ตอนที่ 1498 เพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่ง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1498 เพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่ง โดย Ink Stone_Fantasy

ไคซินชี้นิ้วไปทางฝูงชนที่ส่งเสียงให้กำลังใจ พร้อมเอ่ยลั่นวาจาอย่างภาคภูมิว่า

“เจ้าคิดว่ามีเพียงตัวเองงั้นรึที่สามารถสู้ข้ามระดับได้? แต่ละเสียงสรรเสริญของพวกนั้นเท่ากับชัยชนะที่ข้าได้ต่อหนึ่งครั้ง!”

เย่หยวนจับจ้องอีกฝ่ายยิ้มกล่าวว่า

“ข้าทราบ ชัยชนะแปดร้อยนัดติดต่อกันของเจ้า แต่นั่นหาใช่เรื่องใหญ่ไม่ ในอดีตไม่มีใครเคยเอาชนะเจ้าได้ แต่นั่นมิได้หมายความว่าตอนนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าไม่ได้”

เพียงชัยชนะติดต่อกันแปดร้อยนัดกลับมิได้อยู่ในสายตาของเย่หยวนเลย

หากย้อนกลับไป ณ เมืองบึงเมฆา เย่หยวนเองก็เคยแข่งขันหลอมกลั่นโอสถพร้อมชัยชนะหลายพันนัดติดต่อกันโดยไม่เคยแพ้แม้นสักครั้ง

เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด จนรู้สึกว่าเขาต้องการแสวงหาความพ่ายแพ้ที่สมเกียรติสำหรับตน

สิ่งที่ไคซินรู้สึก เขาเคยรู้สึกมาก่อนเช่นกัน และสิ่งที่ไคซินไม่เคยรู้สึก เขาเองก็เคยเป็นแบบนั้นคล้ายคลึงกัน

เย่หยวนยอมรับเลยว่า ไคซินเป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังยิ่ง แต่สิ่งที่ยิ่งกว่าคือความมั่นใจในตัวเอง!

อย่างไรก็ตามคำพูดของเย่หยวนกลับก่อสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ปะทะขึ้น

“มันกล่าวว่าอันใด? ชัยชนะแปดร้อยนัดหาใช่เรื่องใหญ่? หึหึ…”

“วาจาอึงโขใหญ่โตนัก หวังสร้างความประทับใจแก่ผู้คนกระมัง? มันช่างโง่เขลาสิ้นดี! เมื่อได้เห็นความน่ากลัวที่แท้จริงของราชันแห่งลานประลองเลือดแล้ว มันจะรู้เองว่าชัยชนะแปดร้อยนัดรวดมันหมายความอย่างไร!”

“ขี้โม้ไร้ยางอาย! เด็กน้อยน่าจิ้มลิ้มนั้นจะต้องตายบนลานประลองเลือดแน่นอน!”

“มันกล้าลบหลู่ต้นแบบของข้าจริงๆ! เป็นเพียงแม่ทัพปีศาจ แต่กลับหยิ่งผยองได้ปานนี้เชียว!”

คำกล่าวของเย่หยวนได้ทำให้ผู้คนก่อเกิดหลากอารมณ์ปรากฏขึ้นมา

การที่ประเมินฝีมือตัวเองสูงเกินไปโดยหาได้สนใจความยิ่งใหญ่ของฟ้าดิน คนเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนโง่ที่กำลังเดินลงเหว และผู้คนโดยส่วนใหญ่ต่างคิดเช่นนี้กลับเย่หยวน

ไคซินเปรียบดั่งเทพแห่งสงครามไร้พ่าย ดังนั้นเขาจะมาพ่ายให้กับเด็กโง่คนหนึ่งได้อย่างไร?

ไคซินระเบิดหัวเราะลั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น และกล่าวว่า

“ฮ่าๆๆ บางทีมีคนสามารถโค่นสถิติชัยชนะของเข้าได้ในสักวัน แต่คนๆนั้นมันหาใช่เจ้าแน่นอน! หาญกล้ารนหาที่ตายเช่นนี้ ข้าขอชื่นชม!”

