ตอนที่ 639 เข้าถือหุ่นบริษัท

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 639 เข้าถือหุ่นบริษัท
ตลอดทั้งบ่ายฮ่อหยุนเฉิงก็มีถุงเล็กถุงใหญ่เต็มมือ และในมือของซูฉิงก็มีเพียงแก้วกาแฟ

ทั้งสองเหมือนกับคู่รักทั่วไปที่มาเดทกัน ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าเป็นประธานบริษัทที่ถูกกล่าวถึงและติดคำค้นหามากที่สุด

ซูฉิงมองหามุมนั่งพัก แล้วเตรียมตัวจะเดินไปพักก็เห็นคนสองคนเดินเข้ามาหา และก็คุ้นตามาก

ซูฉิงหรี่ตามอง พบว่าคนนั้นคือเฟิงรั่วเหยียนนั่นเอง!

ซูฉิงคิ้วขมวด ข้างๆ เฟิงรั่วเหยียนยังมีสาวสวยหนึ่งคน คนอย่างเขาก็มีผู้หญิงควงออกมาเที่ยวด้วยหรอ

ฮ่อหยุนเฉิงก็เห็นเฟิงรั่วเหยียนแล้วเหมือนกัน เขาเม้มปากสื่อห้ามให้ซูฉิงไม่ต้องพูด

ซูฉิงพยักหน้า หลังจากรอให้เฟิงรั่วเหยียนไปแล้วทั้งสองถึงได้ไปนั่งหลบมุมพักผ่อน

เฟิงรั่วเหยียนเป็นคนยังไงพวกเขาต่างก็รู้ดี ตอนนี้เวลานี้ปรากฏตัวที่นี่ ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ

และยิ่งไปกว่านั้นยังมีหญิงสาวที่ไหนมาด้วยก็ไม่รู้ ยิ่งเป็นที่สนใจของพวกเขาทั้งสองคน

ทั้งสองที่แอบมองอยู่เงียบๆ ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดเดรสีฟ้าอ่อน ผมสีดำยาวประบ่า มองดูอยู่ไกลๆ ก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยงาม

เพียงแค่เห็นหน้าไม่ชัด พอเห็นเฟิงรั่วเหยียนพาผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในร้านกาแฟ ทั้งสองก็เดินตามเข้าไป

ฮ่อหยุนเฉิงเลือกโต๊ะนั่งตำแหน่งที่มองเห็นโต๊ะของเฟิงรั่วเหยียน ผู้หญิงคนนั้นนั่งตรงข้ามกับเฟิงรั่วเหยียน จึงถึงได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดเจนแล้ว

หลังจากที่มองหน้าชัดแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

“เจียวเจียว”

“เจียวเจียวงั้นหรอ”ซูฉิงเลิกคิ้ว :”พวกเขาสองคนทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ละ”

และตอนนี้เจียวเจียวก็เห็นพวกเขาทั้งสองคนแล้ว

เพราะฮ่อหยุนเฉิงจ้องมองเจียวเจียวอยู่ตลอดเวลา และฮ่อหยุนเฉิงที่ทำหน้าโกรธจนสังเกตได้

เฟิงรั่วเหยียนที่มองตามสายตาของเจียวเจียว ก็เห็นพวกเขาทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงมุม

ซูฉิงยิ้มแหยไปให้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้

“บังเอิญจัง พวกคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย”

เฟิงรั่วเหยียนยื่นมือออกไป ทักทายฮ่อหยุนเฉิง ด้วยสีหน้าปกติ

“อืม คิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณอยู่ที่นี่ด้วย”

ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศโดยรอบทำให้รู้สึกกดดัน

หลังจากบรรยากาศคุกรุ่นผ่านไป ซูฉิงก็กลับมาที่บริษัท

หลังจากที่กลับมา ซูฉิงก็รู้สึกดีมาก พร้อมกับร้องฮัมเพลงไม่หยุด พอเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงานเลขาก็เดินรีบเข้ามาหาเธอ

