ตอนที่ 1621 การยกระดับของใต้สวรรค์

Monster Paradise

ตอนที่ 1621 การยกระดับของใต้สวรรค์

 

ร่างของใต้สวรรค์ลอยอยู่ด้านหน้าหลุมดํา เหมือนอนุภาคของฝุ่นที่เผชิญหน้ากับวังวนสีดํา

 

แต่ทว่า กลิ่นอายของเขายังคงพุ่งทะยาน

 

ภายในชั่วพริบตา ใต้สวรรค์ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นอสูรเกรี้ยวกราดที่น่ากลัวยิ่งกว่าหลุมดํา

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพของสีต่างๆยื่นออกจากตัวเขาเหมืนหนวด พวกมันไม่ได้มองไม่เห็นอีก เหมือนพวกมันกลายเป็นโซ่จริงๆ

 

พอห่วงโซ่ลําดับเทพยื่นออกไป ในที่สุดหลินฮวงก็สามารถเห็นจํานวนห่วงโซที่ใต้สวรรค์มีได้ทั้งหมด 27 สาย

 

เทียบกับหลินฮวง นี่ไม่ถือว่ามากมาย แต่ทว่าในมหาพิภพ จํานวนนี้ถือว่าเกินขีดจํากัดไปแล้ว

 

เหนือสิ่งอื่นใด จอมเทพ ผู้เคยครอบงําทั้งยุคสมัยในมหาพิภพเข้าใจแค่ 42 สายเท่านั้น

 

แม้หลินฮวงจะสามารถควบคุมห่วงโซ่ลําดับเทพได้กว่าหมื่นสาย ส่วนใหญ่ก็ถูกยืมมาและไม่ใช่อันที่เขาเข้าใจเอง พูดตามตรง ห่วงโซ่ลําดับเทพที่เขาเข้าใจนั้นน้อยกว่าใต้สวรรค์ด้วยซ้ํา หลินฮวงไม่พบว่ามันน่าแปลก แต่สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกกลับอิจฉา

 

ยิ่งเทพสวรรค์เข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพมากเท่าไร ผนึกเต๋าหลังยกระดับก็ยิ่งมากขึ้นตามไป

 

จากจุดยืนนี้ รากฐานของใต้สวรรค์มากพอจะเหยียบเทพสวรรค์ส่วนใหญ่ พวกเขาอาจเลื่อนเป็นจ้าวเทวะได้ แต่ใต้สวรรค์ย่อมทรงพลังกว่าคนอื่นหลังยกระดับ

 

แถมเขาจะทรงพลังยิ่งกว่านั้นหลังกลายเป็นจ้าวเทวะจริง

 

จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพที่ใช้ในผนึกเต๋าแรกจะเป็นตัวกําหนดว่าผนึกเต๋าต่อไปทั้งหมดจะรองรับห่วงโซ่ลําดับเทพได้แค่ไหน กล่าวอีกนัยหนึ่ง สองจ้าวเทวะที่เริ่มต้นด้วยห่วงโซ่ลําดับเทพต่างกัน จะมีความต่างชัดเจนขึ้นพอพวกเขาสร้างผนึกเต๋ามากขึ้น

 

ตัวอย่างเช่น ใต้สวรรค์ได้สร้างผนึกเต่ําที่สามารถรองรับได้ 27 สาย ถ้าเขาสร้างผนึกเต่ําที่สอง เขาก็จะมีห่วงโซ่ถึง 54 สาย แต่ทว่า ถ้าผนึกเต๋าของจ้าวเทวะอีกคนรองรับได้แค่ 9 สายตั้งแต่ต้น งั้นคนคนนั้นก็จะมีแค่ 18 สายตอนสร้างผนึกเต๋าที่สอง ต่อให้จ้าวเทวะสองคนมีระดับพลังเท่ากัน ช่องว่างระหว่างความสามารถพวกเขาก็จะยิ่งกว้างขึ้นพอจํานวนผนึกเต๋าเพิ่มขึ้น

