ตอนที่ 497 เปิดโปงตัวเอง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หม้อเทพนิรันดร์! สี่คำนี้ได้ปลุกใจใครหลาย ๆ คน

“หม้อเทพนิรันดร์ หม้อเทพในตำนาน”

“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์! สิ่งที่เจ้าสำนักอวิ๋นพูดคงจะไม่จริงหรอกกระมัง!”

“……”

ทักคนต่างก็กระซิบกัน และฝ่ายสู้รบแห่งหุบเขาหมอเทวดาที่ดูอ่อนโยน สายตาของพวกเขาพลันเปลี่ยนแหลมคมขึ้นมาทันที

พวกเขาเหลือบมองไปที่เจ้าสำนักอวิ๋น ในเวลานี้ หากเจ้าสวะไร้ประโยชน์ผู้นี้สร้างเรื่องกล่าววาจาซี้ซั้วขึ้นแล้วล่ะก็ นั่นเท่ากับเขารนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ทางที่ดีเจ้าพูดออกมาให้ชัดดีกว่า” ผู้นำที่สามฝ่ายการสู้รบกล่าว

หากเปรียบเทียบกับหม้อเทพนิรันดร์แล้ว ความตายของผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ

“ในตอนนั้น ดินแดนลึกลับของหม้อเทพนิรันดร์ได้เปิดขึ้น พวกข้าต่างก็พยายามกันอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะทำให้หม้อเทพนิรันดร์ยอมรับ แต่ก็ล้มเหลว มู่เฉียนซีใช้หน้าตาความงามของนางยั่วสวาทหม้อเทพนิรันดร์ เพื่อให้หม้อเทพนิรันดร์ยอมรับนางเป็นพันธสัญญาอย่างเต็มใจ”

“ข้ากับผู้อาวุโสแห่งหุบเขาหมอเทวดาไม่พอใจมาก จึงใช้พลังความแข็งแกร่งเพื่อจะเอาหม้อเทพนิรันดร์กลับคืนมา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ ปีศาจสองคนนั่นจะปรากฏตัวขึ้น ศิษย์ของหุบเขาหมอเทวดาถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ส่วนข้าที่หนีรอดออกมาได้ ก็เป็นเพราะบุตรสาวคนรองของข้าสละชีวิตเพื่อช่วยเอาไว้”

“ฮือ ฮือ ฮือ! ฮุ่ยเอ๋อร์ผู้น่าสงสารของพ่อ!”

ทุกคนต่างรู้สึกว่าเจ้าสำนักอวิ๋นสติเลอะเลือนจนพูดจาซี้ซั้วไปแล้ว หม้อเทพนิรันดร์เป็นถึงหม้อเทพศักดิ์สิทธิ์ จะไปหลงใหลความงามจนขายตัวเองเช่นนั้นได้อย่างไร

เจ้าสำนักอวิ๋นรู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนกำลังจ้องมองเขาด้วยความสงสัย เขาโกรธจนแทบช้ำใน นี่เขากำลังพูดความจริงอยู่ แต่ทุกคนกลับไม่มีใครเชื่อเขา

ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วล่ะก็ เขาก็ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าหม้อเทพนิรันดร์จะเจ้าชู้ประตูดินเช่นนั้น

เจ้าสำนักอวิ๋นเยียนกล่าวต่อว่า “สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง พวกเจ้าจับนังเด็กนั่นไปเค้นถามความจริงสิ เรื่องราวจะได้ชัดแจ้ง”

ยอมฆ่าคนผิดนับหมื่น แต่ไม่ยอมปล่อยคนคนหนึ่งไปเด็ดขาด ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบจองมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยสายตาที่เฉียบแหลม

มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “หากหุบเขาหมอเทวดาสงสัยในตัวข้า ก็เอาตัวข้าไปสืบสาวราวเรื่องได้ตามใจเลย”

เชียนอ้าวเซี่ย มู่อวู่ซวง และน่าหลายอวี้ตัวสั่นขึ้นมาทันที พวกเขาอยากจะปริปากพูด แต่สุดท้ายก็ต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นเอาไว้

หากปริปากพูดอะไรออกไปตอนนี้ ก็จะยิ่งทำให้ดูน่าสงสัยมากขึ้น

ทว่า พวกเขาจะวางใจให้นางถูกคนของหุบเขาหมอเทวดาเอาตัวไปคนเดียวได้อย่างไรกัน มันอันตรายยิ่งนัก

ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบกล่าวว่า “ไม่ต้อง วิธีการสืบสาวราวเรื่องมีเพียงแต่ถิ่นทุรกันดารของพวกเจ้าเท่านั้นที่ทำกัน ฝ่ายสู้รบแห่งหุบเขาหมอเทวดาอย่างพวกข้า หากต้องการจะสืบหาความจริง เพียงแค่ค้นหาวิญญาณก็ได้แล้ว”

การค้นหาวิญญาณ เป็นทักษะลับอย่างหนึ่ง ใช้ตรวจสอบความทรงจำของวิญญาณ ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่อาจปกปิดได้

มู่เฉียนซีเงยหน้ามองไปยังผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบ และกล่าวว่า “ข้าขอปฏิเสธได้หรือไม่ ? ถึงอย่างไรคนทุกคนล้วนมีเรื่องส่วนตัวที่เก็บเป็นความลับไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น”

หากถูกค้นหาวิญญาณจริง ๆ ไม่เพียงแต่หม้อเทพนิรันดร์ที่ถูกเปิดโปง ไหนจะอาถิงและเรื่องอื่น ๆ อีก!

เชียนอ้าวเซี่ยก็ต่อต้านคัดค้านอย่างสุดฤทธิ์ เขากล่าวว่า “ความลับของเสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าก็ไม่ยอมให้คนอื่นรู้เหมือนกัน ไม่ได้เด็ดขาด!”

คนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ช่างทำสิ่งที่เป็นภัยต่อตัวเองยิ่งนัก ท่านอาจารย์ของข้าจะใช้พลังวิญญาณเพื่อค้นหาวิญญาณของสาวน้อยผู้นี้ วิธีนี้ย่อมดีกว่าการทรมานแน่นอน อีกอย่าง บทลงโทษของฝ่ายสู้รบแห่งหุบเขาหมอเทวดาของพวกข้า ใช่ว่าสาวนี้ผู้นี้จะรับไหว”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ายังคงปฏิเสธ!”

ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ หุบเขาหมอเทวดาอย่างพวกเขากล่าวถึงเพียงนี้แล้ว แต่สาวน้อยผู้นี้ยังกล้าปฏิเสธอีก ทำตัวมีพิรุธ มีปัญหาจริง ๆ!

ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจผงะไป หรือว่าผู้นำตระกูลมู่จะได้หม้อเทพนิรันดร์ไปครอบครองจริง ๆ!

ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะกล้าปฏิเสธคนของหุบเขาหมอเทวดา สาวน้อยผู้นี้ช่างบังอาจยิ่งนัก! แต่ข้าก็ไม่ยอมรับคำปฏิเสธของเจ้าอยู่ดี!”

พลังของมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสามแผ่ซ่านออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยก็ลงมือแล้วเช่นกัน

ตูม!

กำแพงน้ำแข็งปรากฏขึ้น ต่อต้านพลังมหาจักรพรรดิระดับสามเอาไว้!

ฉ่า!

ทว่า กำแพงน้ำแข็งต้านเอาไว้ได้ไม่นาน ชั่วครู่หนึ่งมันก็ได้แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ

คนหนึ่งเป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง ส่วนอีกคนเป็นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสาม ความแข็งแกร่งช่างห่างกันมาก!

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เสี่ยวซีเอ๋อร์ รีบหนีไป!”

ในมือของเขากุมกระบี่วิญญาณน้ำแข็งเอาไว้แน่น วันนี้ต่อให้เขาต้องตาย เขาก็จะต้องทำให้เสี่ยวซีเอ๋อร์หนีไปอย่างปลอดภัยให้ได้

ถึงอย่างไรเสีย สำนักอวิ๋นเยียนก็ถูกทำลายไปอย่างมหันต์แล้ว สิ่งที่เขาปรารถนาจะทำให้สำเร็จ ในที่สุดก็ทำสำเร็จลงแล้ว

ต่อให้เขาสู้คนเหล่านี้ไม่ได้ แต่หากว่าเขาต้องตาย ก็ควรจะปกป้องเสี่ยวซีเอ๋อร์ให้หนีไปอย่างปลอดภัยให้ได้

“กล้าต่อต้าน มีปัญหาจริง ๆ ด้วย รีบไปจับตัวสาวน้อยนั่นเอาไว้!”

ด้วยคำสั่งของท่านผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบ คนอื่น ๆ ของฝ่ายสู้รบก็พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีในทันที

“เสี่ยวหง อู๋ตี้!”

ตูม!

