ตอนที่ 633

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ในการเผชิญหน้ากับรัศมีกระบี่ที่แท้จริง ร่วมถึงปราณกระบี่สามสิบเล่ม หลิงฮันไม่กล้าที่จะทำตัวประมาท

เพียงแค่ปราณดาบสามสิบเล่มก็สามารถตัดผ่านได้ทุกอย่างแล้ว

หลิงฮันไม่กล้าใช้กายาเหล็กไหลรับการโจมตี นั่นเป็นการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนวรยุทธที่เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันมีโอกาสที่จะกลายเป็นการต่อสู้ที่นำไปสู่ความตาย

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าเจ้ามีความก้าวหน้า แล้วข้าจะไม่มีงั้นรึ?” พรึบ ร่างกายของเขากลายเป็นลำแสงแล้วหายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่อย่างกะทันหัน มันรวดเร็วมากแม้แต่ตาเปล่าก็ไม่สามารถจับภาพได้ทัน

ซวนหยวนจื่อกวงรู้สึกตกใจ ความเร็วนี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงรวดเร็วขนาดนี้? ก่อนที่มันจะเริ่มโจมตี มันได้คำนวณความแข็งแกร่งของหลิงฮันไว้แล้ว และเชื่อว่าหลังจากที่ควบแน่นปราณกระบี่ให้เป็นรัศมีกระบี่ มันสามารถที่จะบังคับอีกฝ่ายให้ล่าถอย และไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้

แต่ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ไม่กี่เดือน อีกฝ่ายจะมีความก้าวหน้ามากขนาดนี้

แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่มีความก้าวหน้า

“แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะฆ่าเจ้าแล้ว!” ซวนหยวนจื่อกวงเยาะเย้ย

“อย่างนั้นหรือ?” หลิงฮันกลายเป็นสายฟ้าและเริ่มใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจ เขาเหมือนปลาที่แหวกว่ายได้อย่างอิสระ และใช้มือซ้ายเป็นคันศร ส่วนมือขวาเป็นลูกธนู ทันใดนั้น ปราณก่อเกิดถูกควบแน่นเป็นลูกธนูที่แผ่ปราณอันหนาวเย็นออกมา

ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา

“ไป!” หลิงฮันตะโกนและลูกธนูถูกยิงออกไป ชิว ภายในพริบตามันปักไปที่หน้าอกของซวนหยวนจื่อกวง

อย่าคิดว่ามันเป็นแค่ลูกศรธรรมดา แต่มันเป็นถึงการรวมพลังสามชนิด

อย่างแรกคือเนตรแห่งสัจธรรมที่สามารถมองเห็นจุดอ่อนแอที่สุดของการป้องกันของซวนหยวนจื่อกวง อย่างที่สองคือทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา และอย่างสุดท้ายคือพลังของสายฟ้า ดังนั้นความเร็วของลูกศรจึงทะลุขีดจำกัด และยังเป็นเรื่องยากที่สุดของซวนหยวนจื่อกวงที่จะป้องกัน

ซวนหยวนจื่อกวงทั้งตกใจและตกตะลึง เปลวเพลิงอันไร้ที่สิ้นสุดปะทุออกมาจากร่างกายของมัน ทำให้พลังของเขาไปอยู่ที่ระดับตัวอ่อนวิญญาณชั่วคราว

ปุก!

ลูกธนูที่ถูกหลิงฮันยิงออกไป แท้จริงแล้วมันไม่ได้ปักที่อกของซวนหยวนจื่อกวง แม้แต่เลือดยังไม่ไหลออกมาให้เห็น มันเพียงแค่ปักอยู่บนเสื้อของเขาเท่านั้น และเผยให้เห็นเกราะสีน้ำเงินที่ส่องประกาย

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนโชคจะอยู่เคียงข้างข้า เมื่อข้าออกเดินทาง ข้าได้รับสมบัติมามากมาย เจ้าคิดว่าโชคชะตาลิขิตให้ข้าพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเจ้างั้นรึ?”ซวนหยวนจื่อกวงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และยกมือขวาขึ้น กระบี่สามสิบหกเล่มบินออกไปและเข้าล้อมรอบหลิงฮัน

“ข่ายกระบี่อาคมราศีพิจิก!” ซวนหยวนจื่อกวงตะโกน

“อีกแล้ว ทุกครั้งที่เจ้าจะทำอะไรจำเป็นต้องตะโกนหรือไม่ เจ้าไม่เบื่อเลยงั้นรึ?”  หลิงฮันพูดอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาแม้ว่าข่ายกระบี่อาคมจะค่อนข้างน่าหวาดกลัวและสามารถคุกคามเขาได้ก็ตาม

“บอกข้ามาว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไปอยู่ที่ไหน มิฉะนั้นข้าจะสังหารเจ้า!” ซวนหยวนจื่อกวงไม่ได้ควบคุมข่ายกระบี่อาคมโจมตีหลิงฮันทันที แต่ยิงคำถามใส่หลิงฮันแทน

“ข้าไม่บอก!” หลิงฮันปฏิเสธ

“หึ่ม เดี๋ยวเจ้าก็คายออกมาเอง!” ซวนหยวนจื่อกวงกล่าวอย่างเย็นชาและบังคับให้ข่ายกระบี่อาคมฆ่าหลิงฮัน