 

แม้จํานวนห่วงโซ่ที่ใต้สวรรค์เข้าใจจะไม่ทําให้หลินฮวงแปลกใจ เขาก็ยังจดจ่อกับกระบวนการตาไม่กะพริบ

 

ในความว่างเปล่า ห่วงโซ่ลําดับเทพได้เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งราวกับพวกมันหลุดการควบคุม

 

ท่ามกลางความไม่มั่นใจของเขา หลินฮวงเห็นฉากที่ทําให้เขาตกใจยิ่งกว่าเดิม

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพที่ยื่นออกจากตัวของใต้สวรรค์เริ่มปะทะกันในอากาศเหนือหัวเขา ความรู้สึกที่พวกมันแผออกมาเต็มไปด้วยความไม่พอใจซึ่งกันและกันและอยากสู้กันจนกระทั่งได้ผู้ชนะคนสุดท้าย

 

“นี่ปกติเหรอ?” หลินฮวงอดถามสมาชิกเคียวโลหิตไม่ได้

 

“นี่คือการผสานครั้งแรก การสื่อสารทางจิต”เกาหมิงอธิบาย” ระหว่างขั้นตอนนี้ ห่วงโซ่ลําดับเทพในตัวได้รับสติปัญญาขึ้นมา ดังนั้น พวกมันจะสู้กัน ไม่มีใครจะเต็มใจยอมแพ้”

 

“ขั้นตอนนี้เรียกว่าช่วงห่วงโซ่โกลาหล และมันก็อันตรายมาก ถ้าวิญญาณเทพของคนเราไม่แข็งแกร่งพอจะสะกดพวกมัน การผสานจะล้มเหลวทันที” จิ้งจอกเก้าหางที่อยู่ด้านข้างพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม” สถานการณ์ที่สุดคือวิญญาณเทพจะบาดเจ็บสาหัสและเสียห่วงโซ่ลําดับเทพ ถ้าโชคร้าย วิญญาณเทพอาจโดนห่วงโซ่ลําดับเทพที่คลุ้มคลั่งทําลายส่งผลให้ตายทันที”

 

“ไม่ใช่ว่านี่ควรเกิดขึ้นในตัวเขาเหรอ ทําไมเราถึงเห็นมัน?” หลินฮวงหยิบยกประเด็นที่เขาสับสนมา

 

“มันเกิดขึ้นในเขตแดนเทพในตัวเขา เราแค่เห็นภาพฉายของเต๋สวรรค์” เกาหมิงอธิบายได้ดีอีกครั้ง”เหตุผลชี้ชัดนั้นไม่รู้ แต่เจตจํานงของมหาพิภพจะปรากฏเพื่อหวังให้กระบวนการนี้เป็นที่สังเกตโดยโลกภายนอก ดังนั้น มันจึงฉายภาพการเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ”

 

ไม่ช้า หลินฮวงก็เห็นวิญญาณเทพของใต้สวรรค์ลอยล่องและพัวพันกับห่วงโซ่ลําดับเทพในการต่อสู้

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพได้เปลี่ยนเป็นอสูรกลายพันธุ์นานาชนิด ปลดปล่อยพลังลําดับเทพต่างๆ

 

ภายในชั่วขณะนั้น เขตดาวเกือบครึ่งได้เปลี่ยนเป็นสนามรบ

 

แต่ทว่า หลินฮวงกับคนอื่นไม่ถอย เพราะนี่แค่ภาพฉาย มันไม่แทรกแซงกับความเป็นจริง

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถเป็นพยานของการต่อสู้ดุเดือดนี้ได้

 

ในเวลาเดียวกัน เขตแดนเทพของใต้สวรรค์ก็แสดงออกมาเป็นรูปธรรมตรงหน้าพวกเขา มันเหมือนเงาของกาแล็กซี่ได้ปรากฏต่อหน้าพวกเขา

 