เย่หยวนกล่าวเสียงเย็นตอบ

“ไม่ว่าจะหาญกล้ารนหาที่ตายหรือไม่ อีกไม่นานย่อมประจักษ์ทราบ!”

เมื่อได้กลิ่นดินปืนปะทุหนาขึ้น กรรมการจึงป่าวประกาศขึ้นว่า

“เนื่องจากเป็นการประลองที่เดิมพันด้วยความเป็นความตาย เช่นนั้นกฎการต่อสู้ในครั้งนี้จึงไม่มีจำกัด ตราบใดที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ลงได้ จะหยิบใช้วิธีใดตามใจอิสระ ณ ตอนนี้ การประลองเริ่มต้นขึ้นได้!”

เมื่อป่าวประกาศเสร็จสิ้น กรรมการก็ถอยออกมาจากลานประลอง และเปิดค่ายกลป้องกันเป็นชั้นหนารอบครอบคลุมทั่วลานประลอง ทันทีทันใดคลื่นเสียงสรรเสริญพลันดังกึกก้องขึ้นอีกครั้งบนอัฒจันทร์

“ท่านราชันแห่งลานประลองเลือด ฆ่ามันเลย! ฆ่าไอ้เด็กนั้นซะ!”

“ท่านไคซิน โปรดสำแดงความน่าสะพรึงของราชันแห่งลานประลองเลือกให้พวกเราเห็นเป็นขวัญตาอีกครั้ง!”

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า! ทุบมันให้เป็นเนื้อบด!”

เสียงโห่ร้องให้กำลังใจ ดังขึ้นอีกระลอกใหญ่

ณ ลานประลองเลือดแห่งนี้มีเพียงเสียงให้กำลังใจไคซินอยู่ฝ่ายเดียว

สำหรับเย่หยวนแล้ว อาจมีเพียงตระกูลฟางเท่านั้นที่ให้กำลังใจเขา

“หึหึ ไม่มีใครกล้าท้าทายของมาสองร้อยปีแล้ว! ต้องขอยอมรับเลยว่า เจ้ากล้าหาญมากจริงๆ เพื่อตอบแทนความกล้าหาญนี้ ข้าจะทุบร่างเจ้าให้แหลกเละ!”

ไคซินระเบิดหัวเราะอย่างชั่วร้าย ทันทีทันใดรัศมีกลิ่นอายบนร่างของเขาพลันเปลี่ยนไปในทันใด

ภาพลักษณ์ของนายน้อยอันสง่างามหายไปทันที

สิ่งที่อยู่ในลานประลอง ณ ปัจจุบันมีเพียงหมาป่าโหดอันดุร้ายเปี่ยมล้นไปด้วยภัยอันตราย

พลังปีศาจพวยพุ่งออกมาจากภายในร่างของไคซิน บนมือสวมหมัดที่เป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เลิศล้ำอยู่คู่หนึ่ง สีดำทมิฬกลิ่นอายชวนสยดสยองยิ่ง

สายตาการจับจ้องของเย่หยวนแปรเปลี่ยนดูจริงจังขึ้นถนัดตา พร้อมเปลี่ยนพลังปราณเทวะให้กลายมาเป็นพลังปราณปีศาจโคจรทั่วร่างเร็วจี๋

สีหน้าการแสดงออกขอบงอินทรีโลหิตเปลี่ยนไปอย่างมาก ด่อนเอ่ยกล่าวน้ำเสียงขรึมว่า

“ที่นำออกมาสำแดงใช้คือ เพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่ง เจ้าเด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตรายแล้ว! หากย้อนกลับไปในตอนที่ไคซินยังเป็นแค่แม่ทัพปีศาจชั้นต้น เขากระหน่ำเพลงหมัดอัดร่างของแม่ทัพปีศาจชั้นกลางกว่าสามร้อยครั้งติดต่อกัน! จนอีกฝ่ายแหลกเละเป็นเนื้อสับละเอียด! ตั้งแต่เริ่มจนตาย แม่ทัพปีศาจชั้นกลางตนนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่ก้าวเดียว! ทั้งๆที่แม่ทัพปีศาจชั้นกลางตนนั้นมีสถิติชนะรวดแปดสิบหกนัด!”