“มีอะไรหรอ”

ซูฉิงเอ่ยถาม เห็นท่าทีเลขามีท่าทีร้อนรน เหมือนเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“คุณซูคะ คนของตระกูลหลินมาค่ะ………”

จากนั้นเลขาก็เข้ามากระซิบเพิ่มเติมข้างหูซูฉิง

ซูฉิงคิ้วขมวด ตระกูลหลิน ดูท่าน่าจะเป็นคนของหลินเจียวเจียว

ก็น่าจะใช่อย่างนั้น ตระกูลของหลินเจียวเจียวก็ถือว่าไม่เลว พ่อแม่ของเธอมาถึงนี่ก็ถือว่าสมควรแล้ว

เพียงแต่ว่าตระกูลหลินมักจะก้าวร้าว นี่คงเป็นเหตุผลที่เลขาเป็นห่วง

“เธอวางใจเถอะ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูเอง”

ซูฉิงตบไหล่เลขา แล้วเดินเข้าไป

และพอเดินเข้าไป ก็เจอหน้าเคร่งขรึมของคุณนายหลิน

“คุณนายหลิน สวัสดีค่ะ”

ซูฉิงทักทายตามมารยาท แต่ใคร่จะรู้ว่าคุณนายหลินยังคงทำหน้านิ่งขรึม พยักหน้าให้ซูฉิงเล็กน้อย แล้วนั่งลงตรงตำแหน่งตรงข้ามกับเก้าอี้ของซูฉิง

ซูฉิงเลยได้แต่เดินเข้าไปแล้วนั่งบนเก้าอี้โต๊ะทำงานของตนเอง

“เธอเป็นเจ้านายของเจียวเจียวหรอ”

คุณนายหลินถาม พอเห็นซูฉิงพยักหน้าก็หยิบเอาเงินปึกหนึ่งออกมา

“เงินก้อนนี้ก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่เธอดูแลเจียวเจียวของเราก็แล้วกัน”

ซูฉิงมองแล้วก็ดูเงินก้อนหนา ดูแล้วก็น่าจะหลายหมื่นหยวน :”ไม่ต้องหรอกค่ะคุณนาย ดูแลพนักงานก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่พึงกระทำ”

“ที่ฉันมาวันนี้ ยังมีอีกเรื่องที่จะถามเธอ”

คุณนายหลินที่เห็นซูฉิงไม่สนใจ ก็ไม่ได้ยัดเยียดต่อ และก็นำเงินอีกก้องมาวางไว้บนโต๊ะ ด้วยสายตาที่เหนือกว่า:”ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อที่จะต้องการเข้าไปเป็นหุ้นส่วนของสตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์”

“เป็นผู้ถือหุ้นงั้นหรอ”

ซูฉิงเลิกคิ้ว เธอพึ่งเจอกับคุณนายหลินเพียงครั้งแรกเอง ก็ยื่นขอเสนออย่างนี้มาแล้วหรอ

“ใช่ “คุณนายไม่สนว่าซูฉิงจะคิดยังไง แล้วก็พูดต่อว่า:”ฉันก็แค่อยากปูทางให้กับเจียวเจียว เพราะเรามีลูกสาวเพียงคนเดียว ในเมื่อเธออยากเดินบนเส้นทางนี้ งั้นพวกเราก็ต้องทำให้เธอให้ดีที่สุด”

“เรื่องของเจียวเจียวเป็นทางบริษัทที่จัดการดูแล ไม่ต้องให้คุณนายมาเป็นห่วงหรอกค่ะ”

ซูฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเริ่มแข็ง ถึงแม่ว่าจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธออกไปตรงๆ

“ฉันอยากจะทำเพื่อลูกสาวของฉันถึงได้ยื่นข้อเสนอแบบนี้ออกไป ต่อไปฉันก็จะได้เตรียมพร้อม”

ซูฉิงที่ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร แต่บรรยากาศโดยรอบก็แสดงออกว่ารู้สึกไม่พอใจ

เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นกับหลินเจียวเจียว ซูฉิงยังอยากจะถามความคิดเห็นของเจียวเจียว

“เอาอย่างนี้ก่อนดีกว่าค่ะ ฉันขอถามความคิดเห็นของเจียวเจียวก่อน คุณรออยู่ที่นี่สักครู่ ฉันไปแล้วจะรีบกลับมา”

ซูฉิงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานโดยไม่สนเสียงร้องเรียกตามมาจากทางข้างหลังของคุณนายหลิน

ข้อเสนออย่างนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพื่อพนักงานคนหนึ่งถึงกับต้องเข้ามาถือหุ่น

ซูฉิงรู้สึกโมโห แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์ไว้ พอเดินเข้ามาในห้องถ่ายทำ ก็มาหาหลินเจียวเจียว

หลินเจียวเจียวพอเห็นซูฉิงมาหาตน ก็ให้ช่างภาพหยุดถ่าย แล้วเดินเข้าไปหาซูฉิง

“แม่ของเธอมาหาฉันแล้ว”

ซูฉิงพูดออกไปตามตรง เพราะคุณนายหลินกำลังรออยู่ห้องทำงาน

หลินเจียวเจียวพยักหน้า ก่อนหน้านี้เธอก็คิดไว้แล้วว่าตามนิสัยของคุณนายหลินแล้ว ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องมา

“หล่อนบอกว่ามาเพื่อปูทางให้กับเธอ เลยอยากจะเข้ามาถือหุ่นกับบริษัท เธอคิดว่ายังไง”

ซูฉิงถาม แต่ท่าทางของเธอก็ทำให้หลินเจียวเจียวดูออกแล้ว

“คุณมีความคิดของคุณแล้ว ไม่ต้องมาถามฉันหรอกค่ะ”

หลินเจียวเจียวตอบ:”ฉันยังไงก็ได้ ขอเพียงแค่ฉันมีความพยายาม ไม่มีเขามาปูทางให้ฉันก็ต้องทำให้ได้”

แววตาที่เต็มไปด้วยความยึดมั่น ซูฉิงก็พยักหน้าแล้วเดินออกไปจากสตูดิโอ

เธอกลับมาที่ห้องทำงาน ก็เห็นคุณนายหลินที่รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ และซูฉิงก็ตอบปฏิเสธออกไปตรงๆ

“ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณนายหลิน พวกเราไม่สามารถทำตามความต้องการของคุณได้ “ซูฉิงพูดเสียงเรียบ :”บริษัทของเรา เราจัดการได้ ถ้าหากคุณอยากจะปูทางให้เธอ กลัวว่าจะทำให้พนักงานคนอื่นๆ เกรงกลัวเอาได้”

คุณนายหลินที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกโมโห :”ฉันก็แค่อยากจะปูทางให้กับลูกสาวของฉัน เงินกับสัญญาฉันก็เอามาแล้ว ตอนนี้เธอมาปฏิเสธฉัน จะให้ฉันเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน!”

แต่ใครจะรู้ว่าคุณนายหลินพูดไม่หยุด ดูท่าแล้วไม่อยากจะยอมเสียโอกาสที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น

“ฉันบอกแล้วไงคะว่าบริษัทมีวิธีจัดการเอง คุณนายไม่ต้องเข้ามายุ่งจะดีกว่า”

ซูฉิงตอบปฏิเสธออกไปด้วยสายตานิ่งขรึม ทำให้คุณนายหลินไม่มีอะไรจะพูดต่อ

จากนั้นก็เห็นคุณนายหลินเก็บเงินปึกใส่ในกระเป๋าแล้วเดินออกไป ก่อนเดินออกไปยังจ้องซูฉิงด้วยสายตาแค้น:”ได้ เธออย่าเสียใจที่หลังก็แล้วกัน!”

หลังจากที่คุณนายหลินกลับไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงคนสวมรองเท้าส้นสูงเดินเท้ากระแทกพื้นจนเกิดเสียงดังมา