ถึงอย่างไร เสี่ยวหงกับอู๋ตี้ก็เป็นเพียงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม พวกมันไม่อาจต้านทานพลังของฝ่ายสู้รบทุกคนไว้ได้!

ร่างสีขาวสองร่างพลันกะพริบขึ้น คนผู้นั้นก็คือมู่อวู่ซวง ส่วนอีกคนก็คือน่าหลานอวี้นั่นเอง!

ยาฟ้าดินซวนหวงที่มู่เฉียนซีได้มอบให้กับเขาเมื่อครู่ ตอนนี้เขาได้ใช้มันแล้ว!

“น่าหลาน!” สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนไปมาก

เดิมทีเขาเลือกที่จะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้ แต่เขากลับที่จะเข้าร่วม มันอันตรายยิ่งนัก!

“ซีเอ๋อร์ รีบหนีไป!” มู่อวู่ซวงกล่าวเสียงขรึม

“ซีเอ๋อร์!” น่าหลานอวี้ก็อยากให้นางรีบหนีไปให้เร็วที่สุดเช่นกัน

มู่เฉียนซีใช้ยาฟ้าดินซวนหวงครั้งที่สอง วันนี้ต่อให้พลังวิญญาณจะลดถอยลงสู่จุดเริ่มต้นนางก็ยอม แต่นางจะไม่ยอมทิ้งท่านอากับสหายและหนีเอาตัวรอดไปโดยเด็ดขาด

ต่อให้ต้องตายในสนามรบ ก็จะไม่มีวันเสียใจ!

“ทักษะเทียนซวน!”

ใบหน้าของมู่เฉียนซียิ่งเย็นยะเยือกลงเรื่อย ๆ เสียงตะโกนนั้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ตูม!

มหาจักรพรรดิยอดยุทธ์เหล่านั้นที่พุ่งเข้าหามู่เฉียนซี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทรงพลังก็จำต้องถอยหนีออกไป พวกเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้!

สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปมาก สาวน้อยผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นราชาแห่งภูตระดับเก้า พลังที่ปลดปล่อยออกมาจึงได้น่ากลัวเช่นนี้ สามารถต่อต้านพลังของมหาจักรพรรดิได้

ดูเหมือนว่าเจ้าสวะนั่นจะไม่ได้พูดโกหก!

ถึงแม้ว่าจะใช้ยาวิญญาณ และยังสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะต้องเอาตัวหญิงสาวผู้นี้ไปให้ได้

ครั้งนี้เจ้าแห่งหุบเขาส่งฝ่ายสู้รบอย่างพวกเขามาเซี่ยโจว มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย

การบังคับความแข็งแกร่ง ไม่ใช่วิธีที่ดี!

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หม้อเทพนิรันดร์อยู่กับข้า และข้าก็ได้ทำพันธสัญญาแล้วด้วย”

“หุบเขาหมอเทวดาขยะอย่างพวกเจ้า คิดจะครอบครองหม้อเทพนิรันดร์ ฝันไปเถอะ!”

ซีด!

ทุกคนสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเฮือกใหญ่ นี่ผู้นำตระกูลมู่พูดว่าอะไรนะ ?

ไม่เพียงแต่ท้าทายอำนาจเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูหมิ่นดูแคลนหุบเขาหมอเทวดาอีกด้วย

พวกเขาหันไปมองผู้แข็งแกร่งดุจดั่งเทพเซียนในชุดขาวเหล่านั้น ตอนนี้สีหน้าของพวกเขาดูขุ่นมัวไปมาก และพวกเขารู้สึกหวาดกลัว! ผู้นำตระกูลพูดเช่นนี้ออกไป เท่ากับเป็นการล่วงเกินหุบเขาหมอเทวดาโดยสมบูรณ์

เชียนอ้าวเซี่ยได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น!

และมู่เฉียนซีก็กล่าวต่ออีกว่า “พวกเจ้าอยากได้หม้อเทพนิรันดร์ใช่ไหม ? แต่น่าเสียดาย ที่พวกเจ้าจะไม่มีวันได้มันไป!”

มู่เฉียนซีรวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดและใช้กระบวนท่าพันเงา ภาพมายาปรากฏขึ้นนับพันและพรวดออกไป

ชั่วครู่หนึ่งทุกคนต่างก็ดูไม่ออกว่ามู่เฉียนซีตัวจริงได้ไปทางไหน ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบกล่าว “เช่นนั้นเอางี้ ทุกคนตามไปจับสาวน้อยนั่นมาให้ข้าให้ได้!”

 .