สำหรับเรื่องราวต่างๆ ในอดีตของไคซิน อินทรีโลหิตคุ้นเคยกว่าใครๆ

การที่จะขึ้นกลายเป็นประมุขลานประลองเลือดได้ เขาเองก็ให้ความสนใจต่อไคซินอย่างมากในตอนนั้น และมองผ่านอ่านถึงศักยภาพแฝงในตัวอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว

คู่ดวงตาของคุนหมิงหรี่แคบลงเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่าเขาจะต้องการแข่งความเร็วกับบรรพกาลราตรี ไคซิน เจ้าเด็กคนนี้โดดเด่นอย่างมากขริงๆ ข้าสงสัยยิ่งว่าบรรพกาลราตรีจะสามารถป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายได้หรือไม่”

คุนหมิงทราบโดยธรรมชาติถึงเพลงดาบของเย่หยวนที่เชี่ยวชายด้านความเร็วเป็นพิเศษ

การเคลื่อนไหวของไคซินยามนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าเขาต้องการแข่งกับเย่หยวนในด้านความเร็ว!

เจ้าเร็วนักรึ?

เช่นนั้น ข้าจะใช้ความเร็วเอาชนะเจ้า!

“หื้ม? กระบวนท่านั้นมัน…เพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่ง! เป็นกระบวนท่าที่มิได้เห็นนานมากแล้วจริงๆ!”

“ท่านไคซินเปิดฉากสำแดงกระบวนโจมตีครั้งใหญ่ เขามาแล้ว! เจ้าเด็กนั้นช่างน่างสงสารยิ่งนัก!”

“หากย้อนกลับไป ต้าเหมิงทีท่รู้จักในนาม‘ชัดเชือดเหล็ก’ยังถูกไคซินซัดจนตาย และมิได้เปิดโอกาสให้ขยับแม้แต่ครั้งเดียว! พวกเรามาเดากันดีกว่า เด็กนั้นจะกันได้กี่หมัด ฮ่าๆๆ”

เมื่อวาลาคำกล่าวเหล่านี้ดังออกไป ทุกคนต่างก็เริ่มคาดเดาหันทันที

บางคนบอกสองหมัด บ้างว่าสามหรือส่วนน้อยที่ว่าสิบ

โดยสรุปแล้วไม่มีใครมองเย่หยวนในแง่ดีเลยสักคนเดียว

วูบบบ!

ในขณะนั้นเองไคซินก็เริ่มเปิดฉากเคลื่อนขยับ!

เคลื่อนไหวสู่ความเงียบงัน ช่างเป็นการเคลื่อนที่ที่ว่องไวยิ่ง

แม้ทุกคนจะเตรียมพร้อมจับจ้องกันเป็นตาเดียว ทว่าปฏิกิริยาของพวกเขายังตามการเคลื่อนไหวของไคซินไม่ทันอยู่ดี

ในเวลานั้นเอง เย่หยวนก็โหมโรงเคลื่อนไหวเช่นกัน!

บูม! บูม! บูม!

คล้อยหลังเสียงซัดกระบวนเพลงหมัดดังออกมาชุดใหญ่

ผู้ชมบนอัฒจันทร์กลับไม่มีใครสามารถมองการต่อสู้ของทั้งสองได้ทันเลย เห็นเพียงเงาหมัดสีดำที่ชักโถมระเบิดตูมตามกลางอากาศ

นั้นคือภาพของเพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่ง!

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่เห็นเย่หยวนชักดาบออกมาเลย!