ก่อนหลินฮวงจะได้ถาม เกาหมิงก็อธิบายทันที

 

“นี่คือระยะสองของการผสาน พูดง่ายๆ มันคือระยะที่ห่วงโซ่ลําดับเทพจะเปลี่ยนเป็นตราประทับเต๋าและควบแน่นเป็นผนึกเต๋”

 

“ขั้นตอนนี้ยังเป็นขั้นตอนที่มีอัตราล้มเหลวสูงสุดของเหล่าเทพสวรรค์ ในอดีต มีคนกว่า 80%ที่ล้มเหลวในขั้นตอนนี้”

 

“เนื่องจากกระบวนการผสานห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นผนึกเต๋าจะปลดปล่อยพลังงานน่ากลัว มันจึงเป็นการทดสอบสามด้าน ทั้งในแง่ของร่างกาย วิญญาณเทพและเขตแดนเทพ”

 

“พลังงานที่ปล่อยจากการผสานห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นผนึกเต๋จะส่งผลต่อเขตแดนเทพของคนเราก่อน ในเวลาเดียวกับที่เขตแดนเทพได้รับผล มันก็จะมีพลังงานแทรกซึม ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกาย และวิญญาณเทพ”

 

“ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งของเราไม่อาจต้านทานผลกระทบได้ การสร้างผนึกเต๋าก็จะล้มเหลวทัน

 

หลินฮวงพยักหน้าไม่หยุดขณะรับฟัง เขาพลันคิดถึงนิวเคลียร์ฟิวชั่นของระเบิดไฮโดรเจนบนโลกทันที

 

กระบวนการของนิวเคลียร์ฟิวชั่นคือการปะทะกับของนิวเคลียสสองอะตอม ทําให้เกิดปฏิกิริยาโพลิเมอไรเซชันและผลิตนิวเคลียสของอะตอมที่มีสสารหนักกว่า ในเวลาเดียวกัน มันจะกระตุ้นอิเล็กตรอนกับนิวตรอนจํานวนมากให้ปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา

 

กระบวนการนี้เหมือนกับขั้นตอนการผสานห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นผนึกเต๋าไม่มีผิด

 

มันยังเป็นครั้งแรกที่หลินฮวงตระหนักว่านอกจากร่างกายกับวิญญาณเทพจะต้องแข็งแกร่ง คนเรายังต้องใช้เขตแดนเทพเพื่อทําการข้ามระดับอีกด้วย

 

แต่ทว่า เขารู้ตัวว่าเขานั้นผิดปกติ

 

ตั้งแต่ต้น เขตแดนเทพของเขาเป็นระดับจักรพรรดิ ซึ่งต่างจากคนอื่นแล้ว ต่อมา เขาก็สามารถหลอมและผสานเขตแดนเทพของคนอื่นเข้าด้วยได้

 

และต่อมาอีก เขาก็สามารถผสานชิ้นส่วนเขตแดนเทพของกิ่งจ้าวเทวะจํานวนมากได้โดยตรงหลังเพิ่งเลื่อนเป็นเทพสวรรค์

 

แต่ทว่า สําหรับผู้บ่มเพาะทั่วไป จํานวนของเขตแดนเทพที่พวกเขาสามารถหลอมและผสานได้จํากัด

 

จอมเทพผู้ทรงพลังที่ครองทั้งยุคสมัยและมีห่วงโซ่ลําดับเทพถึง 42 สายก็ยังกล้าผสานแค่เขตแดนเทพของเทพสวรรค์ขั้นเก้าเท่านั้น

 

นั่นคือขีดจํากัดที่เขตแดนเทพของเขาจะรองรับได้

 

แม้ใต้สวรรค์จะทรงพลัง พลังของเขตแดนเทพเขาก็ย่อมอ่อนแอกว่าจอมเทพ

 

โชคดี จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพที่เขามีนั้นน้อยกว่าจอมเทพ ดังนั้น มันจึงมีแรงกดดันน้อยกว่า