หลิงฮันกวัดแกว่งดาบสู้ แต่ซวนหยวนจื่อกวงนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ภายใต้การโจมตีของรัศมีกระบี่ ทำให้ข่ายอาคมกระบี่นั้นเต็มไปด้วยแสงที่คมชัด แต่ละเล่มเพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามต่อจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน

ไม่สิ แม้แต่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณยังต้องหวั่นไหว เพียงแค่พลังทำลายล้างของรัศมีกระบี่ก็น่าทึ่งแล้ว

ความแตกต่างระหว่างพลังปราณของพวกเขานั้นแตกต่างกันมาก เหมือนกับจอมยุทธระดับบุปาผลิบานกับจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ

หลิงฮันป้องกันการโจมตีของมันได้ยากลำบาก แต่โชคดีที่เขาไม่ได้ฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยมมาก

นั่นเป็นเพราะเขามีพลังปราณก่อเกิดเพื่อสร้างเกราะป้องกันและกายาของเขาแข็งแกร่งเทียบได้กับแร่เหล็กระดับหก ถึงแม้ว่าเกราะป้องกันทั้งสองอย่างจะพังทลาย แต่เขายังมีคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์โคจรอยู่ในร่างกาย ซึ่งสามารถรักษาบาดแผลได้ทันที

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีหยดวารีอมตะหกหยด มันเพียงพอที่จะทำให้เขากลับมามีชีวิตได้หลายครั้ง

ส่วนข่ายกระบี่อาคมสามสิบหกเล่มพวกนี้น่าจะเป็นสมบัติบางอย่างที่มาจากสมัยโบราณ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มันตกอยู่ในมือของซวนหยวนจื่อกวง

เจ้าจะเปิดปากพูดได้แล้วหรือยัง?

หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “ทำไมข้าจะต้องบอกเจ้าด้วย?”

“แล้วเจ้าจะต้องเปิดปากพูด!” ซวนหยวนจื่อกวงแสยะยิ้ม “จงบอกข้ามาว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนอยู่ที่ไหน!” เขาชื่นชอบเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้

หลิงฮันพลิกมือขวาและนำชามพลิกสวรรค์ออกมา

“รับไปซะ!” หลิงฮันใช้ชามพลิกสวรรค์ และทันใดนั้นอักขระบนชามหินส่องแสงสว่างอันไร้ที่สิ้นสุดออกมาทันที

ชิว ชิว ชิว กระบี่สามเล่มถูกดูดเข้ามาทันที

เกิดอะไรขึ้น!

ทุกคนรู้สึกตกตะลึง พวกเขาตระหนักถึงพลังของรัศมีกระบี่ดี แต่ชามหินที่หลิงฮันนำออกมามันกลับทำลายรัศมีกระบี่ได้ และดูดมันเข้าไป

ซวนหยวนจื่อกวงเบิกกว้าง เขารู้จักพลังของข่ายกระบี่อาคมสามสิบหกเล่มดี หลังจากที่มันถูกชามหินดูดเข้าไป ทำให้เขาสูญเสียการเชื่อมต่อกับกระบี่สามเล่ม ราวกับว่ามันหายไปจากสวรรค์และโลกใบนี้

ชิว ชิว ชิว ชามพลิกสวรรค์ยังคงดูดกระบี่เข้าไปอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ กระบี่อีกเจ็ดเล่มก็ถูกดูดเข้าไป

“นี่มัน-” หนงม่านม่านมองด้วยสายตาที่เปล่งประกาย นางรู้ว่ามันเป็นเพราะก้นขวดของหลอมกลั่นเซียนอำมฤต ซึ่งนางไม่คิดเลยว่ารูปร่างที่แท้จริงแล้วของมันจะเป็นชามหินและทรงพลังมากขนาดนี้!

นางต้องการมันมากยิ่งขึ้น

หวังอีหยุนมีสายตาที่แหลมคม ถ้านางได้รับสมบัติชิ้นนี้มา มันจะทำให้นางแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเหมือนกับราชันกระบี่น้อย ย่าวหุยเยว่ ตงหลิงเอ๋อหรือแม้แต่พี่ชายหลาง

อย่างไรก็ตาม นางจะเอาสมบัติชิ้นนี้มาได้อย่างไร เพราะหลิงฮันไม่ใช่คนที่จะจัดการด้วยง่าย

ซวนหยวนจื่อกวงถอนหายใจและพูดว่า “ระเบิด!”

กระบี่ที่เหลืออยู่ยี่สิบหกเล่มเปล่งแสงสว่างออกมา อักขระบนกระบี่กระจายตัวไปเหมือนกับในแมงมุมและหายไปในพริบตา

อาวุธวิญญาณระเบิดตัวเอง!

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง อาวุธวิญญาณชนิดใดที่สามารถระเบิดตัวเองได้? อาวุธวิญญาณนั้นเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป จึงเป็นธรรมดาที่มันจะคิดถึงความอยู่รอดก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่ถูกบังคับมันจะไม่ระเบิดตัวเอง

ภายใต้คำสั่งของซวนหยวนจื่อกวง อาวุธวิญญาณพวกนั้นถูกบังคับให้ระเบิดตัวเองพร้อมกัน ราวกับว่าเขาเป็นราชาอาวุธวิญญาณ พวกมันจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพวกมันระเบิดพร้อมกันพลังทำลายล้างจะน่าหวาดกลัวแค่ไหน?