่ประมาณสามร้อยเล่มนิดๆ นอกจากนั้นกระบี่แสงพวกนี้ยังทรงพลังมากด้วย! 

 

 

หลี่ว์ซู่ใช้โอกาสที่ไม่มีใครขยับตัวได้นี้เพื่อเป็นตรวจสอบจุดชี่ไห่สักหน่อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเขาพบว่าจำนวนของกระบี่แสงไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย… 

 

 

เขาเสียใจมาก ทำไมกระบี่ต้นแบบของเขาไม่เพิ่มขึ้นเลยล่ะ ต้องอัญเชิญอสนีบาตมาเท่านั้นเหรอ 

 

 

แต่แล้วหลี่ว์ซู่ก็ต้องตกใจ เพราะในตอนที่เขายังรู้สึกชาหนึบอยู่นั้น ฟรานเชสโก้กลับขยับได้แล้ว! 

 

 

ฟรานเชสโก้ดูเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวเหมือนกัน เขาอารมณ์เสียขึ้นมาทันที วันนี้เขาต้องอับอายมาทั้งวันแล้ว ตอนนี้แหละคือจังหวะเหมาะที่จะฆ่าหลี่ว์ซู่! 

 

 

ไม่ใช่แค่ฟรานเชสโก้ที่ขยับตัวได้เท่านั้น แต่ยอดฝีมือระดับ B คนอื่นๆ ก็ค่อยๆ หายจากอาการชาไปเหมือนกัน พวกเขามองหลี่ว์ซู่ด้วยสายตาอาฆาต 

 

 

ทุกคนพยายามจะฝืนอาการชาและว่ายน้ำเข้าไปหาหลี่ว์ซู่ พวกเขาอยู่ไม่ห่างกันมาก ทำให้พวกเขาเข้าไปถึงตำแหน่งของหลี่ว์ซู่ในเวลาไม่ถึงนาที! 

 

 

หลี่ว์ซู่ทำหน้าสงบนิ่งมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เขาต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นๆ กว่าจะหายจากอาการชา เขาคงต้องขอเวลาอีกสักสองนาทีกว่าจะหาย 

 

 

และสองนาทีนั้นไม่ได้นานเลย แต่ว่าก็นานพอที่ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ จะฆ่าเขาทิ้งได้ 

 

 

ยิ่งคิดออกแบบนี้เขาก็ยิ่งสงบนิ่งเข้าไปใหญ่ 

 

 

เมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้น พวกที่กล้าหาญก็จะโกรธด้วยโทสะ แต่พวกที่กล้าหาญกว่าจะไม่โกรธ ส่วนพวกที่กล้าหาญยิ่งกว่าจะนิ่งสงบ 

 

 

แต่สีหน้าของหลี่ว์ซู่กลับเป็นปกติ เพราะเขาเป็นพวกกล้าหาญกว่าคนประเภทไหนๆ 

 

 

เมื่อเวลาผ่านไป หลี่ว์ซู่ก็ถอนหายใจออกมา ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ เห็นสายฟ้าสีม่วงนับไม่ถ้วนถูกปล่อยออกมาจากร่างของหลี่ว์ซู่… 

 

 

อะไรวะเนี่ย! ตอนแรกก็เห็นเตรียมตัวตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมีแผนสำรองได้อีกเนี่ย! 

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ รีบว่ายน้ำขึ้นไปบนผิวน้ำทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว… 

 

 

ทั้งหกคนเริ่มตัวสั่นแหง็กๆ เหมือนสาหร่ายทะเลอีกแล้ว… 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากฟรานเชสโก้ รุสโซ่ +999!] 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จาก…] 

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่สามารถปล่อยกระบี่แสงออกมาพร้อมกันเยอะๆ ได้ หลังจากที่กระบี่แสงออกมาจากจุดชี่ไห่แล้ว เขาก็ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป 

 

 

เขาต้องใช้กระบี่แสงจากหนึ่งในหกที่มี แต่มันก็พอที่จะควบคุมได้ประมาณห้านาที หลี่ว์ซู่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถ้าคนอื่นๆ ขยับได้ตอนที่เขายังขยับไม่ได้ เขาก็ต้องทำให้คนอื่นเป็นอัมพาตกันแบบนี้ให้หมดล่ะ 

 

 

ในสถานการณ์ที่ที่สุดจริงๆ เขาก็ตายไปเท่านั้นแหละ แต่ถ้าเขาซื้อเวลาได้เขาก็จะทำ 

 

 

แต่ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็คิดไปถึงปัญหาอื่นออก พวกระดับ B อย่างฟรานเชสโก้กลั้นหายใจใต้น้ำได้อย่างนะ กรณีของหลี่ว์ซู่น่ะไม่เหมือนกัน เขาไม่จำเป็นต้องหายใจในน้ำ 

 

 

เขาซื้อเวลาให้ตัวเองได้ประมาณสิบห้านาทีโดยการใช้กระบี่แสง เขาสามารถต่อเวลาไปได้อีกสิบห้าทีด้วย จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาก็คงเอาชนะพวกฟรานเชสโก้ได้แล้ว 

 

 

ในที่สุดหลี่ว์ซู่หาข้อได้เปรียบของตัวเองเจอ กลับกันฟรานเชสโก้ก็เพิ่งตระหนักว่าตัวเขากำลังตกอยู่ในอันตรายขนาดไหน!