เห็นได้ชัดว่า เย่หยวนในยามนี้กำลังถูกปราบปรามโดยสมบูรณ์

ภาพฉากกำปั้นชักนำพลังถาโถมทำเอาผู้ชนหายใจกันแทบไม่ออก

ถึงระหว่างลานประลองและฝูงชนจะถูกปิดกั้นด้วยค่ายกลป้องกัน แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ระเบิดคลั่งออกมา

“แข็งแกร่งอย่างยิ่ง! นี่คือความแข็งแกร่งของราชันแห่งลานประลองเลือด!”

“ความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันไม่สามารถบรรยายได้ในอึดใจเดียว!”

“ทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และแนวคิดความเข้าใจได้พัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนมาก! ข้ารู้สึกว่านี่หาได้ด้อยไปกว่าจอมทัพปีศาจชั้นต้นเลย?”

เหล่าฝูงชนเงียบงันไปชั่วขณะ ยามนี้มีแต่เสียงอุทานดังเจือแจว

ภายใต้ภาพฉากโหมซัดเพลงหมัดเข้าใส่ ร่างเย่หยวนไสวบิดพลิ้วไปมาอย่างคล่องแคล่ว

นับตั้งแต่ที่สำเร็จกระบวนดาบอย่าง จันทร์สลาย ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถไล่ตามความเร็วของเขาได้ทัน

แต่หลังจากที่เพลงหมัดเหล็กมารสวรรค์คลั่งของไคซินประจัญบานสาดออกมา เย่หยวนก็เลี่ยงหลบไม่มีหยุดเสมือนเครื่องจักรไม่สามารถหยุดได้!

เมื่อเวลาผ่านพ้นไปกว่าหลายสิบอึดใจ ไคซินออกอาวุธปลดปล่อยเพลงหมัดชักนำระเบิดคลั่งกว่าหลายร้อยกระบวนร่าย แต่ละหมัดนับเป็นสุดขีดแห่งความเร็ว!

เย่หยวนเลี่ยงหลบหมัดต่อหมัดพร้อมเสียงชักพาฉีกห้วงอากาศ

เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะชักดาบเลย ชะลอช้าเพียงเสี้ยวพริบตา เขาอาจพลาดท่าถูกคู่หมัดเล่นงานได้

จนตอนนี้พลังปราณภายในเย่หยวนเริ่มเสียสมดุล แม้เขาจะหลบหัมดนับร้อยได้ ทว่าศาสตร์แห่งคิดความเข้าใจที่ระเบิดคลั่งออกมา กลับสร้างความเสียหายให้แก่เขาไม่น้อยเลย

ขุมพลังของไคซินค่อนข้างเกินจินตนาการนัก!

“ไม่ เดี๋ยวก่อน เขากำลังสร้างไล่ต้อนข้าด้วยหมัดหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว! ฝืนต่อไปเช่นนี้ข้าไม่ไหวเป็นแน่! ระดับพลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าข้ามาก หากพลาดท่าโดนแรงระเบิดอัดใส่ ข้าสาหัสแน่นอน!”

หากเป็นคนอื่น ยิ่งถ่วงเวลาเอาไว้เพลงหมัดที่สาดปะทุออกมามักจะมีแต่เบาลงและเบาลงเนื่องจากหมดแรง

ทว่าเพลงหมัดของไคซินมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น!

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เย่หยวนเตรียมพ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย!

“สยบดารา!”

เย่หยวนไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลัว พร้อมชักดาบพิชิตมารฟ้าสาดกระบวนออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

บูมมม!

สองขั้วพลังแนวคิดปะทะชนอย่างแรง

เย่หยวนกระอักพ่นเลือดสดคำหนึ่ง ร่างปลิวไปกระแทกกับกำแพงค่ายกลปกป้องอย่างจัง

ในขณะที่เพลงหมัดเหล็กสารสวรรค์ฟ้าชะงักหยุดลงเพราะเพลงดาบนี้

…………………………………